Home / โรแมนติก / SiRen เงือกสาว ผจญภัย / #19 การตามล่าจากโจรสลัด

Share

#19 การตามล่าจากโจรสลัด

last update Last Updated: 2025-06-18 19:56:31

เมืองคอร์เซียร์...

เมืองท่าขนาดใหญ่ทางฟากตะวันตกของทวีปที่เหล่าโจรสลัด นักล่าทะเล และพ่อค้าวัตถุต้องสาปต่างพากันมารวมตัว ไม่ใช่เพื่อศีลธรรม...แต่เพื่อผลประโยชน์ เงินทอง และเลือด

เรือโจรสลัด “แบล็คดราฟต์” ของกัปตันแบร์กตัน จอดเทียบอย่างลับ ๆ ที่ท่าเรือหมายเลขเจ็ดของเมือง

กลางยามสนธยา ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยกลุ่มเมฆแดงหม่น แววตาเจ้าของเรือก็ไม่ต่างกัน

“ลากของขึ้นฝั่ง!” แบร์กตันสั่งเสียงห้วน

ลูกเรือสองคนลากกรงเหล็กขนาดใหญ่คลุมด้วยผ้าดำขึ้นจากเรือ แบกผ่านตรอกแคบ ๆ ไปยังด้านในของเมือง

ที่หมายของพวกเขาคือ — โรงละครสัตว์ใต้ดินซึ่งว่ากันว่าสะสมสิ่งมีชีวิตประหลาดไว้มากกว่ารัฐบาลราชสำนักเสียอีก

ภายใต้โคมไฟน้ำมันที่ส่องไหวริบ ๆ เจ้าของโรงละครออกมาต้อนรับ

ชายวัยกลางคนตัวเตี้ย ร่างอ้วนท้วน ใบหน้าคล้ายลูกหมู ผูกผ้าพันคอแดงทับเสื้อกำมะหยี่เก่าแก่

“เจ้าพาสิ่งนั้นมาหรือยัง?” เขาถามเสียงขุ่น “ข้าจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะ...แบร์กตัน”

แบร์กตันโบกมือ

ผ้าคลุมกรงถูกเปิดออก...เผยให้เห็นเพียงเเค่คนเเคระคนนึงเท่านั้น

“ไม่มี!?” เจ้าของโรงละครร้อง

เขาก้าวไปจนหน้าดำหน้าแดง “เจ้ากล้าหลอกข้าเรอะ!? ข้าจ่ายเจ้าไปตั้งแต่ก่อนพระจันทร์ขึ้น! แล้วเจ้ากลับมาพร้อมคนเเคระ ข้าต้องการเงือก?!”

“เงือกหนีระหว่างทาง” แบร์กตันกัดฟันตอบ “นางฉลาดกว่าที่ข้าคิด...แต่ไม่เกินมือข้าแน่ ข้าจะไปจับนางกลับมาให้”

“ในคอร์เซียร์ ไม่มีใครล้อเล่นกับข้าแล้วจากไปพร้อมหนี้หรอกนะ กัปตัน”

ทันใดนั้น บรรดาคนงานของโรงละครสัตว์ก็ก้าวออกจากมุมมืดรอบลานหลังโรง

ในมือพวกเขามีทั้งตะขอ ค้อน ท่อนไม้เหล็ก และโซ่สนิม

แบร์กตันหรี่ตา มือข้างหนึ่งแตะด้ามดาบที่สะโพก

แต่ก่อนที่เลือดจะนอง เจ้าของโรงละครยกมือขึ้น

“...ฟังนะ” เขายิ้ม “ถ้าเจ้าจะตามตัวเงือกตัวนั้นกลับมาให้ภายใน ห้าวัน เราจะถือว่าหนี้สินเป็นโมฆะ”

“ดี” แบร์กตันกล่าว “นางหลบอยู่ในเกาะต้องสาป ข้าจะลากหางปลานั่นกลับมาให้เจ้าเอง…”

เรือเล็กของโจรสลัดลอยลำอย่างเงียบงันเหนือผืนน้ำสีดำสนิท

ไอเย็นที่พัดผ่านไม่ใช่เพียงลมจากทะเล...แต่มันเหมือนเสียงกระซิบของบางสิ่งที่ไม่มีตัวตน

กัปตันแบร์กตันยืนหัวเรือ ดวงตาแข็งกร้าว

เบื้องหลังเขา คือลูกเรือห้าคน คนหนึ่งชื่อบรอล ร่างใหญ่ใจร้อน อีกคนคือซิน หญิงสาวผู้เชี่ยวชาญกับดัก และอีกสามคนคือ เดร็กซ์, วินซ์, โฮลเลอร์ — ล้วนแต่ผ่านสนามรบทะเลมานับไม่ถ้วน

“เจอเงือกแล้วก็จับใส่กรง” แบร์กตันพูดเสียงเย็น “อย่าลังเล อย่าใจอ่อน—สิ่งมีชีวิตพวกนั้นไม่ใช่คน พวกมันลวงโลกด้วยหน้าตาเท่านั้น”

เกาะร้างปรากฏในสายตา

แนวป่าทึบตั้งฉากรอผู้บุกรุกเหมือนเขี้ยวสัตว์ร้าย ทรายชายฝั่งสีหม่น ไม่ต้อนรับใครทั้งสิ้น

พวกเขาเหยียบฝั่งโดยไม่มีใครพูดอะไร

เสียงรองเท้าบู๊ตจมหายลงในเลนเปียก ลมหอบกลิ่นดินชื้นและเศษซากทะเลเหม็นเน่า

บรอลพูดขึ้นเบา ๆ ขณะจับด้ามขวานแน่น

“ที่นี่มัน...ไม่เหมือนเกาะธรรมดา”

“เก็บความกลัวไว้กินตอนตาย” แบร์กตันหันไป “ซิน เจ้าเดินนำทาง

หญิงสาวคล้องมีดสั้นไว้ข้างเอว เดินนำผ่านพุ่มไม้หนา

เดร็กซ์กับวินซ์ถือคบเพลิงเดินตาม เหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลา

แสงไฟสั่นไหวตามแรงลม

เงาของต้นไม้เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต

ทันใดนั้น—

แกรก!

เสียงบางอย่างขยับอยู่บนยอดไม้

บรอลเงยหน้าขึ้นทันที พลางเงื้อขวาน

แต่ไม่มีอะไร...นอกจากเสียงหัวเราะแผ่วเบา ลอยมากับสายลม...

> “ได้ยินไหม?” วินซ์กระซิบ “เสียงผู้หญิงหัวเราะ...”

> “ข้าคิดว่าเป็นลม” ซินกัดฟัน “เดินต่อ อย่าแตกแถว”

พวกเขาเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ

ทว่าทุกก้าวที่ย่างเข้าไปในป่า…เหมือนกับว่าความเป็นจริงเริ่มบิดเบี้ยว

ต้นไม้เริ่มขึ้นแนวผิดธรรมชาติ เถาวัลย์พันกันเป็นรูปแปลกตา

กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ลอยอยู่ในอากาศ

ทันใดนั้น…

พวกเขาพบกับสิ่งหนึ่ง

เป็นโขดหิน…ที่มีรอยขีดเขียนของมนุษย์

คำจารึกโบราณด้วยอักษรบางอย่างที่ไม่มีใครอ่านออก

และตรงพื้นเบื้องหน้า...คือรอยเท้า

รอยเท้าคน...และรอยเลื้อยของบางอย่าง

แบร์กตันทรุดลงดูใกล้ ๆ

เขาแตะพื้น ตรวจสอบรอยเท้า

“นี่ไม่ใช่พวกเราแน่...รอยเท้าผู้หญิง” เขากระซิบเบา ๆ แล้วหันไปสบตากับทุกคน

“นางอยู่ที่นี่จริง ๆ...นีร่า”

ทันใดนั้น ลมแรงพัดวูบ เปลวไฟจากคบเพลิงดับวูบในพริบตา

และเสียงหนึ่ง...ดังขึ้นจากความมืด

> “เจ้าคือผู้ล่า...หรือเหยื่อกันแน่?”

ทุกคนชะงัก

วินซ์ก้าวถอยหลัง ขณะที่ซินกรีดมีดเตรียมสู้

เสียงหัวเราะที่ไม่ได้มาจากคอคน ค่อย ๆ ลอยวนอยู่รอบพวกเขา

พวกเขารู้ในวินาทีนั้นว่า...สิ่งที่อยู่บนเกาะนี้

ไม่ได้มีแค่เงือกนีร่า

เขาหันกลับไปขึ้นเรือ ลูกเรือรีบตามหลัง

เสียงระฆังเรือดังขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางสายลมที่เริ่มเย็นยะเยือก

ค่ำคืนมืดมนคลืบคลานลงสู่ป่าแน่นหนาของเกาะร้าง

กลิ่นดินชื้น กลิ่นคราบเกลือ และอะไรบางอย่างที่คล้ายกลิ่นศพเริ่มโชยมาตามสายลม

คบเพลิงของโจรสลัดถูกจุดขึ้นอีกครั้งด้วยไฟจากหินเหล็กไฟ

แสงสีส้มวาบวับของมันฉาบเงาโหดเหี้ยมลงบนใบหน้าของแบร์กตันและลูกน้องทั้งห้า

พวกเขาไม่รู้เลย…ว่าในความมืดข้างทาง

บางสิ่งกำลังมองอยู่

“ข้าบอกแล้วว่าได้กลิ่นเน่า” บรอลบ่น “นี่มันไม่ใช่แค่กลิ่นซากปลาแน่…”

“เงียบ” ซินขู่เสียงแผ่ว มือจับมีดข้างขาแน่น “มีบางอย่างตามพวกเราอยู่ แต่ยังไม่ลงมือ”

แต่ในขณะที่ทุกคนระวังหน้า ระวังหลัง…

...ไม่มีใครหันไปมอง “ต้นไม้ใหญ่” ทางซ้ายมือ

มันคือไม้เก่าแก่ที่สุดต้นหนึ่งในบริเวณนั้น เปลือกไม้แตกเป็นเส้น

มีบางอย่างคล้ายรูปร่างมนุษย์ฝังแนบอยู่กับลำต้น บิดเบี้ยว เหมือนถูกหล่อรวมกับเนื้อไม้มาเป็นร้อยปี

ตาไม่มีลูกกระตา ปากอ้าค้าง แต่กลับมีไอหมอกสีดำค่อย ๆ รินออกมาจากรอยแยก

เดร็กซ์เป็นคนที่เดินตามหลังกองขบวน

เขายืนปัสสาวะข้างทางชั่วครู่ ก่อนจะหันกลับ…

แล้วเงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่เขาคิดว่าเป็น “รากไม้”

> “เฮ้…ต้นไม้นี่…หน้าตาแม่งเหมือนคน…”

ไม่ทันที่เสียงจะสิ้นสุด…

เสียง “ฉึก!” เงียบกริบ

มือดำทะมึนพุ่งฉับเข้าจับปากของเดร็กซ์จากด้านหลัง

ร่างของเขาถูกลากเข้าไปในลำต้นไม้เน่าเปื่อย

เสียงกระดูกหักดังกร๊อบในความเงียบ

เลือดหยดลงพื้น...

แต่ไม่มีใครได้ยิน

กลุ่มโจรสลัดที่เหลือเดินลึกเข้าไปโดยไม่มีใครรู้เลยว่า…

“เดร็กซ์หายไปแล้ว”

บนเปลือกไม้ ตรงจุดที่ร่างนั้นเคยหลอมรวม

บัดนี้กลายเป็นสองร่าง

และ “ต้นไม้ต้นนั้น”

ก็ค่อย ๆ กลืนน้ำลาย…เป็นเสียงครืดแผ่วเบา

เหมือนกับยังไม่อิ่ม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #19 การตามล่าจากโจรสลัด

    เมืองคอร์เซียร์...เมืองท่าขนาดใหญ่ทางฟากตะวันตกของทวีปที่เหล่าโจรสลัด นักล่าทะเล และพ่อค้าวัตถุต้องสาปต่างพากันมารวมตัว ไม่ใช่เพื่อศีลธรรม...แต่เพื่อผลประโยชน์ เงินทอง และเลือดเรือโจรสลัด “แบล็คดราฟต์” ของกัปตันแบร์กตัน จอดเทียบอย่างลับ ๆ ที่ท่าเรือหมายเลขเจ็ดของเมืองกลางยามสนธยา ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยกลุ่มเมฆแดงหม่น แววตาเจ้าของเรือก็ไม่ต่างกัน“ลากของขึ้นฝั่ง!” แบร์กตันสั่งเสียงห้วนลูกเรือสองคนลากกรงเหล็กขนาดใหญ่คลุมด้วยผ้าดำขึ้นจากเรือ แบกผ่านตรอกแคบ ๆ ไปยังด้านในของเมืองที่หมายของพวกเขาคือ — โรงละครสัตว์ใต้ดินซึ่งว่ากันว่าสะสมสิ่งมีชีวิตประหลาดไว้มากกว่ารัฐบาลราชสำนักเสียอีกภายใต้โคมไฟน้ำมันที่ส่องไหวริบ ๆ เจ้าของโรงละครออกมาต้อนรับชายวัยกลางคนตัวเตี้ย ร่างอ้วนท้วน ใบหน้าคล้ายลูกหมู ผูกผ้าพันคอแดงทับเสื้อกำมะหยี่เก่าแก่“เจ้าพาสิ่งนั้นมาหรือยัง?” เขาถามเสียงขุ่น “ข้าจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะ...แบร์กตัน”แบร์กตันโบกมือผ้าคลุมกรงถูกเปิดออก...เผยให้เห็นเพียงเเค่คนเเคระคนนึงเท่านั้น“ไม่มี!?” เจ้าของโรงละครร้องเขาก้าวไปจนหน้าดำหน้าแดง “เจ้ากล้าหลอ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #18 เสียงที่ล่อลวง

    สายลมจากทะเลพัดโชยผ่านใบไม้หนาทึบ กลิ่นเกลือและไอชื้นของป่าไหลเข้าปะทะจมูก แต่นีน่าไม่แม้แต่จะหายใจลึก หัวใจเธอมีเพียงความเร่งรีบ"มาริเบล...ต้องรอด"น้องสาวของนางนอนอยู่ในถ้ำเล็กริมชายหาด ดวงตาร้อนผ่าว ผิวที่เคยสดใสเริ่มซีดจางจากพิษของบาดแผลขณะหลบหนี แม้นีร่าจะใช้ความรู้จากเผ่าตนรักษาเบื้องต้น แต่สมุนไพรที่ต้องการมีเฉพาะในป่าภายในเกาะ ซึ่งแปลกและไม่คุ้นเคยนางจำตำราได้ว่า ใกล้ภูเขาใจกลางเกาะนี้เคยมี “ดอกวารีทอง” — ดอกไม้ขนาดเล็กที่มีกลีบสีเงินสลับทอง ผสมกับราก "เฟินน้ำเที่ยงคืน" แล้วบดกับเกลือ จะถอนพิษจากบาดแผลลึกได้“นางจะต้องไม่เป็นอะไร…” นีร่าพึมพำในใจ ขณะฝ่าไผ่รกและเลื้อยไม้ขึ้นสู่แนวเขาเล็กแต่ทันทีที่นางไปถึงลำธารกลางป่า...เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น—เสียงเพลงแผ่วเบา แฝงความเศร้าโศก ราวเสียงร้องของหญิงสาวใต้ผิวน้ำนีน่าหยุดชะงัก หางตากวาดไปรอบ ๆ — ไม่มีใครแต่ผิวน้ำสั่นเบาเหมือนมีบางสิ่งตื่นขึ้นจากก้นลึก> “...ผู้หลงทางในความมืด… กลิ่นเลือดเจ้าช่างหวานนัก…”เสียงนั้นกระซิบในหัว ไม่ใช่เสียงมนุษย์ ไม่ใช่เงือกธรรมดาทันใดนั้น ผิวน้ำก็แตกกระจาย ร่างหนึ่งพุ่งขึ้นมา—เงือกสาวผิวซีดจ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #17 คำสาปในเกาะลึกลับ

    แสงจันทร์ส่องลงมากระทบลานหินกลางป่าลึก เงาไม้โยกไหวตามแรงลม คืนนี้เงียบผิดปกติ—เงียบเสียจนได้ยินเสียงลมหายใจของผู้ถูกจับไอล่าและรัฟเฟอร์นั่งอยู่กลางวงพิธี แขนทั้งสองข้างถูกมัดด้วยเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยอักขระโบราณ พวกเขาไม่ได้ถูกทำร้าย ไม่แม้แต่รอยขีดข่วนบนร่างกาย...แต่หัวใจกลับสั่นสะท้านด้วยสิ่งที่มองไม่เห็นเพราะรอบตัวพวกเขา...ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่เลยมีเพียง "เงา" — เงาบางเบาของสิ่งที่เคยมีชีวิตเสียงสวดมนต์ต่ำ ๆ ดังขึ้นจากทุกทิศ เสียงนั้นไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นเสียงกระซิบของลมหายใจในอดีต เสียงของวิญญาณที่เคยมีเลือดเนื้อ และบัดนี้...หลงเหลือเพียงเศษความตายที่ยังไม่สงบ"พวกมัน...ไม่มีร่าง" รัฟเฟอร์กระซิบเบาไอล่าหันมามอง สีหน้าซีดเผือด "แต่ยังมีเจตจำนง"จู่ ๆ อากาศรอบกายเย็นวาบ ลมหอบหนึ่งพัดผ่าน ก่อนที่แสงสีฟ้าหม่นจะก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างของหญิงชราโบราณ ใบหน้าซีดเผือดดั่งกระดูก ห้อยลอยอยู่เหนือพื้นเพียงนิ้วเดียว ดวงตาขาวขุ่นไร้แววชีวิต แต่มองตรงมาราวกับมองทะลุหัวใจ“เจ้าจะเป็นสะพาน...” เสียงนั้นดังกังวานโดยไม่มีปากขยับ“สะพานเพื่อพวกข้า...จะกลับมาอีกครั้ง”แท่นหิ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #16 เผ่าที่โดนสาป

    เปลวแดดยามสายส่องทะลุม่านเมฆครึ้ม ปลายหางเรือเล็กแหวกผืนน้ำอย่างเงียบงัน อีธานนั่งนิ่งบนหัวเรือ สายตาคมใต้คิ้วเข้มทอดมองไปยังผืนป่าแน่นทึบบนเกาะร้างเบื้องหน้า"ตรงนี้แหละ" เสียงไอล่าเอ่ยพลางหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นดู เธอชี้ไปยังฝั่งที่มีโขดหินเรียงตัวคล้ายประตูธรรมชาติ "ฉันเห็นรอยเท้า...มันมุ่งเข้าไปด้านใน"อีธานพยักหน้า รอยแผลบนแขนยังไม่ทันแห้งดี แต่เขาไม่อาจรอให้บาดแผลสมานก่อน รอยเลือดของพวกโจรสลัดยังเปรอะเปื้อนอยู่บนเสื้อผ้า กลิ่นคาวยังติดปลายจมูก — มันคือเครื่องเตือนใจว่าเขาต้องเร็วขึ้นอีก ก่อนจะสายเกินไปลูกเรืออีกคนที่ยังเหลือ—ชายร่างสูงชื่อรัฟเฟอร์—เป็นคนเงียบขรึม แต่ซื่อสัตย์ เขาหิ้วสัมภาระตามหลัง ไม่เอ่ยถ้อยคำใด นอกจากพยักหน้าอย่างพร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่สามคนขึ้นฝั่ง ใต้ร่มไม้เงียบงัน เย็นยะเยือกผิดกับแสงแดดข้างนอก เสียงใบไม้แห้งลั่นกรอบใต้เท้า พร้อมกลิ่นดินชื้นที่คละเคล้ากลิ่นเกลือทะเล"หยุดก่อน..." เสียงอีธานเบาและกดต่ำ ขณะเขาย่อตัวลง มือหนาแตะบางสิ่งบนพื้นมันคือหยดเลือด...เล็กแต่ยังสดไอล่าถลาเข้ามาอย่างเร็ว "เลือดเหรอ?"อีธานไม่ตอบ เขายืนนิ่ง ขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเขาสั่นไหว.

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #16 บาดเเผล

    แสงจันทร์สาดสีเงินลงเหนืออ่าวลับ เงาน้ำพลิ้วไหวใต้ผืนฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางความเงียบงันที่แทบจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น ข้าค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นจากแอ่งน้ำข้างหาด ดินเหนียวเปรอะขา เท้าของข้าเหยียบลงไปบนผืนทรายที่เย็นชื้นเท้า—ไม่ใช่หางเงือกอีกต่อไปข้ามองปลายขาตัวเองอย่างอึ้งงัน ผิวเนื้อที่เคยเป็นเกล็ดทองสะท้อนแสงบัดนี้กลายเป็นผิวมนุษย์เรียบเนียน ซีดขาวด้วยไอเย็นของน้ำและความเหน็ดเหนื่อยข้าไม่รู้ว่าสิ่งใดเปลี่ยนร่างข้ากับน้อง…บางที อาจเป็นเวทมนตร์ของโพรงน้ำใต้เกาะ หรือบางสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจ> “พี่…” เสียงเบาเรียกจากข้างหลัง ข้าหันไปเห็นมาริเบลกำลังพยายามพยุงตัวลุกขึ้นเช่นกัน“ข้า…ข้าก็มีเท้าเหมือนเจ้าแล้ว”ข้าประคองนางขึ้นจากน้ำ ดวงตานางเบิกโพลง ขณะจ้องมองปลายเท้าตัวเองเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งเห็นโลกเป็นครั้งแรก ผมของนางเปียกปอนแนบแก้ม หยดน้ำยังเกาะตามขนตาคล้ายหยดน้ำตาข้าจับมือนางไว้แน่น> “เรายังมีชีวิตอยู่ และนั่น…คือสิ่งเดียวที่สำคัญ”สายลมยามค่ำคืนพัดหอบเอากลิ่นทะเล กลิ่นดิน กลิ่นมอส และกลิ่นไม้ผุจากป่าด้านหน้าเข้ามา ด้านหลังของเราคือผืนน้ำกว้างใหญ่เบื้องหลังภูเขาหินสูงชัน ไม่มี

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #15 เกาะที่ไร้ชื่อ

    เพลิงลุกไหม้ยอดไม้ โหมกระท่อมริมฝั่งทะเลสาบให้กลายเป็นเศษเถ้าดำราวสรวงสวรรค์เคยทอดทิ้งที่นี่ไปนานแล้ว...ข้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใต้แสงสีส้มของความสูญเสียข้ารู้สึกราวกับห้วงเวลาหยุดหมุนในชั่วครู่ที่สายตาจับจ้องไปยังร่างหนึ่งบนพื้น—เรน ชายผู้เคยเป็นทั้งเพื่อน ทั้งรัก และบัดนี้…เป็นเพียงซากอดีตที่ไร้คำแก้ตัวเสียงสะอื้นของนีร่าดังแผ่วอยู่เบื้องหลัง หยดน้ำตาสีดำยังร่วงทีละหยดลงสู่ผืนดินที่เปียกชื้นจากทั้งฝนที่เพิ่งจางหาย และเลือดที่ยังไม่แห้งข้าอยากยื่นมือไปปลอบนางแต่ข้ากลับยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น...เพราะบางความเจ็บ ก็ไม่มีถ้อยคำใดปลอบประโลมได้> “อีธาน…”เสียงนางเบาเหมือนเสียงคลื่นลมที่ซัดชายฝั่งข้าหันมาช้า ๆ และสบตากับนางดวงตาคู่นั้น—แม้จะยังงดงาม—กลับเต็มไปด้วยร่องรอยของการแตกสลาย> “ข้า…เหนื่อยเหลือเกิน…”นางเอ่ยก่อนจะซบหน้าลงบนบ่าข้า ข้าได้แต่ยกแขนขึ้นโอบประคองแผ่นหลังบางเอาไว้แน่น มาริเบลยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง ร่างเล็กที่เปื้อนเลือดและดินเงยหน้ามองพี่สาวอย่างเงียบงัน น้ำตาของนางไม่ไหล…เพราะนางไม่เหลือแม้แรงจะร้องไห้อีกแล้วข้าอยากให้คืนวันสงบกลับมา แต่ในโลกนี้—มันไม่เคยง่ายเช่นนั้นเพร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status