ไม่กี่นาทีต่อมา...
“จ๊วบ จ๊วบ..อื้อออ~” ฉันยังคงโดนเตโชกดจูบที่โคตรเอาแต่ใจลงมาแบบนี้อยู่เนิ่นนานโดยที่พยายามขยับตัวหนีเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้เลยจนสักพักก็มีเสียงใครบางคนเปิดประตูห้องเข้ามา แกร๊กกก แอ๊ดดด “เฮ้ยยย มึงหยุดเลยไอ้เฮีย คนนี้ห้ามยุ่งเว้ย!” พรึ่บบบ! เลโอที่โผล่มาจากไหนไม่รู้พุ่งเข้ามาคว้าตัวฉัน กระชากให้ลุกจากตักเตโชอย่างรวดเร็วและโคตรรุนแรงเล่นเอาจุก ก่อนจะปล่อยฉันทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยหอบ “แฮ่กกก” โอ๊ยยย! จูบแรกของฉัน แค่จูบเดียวไอ้บ้านั่นก็เอาซะหายใจไม่ทัน ไอ้... ฿#%<¥~? $! “เสือก!” เตโชพูดออกมาเสียงเรียบเหมือนกำลังหงุดหงิดที่เลโอเข้ามาขัดจังหวะ แต่ฉันนี่อยากจะกราบขอบคุณหมอนั่นชะมัดที่มาได้ทันเวลาพอดี เอ๊ะหรือจริงๆ ไม่ทันแล้ววะ หรือ..? โอ๊ยช่างเหอะน่า! “คนนี้กูขอ ทีมงานกูไอ้เหี้ยเดี๋ยวเสียงานหมด ..เป็นไรป้ะเนี่ยเจ๊?!” เลโอพูดออกไปเสียงเครียด แล้วหันมาหาฉันที่นั่งหอบแฮ่กๆ อยู่แบบเซ็งๆ ไอ้หน้านี่ก็ร้อนอยู่ได้ แล้วไอ้ปากนี่ก็ปล่อยให้ไอ้บ้านั่นจูบทำไม! อะไรของร่างกายฉันวะเนี่ย?! ว่าแต่..สรุปไอ้เลโอเด็กน้อยนี่มันหวังดี หรือเพราะกลัวเสียงานกันแน่ฮะที่มาช่วยฉันไว้เนี่ย “ไม่ทำแล้วเว้ย!” ฉันตะคอกออกไปอย่างหัวเสียแล้วลุกขึ้นคว้ากระเป๋าตัวเองจะเดินหนี แต่เลโอก็ดันมาคว้าแขนฉันเอาไว้ซะก่อน หมับ! “เดี๋ยวเจ๊ อย่าเอาเรื่องมันมารวมดิ” เลโอพูดแล้วมองไปทางเตโชแบบเซ็งๆ ก่อนจะหันกลับมาทำหน้าอ้อนวอนใส่ฉันอีก “รวมหมดแหละ รำคาญ!” ฉันตะคอกกลับไปแบบไม่สนใจจะฟัง พร้อมกับสะบัดมือเลโอออกอย่างแรงและก้าวขาเดินออกจากตรงนี้ทันที พรึ่บบบ “โห่ เจ๊~” เลโอส่งเสียงออดอ้อนพร้อมกับมีเสียงฝีเท้าหนักๆ ก้าวตามหลังฉันมา ซึ่งพอฉันคว้าลูกบิดประตูได้และกำลังจะเปิดออกไปก็โดนกระชากไว้ด้วยแรงมหาศาล ก่อนที่ร่างฉันจะโดนดันถอยไปติดกับผนังอย่างแรงเล่นเอาจุกซ้ำอีกครั้ง หมับ! พลั่กกก ตึงงง! “ไอ้เลโ... จิ๊! อะไรอีก!!!” ฉันกำลังจะเอ่ยปากด่าเลโอ แต่ก็ต้องเปลี่ยนคำพูดทันควันเพราะคนตรงหน้าฉันตอนนี้ดันกลายเป็นเตโชที่กำลังใช้แขนสองข้างค้ำกับผนังคร่อมตัวฉันเอาไว้ “งานอะไร?” เตโชเหลือบตาไปมองเลโลที่กำลังเดินเข้ามาเพราะเห็นท่าไม่ดี ก่อนที่หมอนั่นจะตอบกลับมาในทันทีและพยายามเจรจาให้เขาเป็นฝ่ายถอยออกไป “งานชมรม ไอ้เฮียกูคุยเอง มึงไม่ต้อ...” “ทำ!” ไม่ทันที่เลโอจะพูดจบ เตโชก็หันหน้ามาหาฉันแล้วพูดสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุๆ อย่างออกคำสั่ง แล้วคือฉันต้องฟังหมอนี่ด้วยรึไง ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ฉันมีสิทธิ์ตัดสินใจเองได้! “ไม่ทำ! ..อื้ออออ” ฉันตะคอกกลับไปแล้วก็โดนเตโชกดจูบลงมาอย่างเอาแต่ใจ พอเจอแบบนี้ฉันก็สะบัดหน้าหนีและเบี่ยงตัวหลบทันที แต่หมอนี่กลับเลื่อนแขนสองข้างที่ค้ำผนังเอาไว้ลง และใช้แขนข้างนึงคว้าเอวฉันดึงเข้าหาตัว ส่วนอีกข้างก็กดท้ายทอยฉัน..ล็อคมันไว้ตามเคย! ..อีกแล้วหรอฮะะะะ อุ๊บบบ!!! “อื้อออ” “โอ๊ะ ตายยย =[]=” ฉันได้ยินเสียงเลโอพูดออกมา แล้วแอบเห็นหมอนั่นเอามือกุมขมับอย่างเครียดๆ ก่อนที่เตโชจะผละจูบออกเปิดโอกาสให้ฉันได้หายใจ “แฮ่กกก -/////- ไอ้...” “จะทำไม่ทำ?” พอฉันตั้งท่าจะด่า ไอ้บ้านี่ก็ยื่นหน้าเข้ามา แล้วฉันก็ดันปากไวตอบกลับไปแบบไม่คิดอะไร “ไม่! อื้อออ~ อ่อยอะเอ้ย! (ปล่อยนะเว้ย!) -/////-” พรึ่บบบ! ฟุ้บบบ! คราวนี้เตโชกึ่งอุ้มกึ่งลากฉันกลับไปที่โซฟา แล้วเหวี่ยงตัวฉันนอนลงบนโซฟาอย่างแรงก่อนจะผละจูบออกอีก “พอเหอะไอ้เฮีย อย่าทำเจ๊กู -.-” ถุยยย! ไอ้บ้าเลโอ! ก็เข้ามาช่วยดิวะ ยืนเอ๋ออยู่ได้! “แฮ่กกก -/////-” ฉันหายใจเข้ารัวๆ รับอากาศเข้าปอดซ้ำๆ เพราะรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทัน แถมตอนนี้หมอนั่นก็ขึ้นมาคร่อมฉันไว้แล้วส่งเสียงดุออกมาทั้งที่สีหน้ายังนิ่งเรียบแบบนั้น “บอกให้ทำ!” “ก็บอกว่ามะ.. อื้อออ” แล้วเหตุการณ์แม่งก็วนลูปซ้ำๆอยู่แบบนี้ โดยที่ไอ้บ้าเลโอมันก็ไม่ยอมเข้ามาห้าม หนำซ้ำยังเอาแต่ยืนปิดตาหันหน้าหนีเหมือนเขินอะไรอยู่ได้ ให้ตาย! นี่มันงานแกไม่ใช่หรอวะ แล้วไอ้บ้านี่จะมายุ่งอะไรด้วยอ่ะ! ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ “เอโอ! (เตโช!) อื้ออออ...” ฉันส่งเสียงประท้วงออกไปแล้วทุบอกเตโชอยู่แบบนั้นพอหมอนี่ส่งจูบที่หนักหน่วงลงมาใหม่และครั้งนี้ไม่ยอมผละออกเลยจนฉันแทบหมดแรงกว่าทุกครั้งที่โดนไป “พูดใหม่” สักพักเตโชก็ผละออกจากฉันช้าๆ ก่อนจะกระซิบข้างหูฉันเบาๆแต่ฉันไม่ตอบอะไร ให้เดา..นี่คงขาดอากาศใช่มั้ย มันเริ่มมึนๆ งงๆ อธิบายไม่ถูกไม่รู้ทำไม พรึ่บบบ! พอเห็นฉันไม่ตอบ เตโชก็ทำท่าจะกดจูบลงมาอีกอยู่ได้ แต่ฉันเอามือดันอกห้ามไว้และรวบรวมพลังที่มีตอนนี้พูดออกไป “ทำ เออ..ทำ ปล่อย..ได้ยัง แฮ่กกก” “หึ...” แล้วหมอนี่ก็กระตุกยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะลุกพรวดออกไปแล้วคว้าตัวฉันขึ้นนั่งบนโซฟาพร้อมกันเหมือนเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมันไม่มีอะไร -*- “เคลียร์มั้ย” เตโชหันไปพูดกับเลโอสั้นๆ ส่วนฉันนั่งหอบแฮ่กๆ ด้วยใบหน้าร้อนจัดสงสัยจะเป็นไข้ -_- แล้วไอ้เด็กน้อยนั่นก็เอามือที่ปิดตาไว้ออกไป ก่อนจะส่งยิ้มแหยๆ ด้วยท่าทางเขินอายมาให้พร้อมกับแก้ตัวออกมายกใหญ่ “เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะเจ๊ ^////^” “เพราะนาย!” พอเริ่มหายใจปกติได้ฉันก็ส่งเสียงตะคอกออกไปแล้วขยับหนีไอ้เตโชอะไรนี่ด้วยแบบโคตรไว จูบบ้าจูบบออะไรเล่นเอามึนไปหมด เป็นบ้ารึไง! “หึ๊ยยย เพราะมันดิ” เลโอทำหน้าอ้อนๆ แล้วชี้ไปหาไอ้บ้าที่นั่งหน้านิ่งแต่แววตาโคตรยิ้มอยู่ข้างฉัน ฉันเลยตัดสินใจลุกหนีคนพวกนี้ทันทีอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อเหมือนกัน! “เดี๋ยวเจ๊..นี่รายละเอียดอ่ะ” พรึ่บบบ! ฉันยังไม่ทันก้าวขา ไอ้บ้าเลโอก็ยื่นเอกสารบางๆ ปึกหนึ่งขึ้นมาขวางทางกัน ...ยัง! ยังจะเอามาให้อีก ยัง! “เกลียดเว้ย! เกลียดๆๆๆ!!!” สุดท้ายฉันเลยตัดสินใจโวยวายใส่หน้าไอ้เด็กน้อยนี่เสียงดัง แต่ก็ไม่ได้หันไปสนใจไอ้บ้าหน้านิ่งนั่น ไม่ได้กลัวนะเฟ้ย! ก็แค่ไม่อยากมอง อย่าหลงตัวเองให้มากละกัน! “จุ๊ๆๆ~ เกลียดอะไรเขาว่าได้อย่างงั้น” “เงียบ! รำคาญ!!!” เลโอทำหน้าล้อเลียนออกมาแล้วยัดเอกสารในมือนั่นใส่ถุงผ้าที่ฉันถืออยู่ให้ ฉันเลยตวาดออกไปดังลั่นแล้วเดินหนีปิดประตูใส่หน้าไอ้สองเทพเจ้านั่นซะเลย ปังงงงง! บ้าเอ๊ย! ทำไมต้องมาเจอไอ้แก๊งค์บ้านี้ด้วยฮะ ชีวิตที่โคตรจะสงบสุขของฉัน...ได้พังพินาศพอดีกัน!::: TECHO :::
ปังงงงง! “โอ๊ะ โคตรเกรี้ยวกราด” พอเสียงปิดประตูนั่นเงียบลงไอ้เลโอมันก็พูดขึ้นมา แล้วหันมองผมแบบอมยิ้มกวนส้นตีนแบบจริงจัง! “ไร?” ผมถามออกไปแล้วคว้า Text บนโต๊ะขึ้นมาอ่านต่อ แล้วมันก็เดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม ฟุ้บ! “สเปคมึง กูรู้น้าาา ไอ้เฮียยย~” “ไม่เสือก!” ได้ยินแบบนั้นผมสวนกลับไปเพื่อปรามท่าทางสอดรู้สอดเห็นของแม่งที่นับวันเริ่มจะตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิงขึ้นทุกวัน แต่แม่งก็ยังไม่ยอมหยุด ทำท่าล้อเลียนออกมาซ้ำๆ แถมยังเอามือปิดหน้าแกล้งทำเป็นเขิน ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้มันมั่นใจว่าทำท่านั้นแล้วน่ารัก “นั่นแน่ แอบขโมยจูบเค้า~ ไวไฟนะเราน่ะ -////-” “ไวไฟพ่อง” ...นี่กูมีเพื่อนเป็นเด็กอ๊องหรอวะ ติงต๊องฉิบ -_-! “แต่ก็เหมาะอยู่นะ ร้ายๆ เหมือนมึงดี” “.....” ไอ้เลโอพูดแล้วกระตุกยิ้มมุมปากออกมา ผมเลยหยุดคิดตาม..ก็จริงของมัน เพราะเท่าที่ดูก็ร้ายดีเหมือนกัน ห้าว..แก่น..กวน น่าปราบ :) “แต่กลับบ้านคนเดียวจะอันตรายมั้ยน้า~ จักรยานก็พัง…” พรึ่บบบ! ได้ยินไอ้เลโอพูดเตือนสติแบบนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่านี่มัน 6 โมงกว่าแล้วเลยลุกพรวดขึ้นมาคว้ากุญแจรถกับมือถือบนโต๊ะทันที “เอ้า! มึงจะกลับละหรอ ตอนแรกก็ดูไม่รีบนี่ ^_^” แล้วมันก็ส่งยิ้มเยาะออกมาอีกที ก่อนจะดัดเสียงเหมือนตกใจทั้งที่ก็น่าจะรู้ดี “ทำเอง…” ผมตอบกลับไปสั้นๆ ให้มันไปตีความเอาเอง แล้วเดินเลี่ยงออกมาอย่างรีบร้อน ป่านนี้ยังไม่ทันไปถึงไหนหรอกมั้ง ขาก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่นี่ “อ๋อ แบบนี้นี่เองงงง~” ไอ้เลโอส่งเสียงตามหลังมาเหมือนเพิ่งคิดได้ แถมยังลากเสียงยาวๆ ตามมาจนน่าหนวกหู “หุบปาก!” แล้วผมก็เดินออกจากห้องทันทีโดยมีมันนั่งขำคนเดียวเงียบๆ กวนส้นตีนซะจริง! ::: END TECHO :::หลังจากประทับตราเสร็จ ติณณ์ก็ให้ฉันเข้ามารอเขาในห้องๆ หนึ่ง ก่อนจะเดินแยกไปทำธุระแล้วตามเข้ามาทีหลัง พอติณณ์เดินมาทิ้งตัวลงทั้งข้างฉันปุ๊บ ฉันเลยถามถึงเรื่องวันนี้ออกไปอย่างสงสัยทันที“ถามได้มั้ย? ติณณ์รู้ได้ยังไงว่าสภากฎ....”“ท่านปู่บอก”ฉันยังพูดไม่ทันจบติณณ์ก็ตอบกลับมาอย่างรู้ทัน คำถามนี้ฉันว่าใครๆ ก็สงสัยอ่ะ เพราะดูเหมือนเขาจะมารู้เรื่องนี้ทีหลังเหมือนกัน ถ้ารู้ตั้งแต่แรกก็คงไม่เสียเวลาทะเลาะกับคิระตั้งนานหรอก จริงมั้ย…“แล้ว..ท่านปู่ได้บอกมั้ยว่าเรื่องมันเป็นมายังไง”ฉันทำหน้าสงสัยออกไปเพราะลึกๆ ก็อยากรู้... มันจะด้วยเหตุผลอะไรกันนะ ถึงทำให้สภากฎที่ดูจะน่าเคารพนับถือทำเรื่องแบบนี้ได้ ไม่ Make sense เอาซะเลยแฮะ แล้วติณณ์ก็พยักหน้าและเริ่มเล่าเรื่องที่ได้รับฟังจากท่านปู่ออกมา“แม่ติณณ์ไปรู้มา..ว่าสภากฎจะยึดอำนาจ Dark Shadow เลยจำเป็นต้องกำจัดทายาททุกคนเพื่อให้ไม่มี Leader อีกต่อไป ซึ่งตอนนั้นว่าที่ Leader และ Leader’s Wife คือพ่อแม่ติณณ์และลุงกับป้า ...หรือพ่อแม่คิระ”พรึ่บบบ!พูดจบติณณ์ก็เอื้อมแขนมาคว้าเอวฉันอุ้มขึ้นไปนั่งตักเขาเบาๆ แล้วมุดหน้าของเขาลงมาใช้คางเกยไหล่ฉันเอาไว้“ท่
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!“.....”เสียงปืนดังสนั่นอยู่นานกว่าจะหยุด ฉันเลยใช้จังหวะนี้คว้ามือเลโอออก ก่อนจะหันไปเห็นโศกนาฏกรรมที่ทั้งติณณ์และคิระที่น่าจะเพิ่งเข้าใจอะไร กราดกระสุนรัวใส่ตัวแทนสภาฯ จนไม่หลงเหลือลมหายใจ แถมเลือดสีแดงฉานยังเปื้อนไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น แล้วเลโอก็รีบยื่นมือมาจะปิดตาฉันอีกแต่ยังคว้ามือเขาเอาไว้ และพูดออกไปเสียงเรียบหมับ!“นั่นติณณ์นะเลย์…”ฉันพูดออกไปพร้อมกับจ้องเข้าไปในตาของเลโออย่างต้องการให้เขาเข้าใจ คือภาพตรงหน้ามันน่ากลัวน่ะใช่ แต่นั่นติณณ์ไง! จะให้ฟังแต่เสียงโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไงก็ใช่เรื่อง!พอฉันพูดจบเลโอก็พยักหน้าแล้วยอมเอามือออกทั้งที่ยังส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ แถมยังไม่ยอมถอยออกห่างจากฉันแม้แต่ก้าวเดียวแล้วอยู่ๆ Member กว่าครึ่งหอประชุมที่ไม่เห็นด้วยกับการพิพากษาที่ดูจะป่าเถื่อนแบบนั้น ก็ถึงกับวิ่งวุ่นลงมาและคว้าปืนขึ้นมาจ่อไปที่ติณณ์และคิระแบบไม่เกรงกลัวอะไร เท่าที่ดูคนพวกนั้นน่าจะเคารพในอำนาจของสภาฯ กันมากมายแบบที่ยอมตายแทนได้เลยด้วยซ้ำ“ไอ้พวกสวะ!”เสียงผู้อาวุโสท่านหนึ่งกล่าวขึ้นเหมือนตั้งตัวเป็นอร
@ DARK SHADOW CASTLE (JAPAN)ผลัวะ!เสียงฝ่ามือของรันเวย์กระทบเข้าที่หัวของติณณ์อย่างแรงพร้อมกับสีหน้าหงุดหงิดหลังจากที่รู้ข่าวว่าฉันท้อง ตามมาด้วยเสียงบ่นอุบอิบอย่างเอาแต่ใจจน Nightshade คนอื่นๆ ถึงกับส่ายหน้าให้กับความพาลหาเรื่องคนนั้นคนนี้ไปทั่วของพ่อลูกอ่อนขี้เหวี่ยงตรงหน้าฉัน“ไวนัก! ไม่ต้องเสือกคลอดก่อนล่ะ”พูดจบรันเวย์ก็ถลึงตาใส่ติณณ์ คือต้องใช้คำนี้จริงๆ อ่ะ เขาถลึงตาแบบจริงจังมาก! เดี๋ยวนี้หมอนี่อาการหนักน่าดู คือกลัวขั้นสุด กลัวว่าลูกตัวเองจะเป็นน้อง ซึ่งมันตลกชะมัด!“หึ..ก็ไม่แน่”แล้วติณณ์ก็ตอบกลับไปแบบกวนๆ จนรันเวย์ยิ่งหงุดหงิดหนัก เดินไปตบหัวบรรดาพ่อลูกอ่อน Nightshade ทั้งหมดแบบเรียงตัวอีกทีอย่างหมั่นเขี้ยวผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!“ไอ้พวกเวร!”เขาบ่นอุบอิบออกมาแบบพาลๆ แล้วเดินกลับมานั่งหน้าบูดต่อจนเจด้าถึงกับออกอาการเอือมๆแต่ก็แอบขำในท่าทางนั้น แล้วติณณ์ก็ยังไม่วาย..พูดออกมาแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีกครั้ง แถมยังลอยหน้าลอยตาใส่รันเวย์อย่างอารมณ์ดีว่าใครในตอนนี้“เห็นแก่เพื่อนเหอะ ให้ลูกกูเป็นพี่”พอติณณ์พูดจบเท่านั้นแหละ รันเวย์ก็ชี้หน้าติณณ์กลับมาแบบเกรี้ยวกราดมาก แล้วโพล่งออกม
“อีกทีได้นะติณณ์..แต่มิณท้องเพิ่มไม่ได้แล้ว :)"พอฉันพูดจบติณณ์ก็ทำหน้าอึ้งออกมาแบบเห็นได้ชัด แล้วถอดท่อนเอ็นของเขาออกจากร่างกายของฉันแบบรีบร้อนและตกใจ“พูดใหม่มิณ.. พูดอีกที”ติณณ์จ้องหน้าฉันและพูดซ้ำๆ อย่างคาดหวังในคำตอบ แม้เขาจะดูตกใจมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ดูตื่นเต้นมากจนฉันหลุดยิ้มให้กับท่าทางนั้น และชี้นิ้วไปที่ติณณ์ช้าๆ“...นี่พ่อ”ก่อนจะย้อนกลับมาชี้ตัวฉัน…“...นี่แม่”และจบลงด้วยการชี้ไปที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองที่ด้านในมีบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้น โดยที่ฉันเองก็เพิ่งจะรู้ตัว ซึ่งเขาก็มองมาอย่างตั้งใจฟัง“นี่ลูก”“หึ...”พรึ่บบบ!พอฉันพูดจบติณณ์ก็ทิ้งตัวลงมาอย่างรวดเร็วและกอดฉันไว้แน่นมาก แถมยังมุดหน้าหัวเราะเบาๆ ออกมาอย่างดีใจ จนฉันอดแซวทั้งที่ยังขำกับท่าทางแบบนั้นไม่ได้ >__มัวแต่ดีใจ คิ
พรึ่บบบ พลั่กกก “อื้อออ~”ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้องน้ำ ติณณ์ก็วางร่างฉันลงแล้วดันตัวฉันให้ถอยไปติดกับผนังห้องน้ำอย่างรีบร้อน ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดน้ำฝักบัว และประกบริมฝีปากของเขาลงมาอย่างรวดเร็วและร้อนแรงผ่านม่านน้ำจากฝักบัวตรงหน้าติณณ์แทรกลิ้นของเขาเข้ามาไล่ต้อนลิ้นฉันอย่างช่ำชอง พร้อมกับกระชากเสื้อผ้าของฉันจนขาดวิ่นหลุดติดมือ แล้วโยนมันออกไปแบบสนใจทิศทางใดๆ สักพักเขาก็ผละจูบออกแล้วโน้มตัวลงมาทิ้งรอยมากมายบนตัวฉันในพริบตา“อื้อออ อ๊ะ!”ฉันร้องครางออกไปอย่างเสียวซ่านกับสัมผัสที่ติณณ์มอบให้ และเลื่อนมือไปขยำกลุ่มผมของติณณ์เอาไว้อย่างระบายอารมณ์ พร้อมกับเงยหน้ารับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ…แล้วติณณ์ก็เลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมากอบกุมหน้าอกของฉันเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ บีบเคล้นมันเบาๆ จนแรงขึ้น..แรงขึ้นตามลำดับ ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายฉัน จนฉันเคลิบเคลิ้มล่องลอยตามรสสัมผัสของเขาไปอย่างกู่ไม่กลับ“อย่าอ่อยบ่อยได้มั้ย…”ติณณ์พูดออกมาเบาๆ พร้อมกับหายใจถี่ขึ้นตามระดับความรุนแรงของการกระทำ และเลื่อนมือไปปลดกระดุมกางเกงตัวเองอย่างรีบร้อน แต่ฉันกลับปัดมือเขาออกแล้วเป็นฝ่ายปล
::: TECHO :::หลังจากเสร็จภารกิจทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน รวมถึงผมกับมิณที่กำลังขับรถกลับคอนโด ส่วนเรื่องคำพิพากษาไอ้คิระกับคำอธิบายเรื่องข้อตกลงของ Emergency Privilege ทั้งของผมและมิณ จะมีการเรียกประชุม Member ทั้งหมดที่ Dark Shadow Castle (JAPAN) ในอีกสองวัน ซึ่งก็จะตรงกับวันสถาปนาพอดี และ Nightshade ที่มีเอี่ยวด้วยวันนี้จะต้องไปฟังคำพิพากษาร่วมกันทั้งหมด“ยิ้มไรคนเดียว”พอหันไปเห็นใบหน้าเล็กกำลังนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีและดูจะแฮปปี้เกินเรื่องไปหน่อยทั้งที่วันนี้เจอเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดนั้น ผมเลยถามออกไปแบบงงๆ ในท่าทางที่แปลกไป แล้วมิณก็ตอบกลับมา“เปล่าหนิ”ใบหน้าเล็กทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ดูจะปกปิดรอยยิ้มในแววตานั่นไม่มิด หน้าผมมีไรติดหรอวะ -.-? หรือมิณไปกินไรผิดมาตั้งแต่ที่เกาะละ วันนี้เมียแลอารมณ์ดีจัด“มีไรบอกมา”ผมส่งเสียงเข้มออกไป แล้วเอามือไปยีหัวมิณซ้ำๆ อยู่หลายที หึ..เกือบจะไม่ได้กลับมาเห็นรอยยิ้มแบบนี้แล้วมั้ยกู มีเมียเก่งแม่งโคตรน่าภูมิใจ เปิดใช้คำขอทีเล่นเอาตัวแทนสภากฎเหวอไปเลย บอกตามตรงใจผมตอนนั้นแม่งกระตุกวูบ เวลามิณทำอะไรแม่งเหนือความคาดหมายของผมตลอด แล้วมิณก