Episode 10
จั๊กจี้
ไม่ต้องสืบว่าหลังจากฮีลให้ฉันช่วยดมกลิ่นน้ำหอมต่อจากนั้นเราจะทำอะไรกัน ก็แค่แอบแซ่บตามประสาเพื่อนสนิทแบบเนื้อแนบเนื้อไปยกหนึ่ง ย้ำ! แค่ยกเดียวเท่านั้น เพราะตอนที่ออกมาจากห้างก็เริ่มมืดแล้ว ฉันเกรงว่าแม่จะรอทานขนมก็เลยขอให้มันหยุดเพียงเท่านี้แล้วไปส่งบ้าน
“จอดตรงนี้เลย ดับเครื่องด้วย เดี๋ยวลงไปทานข้าวหน่อย”
“กินมาแล้ว” ฮีลตอบเสียงเรียบ ๆ ฉันจึงหันขวับไปมองแทบจะทันที “ลงมากินอีกได้ไหมล่ะ”
“อือ” ว่าง่ายจริง
ทว่าก่อนที่เราจะลงจากรถมันก็คว้าตัวฉันให้ซบลงตรงหน้าอกแกร่งเสียก่อน
อีกละ!
“อะไรของนายเนี่ย!” ฉันพูดอู้อี้อย่างรำคาญ
“อยู่เฉย ๆ สิ” มันล็อกตัวฉันไว้แน่น “บอกก่อนว่าความหอมมันหายไปยัง”
เฮ้ออออ มุกหรือเปล่าเนี่ย แอบคิดว่ามันต้องหาเรื่องแต๊ะอั๋งฉันอยู่แน่ ๆ เพราะรับรู้ว่าปลายจมูกคมโค้งเฉียดที่ผิวแก้มฉันเบา ๆ คล้ายอยากจะหอมแก้มกัน
ไม่ได้อยากคิดไกลเล้ยยยย จริง ๆ นะ
“ดมใหม่สิ” พอฉันหยุดนิ่งมันก็สั่งอีก แล้วฉันจะทำอะไรได้นอกจากหาคำตอบให้มัน ไม่งั้นมันคงไม่ปล่อยให้ฉันได้เป็นอิสระ ก็เลยสูดกลิ่นกายของฮีลเข้าไปเต็มปอด
“อืมมม ยังหอมอยู่” ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่ากลิ่นตัวของมันยังหอมฟุ้ง
“อีกฝั่งล่ะ” เมื่อกี้ฉันฝังจมูกลงตรงซอกคอ แต่เหมือนมันอยากจะได้อีกข้าง “เยอะไปเปล่า?”
“ไม่เยอะ เพราะมากกว่านี้เธอยังทำมาแล้วเลย”
อ๊ะ ๆ ยอมก็ได้ จึงฝังจมูกลงไปทั่วซอกคอ แก้มทั้งสองข้างลามไปถึงหน้าอก การกระทำนี้ทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ
“จั๊กจี้” พอฉันผละหน้าออกมันก็รีบบอกเหตุผล ฉันจึงเบะปากใส่หนึ่งหน โอเคแหละ เหตุผลมันได้ ฉันไม่ควรคิดไปไกลเลยจริง ๆ
หลังจากเสร็จการเทสต์กลิ่นรอบสองเราก็เดินเข้าไปบ้านใหญ่ เห็นแม่นมวิ่งปรู๊ดพร้อมกับรอยยิ้มมาแต่ไกล
“คุณหนูมาแล้วเหรอคะ อุ๊ยตาย! เพื่อนคนนี้ดูสนิทกันจังเลยนะคะ” นมถามยิ้ม ๆ พอเห็นว่าคนข้างหลังฉันเป็นใครก็อุทานเบา ๆ
“สวัสดีครับ”
“จ้า ไม่ต้องไหว้ป้าหรอกพ่อหนุ่ม นมเป็นแค่คนใช้”
“นมก็เหมือนแม่มิน ฮีลมันจะเคารพก็ไม่แปลกหรอกค่ะ”
“มาให้นมหอมแก้มทีสิคะ” ว่าแล้วก็เข้ามาสวมกอด ก่อนจะใช้สันจมูกอันเหี่ยวย่นกดลงตรงซีกแก้มด้านซ้าย
ฉันปรายตามองรอบ ๆ บ้าน เห็นเพียงแต่แม่เลี้ยงดัดจริตที่นั่งดูทีวีพร้อมทำหน้าเย่อหยิ่งอย่างกับนางพญา สงสัยคงจะรอให้ไอ้ฮีลเข้าไปทัก เห็นแล้วก็ต้องเบะปากมองบน “นั่นแม่เลี้ยง ไม่ต้องทัก ฉันไม่ญาติดี” พูดแค่นี้มันก็เข้าใจโดยง่าย
“เจ้าของบ้านไปไหนล่ะคะ” กะว่าจะให้ฮีลมาช่วยปั่นประสาทพ่อสักหน่อยแต่เขาไม่อยู่ตรงนี้ เฟลเฉยเลย
“ไปนอนเรือนเล็กกับคุณนายค่ะ ตอนนี้น่าจะกำลังทานข้าวกันอยู่ คุณหนูรีบไปไหมคะจะได้ไปทานพร้อมหน้าพร้อมตา” นมเองก็ใช่ย่อย ตอบกลับฉันอย่างเน้น ๆ คำว่า ‘พร้อมหน้าพร้อมตา’ แล้วหันไปมองยัยแม่เลี้ยงดัดจริต
“กำลังหิวเลยค่ะ ไปฮีล” แล้วฉันก็จูงมือมันเข้าไปบ้านเล็ก
แต่ไม่ได้เข้าไปในทันที เพราะกำลังแอบมองท่านทั้งสองอยู่ คุณแม่มีสีหน้าครุ่นคิดตลอดเวลาจนทำให้ฉันจับสังเกตได้ว่าต้นเหตุแห่งความเครียดคงไม่พ้นเขาคนนั้น
“แม่ขา มินมาแล้ว” ฉันจูงมือฮีลเข้าไปหาแม่พลางส่งยิ้มให้
“ปล่อย” น้ำเสียงเรียบเอ่ยบอก หลังจากนั้นมันก็สะบัดมือทิ้งแล้วยกขึ้นไหว้พ่อกับแม่ “สวัสดีครับ”
“แก!” พ่อชี้หน้าพลางมองด้วยสายตาจงเกลียดจงชัง “มาทำไม!”
“มาส่งมินครับ”
“ส่งแล้วก็กลับไป!” ท่านทำเสียงดุต่อ จนคุณแม่ต้องรีบปราม “คุณคะ นี่เพื่อนลูกนะ”
เหมือนว่าพ่อเองก็ห่วงความรู้สึกแม่ก็เลยยอมสงบลง ถัดจากนั้นฉันจึงจูงมือฮีลให้นั่งลงบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะบอกให้คนในบ้านตักข้าวให้อีกสองจาน
“คนนี้หรือเปล่าลูก ที่บอกว่าเพื่อนซี้น่ะ”
“ใช่ค่ะ ชื่อฮีล ซี้กันตั้งแต่มัธยมปลายแล้วไงคะ”
“อ้อ ฝากดูแลด้วยนะฮีล มินนี่น่ะดื้อ เรียนด้วยกันก็ช่วย ๆ กันเนอะ”
“ครับ”
หลังจากนั้นก็คุยสัพเพเหระไปเรื่อย ไอ้ฮีลนี่มันพูดน้อยก็จริง แต่เวลามันให้คำตอบผู้ใหญ่อย่างแม่ฉันคำว่า ‘ครับ’ ก็มาพร้อมกับสีหน้าจริงจังจนแม่ฉันโล่งใจไปหนึ่งเปลาะ
ฉันแกล้งยื่นขาไปสะกิดพ่อเบา ๆ จงใจให้พ่อเข้าใจว่าคนตรงข้ามเป็นคนทำ
ปัง!
พ่อวางแก้วกระทบกับโต๊ะดังปึงปังพลางมองหน้าฮีลไปด้วย แต่ผู้ชายที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ทำหน้าตายแล้วทานข้าวต่ออย่างสบายใจเฉิบ ไม่นานนักเพราะมันไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้พ่อก็หายใจฟึดฟัด
โอเคแหละ ฉันสะใจแล้ว แต่คนที่ไม่ค่อยจะโอเคก็คงจะเป็นพ่อนั่นแหละที่ทำหน้าตาบอกบุญไม่รับ หลังจากทานข้าวอิ่มพ่อก็ขอคุยกับฮีลเป็นการส่วนตัว แต่มีหรือฉันจะยอม ตัดฉับโดยการบอกกล่าวให้มันรีบกลับบ้านไปเลย
ก๊อก ๆ
“มิน พ่อขอคุยด้วยหน่อย” ฉันกำลังจะนอนดูซงจุงกิในเรื่องวินเซนโซอยู่แล้วเชียว แต่พ่อก็เข้ามาเคาะประตูเสียก่อน ส่วนเรื่องที่อยากจะคุยด้วยคงไม่พ้นเรื่องนั้นแน่ ๆ ดังนั้นฉันจึงยอมเปิดประตูห้องให้พ่อเข้ามา
แกร่ก
“เข้ามาสิคะ”
“มิน…” พ่อมองฉันด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“อะไร”
“พ่อขอโทษนะที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่พ่อไม่อยากให้มินคิดว่าผู้ชายทุกคนเลวเหมือนพ่อ พ่ออาจจะเป็นสามีที่ดีไม่ได้แต่พ่อก็อยากเป็นพ่อที่ดีของลูกนะ”
“ยังไงคะ คุณเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงแล้วดูแลดียิ่งกว่าลูกในไส้ตัวเองซะอีก” ฉันไม่ได้ว่าเกินจริง ก่อนหน้านี้ฉันพยายามยื้อเขาไว้ให้กลับมาอยู่กับแม่โดยการเอาตัวเองเข้าไปเชื่อม ขอให้พ่อพาไปเที่ยว ชวนออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันบ่อย ๆ แต่คำตอบที่ได้รับก็คงไม่พ้นงานยุ่งกับต้องดูแลเมียรองและลูกติดของเมียรอง
“คะ…คือตอนนั้นบุษท้องไง พ่อก็เลยต้องเอาใจ” ใช่ ตอนนั้นน่ะเมียรองเขาท้อง ฉันถึงได้กลายเป็นลูกพ่อไม่รัก ครั้นพออยากจะมาดูแลฉันในตอนหลัง มันก็ช้าไปแล้ว
แต่มันใช่เหตุผลไหมที่ต้องปล่อยให้ฉันกับแม่รู้สึกเหมือนเราอยู่กันสองคน
“อย่าคิดจะมีเมียเยอะเลยค่ะ ถ้าดูแลไม่ทั่วถึง”
“มิน…” พ่อตาแดงเหมือนคนจะร้องไห้ ฉันเองก็ได้แต่มอง สีหน้านั้นมันไม่ต่างจากเมื่อสองปีก่อนเลยที่ฉันมองเขาอย่างออดอ้อน แต่เขาเคยสนใจกันบ้างไหม
“พ่อขอนะลูก หยุดคิดแบบนั้น หยุดไปมีความสัมพันธ์บ้า ๆ กับผู้ชายคนนั้น”
“คุณกลับไปเถอะค่ะ อย่ามาสอน” ฉันไม่ได้อยากหยุดความสัมพันธ์นี้เลย เพราะมันคือความสุขของฉันอย่างหนึ่ง นอกจากฮีลจะสนองความต้องการของฉันได้แล้วมันยังคอยรับฟังแบบเงียบ ๆ ถึงมันจะพูดน้อย อมพะนำ ซึนเดเระหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันก็คือคนที่รับฟังจริง ๆ
ฉันชอบนะ ชอบระบายความรู้สึกกับมัน เพราะไม่อยากให้ใครรับรู้ถึงปัญหาฉันจึงเพ้อเจ้อเลื่อนลอยแบบบ้า ๆ บอ ๆ แล้วมันก็ฟังเงียบ ๆ ซึ่งนั่นคือข้อดี
“มิน” พ่อเรียกชื่อฉันอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
เฮ้ออออ จะให้ฉันหยุดความสัมพันธ์นี้เหรอ ขอมากไปหรือเปล่า ขนาดฉันขอเขาให้เลิกเจ้าชู้มาหลายครั้งแล้วเขายังทำไม่ได้เลย
ฉันส่ายหัวอย่างเอือมระอา ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาหลังจากเสียงประตูปิดลง จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้เข้มแข็งเลยสักนิด แต่เพราะอ่อนไหวเกินไปจนฉันกลายเป็นคนแข็งนอกแบบนี้ไง
ฉันก็ได้แต่ภาวนาขอให้เขาเจ็บ เจ็บที่รู้ว่าฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะพ่อ
สักวันหนึ่ง…
บ้าบอ ฉันจะร้องไห้ทำไม รีบกวาดน้ำตาบนแก้มออก พยายามปรับอารมณ์ตัวเองแล้วโทรหาคนที่คอยรับฟังฉันอย่างเงียบ ๆ
“ไอ้ฮีล ป้ะ! กินเหล้า” ไหน ๆ วันนี้พ่อก็มานอนกับแม่แล้ว งั้นฉันขอออกหน่อยแล้วกัน วันนั้นที่บอกว่าจะเลี้ยงเหล้ามันยังไม่ได้เลี้ยงเลย วันนี้ต้องจัดหน่อย
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น