แชร์

02 : Lex Causae [กฎของเหตุที่ส่งผล] (2/2)

ผู้เขียน: ฮวายอน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-06 00:02:11

“...ชำระแบบไหนดีคะ”

เสียงสุภาพจากคุณพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ดังขึ้น ช่วยดึงฉันกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เปลือกตาฉันกะพริบปริบๆ ก่อนจะรีบควานหามือถือที่หน้าจอแตกร้าวจากอุบัติเหตุนั่นออกมาสแกนจ่าย

“โอนค่ะ”

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับเฮียพายุเดินมาหยุดยืนข้างๆ พอดี

“เท่าไหร่อะ?”

“ไม่เป็นไรค่ะ รันจ่ายแล้ว”

เขาพยักหน้าเบาๆ แต่สายตา… กลับเหลือกขึ้นมองเพดานอย่างใช้ความคิดเงียบๆ ผ่านไปไม่ถึงนาที ริมฝีปากหยักก็ขยับถามอีกครั้ง

“รันอยู่คอนโดบีแอลใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

เพราะพ่อกับแม่ต้องเดินทางไปดูบริษัทขนส่งของครอบครัวที่เบลเยียมบ่อยครั้ง ยิ่งช่วงหลังๆ มานี่แทบไม่ได้กลับไทยเลย ซ้ำยังมีแพลนให้ฉันไปเรียนต่อที่นู่นด้วยนะ ดีที่ได้ญาติผู้ใหญ่หลายคนช่วยออกตัวแทน ไม่งั้นป่านนี้ฉันคงกลายเป็นเด็กนอกไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ฉันอยู่กับปู่ย่า บางวันก็สลับไปนอนบ้านยาย แต่พอจบม.ปลาย ฉันก็เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัว เลยเลือกคอนโดใกล้มหา’ลัยไว้เป็นทางออก

…แม้สุดท้ายจะต้องขอร้องให้เม็ดทราย เพื่อนซี้สุดที่รัก มาอยู่เป็นรูมเมตเพื่อคลายความห่วงของผู้ใหญ่ก็ตาม

ส่วนอีกทีมที่ค่อยซัปพอร์ต ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างราวกับฉันเป็นเจ้าหญิงน้อยในดงองครักษ์แสนเพอร์เฟกต์ ก็บรรดาดิซานเตอร์เนี่ยแหละ

“ดีเลย เฮียจะได้ไม่ต้องห่วงมัน มือเจ็บแบบนั้น คงใช้ชีวิตลำบากน่าดู”

นั่นสิ…เฮียไฟถนัดซ้ายนี่นา

ได้ยินหมอบอกว่าข้อมือของเขาซ้นจากแรงกระแทก ทั้งบวม ช้ำ และอักเสบ ต้องพักอีกหลายอาทิตย์กว่าจะกลับมาขยับได้เป็นปกติ

แต่เดี๋ยวนะ ที่เฮียพายุพูดเมื่อกี้ หมายถึง…

สมองฉันดีเลย์ไปประมาณสามวินาที ก่อนร่างกายจะกระตุก หันขวับไปหาเขา ตาโตเหมือนคนพึ่งต่อจิ๊กซอว์สำเร็จ พลางตวัดปลายนิ้วเข้าหาตัวเองแบบลนๆ

“คะ…คือจะให้รันไปช่วยดูแลเฮียไฟเหรอ?”

“เอ้า ก็รันเป็นคนทำให้มันเป็นแบบนี้นิ หรือจะปล่อยให้มันเผชิญความลำบากอยู่คนเดียวล่ะ?”

อยากจะเถียงว่าไม่ใช่ความผิดฉันคนเดียว แต่สุดท้ายก็ได้แค่ก้มหน้าหงอยๆ รับชะตากรรม

“ก็ใช่…แต่เฮียไฟจะไม่ดุรันเหรอ เขาต้องไม่ยอมแน่ๆ”

ในบรรดาห้าภัยพิบัติ เฮียไฟคือบุคคลที่เข้าถึงยากที่สุด เจ้าระเบียบสุด สุขุมสุด ติดกรอบชัดเจนระดับหัวหน้าแผนก ISO ถ้าแกล้งขยับไปใกล้นิดเดียว เขายังผลักออกเหมือนตัวฉันเป็นเชื้อโรค

แล้วแบบนี้จะดูแลยังไงไหวล่ะ…

อีกอย่างเขาคงไม่ยอมง่ายๆ แน่

“หือ มันไม่ดุรันหรอกน่า เชื่อเฮียสิ”

ฉันเหล่ตามองเฮียพายุอย่างหวาดระแวง โดยเฉพาะเมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปาก กับแววตาแบบ… พร้อมจุดชนวนความวายวอด ยังกับโจ๊กเกอร์ในแบทแมนยังไงยังงั้น

น่าขนลุกชะมัด!

“ทำไมเฮียถึงมั่นใจ” ดูเหมือนนี่จะเป็นโปรเจกต์สนุกๆ ที่เขากำลังโยนลงสังเวียนศึกมากกว่าคำแนะนำธรรมดานะ

ประเด็นคือฉันจะทำให้เฮียไฟซวยกว่าเดิมไหม ขนาดบังเอิญ กระดูกยังเกือบหัก ถ้าตั้งใจดูแล เขาจะแอดมิทยาวยันปีหน้าเลยเหรอ

เฮ้อ… แต่ถ้าจะให้ปล่อยเขาไว้คนเดียว ทั้งที่เราก็มีส่วนทำให้เจ็บ แค่คิดก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ แล้ว

จากนั้นเราก็พากันกลับเข้ามาในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ทันเห็นเจ้าของเตียงกำลังขยับตัวลงมาเองอย่างทุลักทุเล และนั่นคงเป็นเหตุผลที่จู่ๆ คนข้างๆ ก็เร่งฝีเท้าเร็วจี๋จนฉันเกือบตามไม่ทัน

“กูเรียกรถให้แล้ว มึงกลับไปกับรันนะ เดี๋ยวกูจะไปรับไอ้ลมแล้วก็แวะไปเอารถมึงที่ผับให้” เฮียพายุพูดพลางพยุงคนเจ็บให้ลงมายืนกับพื้นได้สำเร็จ

ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ… นึกไม่ถึงว่าคนที่กัดกันยับตลอดเวลา จะมีมุมน่ารักๆ แบบนี้ด้วย

ไม่ใช่ว่า… พวกเขาจะแอบจิ้นกันหรอกนะ

“แล้วก็… ให้น้องไปช่วยดูแลนะ เผื่ออยากได้อะไร หรือทำอะไรไม่ค่อยถนัด”

หือ… ฉันหันขวับ หุบยิ้มแทบไม่ทัน ความคิดก่อนหน้าสลายหายวับไปในอากาศทันที

ทำไมเฮียพายุถึงโยนกันโต้งๆ แบบนี้ล่ะ ไม่คิดจะถามให้ฉันตั้งตัวหน่อยรึไง

ฝั่งเฮียไฟเองก็ชะงักไปนิด ก่อนจะขยับไหล่เหมือนไม่อยากให้ใครแตะตัว แต่แล้วก็หลุดซูดปากเบาๆ พร้อมกับเอนตัวนิดเล็กน้อย อย่างคนที่ยังไม่ชินกับความเจ็บ จนฉันตกใจตาม เผลอยื่นมือออกไป

…คือมันเป็นระบบอัตโนมัติน่ะ ควบคุมไม่ได้จริงๆ

แต่พอเห็นสีหน้าที่บอกชัดว่าไม่สบอารมณ์ มือฉันก็รีบหดกลับแทบไม่ทัน จากนั้นเฮียไฟก็หันไปจ้องเจ้าเพื่อนจอมวุ่นวายด้วยแววตาที่ฉันอ่านไม่ออกเลยว่ามันเป็นเพราะความเจ็บปวดหรือรำคาญกันแน่

แต่เดาเอาว่า... อย่างหลังน่าจะเยอะกว่า

สุดท้ายเสียงเย็นๆ พร้อมคำปฏิเสธแบบซอฟต์ๆ ก็หลุดออกมาจากปากเขา

“ทำไมต้องขนาดนั้น”

“เออน่า…”

“หมายถึงมึงอะ ทำไมต้องเสือกขนาดนั้น กูก็ยังปกติ” เฮียไฟเว้นจังหวะ หันมามองฉันแวบหนึ่ง เหมือนจะกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้ แล้วจบด้วยคำที่แรงแต่ก็เป็นสไตล์เขา “ไม่ได้เป็นง่อย”

อุ๊ย! ถึงจะพูดกับเพื่อน แต่ฉันก็เผลอสะดุ้งเบาๆ อยู่ดี

“แต่มันก็ลำบากไง”

“ใคร…?”

คิดว่าเฮียไฟคงหมายถึงใครลำบากหรือใครขอให้ช่วยประมาณนี้มากกว่า…

“ไป ๆ รถมารอนานแล้ว”

แล้วเฮียพายุก็ปิดบทสนทนาอย่างหน้าตาเฉย ฉันแอบนับถือความหน้ามึนของเขาอยู่ลึกๆ มัดมือชกแบบไม่ให้ตั้งตัวเลย

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เฮียไฟปาค้อนใส่เพื่อนตัวเองแบบเอือมสุดชีวิต ก่อนจะฟึดฟัดเดินนำออกไปจากห้องแบบไม่พูดอะไรอีก

“ฝากด้วยนะรัน” เฮียพายุกระซิบพลางดันแผ่นหลังฉันเบา ๆ

เอาแล้วไง… แจ็คพอตมาแตกที่ฉันแล้ว

ฉันรู้เลยว่าเฮียไฟไม่ได้อยากให้ใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับชีวิตแสนสงบสุขของเขา โดยเฉพาะตัวต้นเหตุของความวุ่นวายอย่างฉัน

ก็แน่ละ! อยู่ดีๆ ก็ต้องมาเจ็บหนัก ถ้าจะโกรธก็ไม่แปลก แต่ฉันก็ขวัญหนีดีฝ่อเหมือนกันนะ ใช่ว่าเจ็บแค่เขาเสียที่ไหน… ชิ!

“...!” ฉันสะดุ้งจนเกือบสะดุดขาตัวเอง เมื่อร่างสูงที่เดินนำอยู่ชะงักกึกและหันกลับมาทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่น ใบหน้าเรียบนิ่งจ้องมาทางฉันราวกับ... จับได้

ระ…รู้เหรอ บ้าน่า ฉันไม่ได้บ่นออกเสียงเลยสักแอะ!

“ไอ้ห่านั่นมันได้บอกไหมว่ารถทะเบียนอะไร”

ฉันลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ไม่ได้หมดระแวงซะทีเดียว เพราะถึงน้ำเสียงเขาจะซอฟต์ลง แต่แววตาก็ยังดูไม่ไว้ใจใครง่ายๆ อยู่ดี

“...เดี๋ยวถามให้นะคะ” ฉันรีบหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์หาพี่พายุอย่างรีบร้อน เพราะกลัวจะมีคนไม่พอใจแล้วทำหน้ายักษ์ใส่อีก

แต่ระหว่างที่จิ้มข้อความอยู่ ฉันก็รู้สึกถึงเงาเงียบๆ ที่ทอดลงมาใกล้ตัว

“แอบบ่นเฮียในใจอยู่เหรอคะ?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นชิดหู น้ำเสียงนิ่งๆ ทว่าได้ยินแล้วเหมือนโดนแทงเข้าใจกลางความคิด ทำฉันสะดุ้งแรงอีกครั้ง และจังหวะนั้นเขาก็โน้มตัวลงมานิด ดวงตาคมกริบวาววับเหมือนอ่านทุกอย่างออกหมด

“ปะ… เปล่าสักหน่อย” ฉันรีบตอบ จนเสียงที่หลุดออกไปมันไม่เป็นตัวเองเลย “ใครจะไปทำแบบนั้นเล๊า”

“หึ!”

เสียงหัวเราะเบาๆ ที่ดังลอดจากลำคอคนตรงหน้า เรียกสายตาฉันเหลือบขึ้นมองแวบหนึ่ง แล้วเห็นว่าเขาดึงตัวกลับไปยืนตรงพลางพลิกข้อมือขวาช้าๆ ก่อนเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีเข้มจะคลุมลงมาบนไหล่ฉันแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากผู้เป็นเจ้าของยังคงติดอยู่บนเนื้อผ้า ส่งผลให้ลมหายใจฉันสะดุดไปชั่วขณะ ได้แต่กะพริบตามองผู้ชายที่หันหลังเดินห่างออกไปด้วยความรู้สึกตีกันมั่วไปหมด

อะไรของเขานะ เดาอารมณ์ไม่ถูกเลยแฮะ

คิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะบุ้ยจมูกใส่อย่างนึกหมั่นไส้ แต่ปลายนิ้วกลับเผลอกำเนื้อผ้าแน่นขึ้นนิดหนึ่ง ...ราวกับกลัวว่าความอบอุ่นที่เพิ่งได้สัมผัส จะหลุดลอยตามร่างเขาไป

อบอุ่นเหรอ? นี่ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   03 : Lex Differentiae [กฎของความต่างที่ไม่ห่างกัน] (2/2)

    Part’s Fiฟึบ!ตำรากฎหมายเล่มหนาถูกปิดเสียงดัง ผมถอนหายใจแรงอย่างคนที่สมองเริ่มตื้อ ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นไปสบกับ สายลม ไอ้หนุ่มสถาปัตย์สายติสต์ตัวพ่อที่นั่งเท้าคางมองอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนฝั่งตรงข้ามมันจ้องผมมาเกือบครึ่งชั่วโมง… ด้วยสีหน้าราวกับกำลังจับพิรุธผู้ต้องหา“มีอะไรก็พูดมาดิ จ้องอยู่ได้ กูท้องแล้วมั้งเนี่ย”ความจริงผมไม่ได้อารมณ์ดีถึงขั้นจะเล่นมุกออกหรอกนะ แต่ที่พูดก็เพราะรำคาญ…ให้มันถามซะ… จะได้จบๆ อยากไล่ให้มันไปพ้นๆ และแน่นอนว่าคนที่ไร้ความเกรงใจอย่างมันไม่อ้อมค้อม ยิงตรงเข้าเป้าแบบเต็มๆ“มึงกับไอ้หมอกยังไม่เคลียร์กันเหรอ”คำถามมันไม่ได้หนักหนาอะไร แต่กลับเหมือนมีใครสักคนโยนหินลงไปในบ่อน้ำลึกที่พยายามสงบ… และมันกระเพื่อมขึ้นมาอีกครั้ง“เอาจริงๆ นะ” ผมกระตุกยิ้มฝืนๆ “ในกลุ่มเนี่ย มีแค่ไอ้พายุตัวเดียวกูก็ปวดหัวจะแย่แล้ว มึงปล่อยให้ความขี้เสือกเป็นหน้าที่ของมันคนเดียวไม่ได้เหรอ”“เอ้า! ไอ้สัส… แล้วให้กูพูดทำเพื่อ?”ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเจาะจงตรงประเด็นขนาดนี้ผมส่ายหน้าน้อยๆ พลางพ่นลมยาวเหยียด ราวกับจะยกอะไรทั้งหลายแหล่ที่อัดอั้นอยู่ข้างในออกมาให้หมด แต่มันก็ยากเย็นเสียเหลือเกิน…

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   03 : Lex Differentiae [กฎของความต่างที่ไม่ห่างกัน] (1/2)

    กริ๊ง…กริ๊ง!เสียงนาฬิกาปลุกแผดลั่นราวกับไซเรนเตือนภัยในสนามรบ ทำฉันสะดุ้งเฮือกจนเผลอปัดไอโฟนที่แหกปากน่ารำคาญข้างหูแทบร่วงพื้น ก่อนจะนิ่งอยู่สักพักเพื่อรวบรวมสติ แล้วถึงพลิกตัวโก่งก้นขึ้นนั่งเปลือกตาค่อยๆ เปิดรับแสงอ่อนที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาวันใหม่…ที่น่าจะสดใสถ้าไม่นับตาแพนด้าและวิญญาณที่ยังล่องลอยอยู่กลางมิติความฝันอะนะฉันถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย ขณะลากร่างโงนเงนลงไปยืนข้างเตียงปกติหากมีเรียนเช้าก็จะตื่นประมาณเจ็ดโมงครึ่ง แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันต้องลุกก่อนตั้งหนึ่งชั่วโมง นี่มันไม่ต่างจากการเฉือนหัวใจคนรักการนอนเลยว่าไหม?แต่ทำไงได้ ‘พันธสัญญาปีศาจ’ ที่ให้ไว้กับเฮียพายุยังค้างคาอยู่ ฉันต้องไปซื้ออาหารเช้าให้ เฮียไฟ ผู้ซึ่งไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่ ทว่าดันรับเคราะห์หนักสุดและแน่นอน… ไม่มีใครอยากถูกตราหน้าว่า ‘ไร้ความรับผิดชอบ’ ถึงทุกวันจะไม่เคยได้คำชื่นชมกลับมาเลยก็ตามไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเช้าเกินไป หรือเขาแค่ไม่อยากเปิดประตูให้นั่นแหละ… จะอะไรก็ช่าง ฉันแค่ทำตามหน้าที่ของตัวเอง ด้วยการเอาของบำรุงทุกอย่างไปแขวนไว้หน้าประตู พร้อมกับแปะโน้ตที่มีข้อความว่า‘อาหารเช้ามาส่งแล

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   02 : Lex Causae [กฎของเหตุที่ส่งผล] (2/2)

    “...ชำระแบบไหนดีคะ”เสียงสุภาพจากคุณพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ดังขึ้น ช่วยดึงฉันกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เปลือกตาฉันกะพริบปริบๆ ก่อนจะรีบควานหามือถือที่หน้าจอแตกร้าวจากอุบัติเหตุนั่นออกมาสแกนจ่าย“โอนค่ะ”ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับเฮียพายุเดินมาหยุดยืนข้างๆ พอดี“เท่าไหร่อะ?”“ไม่เป็นไรค่ะ รันจ่ายแล้ว”เขาพยักหน้าเบาๆ แต่สายตา… กลับเหลือกขึ้นมองเพดานอย่างใช้ความคิดเงียบๆ ผ่านไปไม่ถึงนาที ริมฝีปากหยักก็ขยับถามอีกครั้ง“รันอยู่คอนโดบีแอลใช่ไหม”“ใช่ค่ะ”เพราะพ่อกับแม่ต้องเดินทางไปดูบริษัทขนส่งของครอบครัวที่เบลเยียมบ่อยครั้ง ยิ่งช่วงหลังๆ มานี่แทบไม่ได้กลับไทยเลย ซ้ำยังมีแพลนให้ฉันไปเรียนต่อที่นู่นด้วยนะ ดีที่ได้ญาติผู้ใหญ่หลายคนช่วยออกตัวแทน ไม่งั้นป่านนี้ฉันคงกลายเป็นเด็กนอกไปแล้วก่อนหน้านี้ฉันอยู่กับปู่ย่า บางวันก็สลับไปนอนบ้านยาย แต่พอจบม.ปลาย ฉันก็เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัว เลยเลือกคอนโดใกล้มหา’ลัยไว้เป็นทางออก…แม้สุดท้ายจะต้องขอร้องให้เม็ดทราย เพื่อนซี้สุดที่รัก มาอยู่เป็นรูมเมตเพื่อคลายความห่วงของผู้ใหญ่ก็ตามส่วนอีกทีมที่ค่อยซัปพอร์ต ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างราวกับฉันเป็นเจ้าหญิงน้อ

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   02 : Lex Causae [กฎของเหตุที่ส่งผล] (1/2)

    Part’s Rirunฟู่ว์…ทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินปิดลง ฉันก็ปล่อยลมหายใจยาวอย่างคนที่อั้นมานาน รู้สึกได้เลยว่าอวัยวะที่อยู่ใต้ฝ่ามือมันเต้นแรงผิดปกติยิ่งหลับตา ภาพจำก็ยิ่งชัดขึ้น ริมฝีปากของเขา... ไออุ่นที่แนบชิดเพียงชั่วอึดใจ กลับทิ้งร่องรอยไว้มากกว่าที่คิดถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น… ไม่ใช่เฮียไฟ เราจะรู้สึกแบบนี้ไหมนะฉันสะบัดหน้าแรงๆ พยายามเขย่าความคิดบ้าๆ ออกไป ไม่สิ! ไม่ควรคิดแบบนี้… มันเป็นแค่อุบัติเหตุ และมันต้องเป็นแค่นั้น!หลังมือถูกยกขึ้นมาถูปากซ้ำไปซ้ำมา ด้วยหวังว่าทุกอย่างอาจจางลง แต่มันดันกลายเป็นยิ่งหลอมรวมสิ่งเหล่านั้นเข้ามาในความรู้สึกของฉันทีละนิดสามชั่วโมงก่อน…เสียงดนตรีและแสงไฟสลัวช่วยขับบรรยากาศในร้านนั่งชิลยามค่ำคืนให้ครึกครื้น แม้ว่าฉันจะไม่ได้รู้สึกสนุกเท่าที่ควรก็ตามเม็ดทราย เพื่อนสาวคนสนิทในชุดสีเข้มสุดเซ็กซี่กำลังโยกสะโพกพลิ้วไหวอย่างเอ็นจอย ไม่แคร์สายตาใคร ส่วนอีกคนที่นั่งตรงข้ามคือ นิกซ์ หนุ่มหล่อดีกรีทายาทห้างทองตระกูลดังประจำจังหวัด ซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการชงเครื่องดื่มราวกับผสมสีในถาดหลุมเราสามคนโตมาด้วยกันตั้งแต่ประถม แม้ว่าไลฟ์สไตล์จะแตกต่างสุดขั้ว แต่ก็ม

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   01 : Lex Talionis [กฎแห่งโชคชะตาที่เล่นตลก] (2/2)

    ติ๊ด … ติ๊ด~เสียงแรกที่เจาะเข้าโสตประสาทหลังฟื้นตัวก็ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่แล้วเปลือกตาผมกะพริบถี่ๆ เพื่อดึงตัวเองออกจากห้วงว่าง แต่แสงไฟสว่างจ้าบนเพดานกลับสาดเข้ามาแทน และมันยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองลอยเคว้งอยู่กลางทะเลของแสงสีขาว ที่บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและแอมโมเนียจนแสบจมูก เสียงกระซิบเบาๆ ของพยาบาล ตอกย้ำว่าผมไม่ได้ฝันไป และกำลังติดอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเวทนาแบบสุดๆอึก!แค่ขยับตัวนิดเดียว ความปวดแปลบก็แล่นจากหัวไล่ลงมาถึงบ่า จนผมต้องนิ่วหน้า ก่อนจะเห็นว่าข้อมือซ้ายถูกพันด้วยผ้ายืดหนาแน่นทุกอย่างมันเตือนว่ามีอะไรร้ายๆ เกิดขึ้นก่อนหน้า…แต่ตอนนี้ สมองกับร่างกายยังเชื่อมกันไม่สมบูรณ์ การปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเลยค่อนข้างยากสิ่งสุดท้ายที่จำได้คือเงาร่างของใครบางคนล้มลงมาทับ เสียงลมหายใจแรงๆ และ...มือผมเลื่อนแตะปากโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกปวดหนึบยังคงอยู่ มันไม่ใช่แค่สัมผัส แต่เป็นการกระแทกเต็มแรง“...แม่ง”เจ็บใจไม่พอ ยังมาเจ็บตัวอีกพระเจ้าไม่คิดจะเข้าข้างกูบ้างเลยรึไง?บัดซบสัส! เจอแบบนี้เมาแค่ไหน ก็สร่างเหอะ…“ไงครับ พ่อหนุ่มนิติฯ คนเก่ง”เสียงน่ารำคาญที่ดังม

  • Mistake Lawyer พลาดรักนิติฯ (Set Zenesaint Ⅲ เฮียไฟ x ริรัณย   01 : Lex Talionis [กฎแห่งโชคชะตาที่เล่นตลก] (1/2)

    เห็นเพื่อนรักกัน มันก็น่ายินดี…ดีก็เหี้ยละ!แค่ ‘ยิ้มปลอมๆ’ ผมยังฝืนทำไม่ได้เลยปึก!แก้วในมือถูกกระแทกลงโต๊ะเต็มแรง เสียงดังจนคนรอบข้างหันขวับเป็นตาเดียว …แต่ใครสนสายตาผมยังตรึงอยู่กับขวดเหล้าเรียงรายหลังเคาน์เตอร์บาร์ แสงไฟส้มอมแดงกระทบกระจก สะท้อนวูบวาบไม่ต่างเปลวเพลิงในใจที่กำลังเผาไหม้ทุกความรู้สึกให้กลายเป็นเถ้าถ่านตอนแรกก็คิดว่าไอ้น้ำบัดซบที่กลืนลงไป คงช่วยเบลอสมองให้ด้านชา หรืออย่างน้อยก็ลดทอนสติสัมปชัญญะให้พอหลุดออกจากความจริงได้บ้างแต่ไม่ใช่…ยิ่งดื่ม แม่งยิ่งชัด!เหมือนมีใครเอาฟิล์มเก่ามาฉายซ้ำ วนลูปไม่จบไม่สิ้นไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ หรือต่อให้ผมหนีไปไกลแค่ไหน ภาพคนสองคนกอดกันกลางคลับในเช้าวันนั้น มันก็ยังตามหลอกหลอนราวกับฝันร้ายเสียงเบสหนักๆ ที่อัดกระหึ่มในหัว ควรจะกลบทุกความคิด ทว่ากลับทำตรงกันข้าม ทุกโน้ต ทุกจังหวะ ดันย้ำเตือนหลายสิ่งที่ผมไม่อยากจำ จนเจ็บไปทั้งอกถ้าหลายปีก่อนไอ้หมอกไม่ต้องย้ายไปนอร์เวย์…บางทีผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มอย่างจันทร์เจ้า คงไม่ซบหน้าร้องไห้บนไหล่ผมเหมือนโลกทั้งใบพังทลาย‘ไฟ… หมอกมันไปแล้ว’และผมก็คงไม่ต้องมารับรู้ว่าใคร… ที่อยู่ในใจเธอมา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status