“งั้นเหรอคะ จริงสิเกือบลืมคุณไปเลยคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ หมอรักษาสัญญาอยู่แล้วน่าไม่ต้องห่วง เด็ก ๆ จ๊ะมาจับตัวเขาไว้ที!”
สิ้นสุดเสียงสั่งสองพี่น้องผู้ช่วยพยาบาลก็ทำตาขวาง พลางถลันตัวเข้ามาจับเจฟเฟอร์ที่แขนขาดข้างหนึ่งเอาไว้
.
“เฮ้! เดี๋ยวสิออเจ้า นี่มันอะไรกันไม่เห็นจะต้องรุนแรงขนาดนี้ก็ได้นี่!”
แน่นอนว่าไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ กลับมา เพราะออเจ้าดาวิกาได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
.
“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันฟังไม่เห็นรู้เรื่อง..”
.
“ไม่ต้องสนใจหรอกน้องนาริตะ แค่พาเขาไปที่เครื่องแปลงมวลสารให้ได้ก็พอ ฮึบ!”
.
ยูมิจังแทรกขึ้นก่อนจะใช้พลังที่หลงเหลืออยู่ทั้งหมด ออกแรงดันช่วยกันกับน้อง ทำให้แขนกับขาเทียมข้างใหม่ของเจฟเฟอร์ร่วงหลุดจากมือ สายลับหนุ่มพลั้งพลาดเข้าให้แล้ว ร่างแกร่งถลันถลาเซแถด ๆ จนศีรษะมุดเข้าไปอยู่ในอุโมงค์ส่วนหน้าโดยไม่รู้ตัว
.
“เดี๋ยวก่อน! อธิบายกันก่อนสิหมอ ผมแขนขาดนะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสมองเลย ทำไมถึงต้อง?! เฮ้! เดี๋ยวก่อนเซ้!”
.
“ชู่ววว! อย่าเอ็ดตะโรไปสิคะคุณเจ้าหน้าที่ ก็ในเมื่อคุณรู้ความจริงหมดแล้ว ว่าทั้งหมดที่เห็นอยู่ก็แค่ของสมมติที่หมอฝังโปรแกรมไว้ในเลนส์ตาของคุณ ที่จริงคุณจะ Drain มันออกเองก็ได้นี่นา ทำไมคุณถึงไม่ทำล่ะ?”
ร่างบางในชุดรัดรูปยักไหล่ พลางโน้มตัวลงไปหยิบแขนและขาอะไหล่ที่เจฟเฟอร์ทำตกไว้ขึ้นมา
.
“เรื่องนั้นคือผม..!”
.
“มันไม่ 100 % ใช่ไหมล่ะถ้าหมอเดาไม่ผิด? เพราะงั้นขั้นตอนแรกก่อนที่หมอจะต่อแขนขาให้คุณ ก็คือการล้างทำความสะอาดตาให้เคลียร์ด้วยเครื่องแปลงมวลสารนี่ซะก่อน! รับรองแป๊บเดียวไม่เจ็บ! ออกจากโลกนี้ไปก็เป็นห้องผ่าตัดของหมอแล้ว ซึ่งเราจะเริ่มการปลูกถ่ายอวัยวะกันจากตรงนั้นโอเคนะ"
.
“ผมมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอหมอ? ”
เจฟเฟอร์ประชด
.
“ไม่มีค่ะ! เด็ก ๆ จ๊ะ เริ่มลงมือได้เลย!”
.
“คลิก!”
.
ชั่วขณะจิตหลังจากดีดนิ้วดังคลิกไปครั้งหนึ่ง ยูมิจังกับนาริตะก็ช่วยกันจับตัวเจฟเฟอร์พลิกด้านให้ใบหน้าแหงนขึ้นสูงกว่าปกติ มันสูงซะจนดวงหน้าเกือบจะชนเข้ากับขดลวดไฟฟ้าในอุโมงค์แปลงสภาพอยู่แล้ว จากนั้นก็ใช้คีมคีบที่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดึงเปลือกตาของเจฟเฟอร์ให้สยายกว้างออก! หลับไม่ได้! กระพริบไม่ได้! แม้ว่านัยน์ตาเขาจะแห้งผาดจนเห็นเส้นเลือดหลั่งไหลเป็นสายโลหิต ผู้ช่วยสาวสองพี่น้องก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะใจอ่อนเลย
.
“อ๊าาา.. ตากู ตากู อ๊ากกก!!!”
.
ประสบการณ์จากการเสียแขนที่ผ่านมา ทำให้เจฟเฟอร์อคติกับเครื่องแปลงมวลสารเวอร์ชั่นพกพามากเป็นพิเศษ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ต่างจากการยัดฉากทรมานในหนังเรื่อง saw ทั้ง 4 ภาค มาฟีเจอร์ริ่งกัน ซุ่มเสียงสำเนียงร้องที่ลากผ่านกระบังลมทะลุหลอดอาหารอันแสนเดือดดาน เป็นอะไรที่แกรมมี่ยังต้องก้มกราบกราน อาร์สยามอาจต้องยุบค่ายทิ้ง หากผ่านมาได้ยินเข้า
.
แข้งขาดิ้นพับ ๆ ความเจ็บปวดทรมานดังกล่าว ทำเอามือวางอันดับหนึ่งอย่างเขา ถึงกับสลบไสลสิ้นฤทธิ์หัวปักคาเครื่อง!
.
“ก็ดีค่ะสลบไปซะแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พอคุณตื่นขึ้นหมอรับประกันเลยว่าแขนซ้ายกับขาข้างใหม่ของคุณ จะถูกติดตั้งให้เรียบร้อยตอบแทนที่คุณช่วยคืนชีพให้ผู้ช่วยของหมอนะคะ ^^”
.
.
2 ชั่วโมงผ่านไป
ตัดฉากไปที่โลกด้านนอก , เมืองยอร์คชิน , ณ งานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ที่ละเลงไปด้วยเลือด
.
เบอร์แบโต้ยังคงง่วนอยู่กับการตามหาปิเก้ผู้สูญหาย แผลที่หน้าผากก็มีแต่จะเปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มิหนำซ้ำอารมณ์ร่วมที่เกิดจากสถานการณ์อันตึงเครียด ก็ยิ่งทำให้เลือดไหลไม่ยอมหยุด
.
"ให้ตายเถอะ.. พี่อยู่ไหนกันแน่นะพี่ปิเก้ ก็ในเมื่อสัญญาณมันบอกว่าพี่อยู่ในห้องนี้?"
.
"ติ๊ด ๆ , ติ๊ด ๆ , ติ๊ด ๆ "
.
"เนี่ยะ.. ได้ยินไหมยิ่งเสียงมันดังแจ้งเตือนถี่ ๆ ยิ่งแปลว่าผมอยู่ตรงตำแหน่งเดียวกับพี่แล้ว แต่ดูตอนนี้สิ.. เฮ้อออ! มีปริศนาให้ไขเต็มไปหมดเลย?"
.
เบอร์แบโต้วางมือเท้าสะเอว ขณะที่อีกข้างใช้สางเส้นผมที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อผสมกับฮิโมโกลบิน มันแดงฉานไมต่างจากสีของชาดที่ได้จากเปลือกไม้ แต่ครานั้นก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับอาณาบริเวณที่เป็นดั่งทะเลสาบออนเซ็นที่เรียงรายไปด้วยศพของผู้มีอิทธิพล ที่นี่มีการต่อสู้เกิดขึ้นแน่นอน เบอร์แบโต้สังเกตได้จากรอยและปลอกกระสุนจำนวนมหาศาลที่กระจายอยู่เกลื่อน
.
การตรวจพื้นที่ในเบื้องต้นทำให้สายลับน้องใหม่ทราบว่า ศพเหล่านี้เป็นใครมาจากไหนหลังจากได้ลองถอดหน้ากากของพวกเขาดู ยิ่งไปกว่านั้นเข็มกลัดที่กลัดไว้บนปกเสื้อศพ ยังบ่งบอกได้ถึงสถานะและต้นตระกูลที่สังกัดอยู่ด้วย กล่าวคือแขกเหรื่อในนี้มากันเป็นกลุ่ม พวกเขาจะกลัดเข็มกลัดที่มีสัญลักษณ์เหมือนกันเพื่อแบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้เท่าที่สังเกตและเทียบเคียงกับฐานข้อมูลออนไลน์ในระบบดู เบอร์แบโต้ก็ทราบแล้วว่ามีอย่างน้อย ๆ 5 กลุ่มด้วยกัน
.
"รูปมงกุฏเซ็นต์เอ็ดเวิร์ด สำหรับคนของรัฐบาลกลาง"
"รูปเสือเบงกอล จากแกงค์มาเฟียร์เด็คชาร์คทางเหนือ"
"ปืนไคว้หัวกะโหลก จากกลุ่มอิทธิพลทางใต้คุมบังเหงียนการค้าทางทะเล เมอร์คิวรี่"
"ช่อมะกอกเมอร์ซี่ ตัวแทนของกลุ่มสตรี, โสเภณี , และหญิงงามเมือง"
"รูปฟันเพือง ตัวแทนของพวกจักรกลสังเคราะห์ ปัญญาประดิษฐ์และสิ่งมีชีวิตเทียม"
.
"สงสารก็แต่พวกบอร์ดี้การ์ดของแต่ละกลุ่มนี่แหละ แต่ละคนโดนยิงจนพรุนอย่างกับรวงผึ้ง นี่สินะที่เขาเรียกว่าตายในหน้าที่ โดยเฉพาะคนนี้! แม่ง! ปืนยังขึ้นลำคามืออยู่เลย.. ชู่วววว.. ไม่น่าเล๊ยยยหน้ายังเด็กอยู่เลย ไอ้หนูเอ๊ยยย!"
.
"แต่ก็ดีอยู่อย่างนึงที่ตอนนี้เรายังไม่เห็นเข็มกลัดสัญลักษณ์ "อัญมณีควอทซ์" อันเป็นภารกิจสอดแนมหลักในครั้งนี้เลยสักศพ พวกเขาอาจจะยังไม่ตายก็ได้ อาจจะซ่อนอยู่ที่ไหนสักที่ ๆ เราไม่รู้"
.
"แต่ก็ไม่แน่! อาจจะตาย!? หรืออาจจะ? ไม่รู้เว๊ย! พี่ปิเก้พี่อยู่ไหนวะเนี่ยะ ไม่มีพี่ผมจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกเลยสักอย่างให้ตายสิพับผ่า เวรเอ๊ย! เวร! เวร! เวร! ๆ ๆ"
.
เบอร์แบโต้ยังคงตึงเครียดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ต่อไป เขาพลิกศพถอดหน้ากากดูไปเรื่อย ๆ เพื่อตามหาพี่ปิเก้ของเขา เพราะปิเก้น่าจะเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นในนี้ โดรนคุมสภาพอากาศทั้งสี่ตัวที่ลอยอยู่ด้านนอกก็ดันทำงานของมันได้อย่างดีเยี่ยม พวกมันปิดกั้นเสียง กั้นกลิ่น กั้นทุกสิ่งอย่างเอาไว้หมด ทำให้ตำรวจยอร์คชินที่เป็นเจ้าของพื้นที่ไม่ระแคะระคายเรื่องนี้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองตายห่ากันไปหมดแล้ว จึงเปิดโอกาสให้เบอร์แบโต้ได้ทำภารกิจของเขาต่อไปได้อย่างชิว ๆ
.
กระทั่งเขาเดินวนมาจนถึงจุดเดิม และสัญญาณ GPS ก็ได้ร้องเตือนขึ้นมาอีกครั้ง
.
"ผมไม่ใช่ริวจิตสัมผัสนะ แต่ผมก็สัมผัสได้ว่าพี่อยู่ตรงนี้ชัวร์พี่ปิเก้! ถ้าบนภาคพื้นไม่มีถ้างั้นพี่ก็ต้องอยู่ใต้ดินหรือไม่ก็ข้างบนล่ะวะ!"
.
กระทืบฝ่าเท้าเสียงดังจ๋อม! มวลเลือดเจิ่งนองกระเซ็นเปรอะเสื้อผ้าคาวคละคลุ้ง แต่ยังไงก็ยอมอยู่ดีเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีตัวเองให้สำเร็จ
.
"เสียงแน่นขนาดนี้แปลว่าข้างล่างไม่มีโพรงให้ซ่อนตัว งั้นก็เหลือแค่ข้างบนแล้วล่ะ จริงสิ! เพราะก่อนหน้านี้เราไม่เคยมองขึ้นไปบนโครงหลังคาทรงโดมเลยนี่หว่า"
.
สัญญาณเตือน GPS ยังคงดังเร่งเร้าตอกย้ำความเชื่อ หนุ่มผิวหมึกปรับโหมดหักนิ้วให้ปลายกระบอกปืนยื่นออกมาเตรียมการเอาไว้ เผื่อเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้น จากนั้นจึงค่อย ๆ แหงนหน้าขึ้นไปมองข้างบนช้า ๆ โดยคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรสักอย่าง ที่จะเจือจางสถานการณ์อันตึงเครียดนี้ลงได้
.
.
ทว่า มันกลับเป็นอะไรที่ร้้ายแรงกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก!
.
อาวุธสังหารบนปลายนิ้วทั้ง 10 ห้อยต่องแต่งหมดเรี่ยวแรง แข้งขาทรุดฮวบหมดเรี่ยวแรงลงไปดื้อ ๆ ไม่สนห่าเหวอะไรแล้ว เบอร์แบโต้จุ่มก้นลงกับกองเลือดอันเจิ่งนองแบบไม่เหลือคราบของเจ้าหน้าที่องค์กรที่ขึ้นชื่อว่าทรงอิทธิพลมากที่สุด น้ำตาเขาไหลท่วมหน้า มุมปากเบะออกด้านข้าง แผดเสียงร้องราวกับทารกที่ถูกพรากบุพการี
.
"พี่ปิเก้!!!!!!!!!!!!!" , "พี่ปิเก้!!!!!!!!!!!!!" , "ฮือออออ ฮือออออ ใครมันทำพี่แบบนี้ ฮืออออ ๆ ๆ"
ดวงตาถมึงทึงแทบถลน ขากรรไกรอ้ากว้างตะโกนดังลั่นเมื่อเห็นศพของพี่ชายโดนแขวนไว้บนส่วนปลายของแชนเดอร์เลีย ที่ยื่นออกมาอย่างน่าสงสาร
.
ตอนแรกยังดีใจอยู่เลยที่บรรดาเข็มกลัดสัญลักษณ์ทั้งหลาย ไม่มีรูปเครื่องหมายเท่ากับ (=) ขององค์กรลับ Parallel ปรากฏ ที่ไหนได้ดันมาโดนเสียบทะลุทรวงอกห้อยระโยงระยางอยู่บนโคมระย้านี่เอง โถพี่ปิเก้ผู้น่าสงสาร มิหนำซ้ำบนแชนเดอร์เลียอันอื่น ๆ ที่ห้อยอยู่ข้าง ๆ ยังมีศพของพวกเข็มกลัด "อัญมณีควอทซ์" เสียบคาอยู่อีกเพียบ! บ้างถูกเสียบคาหลัง บางศพก็ห้อยหัวลงมา ในขณะที่หลายศพก็โดนส่วนตะขอเสียบทะลุหัวใจแขวนไว้สยดสยอง
.
หนักจริงอะไรจริงจนเบอร์แบโต้ยากที่จะยอมรับ ถ้าไม่นับปูมหลังที่เจ้าตัวเคยมีปัญหากับพวกหุ่นยนต์มาก่อน เรื่องในวันนี้นับว่าหนักสุดแล้วตั้งแต่เขาเกิดมา มือหนากร้านงานปาดลงที่ขอบตาเช็ดคราบน้ำตาออกไปพ้น ๆ เขาไม่มีเวลาที่จะเสียใจมากนัก ความสงสารกลัวว่าพี่จะทรมานดลบันดาลให้เขาตัดสินใจใช้เลเซอร์ที่ติดไว้ตรงปลายนิ้วเล็งยิงไปที่ขั้วของแชนเดอร์เลีย
.
"จิ้วววววว!"
.
ดอกเดียวก็รู้ผลทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยยิงแม่นขนาดนี้มาก่อน และก่อนที่อุปกรณ์ให้แสงสว่างสุดเลิศหรูเรอค่านี้จะร่วงลงมากระทบพื้นที่ระดับความสูงมากกว่า 6 เมตร เบอร์แบโต้ก็รีบใช้ฝ่ามือของเขา Drain เอาตัวของปิเก้พี่ชายเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก ทิ้งให้โคมระย้าหลังเฉียดล้านตกกระแทกพื้นเสียดัง.. เปรี๊ยงงงงง! แตกกระจายเคล้าไปกับแอ่งโลหิต!
.
ทำให้ทราบว่าปิเก้นั้นเจ็บหนักเอาการเกินกว่าหมอคนใดจะรักษาไหว ขนาดนอนทับอยู่บนตักเจ้าหน้าที่ผู้น้องแท้ ๆ เบอร์แบโต้ยังมองเห็นขาตัวเองได้ ผ่านทางบาดแผลของปิเก้ที่เว้าลึกเป็นรูโบ๋
.
"พี่ปิเก้! เป็นไงบ้างพี่! พี่ยังอยู่ไหม! พี่ พี่ปิเก้ พี่ตอบผมหน่อยสิ!"
.
"อะ.. อืม คะ.. แค็ก ๆ แค็ก ๆ"
.
"....ข..อ..บ..ใ.."
คงจะพูดว่าขอบใจแต่คงฝืนไม่ไหวจริง ๆ ปิเก้เลยได้แต่ยกฝ่ามือขึ้นมาให้รุ่นน้องได้เห็นถึงข้อมูลลับที่เป็นดั่งไดรอิ้งเมสเสจ (Dying message) เขารวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายด้วยการกำมือเป็นกำปั้น แล้วชี้ไปที่รูบนเพดานที่อยู่ด้านหลังของเบอร์แบโต้
.
หันตามโดยฉับพลัน แต่ทว่า!
.
"อะไรพี่! อะไร! พี่จะสื่ออะไรพี่ปิเก้! เฮ้พี่! อย่าเพิ่งตายสิ ตื่นมาบอกผมก่อน พี่ปิเก้! พี่!!!"
.
เบอร์แบโต้แม่งโง่เกินไป สิ่งที่ปิเก้อุตส่าห์ทำไม่อาจทำให้สมองส่วนไหนของน้องยกระดับจากควายขึ้นมาเป็นคนได้เลย เขางงตึ๊บกับสิ่งที่ปิเก้สื่อ แทนที่เจอพี่แล้วปริศนาจะได้รับการถอดแสควรู้ท แต่นี่อะไร! มันคือการยกกำลังสอง คูณตัวแปรตามบวกระยะกระจัด แล้วเอาทั้งหมดไปดริฟท์หาค่าพายน์อีกทีซะมากกว่า ก็เลยยากเกินไปสำหรับเขา หลังจากปิดตาปิเก้ให้หลับสนิทลง เบอร์แบโต้ก็ตัดสินใจยิงโคมระย้าที่เหลือข้างบนทั้งหมดทิ้ง เพื่อเอาศพของพวกอัญมณีควอทซ์ที่เป็นภารกิจหลักลงมา
.
"ผมขอโทษพี่ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพี่หมายถึงอะไร แต่ยังไงซะศพของคนกลุ่มนี้ก็น่าจะบอกอะไรผมได้บ้าง พักผ่อนให้สบายเถอะครับพี่ ถึงผมจะโง่แต่งานของพี่ผมจะสานต่อให้เอง"
.
คำพูดนี่โคตรเท่แต่ผลงานแม่งเข้าขัั้นวิกฤตการณ์ขององค์กร! ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าไอ้หนุ่มอเมริกันผิวหมึกนายนี้มันสอบโควต้าผ่าน หรือผ่านเข้ามาในองค์กร Parallel ด้วยการจับใบดำ-ใบแดง รึเปล่า ถึงได้ชุ่ยบัดซบถึงเพียงนี้ เพราะอะไรนะเหรอ?
.
ก็เพราะหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะสานต่อเรื่องราวเข้าหากันได้ มันเละไม่มีชิ้นดีเลยน่ะสิ! ไอ้ห่า! มีอย่างที่ไหนจะยิงเอาศพเขาลงมาดันไม่พุ่งตัวเข้าไปรับ บรรดาสมาชิกที่กลัดเข็มกลัดรูปอัญมณีควอทซ์ทั้งหมดก็เลยแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ไปพร้อมกับแชนเดอร์เลียที่ร่วงลงมาแตก
.
"เพล้งงงงง!!!"
.
ใจเบอร์แบโต้แตกสลาย ในขณะที่ใจคนเขียนก็แตกกระจายเช่นกัน เพราะไม่รู้จะแถเรื่องราวออกไปทางไหนดี เป็นกำลังใจให้แก่ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ได้ เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไรโปรดติดตามตอนต่อไปจ๊ะ
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร
"พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส
สะบัดลำตัวสะดีดสะดิ้งหวิดหวิวเสียวสะท้าน ทันทีที่ภาพเสมือนโดนตัดสัญญาณ เจฟเฟอร์ก็รีบดึงสติกลับมาที่ตัวเอง เดชะบุญที่เขาไม่ได้ไปไหนไกลจากเบอร์แบโต้นัก จากตรงนี้ในชุดรัดรูปที่ใช้สำหรับทำภารกิจโดยเฉพาะ เจฟเฟอร์ยังคงมองเห็นเจ้าหน้าที่รุ่นน้องได้อย่างชัดเจน."โถ่เอ๊ย! ไอ้โต้ ดูสิดูมันทำ! ทำอย่างกับคนไม่เคยฝึกมา รื้อสถานที่เกิดเหตุกระจุยกระจาย ถุงมือก็ไม่ใส่ หลักฐานสำคัญหายหมดแล้วมั้งน่ะ! "."น่าเสียดายที่บอสรู้ตัวเร็วไปหน่อย ไม่งั้นเราคงได้ข้อมูลมามากกว่านี้ ดอกลาเวนเดอร์สดดอกหนึ่งราคาเฉียด 500 เหรียญ ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะกล้าปาเข้าใส่เราได้! ชูู่ววววว! ถึงที่ส่งไปจะเป็นแค่ภาพ visual ระบบ wireless ก็เถอะ แต่มันก็เสียวท้องน้อยดีเหมือนกันแฮะ.. วู้วววว!".วนมือเป็นวงบนพุงตัวเองวูบวาบ สายลับหนุ่มเป่าปากพ่นลมหายใจพรู อย่างที่เราทราบว่านวัตกรรมของ Parallel นั้นมีมากมายหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้านี่ "เครื่องฉายภาพระยะไกลระบบ wireless " มันเป็นอุปกรณ์ย่อยที่ถูกติดตั้งเข้ามาใหม่ เพียงแค่กลับด้านหัวเข็มขัดนิดเดียว จากอุปกรณ์แปลงร่างก็จะกลายเป็นเครื่องส่งสัญญาณในทันที เดชะบุญที่โลกยุคนี้เป็น
บรรยากาศมาคุแผ่สยายปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่น เงียบซะจนได้ยินเสียงแอร์ดังครือ ๆ ครือ ๆ เจฟเฟอร์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม เขาทำได้เพียงคุกเข่่าแล้วก็ก้มหน้าลงปลดปลงกับบานประตูอันเว้าแหว่ง กูไม่น่าพังมึงเข้ามาเลย!."ว่าไงล่ะ! จะเงียบทำไมมิทราบไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันถามเหรอ ว่าคุณเสียมารยาทเข้ามาที่นี่ทำไม!"บอสสาวแห่งองค์กรตวาดเสียงเข้มดุดัน และระหว่างที่เจฟเฟอร์กำลังจะอ้าปากตอบ."อ่ะ.. เอิ่ม คือผมจะเอา.. า.. า.."."หยุด! อย่าเพิ่งพูดอะไร ส่งหัวเข็มขัดคุณมาก่อน!"."หัวเข็มขัด! บอสจะเอาคืนเหรอครับ งั้นก็หมายความว่า.. ห๊ะ! นี่อย่าบอกนะว่า! บอสจะไล่ผมออก! ด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยะนะ! ไม่ครับบอสไม่ ไม่ ไม่ ๆ ๆ ไม่มีทาง! ยังไงผมก็ไม่ออก ออกไปผมจะเอาไรแดก!"."ใครอนุญาตให้เงยหน้ามิทราบคุณเจ้าหน้าที่ ฉันบอกว่าส่งมาก็คือส่งมาไง! ทำไมต้องให้ย้ำ!".กัดกรามกรอด ๆ ฝืนใจเจ็บทน ต้องก้มหัวให้ผู้หญิงแล้วยังต้องมาโดนปลดออกจากตำแหน่ง เพราะความจังไรของตัวเองอีก รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั้น ถึงจะไม่อยากทำแต่สุดท้ายก็ต้องยอมปลดหัวเข็มขัด ที่มีตราสัญลักษณ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) แห่งองค์กร Parallel ค
"ฟึบฟับ! ๆ , ฟึบฟับ ๆ , โฉ้งเฉ้ง ๆ ๆ !".อย่าว่าแต่ไอร่อนแมนเลย ชั่วยามนี้ทรานฟอร์เมอร์แม่งก็มา เมื่อขากลคู่งามดับไอพ่นลงแล้วแลนด์ดิ้งลงสู่พื้นพรมเปอร์เซียในห้องบอส ผืนพรมราคาแพงยุบบุ๋มลงตามน้ำหนักตัวที่มากโข แต่ครานั้นเจฟเฟอร์ก็ยังอุตส่าห์โพสต์ท่าตะแคงข้าง โชว์ให้เห็นถึงอะไหล่ชิ้นงามที่กำลังสับเปลี่ยนตัวเองกลับคืนรูปลักษณ์."เอิ่ม.. ผมต้องขอประทานโทษด้วยครับบอส คือว่าผมเผลอตัวเผลอใจไปหน่อย มันอดใจไม่ไหวจริง ๆ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย แฮะๆ"."แบบว่าขาข้างใหม่มันยังไม่ชินน่ะครับ เผลอ ปริ๊ด! แค่นิดเดียว ไม่คิดว่าขามันจะสั่นซะจนพุ่งใส่ประตูพังเป็นแถบแบบนี้ ต้องขอโทษคุณผู้หญิงด้ว.. ย.. ย!".เจฟเฟอร์ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจิต ณ ตอนนี้ที่ไฟฉุกเฉินตรงมุมห้องสว่างโล่ขึ้นมา ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้เห็นหน้านวลนางที่อุปทานว่าเป็นแบร็ควิโดว์แบบจะ ๆ เป็นครั้งแรก."เอ็มม่า!""เธอคือเอ็มม่าแผนกการเงิน ที่อยู่ประจำชั้น 3 นี่นา!?""ไอ้หย๋า! นี่อย่าบอกนะว่าคุณโดดงานมาเอากับบอส! หึ๊ยยย! แรดชุปแป้งทอดชะมัด!".โดนตะคอกใส่แบบนั้น เป็นใครก็ต้องสวนกลับ!."หยุดปากพล่อยเดี๋ยวนี้นะคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์! มันไม่
คุ้มไหมกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คุ้มไหมกับเวลาที่เสียไปให้แก่แขนข้างหนึ่ง เพื่อเอามาแลกกับการทำอะไรที่ต่ำทรามเช่นนี้."นี่กูจำเป็นต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอวะ? แม่งเอ๊ย! มันกระจอกเกินไปรึเปล่าวะไอ้เจฟ?".มือซ้ายข้างใหม่ที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายมาสั่นพับ ๆ เจฟเฟอร์กำลังช่างใจอย่างหนักว่าจะใช้มือข้างนี้ชักว่าวให้แก่ลำควยที่แข็งโด่ขึ้นมาดีไหม เพราะต่อให้เขาจะเป็นคนสถุลหื่นกามยังไง มือข้างใหม่ก็ควรจะนำไปใช้ในภารกิจช่วยโลกไม่ใช่เอามาช่วยตัวเอง."ถ้าแกมีชีวิตแกคงเกลียดฉัน เอาเป็นว่าฉันจะไม่ทำล่ะกัน ตราบใดที่ใจแข็งพอเชื่อว่าไม่นานลำควยก็จะสงบ มันคงอ่อนตัวลงไปเองโดยไม่ต้องง้อการชักว่าว".เคยได้ยินแต่สำนวนที่ว่า "รออย่างมีความหวัง" มาตอนนี้เจฟเฟอร์กับกำลัง "รออย่างมีความเงี่่ยน" อย่าว่าแต่มือเลย นาทีนี้แม้แต่ขาข้างใหม่ก็ยังโรมรันร้องครือครางเอี๊ยด.. อ๊าดดด.. ไม่ต่างจากมอเตอร์ไซต์ 250 cc ของวาเลนติโน่ รอสซี่ ที่เตรียมจะออกตัวจากกริดสตาร์ท มันจวนจะปะทุอยู่รำไร.ก็อย่างที่บอกแหละว่าก่อนหน้านี้ ขาเจ้ากรรมนั้นเคยเดินโทง ๆ ไปหาช่อดอกลาเวนเดอร์เองมาแล้ว กับครั้งนี้เองก็ด้วย! กลไกกับชุดฟันเพืองของม