Episode 41
รักแบบไม่มีข้อแม้
กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกแบบเดิมอยู่ ถึงแม้จะหันไปมองด้านหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่พบอะไร ทว่าความรู้สึกมันบอกแบบนั้นจนต้องรีบเดินขึ้นคอนโดให้เร็วที่สุด
“ไปไหนมา!” ยัยลูกปลายืนเท้าสะเอว สีหน้าดูเป็นห่วงและร้อนรนมากราวกับกลัวว่าฉันจะหายไป
“เอาผ้านวมไปซัก”
“แม่บ้านก็มีไหมล่ะ คราวหลังไปไหนก็บอกด้วย!”
“ฉันไม่ใช่เด็กนะ แล้วทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย” สีหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง ทำไมต้องดูกังวลที่ฉันหายไปขนาดนั้นด้วย
“ก็ฉันเป็นห่วงแก ลืมแล้วหรือยังไงว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“อ่า” ฉันพยักหน้าเป็นอันว่าเข้าใจ ถัดมาก็ส่ายหัวให้ “ไม่ลืม”
“อือ เฮ้ย! แล้วนั่นอะไรอะ” ดวงตากลมโตหลุบลงต่ำ มองของที่ฉันถืออยู่ในมือแล้วเอ่ยปากถาม
“คอนโดไม้ เอามาเล่นแก้เบื่ออะ” ระหว่างทางเดินกลับเข้าคอนโดฉันก็แวะซื้อเจ้านี่ติดมือมาด้วย เพราะเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กตั้งแผงขายของอยู่ข้างทางเลยเอ็นดู
“หูววว ดีเลยเดี๋ยวเย็นนี้ชวนไอดี แจ่มข้าวปุ้นไปเลยจ้า” พูดด้วยน้ำเสียงสะดีดสะดิ้งแล้วฉวยสิ่งนั้นจากมือฉันไป
เหมียว
เสียงข้าวปุ้นดังขึ้นเมื่อถูกเรียกชื่อ ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาด้วยท่าทางปุ๊กปิ๊ก เอาตัวเองมาคลอเคลียข้อเท้าของยัยลูกปลา ข้าวปุ้นนี่มันจ้ำม่ำมาก ฉันจะบอกว่ามันน่ารักปุ๊กปิ๊กแบบนี้ก็ไม่แปลก แต่อะไรของมันวะ ‘แจ่มข้าวปุ้น’
“อะไรคือแจ่มข้าวปุ้นอะ”
“สวยไม่มีสมองอีกละ” ลูกปลาบึนปากใส่พลางย่อตัวลง ค่อย ๆ ลูบมือไปตามตัวข้าวปุ้น ขนฟู ๆ ของมันทำให้ฉันมองตามแล้วอยากลูบไปด้วยเลย “นี่อะไร”
“ก็ข้าวปุ้นไง”
“ข้าวปุ้นมันเป็นไร” น้ำเสียงที่ถามนั้นเหนื่อยหน่ายมาก ก็แค่คนมันไม่เก็ตมุกมันจะอะไรนักหนา ทว่าหลังจากที่ลูกปลาเอ่ยถามคำถามนั้นก็ทำให้ฉันเข้าใจมุกแป้ก ๆ ของมันทันที
“แมว? แจ่มแมว? โอ๊ะ! ทำไมต้องพูดให้เข้าใจยากด้วย” อย่าว่าแต่มันที่เหนื่อยหน่ายเลย ฉันก็เหนื่อยใจที่ต้องคุยกับมันเช่นกัน
“อีแอ๊บแอ้!” ขอสักครั้งเถอะ อยากด่า “อยู่กับพี่ฮัทนี่ทำหน่อมแน้มอ้อนผัว อยู่กับเพื่อนนี่อ้อนตีน”
“ห้าวจริง! เดี๋ยวให้ข้าวปุ้นมันข่วนหน้าซะเลย” ลูกปลาช้อนสายตาขึ้น เมื่อเจอฉันเน้นหนักคำว่า ‘ตีน’
เหมียว
ข้าวปุ้นนี่มันเชื่องจริง ๆ ได้ยินชื่อทีไรก็ร้องเหมียวตลอด ฉันจึงทรุดกายลงไปแล้วเอื้อมมือไปลูบขนปุย ๆ บ้าง “ข้าวปุ้น”
“อะ ๆ จับแล้วไปล้างมือดี ๆ เดี๋ยวผัวจะคันทั้งคืน”
“รู้แล้วน่ะ”
แกรก!
เสียงเปิดประตูดังขึ้นปลุกฉันที่กำลังผล็อยหลับไประหว่างเล่นโทรศัพท์ให้ตื่นขึ้น ตามด้วยเสียงฝีเท้ามากมายดังถี่ขึ้นและใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จึงค่อย ๆ ลืมตาไปมอง ก่อนพบว่าพวกเพื่อนกำลังเดินเข้ามา
“นอนขี้เกียจเลยนะครับคุณมินนี่”
ปึก!
ฉันโยนหมอนไปหามัน ก่อนเขม่นใส่สำทับไปพร้อม ทว่าอีกฝ่ายกลับรับเอาไว้คามือ หมอนใบนั้นจึงไม่ได้กระแทกหน้ามันแต่อย่างใด “เกรี้ยวกราดอีกแล้ว”
“มาทำไมกัน” ลำไยที่มันว่าฉันนอนขี้เกียจ ไอดีนี่มันจะมีสักวันไหมที่พูดจาดี ๆ เข้าหูฉันอะ
“มาแดกเหล้าสิครับ” ตอบด้วยท่าทางกวนโอ๊ย แม้คำพูดจะลงท้ายด้วยคำว่า ‘ครับ’ ทว่าท่าทางยักคิ้วหลิ่วตาแบบติดเล่นทำให้ฉันคิดแบบนั้น
“เหอะ! ไหนเหล้า เอามาดูแล้วจะให้เข้าห้อง”
“วันนี้กะมาแดกฟรีไงครับ”
“ไม่ได้ ๆ ลงไปซื้อ!” รีบส่ายหน้าให้ “ต่อแต่นี้ฉันขอตั้งกฎว่าใครเข้ามาที่นี่ต้องพกเหล้ามาด้วย”
“เป็นเจ้าของห้องหรือไงคะคุณมินนี่” แสนดีถามพลางเชิดหน้าขึ้น ก่อนเดินเข้ามาหาฉันที่กำลังนอนกระดิกเท้าเล่นอยู่บนโซฟา
“ไม่ได้เป็นเจ้าของห้อง แต่เป็นเมียเจ้าของห้อง” เอาหน่อย! ก็นะ คนมันกำลังจะมีความรัก ประกาศไปเลยจ้า! แต่ก็อย่างว่า พวกมันรู้กันทั้งกลุ่มอยู่แล้วและปล่อยให้ฉันโง่งมอยู่คนเดียว
“ฮิ้ววววววววว” ไอดีกระโดดโลดเต้น ท่าทางลิงโลดซะไม่มี
“ยอมแล้วจ้า” เสียงแสนดี ถัดมาก็เป็นเสียงคนนุ่มนิ่มอย่างลูกพีช
“ยินดีด้วยจ้า”
อะไรนักยัยพวกนี้ “ปากแข็งตั้งนาน ไอ้ฮีลมันใช้มุกอะไรแงะปากออกมาวะ” ไอดีถามอย่างไม่เชื่อ ไม่ต้องมุกหรอก ก็คำหวานของมันนั่นแหละที่ทำให้ฉันรู้ใจตัวเอง
พูดจบประตูก็เปิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมร่างสูงที่หายออกไปตั้งแต่เช้าเดินเข้ามากอดคอไอดี “อะ มันมาละ แน่จริงก็พูดต่อหน้าเด้” ไอดีมันยังกวนโอ๊ยไม่หยุด จะให้พูดอะไรนักหนา มันได้ยินอะไรแบบนี้รอบที่สองของวันแล้ว
คำว่าเมียเจ้าของห้องมันก็ได้ยิน เพราะฉันรู้ว่าสี่คนนี้ต้องมาพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นพวกมันคงขึ้นมาไม่ได้หรอก
“ไว้พูดกันสองคนเนอะผัวจ๋า” ฉันตอบสั้น ๆ สรรพนามนั้นให้ความรู้สึกแปลกใหม่ในตอนที่พูดออกมาจากปาก เพราะตอนนี้ฉันยอมรับในความหมายนั้นแบบจริง ๆ แล้ว
หลังพูดจบก็เบนดวงตากลมโตไปมองคนที่มาใหม่ ร่างสูงไม่ได้โปรยยิ้มอย่างตอนแรก ทว่าถึงจะทำหน้านิ่งแต่ดวงตาสีดำคู่นั้นก็ฟ้องอยู่รอมร่อว่ากำลังดีอกดีใจ ที่ได้ยินฉันพูดออกมา
“อือ” สั้นจริงนะ ทว่าฉันไม่ได้โกรธเคืองอะไรฮีลเลยสักนิด มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหละ จึงโคลงหัวให้ไอดีมันเดินเข้ามา เพราะตอนนี้ลูกพีชกับแสนดีเดินเข้ามานั่งติดเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว มันรอใครตัดเค้กอยู่ก็ไม่รู้
“ขอบคุณครับคุณนาย” อ้อ รอฉันนี่เอง
เนิ่นนานจนเราทุกคนเมาแอ๋ ลูกพีชที่ไม่ถนัดดื่มกลับเข้าคอนโดตัวเองไปแล้ว ลูกปลากับพี่ฮัทก็ไปพักผ่อนกัน ส่วนแสนดีก็มีคนมารับเรียบร้อย จะเหลือก็แต่ไอดีที่มันยังนั่งเกร็งคอไม่ยอมพับลงสักที หลังจากเล่นคอนโดไม้ไปมันก็เป็นคนเดียวที่ฝีมือด้อยสุด หยิบแท่งไม้ชิ้นไหนออกก็หล่นตุบพังทั้งแถบจนต้องยกแก้วหลาย ๆ หน แต่ก็นะ ระดับมัน อ่อนแต่เกมแต่คอไม่อ่อน ตอนนี้มันยังไม่สลบเหมือดเลย ถึงจะร่อแร่แล้วก็เถอะ
“ไปนอนได้แล้วไป”
“รีบไล่ไปไหน จะไปสวีตวีดวิ้วงายยยย” น้ำเสียงที่เอ่ยออกช่างหย่อนยาน แต่ก็ยังอดทนเอาอะเนอะ ถ้าจะเมาขนาดนี้แนะนำให้ไปนอน ฉันไม่อยากดูพฤติกรรมรั่ว ๆ ของมันหรอก “หมดขวดนี้ก่อน อีกนิดเดียว”
ฟึ่บ!
จู่ ๆ ไอ้ฮีลก็แย่งขวดเหล้าจากมือไอดีไปแล้วกระดกมันเสียเอง ราวกับต้องการจบเรื่องนี้ไว ๆ ส่วนคนถูกแย่งก็มองขวดเหล้าตาละห้อย น่าสงสารจริง ๆ
ท่าทาง ‘หมาหงอย’ นี่ไม่เข้ากับหน้ามันซะเลย
“หมดแล้ว ไปนอนเลยไป”
“อือ” ว่าจบก็ดีดตัวลุก เดินโซเซไปยังห้องนอนของแขก จนตอนนี้เหลือแค่เราสองคน
“เข้าห้องกัน”
“อือ” ฉันดีดตัวลุกโดยที่มีฝ่ามือหนาประคองเอาไว้ ไม่สิ จะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก มันไม่ได้ตั้งใจประคองแต่มันอยากกอดฉันเสียมากกว่า ถึงจะคิดเช่นนั้นแต่ก็ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ค่อย ๆ ก้าวเดินเข้าไปยังห้องนอนที่แสนจะคุ้นเคย
“ผ้านวมหอมจัง” กระโดดขึ้นเตียงแล้วซุกหน้าลงบนนั้น ฉันจึงต้องคว้าแขนมันให้ลุกขึ้น ไม่ได้ ๆ ผ้านวมอะหอม แต่ตัวมันไม่หอมเลยจ้า ต้องไปอาบน้ำก่อน
“อ๊ะ!” ด้วยแรงอันน้อยนิดก็ถูกมันดึงจนล้มทับไป ก่อนจะถูกฉวยโอกาส ถูกจมูกคม ๆ กดเบา ๆ ที่ขมับบางและเรือนผมย้ำ ๆ หลาย ๆ ที
“เธอเอาไปซักมาเหรอ”
“อือ” ถึงจะมีแม่บ้านแล้วก็เถอะ แต่หากเป็นฉันที่ดูแลมันบ้างมันคงดีใจมาก
“ออกไปคนเดียวเหรอ”
“ใช่!”
“คราวหลังไม่ต้องไปไหนคนเดียว”
“ทำไม...” พูดเหมือนรู้ว่าฉันกำลังจะมีอันตราย ไม่สิ มีแล้วแหละแต่มันแสดงความกังวลออกมามากเกินไป ทั้งยัยลูกปลาอีก แบบนี้จะไม่ให้ฉันคิดได้ยังไง
“ก็เธอมีผัวแล้ว ชวนผัวไปด้วย” กำลังจะคิดไปไกลแต่สุดท้ายคำตอบของฮีลก็เบรกความรู้สึกทุกอย่างของฉันเอาไว้เสียก่อน นั่นทำให้ต้องถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“อือ”
“ผ้าห่มหอมนะ แต่ตัวเธอหอมกว่า” พูดอย่างเอาใจหลังถอนจมูกออกมา ในขณะที่ฝ่ามือหนากำลังโอบแผ่นหลังของฉันเอาไว้ด้วย ฉันจึงเอาบ้าง ค่อย ๆ ไล้จมูกไปตามใบหน้าคมคาย กดจูบซ้ำ ๆ เลียนแบบมัน กลิ่นตัวของฮีลยังหอมกรุ่นอยู่เช่นเดิม ถึงแม้จะมีกลิ่นบุหรี่ผสมกับแอลกอฮอล์ติดตัวมาด้วยก็ตาม ทว่าฟีโรโมนที่ดึงดูดมันสั่งให้ฉันตอบว่าหอมอย่างเดียวเลย
“นายก็ตัวหอม”
เป็นอีกครั้งที่ฉันถูกฮีลหอมแก้ม ครั้งนี้มันสูดลมเข้าไปเฮือกใหญ่เลย
“ชื่นใจ” แนบใบหน้าลงบนแผ่นอกกว้าง ฟังเสียงลมหายใจของฮีลอยู่เงียบ ๆ กระทั่งทุกอย่างเดดแอร์ไปนาน จึงเลือกที่จะทำลายความเงียบ
“ฮีล”
“อือ”
“นายชอบฉันตั้งแต่ตอนไหนเหรอ”
“สองปีก่อน”
“ทำไม...” นานขนาดนั้นมันเก็บความรู้สึกอยู่ได้ยังไง ฉันไม่อยากจะเชื่อมันเลยจริง ๆ
“ถามว่าอะไรดีล่ะ ถามว่าทำไมถึงเก็บไว้นานขนาดนั้นหรือถามว่าทำไมถึงรัก” ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละ ยังไม่ทันจะให้คำตอบคนที่ลูบมือกับแผ่นหลังฉันก็พูดขึ้นเสียก่อน
“ถ้าถามว่าทำไมถึงเก็บไว้นานก็เพราะว่ากลัวคำตอบ”
“ฉันรู้ ฉันปิดกั้นตัวเองมากเกินไป”
“อือ แต่ก็ขอบคุณที่ยอมออกมาจากเซฟโซน”
“แล้วอีกคำถามล่ะ”
“รักก็คือรัก” ตอบสั้น ๆ แค่นั้นไม่โรแมนติกเอาเสียเลย ฉันยังมีเหตุผลให้ตัวเองเลยว่าเพราะอะไรถึงได้รักมัน รักจนยอมทำใจกล้าเลิกปิดกั้นตัวเองแล้วยอมรับความรู้สึกในท้ายที่สุด
“ไม่เอาคำตอบแบบนี้ดิ”
“เธอจะให้ฉันตอบแบบไหน...” เงียบไปเพียงแค่อึดใจเดียวก็พูดต่อ “รักเพราะเธอเป็นตัวของตัวเองมั้ง ดูแรด ดูเฮฮา ดูไม่แคร์ใคร เป็นคนตรง ๆ แล้วก็ชอบด่าตรง ๆ”
ฉันจิกเล็กกับต้นแขนมันตั้งแต่คำว่า ‘แรด’ ทว่าฮีลกลับไม่ยี่หระแล้วพูดต่อแบบไม่คิดว่าฉันจะโกรธ
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ตอบแบบนี้ไปตายซะไป” กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว ทำไมมันไม่โรแมนติกแบบคู่รักคนอื่นบ้าง
“ก็มันจริง ก็ฉันชอบ ชอบทุกอย่างที่เป็นเธอ” ได้ฟังแล้วก็ถึงกับต้องกลับลำ จากที่โกรธก็เปลี่ยนเป็นเก้อเขินไปเองโดยธรรมชาติ เวลานี้พวงแก้มของฉันเห่อร้อนขึ้น หากว่าฉันเข้าใจไม่ผิด ความหมายของประโยคนั้นก็คือ ‘รักแบบไม่มีข้อแม้’ สินะ ไม่ว่าฉันจะมีนิสัยร้าย ๆ ยังไงก็ตามแต่
ฟังแล้วใจเต้นแรงเป็นบ้า
“เอาจริงนายก็หยอดเก่งเหมือนกันนะ ไม่น่าเชื่อว่าลุคนิ่ง ๆ แบบนายนี่จะพราวมุก”
“มุกที่ไหน ฉันพูดความจริงทั้งนั้นเลย”
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น