Episode 11
เมา
“ใจเย็น” ฮีลแย่งแก้วจากมือฉันไปแล้วยกขึ้นดื่มเอง “เข้ม”
แน่สิ วันนี้มันต้องเข้มข้นหน่อย
“เอามา!”
แล้วหลังจากนั้นฉันก็ยกซดราวกับน้ำเปล่า ไม่ต้องสืบว่าเมาไหม
เมาค่ะ! เมามากกกก
แต่แล้วไง เดี๋ยวให้ไอ้ฮีลดูแล ป่านนี้มันคงด่าฉันในใจไปแล้ว เพราะตอนแรกฉันเกริ่นไว้ว่าจะเลี้ยงมัน ไป ๆ มา ๆ มันก็ต้องกั๊กตัวเองเพราะต้องดูแลฉันอีก
จริง ๆ วันนี้เราไม่ได้มากันสองคน ยังมีแสนดีกับไอดีมาด้วยแต่สองคนนั้นพึ่งจะกลับกันไปเอง ตอนนี้เลยเหลือแค่ฉันกับฮีล
“วู้วววว” เริ่มดึกก็เริ่มมัน ฉันโยกสะโพกไปมาเป็นจังหวะหลังจากเพลงของบีทีเอสดังขึ้น เต้นบ้า ๆ อยู่คนเดียวในขณะที่ฮีลมองฉันไปด้วยและดื่มไปด้วย
อย่างมันอะ ไม่เต้นหรอก
“ฮีล มาเต้นกัน” ฉันดึงตัวฮีลให้ลุกขึ้น แต่มันยังนั่งตัวแข็งไม่ยอมตอบรับฉัน “ไม่”
“เร็วดิ๊ อย่าลีลา”
“ก็ตอบว่าไม่!” มันย้ำ เสียงเพลงในไนต์คลับดังมากดังนั้นมันจึงตอบข้าง ๆ หูฉัน มือข้างหนึ่งอ้อมมาโอบเอวไว้แล้วรั้งร่างของฉันเข้าหาตัว
“ฉันอยากเห็นนายเต้นนะ” มองหน้าอีกฝ่ายเป็นเชิงอ้อน ไม่รู้ผีอะไรเข้าสิงฉันถึงได้ทำหน้าตาแบบนี้ อาจจะเพราะว่าตัวเองกำลังเมาอยู่มั้งจึงไม่ยั้งตัวเอง ยกสองมือโอบรอบลำคอแกร่งแล้วกะพริบตาปริบ ๆ ส่งไป “ถ้านายเต้น ฉันจะให้เอาทั้งคืนเลย”
คราวนี้มันมองหน้าฉันค่ะทุกคน แสดงมุกนี้ต้องได้ผลแน่
“ไม่!” ฮีลย้ำหนักแน่น นี่ฉันคิดผิดเหรอเนี่ย “ปกติก็เอาเกือบทั้งคืน”
ได้ยินคำนั้นก็ทำตาเขียวใส่ วุ! ก็จริงของมัน ข้อเสนอของฉันนี่ไม่ได้เรื่องเลย ใครเขาจะมีแรงไปเอาทั้งคืนอะไรขนาดนั้น ขนาดไอ้ฮีลมันยังทำได้แค่เกือบ
“อยาก?”
“อยากเมาโว้ยยยย!” ว่าแล้วก็กระดกเหล้าเข้าปาก พอหมดแก้วก็เทเพียว ๆ แล้วดื่มรวด
ฤทธิ์เหล้าเริ่มทำงานหลังจากฉันอวดเก่ง จังหวะเพลงเริ่มมันขึ้นจนฉันเต้นไม่หยุด ไฟเทคกะพริบไปมาทำให้ฉันเริ่มมึนเมา รู้สึกเหมือนรอบ ๆ ตัวเริ่มหมุนเคว้งเคลื่อนไหวไปมา ไม่นานนักก็รู้สึกพะอืดพะอม
“จะ…จะอ้วก” ฉันมองหน้าฮีล ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ
แหวะ! อ่า เกือบไม่ทัน ถ้าไปอ้วกข้างนอกคงอายเขาตายเลย
หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็รู้สึกดีขึ้น ฉันจึงกดชักโครกแล้วเดินออกมาล้างปาก
“พี่มิน” น้ำเสียงตอแหลดังอยู่ข้าง ๆ ฉันจึงหันไปมอง “แรด!”
“แต่พี่มินยังมาเที่ยวได้เลยนะคะ ทำไมมิรินจะมาไม่ได้” แสดงละครเก่ง น่าได้โล่รางวัลอะเนอะ
“ฉันก็ไม่ได้ว่าที่แกมาเที่ยว ฉันแค่ด่าว่าแกอะแรด” ฉันชี้ไปที่หน้าผากมัน ก่อนจะออกแรงผลักในตอนที่เน้นหนักคำว่า ‘แรด’
“คำก็แรดสองคำก็แรด ตัวเองดีตายแหละ!” ฉันแสยะยิ้ม ดูเหมือนน้องสาวผู้น่ารักของฉันจะกำลังเมาถึงได้ดีแตก กลิ่นแอลกอฮอล์นั้นแรงพอสมควร
“มิริน ใครวะ เอาเลยไหม” ในตอนนั้นพวกเพื่อนยัยมิรินก็เดินเข้ามาสมทบประมาณสองสามคน
ถามว่าฉันกลัวไหม ก็ต้องตอบว่าไม่
จึงยืนกอดอกแล้วแกว่งเท้าเล่นพลางเลิกคิ้วมอง “หืมมม น้องสาวของพี่ดีแตกซะแล้ว จะให้พวกมาตบพี่เหรอ”
“อ้าว พี่สาวมึงทำไมกวนตีนจังวะ”
“อย่าไปถือสาเลยมึง ไปกันเถอะ”
ฉันจิ๊ปากใส่ เห็นได้ชัดว่ามันก็ยังพอมีสติอยู่บ้างถึงได้ปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ดึงพวกเพื่อนให้เดินออกไป
เฮ้ออ น่าเบื่อ!
เห็นหน้ามันแล้วไม่อยากจะอยู่ต่อละ กร่อยเลย!
“ป้ะ กลับเถอะ”
“หืม” ฮีลมองหน้าฉันแล้วครางในลำคอ ในตอนนี้เสียงเพลงในไนต์คลับเปลี่ยนเป็นช่วงดนตรีสดซึ่งกำลังเล่นเพลงรักเบา ๆ “เดี๋ยวก่อน ขอฟังเพลงนี้ก่อน”
ฉันพยักหน้าเออออ เห็นได้ชัดว่ามันอินกับเพลงนี้มาก ๆ
“ตกหลุมรักใครอยู่ไง” ถามด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่อยากให้มันไปชอบใคร
“…” ฮีลใช้ความเงียบเป็นคำตอบ ในตอนนี้หัวใจฉันก็แทบหล่นลงไปอยู่ตาตุ่ม รู้สึกเหมือนเสียที่ระบายที่ดีเลย
“ป้ะ กลับ” หลังจากนั้นมันก็จูงมือฉันออกมาจากคลับอย่างไม่ทะนุถนอม ไอ้บ้านี่ เป็นผู้ชายก็ควรจะกั๊กแรงไว้บ้างไม่ใช่มาถูลู่ถูกังกันแบบนี้
“เบา ๆ ดิ๊!” ฉันบอกมันก่อนจะสะบัดมือออก ในขณะเดียวกันสายตาก็พลันมองเห็นคนที่ไม่เคยพบเจอมานาน
“พะ…พี่เก่ง” เรื่องราวในอดีตทำให้ต้องรีบเข้าไปเกาะแขนฮีลทั้งที่พึ่งจะสะบัดออก ออกแรงรัดไว้แน่นด้วยอาการสั่นเกร็งน้อย ๆ
เอาจริงเรื่องวันนั้นยังตามหลอกหลอนฉันอยู่เลย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เก่งกำลังจะทำอะไรกันแน่
ฮีลไม่ได้พูดอะไรแต่รับรู้ว่าฉันกำลังกลัวมันจึงจูงมือฉันให้รีบเดินออกมา แน่นอน พอฉันบอกให้มันเบามันก็เข้าใจโดยง่าย เชื่องยิ่งกว่าหมาก็มันนี่แหละ (บางทีอะนะ)
พอเข้ามานั่งในรถฮีลก็ตบตักตัวเองเบา ๆ ให้ฉันย้ายตัวเองไปนั่งบนนั้น แล้วฉันก็ไปอย่างว่าง่าย ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งที่ต้นคอให้แหงนหน้าขึ้นเพื่อรับจูบ ฮีลสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากแล้วขยับอย่างเนิบนาบ เป็นเวลานานที่มันจูบฉันอย่างอ่อนโยนจนฉันเผลอเคลิบเคลิ้ม แต่เชื่อดิ อย่างมันอะ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำแค่จูบ หลังจากผละปากออกมันก็ไสจมูกไปตามพวงแก้มของฉัน มือที่เคยโอบกอดเริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อแล้วบีบขยำที่ทรวงอกเบา ๆ
“อื้อ” ฉันร้องอื้อออกมาเมื่อฮีลใช้นิ้วสะกิดไปยังยอดปทุมถัน
“อยาก” ตรงนี้มันคือที่จอดรถซึ่งอยู่ใกล้จุดสูบบุหรี่โซนเอาต์ดอร์ ฉันยอมให้มันทำตรงนี้ไม่ได้ ไม่งั้นพวกผู้ชายที่ยืนอยู่คงได้รู้ว่าพวกเรากำลังมีอะไรกันอย่างเร่าร้อน จึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไปคอนโด แป๊บเดียว อ๊า” ฉันร้องบอก แต่เหมือนฮีลมันจะเริ่มหน้ามืดตามัวจนไม่ยอมฟังอะไร ความอยากเข้าครอบงำจนประกบปากเข้ากับยอดปทุมถันของฉันเข้าให้
ไวจังวะ มันไปถลกเสื้อฉันตอนไหน
“อ๊า” เสียงจ๊วบจ๊าบดังขึ้นเมื่อฮีลออกแรงดูด ทำให้ฉันต้องร้องครางออกมา
“ฮีล ไอ้บ้า! ฟะ…ฟังหน่อย” คำก่นด่าของฉันไม่ค่อยหนักแน่นนัก เพราะฝ่ามือหนาเริ่มลามปามไปถึงช่วงล่าง ก่อนจะสอดเข้าไปในกระโปรงตัวสั้น
“ขอสักนิด” นิ้วเรียวยาวเริ่มนวดคลึงตรงจุดอ่อนไหวอย่างบางเบาผ่านเนื้อผ้า ไม่นานหนักหลังจากสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นจึงเริ่มสอดนิ้วเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋ว จับตรง ๆ ที่กลีบเนื้อแล้วกรีดกรายเล่น
“อ๊า” ฉันระบายเสียวโดยการกัดที่ลาดไหล่แรง ๆ ฝังคมเขี้ยวลงไปโดยที่อีกฝ่ายไม่ว่าอะไร
“จูบหน่อย”
ทาบกลีบปากลงบนริมฝีปากสีคล้ำ ขบเม้มเบา ๆ แล้วสอดลิ้นเข้าไปดูดดึงควานหาใบลิ้นของฮีล ก่อนจะตวัดสู้อย่างเร่าร้อนเมื่อนิ้วเรียวยาวเริ่มสอดใส่เข้าไปช่องทางด้านใน
ฉันเมานะ แล้วฉันก็ไม่ไหวแล้ว ยิ่งฮีลมันกำลังชักนิ้วอารมณ์ของฉันก็ยิ่งรุนแรง
หลังจากที่ฮีลปล่อยมือออกมันก็รีบจัดการกับตัวเอง พอรู้ตัวว่ากำลังจะถูกสอดใส่ฉันจึงรีบยกตัวขึ้นแล้วนั่งลงไปอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้ฉันยอมให้แก่นกายใหญ่สอดแทรกเข้ามาในร่องคับแคบด้วย
“อ่า” ฮีลครางเบา ๆ มือที่เต็มไปด้วยคราบเหนียวเหนอะยกขึ้นมากอบกุมเต้าอวบของฉัน
“กอดฉันไว้แน่น ๆ”
มันไม่ได้บอกให้ฉันโยกตรงนี้เพราะหลังจากนั้นฮีลก็ขับรถออกไป แต่ฉันที่ความเมาเข้าครอบงำจึงกอดมันแน่นแล้วบดเบียดสะโพกเล่นเบา ๆ
ช่วยไม่ได้ ใครบอกให้มันสะกิดฉันก่อน
“หยุดก่อนได้ไหม”
“ฉันอยาก” พูดตรง ๆ ว่าอารมณ์ของฉันนั้นพลุ่งพล่านตั้งแต่มันเล้าโลมต่อหน้าผู้ชายนับสิบที่ยืนสูบบุหรี่แล้ว ถึงในรถจะติดฟิล์มทึบแต่เพราะยังมองเห็นบรรยากาศข้างนอกฉันก็เลยตื่นเต้น
ฉันไม่ได้อยากโชว์ แต่เพราะมันได้บรรยากาศใหม่ ๆ ก็เลยตื่นเต้นต่างหาก
“งั้นเอาเลย” หลังจากฮีลให้สัญญาณฉันก็สังเกตเห็นว่าตรงนี้คือตรอกเล็ก ๆ ซึ่งมืดสนิทพอสมควร ดังนั้นฉันจึงเริ่มขยับตัวขึ้นลง
“อะ…อ๊า สะ…เสียว” ฉันร้องบอก แอ่นอกขึ้นในตอนที่ขยับสะโพกให้มันประกบปากกับตรงนั้น ซึ่งมันก็รู้งานดี ดูดดึงตรงยอดอกสีชมพูจนมันแข็งเป็นไต
“ชอบไหม” ฉันถามเสียงหวาน เวลานี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังไม่หมดลง
“ชอบ ขอแรงกว่านี้”
จากนั้นไม่ต้องสืบ ฉันก็จัดให้มันอย่างสาสมที่อยากมากนัก นับหนึ่งรอบบนรถแล้วก็นับสองสามสี่บนคอนโดมันซึ่งเป็นที่ประจำ สรุปแล้ววันนี้ฉันก็นอนกับมันเหมือนเคย ไม่ได้กลับไปนอนที่คอนโดตัวเองแต่อย่างใด
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น