Home / โรแมนติก / SiRen เงือกสาว ผจญภัย / #19 การตามล่าจากโจรสลัด

Share

#19 การตามล่าจากโจรสลัด

last update Huling Na-update: 2025-06-18 19:56:31

เมืองคอร์เซียร์...

เมืองท่าขนาดใหญ่ทางฟากตะวันตกของทวีปที่เหล่าโจรสลัด นักล่าทะเล และพ่อค้าวัตถุต้องสาปต่างพากันมารวมตัว ไม่ใช่เพื่อศีลธรรม...แต่เพื่อผลประโยชน์ เงินทอง และเลือด

เรือโจรสลัด “แบล็คดราฟต์” ของกัปตันแบร์กตัน จอดเทียบอย่างลับ ๆ ที่ท่าเรือหมายเลขเจ็ดของเมือง

กลางยามสนธยา ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยกลุ่มเมฆแดงหม่น แววตาเจ้าของเรือก็ไม่ต่างกัน

“ลากของขึ้นฝั่ง!” แบร์กตันสั่งเสียงห้วน

ลูกเรือสองคนลากกรงเหล็กขนาดใหญ่คลุมด้วยผ้าดำขึ้นจากเรือ แบกผ่านตรอกแคบ ๆ ไปยังด้านในของเมือง

ที่หมายของพวกเขาคือ — โรงละครสัตว์ใต้ดินซึ่งว่ากันว่าสะสมสิ่งมีชีวิตประหลาดไว้มากกว่ารัฐบาลราชสำนักเสียอีก

ภายใต้โคมไฟน้ำมันที่ส่องไหวริบ ๆ เจ้าของโรงละครออกมาต้อนรับ

ชายวัยกลางคนตัวเตี้ย ร่างอ้วนท้วน ใบหน้าคล้ายลูกหมู ผูกผ้าพันคอแดงทับเสื้อกำมะหยี่เก่าแก่

“เจ้าพาสิ่งนั้นมาหรือยัง?” เขาถามเสียงขุ่น “ข้าจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะ...แบร์กตัน”

แบร์กตันโบกมือ

ผ้าคลุมกรงถูกเปิดออก...เผยให้เห็นเพียงเเค่คนเเคระคนนึงเท่านั้น

“ไม่มี!?” เจ้าของโรงละครร้อง

เขาก้าวไปจนหน้าดำหน้าแดง “เจ้ากล้าหลอกข้าเรอะ!? ข้าจ่ายเจ้าไปตั้งแต่ก่อนพระจันทร์ขึ้น! แล้วเจ้ากลับมาพร้อมคนเเคระ ข้าต้องการเงือก?!”

“เงือกหนีระหว่างทาง” แบร์กตันกัดฟันตอบ “นางฉลาดกว่าที่ข้าคิด...แต่ไม่เกินมือข้าแน่ ข้าจะไปจับนางกลับมาให้”

“ในคอร์เซียร์ ไม่มีใครล้อเล่นกับข้าแล้วจากไปพร้อมหนี้หรอกนะ กัปตัน”

ทันใดนั้น บรรดาคนงานของโรงละครสัตว์ก็ก้าวออกจากมุมมืดรอบลานหลังโรง

ในมือพวกเขามีทั้งตะขอ ค้อน ท่อนไม้เหล็ก และโซ่สนิม

แบร์กตันหรี่ตา มือข้างหนึ่งแตะด้ามดาบที่สะโพก

แต่ก่อนที่เลือดจะนอง เจ้าของโรงละครยกมือขึ้น

“...ฟังนะ” เขายิ้ม “ถ้าเจ้าจะตามตัวเงือกตัวนั้นกลับมาให้ภายใน ห้าวัน เราจะถือว่าหนี้สินเป็นโมฆะ”

“ดี” แบร์กตันกล่าว “นางหลบอยู่ในเกาะต้องสาป ข้าจะลากหางปลานั่นกลับมาให้เจ้าเอง…”

เรือเล็กของโจรสลัดลอยลำอย่างเงียบงันเหนือผืนน้ำสีดำสนิท

ไอเย็นที่พัดผ่านไม่ใช่เพียงลมจากทะเล...แต่มันเหมือนเสียงกระซิบของบางสิ่งที่ไม่มีตัวตน

กัปตันแบร์กตันยืนหัวเรือ ดวงตาแข็งกร้าว

เบื้องหลังเขา คือลูกเรือห้าคน คนหนึ่งชื่อบรอล ร่างใหญ่ใจร้อน อีกคนคือซิน หญิงสาวผู้เชี่ยวชาญกับดัก และอีกสามคนคือ เดร็กซ์, วินซ์, โฮลเลอร์ — ล้วนแต่ผ่านสนามรบทะเลมานับไม่ถ้วน

“เจอเงือกแล้วก็จับใส่กรง” แบร์กตันพูดเสียงเย็น “อย่าลังเล อย่าใจอ่อน—สิ่งมีชีวิตพวกนั้นไม่ใช่คน พวกมันลวงโลกด้วยหน้าตาเท่านั้น”

เกาะร้างปรากฏในสายตา

แนวป่าทึบตั้งฉากรอผู้บุกรุกเหมือนเขี้ยวสัตว์ร้าย ทรายชายฝั่งสีหม่น ไม่ต้อนรับใครทั้งสิ้น

พวกเขาเหยียบฝั่งโดยไม่มีใครพูดอะไร

เสียงรองเท้าบู๊ตจมหายลงในเลนเปียก ลมหอบกลิ่นดินชื้นและเศษซากทะเลเหม็นเน่า

บรอลพูดขึ้นเบา ๆ ขณะจับด้ามขวานแน่น

“ที่นี่มัน...ไม่เหมือนเกาะธรรมดา”

“เก็บความกลัวไว้กินตอนตาย” แบร์กตันหันไป “ซิน เจ้าเดินนำทาง

หญิงสาวคล้องมีดสั้นไว้ข้างเอว เดินนำผ่านพุ่มไม้หนา

เดร็กซ์กับวินซ์ถือคบเพลิงเดินตาม เหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลา

แสงไฟสั่นไหวตามแรงลม

เงาของต้นไม้เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต

ทันใดนั้น—

แกรก!

เสียงบางอย่างขยับอยู่บนยอดไม้

บรอลเงยหน้าขึ้นทันที พลางเงื้อขวาน

แต่ไม่มีอะไร...นอกจากเสียงหัวเราะแผ่วเบา ลอยมากับสายลม...

> “ได้ยินไหม?” วินซ์กระซิบ “เสียงผู้หญิงหัวเราะ...”

> “ข้าคิดว่าเป็นลม” ซินกัดฟัน “เดินต่อ อย่าแตกแถว”

พวกเขาเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ

ทว่าทุกก้าวที่ย่างเข้าไปในป่า…เหมือนกับว่าความเป็นจริงเริ่มบิดเบี้ยว

ต้นไม้เริ่มขึ้นแนวผิดธรรมชาติ เถาวัลย์พันกันเป็นรูปแปลกตา

กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ลอยอยู่ในอากาศ

ทันใดนั้น…

พวกเขาพบกับสิ่งหนึ่ง

เป็นโขดหิน…ที่มีรอยขีดเขียนของมนุษย์

คำจารึกโบราณด้วยอักษรบางอย่างที่ไม่มีใครอ่านออก

และตรงพื้นเบื้องหน้า...คือรอยเท้า

รอยเท้าคน...และรอยเลื้อยของบางอย่าง

แบร์กตันทรุดลงดูใกล้ ๆ

เขาแตะพื้น ตรวจสอบรอยเท้า

“นี่ไม่ใช่พวกเราแน่...รอยเท้าผู้หญิง” เขากระซิบเบา ๆ แล้วหันไปสบตากับทุกคน

“นางอยู่ที่นี่จริง ๆ...นีร่า”

ทันใดนั้น ลมแรงพัดวูบ เปลวไฟจากคบเพลิงดับวูบในพริบตา

และเสียงหนึ่ง...ดังขึ้นจากความมืด

> “เจ้าคือผู้ล่า...หรือเหยื่อกันแน่?”

ทุกคนชะงัก

วินซ์ก้าวถอยหลัง ขณะที่ซินกรีดมีดเตรียมสู้

เสียงหัวเราะที่ไม่ได้มาจากคอคน ค่อย ๆ ลอยวนอยู่รอบพวกเขา

พวกเขารู้ในวินาทีนั้นว่า...สิ่งที่อยู่บนเกาะนี้

ไม่ได้มีแค่เงือกนีร่า

เขาหันกลับไปขึ้นเรือ ลูกเรือรีบตามหลัง

เสียงระฆังเรือดังขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางสายลมที่เริ่มเย็นยะเยือก

ค่ำคืนมืดมนคลืบคลานลงสู่ป่าแน่นหนาของเกาะร้าง

กลิ่นดินชื้น กลิ่นคราบเกลือ และอะไรบางอย่างที่คล้ายกลิ่นศพเริ่มโชยมาตามสายลม

คบเพลิงของโจรสลัดถูกจุดขึ้นอีกครั้งด้วยไฟจากหินเหล็กไฟ

แสงสีส้มวาบวับของมันฉาบเงาโหดเหี้ยมลงบนใบหน้าของแบร์กตันและลูกน้องทั้งห้า

พวกเขาไม่รู้เลย…ว่าในความมืดข้างทาง

บางสิ่งกำลังมองอยู่

“ข้าบอกแล้วว่าได้กลิ่นเน่า” บรอลบ่น “นี่มันไม่ใช่แค่กลิ่นซากปลาแน่…”

“เงียบ” ซินขู่เสียงแผ่ว มือจับมีดข้างขาแน่น “มีบางอย่างตามพวกเราอยู่ แต่ยังไม่ลงมือ”

แต่ในขณะที่ทุกคนระวังหน้า ระวังหลัง…

...ไม่มีใครหันไปมอง “ต้นไม้ใหญ่” ทางซ้ายมือ

มันคือไม้เก่าแก่ที่สุดต้นหนึ่งในบริเวณนั้น เปลือกไม้แตกเป็นเส้น

มีบางอย่างคล้ายรูปร่างมนุษย์ฝังแนบอยู่กับลำต้น บิดเบี้ยว เหมือนถูกหล่อรวมกับเนื้อไม้มาเป็นร้อยปี

ตาไม่มีลูกกระตา ปากอ้าค้าง แต่กลับมีไอหมอกสีดำค่อย ๆ รินออกมาจากรอยแยก

เดร็กซ์เป็นคนที่เดินตามหลังกองขบวน

เขายืนปัสสาวะข้างทางชั่วครู่ ก่อนจะหันกลับ…

แล้วเงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่เขาคิดว่าเป็น “รากไม้”

> “เฮ้…ต้นไม้นี่…หน้าตาแม่งเหมือนคน…”

ไม่ทันที่เสียงจะสิ้นสุด…

เสียง “ฉึก!” เงียบกริบ

มือดำทะมึนพุ่งฉับเข้าจับปากของเดร็กซ์จากด้านหลัง

ร่างของเขาถูกลากเข้าไปในลำต้นไม้เน่าเปื่อย

เสียงกระดูกหักดังกร๊อบในความเงียบ

เลือดหยดลงพื้น...

แต่ไม่มีใครได้ยิน

กลุ่มโจรสลัดที่เหลือเดินลึกเข้าไปโดยไม่มีใครรู้เลยว่า…

“เดร็กซ์หายไปแล้ว”

บนเปลือกไม้ ตรงจุดที่ร่างนั้นเคยหลอมรวม

บัดนี้กลายเป็นสองร่าง

และ “ต้นไม้ต้นนั้น”

ก็ค่อย ๆ กลืนน้ำลาย…เป็นเสียงครืดแผ่วเบา

เหมือนกับยังไม่อิ่ม

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #67 เมืองที่กำลังจะจม

    เสียงลมทะเลคำรามปะทะเรือซีฟินิกซ์ที่ถูกดึงออกจากท่า เจ้าชายฟลอเรสยืนตรงกลางลานกว้างของเมืองอควาเรียส ดวงตาของเขาเปล่งประกายความเด็ดเดี่ยวท่ามกลางแสงวาบวับของสายฟ้าที่กระชาก“ทุกคน! ฟังข้าให้ดี!” ฟลอเรสตะโกนเสียงก้องจนคำสั่งของเขาตัดผ่านเสียงคลื่นและพายุ “พายุใหญ่กำลังซัดเข้าใกล้เมืองของเรา!”เสียงตะโกนจากผู้คนแตกตื่น ชายหญิงและเด็กต่างหยุดทำกิจกรรมที่ทำอยู่ หันมาจ้องมองเขาด้วยความหวาดกลัวและรอคำสั่ง“อควาเรียสต้องไม่พังทลาย! พวกเจ้าทุกคนต้องเตรียมอพยพทันที!” ฟลอเรสเดินไปตามถนนสายหลักของเมือง มือยกขึ้นสั่งการ “ย้ายไปยังเขตปลอดภัยทางตะวันตก หลีกเลี่ยงชายฝั่งและพายุที่จะโหมกระหน่ำ”เสียงระฆังเตือนภัยดังกึกก้องทั่วเมือง ทหารและผู้รักษาความปลอดภัยรีบเข้าควบคุมสถานการณ์ ขณะที่ชาวเมืองรีบเก็บข้าวของจำเป็น พากันขึ้นเรือเล็กและแพไม้ไผ่ เพื่อไปยังที่มั่นปลอดภัยที่เจ้าชายสั่งไว้“อย่าลืม! ทุกคนที่อาจช่วยกันได้ จงอยู่เป็นกลุ่ม! ช่วยเหลือกันและกัน!” ฟลอเรสสั่ง พร้อมหันมองฟ้าครึ้มที่เริ่มปกคลุมไปด้วยเมฆดำทมิฬ เสียงคำรามของพายุและคลื่นยักษ์ก่อตัวเป็นสัญญาณเตือนภัยสุดอันตราย“คืนนี้…เราจะไม่ปล่อยให้อ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #66 ตำนานของราชวงศ์

    ลมทะเลพัดกลิ่นเกลือและควันไฟเข้ามาในตรอกแคบๆ ที่เต็มไปด้วยเสียงสลับระหว่างนักดนตรีเร่กับคนเมาหัวเราะ อีธานสวมเสื้อคลุมหนา ดึงฮู้ดปิดหน้า ลอบเดินผ่านผู้คนไปจนถึงหน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์หินสีขาวที่มีตราสัญลักษณ์ “ดอกบัวคราม”ยามสองคนไขว้หอกขวางทาง “ไม่มีนัดหมาย ห้ามเข้า”อีธานยื่นตราประทับโลหะที่สลักเป็นรูปดาบไขว้เหนือคลื่น “บอกเจ้าชายฟลอเรสว่า อีธานแห่งวาลคีร์ มาขอพบ และนี่คือเรื่องเกี่ยวกับสมบัติแห่งมหาสมุทร”ยามสบตากันเล็กน้อย ก่อนจะส่งสัญญาณ เปิดประตูให้เขาเข้าไปในห้องโถงหินอ่อนแสงจากคบเพลิงสะท้อนกับกระจกสี ทำให้เงาร่างของชายผู้กำลังนั่งบนบัลลังก์ไม้แกะสลักดูยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิม — เจ้าชายฟลอเรส สวมเกราะเงินบางๆ และผ้าคลุมยาวสีกรมเข้ม ดวงตาคมกริบสีฟ้าเหมือนน้ำลึก“นานเท่าไหร่แล้ว…ที่เจ้ามาเยือนโดยไม่ส่งสาส์น” ฟลอเรสเอ่ยเสียงเรียบ แต่แฝงความระแวงอีธานค้อมหัว “ข้าไม่มีเวลาส่งสาส์น ที่จริง…ข้าแทบไม่มีเวลาเหลือเลย”ฟลอเรสเลิกคิ้ว “พูดมา”อีธานก้าวเข้าใกล้ ดึงแผนที่ผืนเก่าออกมา วางลงบนโต๊ะตรงหน้า จุดหนึ่งบนแผนที่มีรอยไหม้รูปวงกลม และเส้นลายมือวิ่งออกจากมันไปยังหลายทิศทาง“ราชินีเซอร์เพ็

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #65 ราชินีดำ

    คลื่นยักษ์ซัดกระแทกเข้าด้านข้างราวกับมีภูเขาน้ำถล่มลงมา นีร่าพยายามยืนหยัดบนแผ่นไม้ลอย แต่ทันใดนั้น เงาดำสองสายพุ่งขึ้นจากความมืดใต้ผิวน้ำ ราวกับลูกศรที่ยิงจากนรกฉัวะ! กรงเล็บแหลมของเงือกนักรบปักลงบนแขนเธอ เลือดอุ่นไหลออกผสมกับน้ำทะเลเย็นเฉียบ ดรานตะโกนชื่อเธอ แต่ไม่ทัน — อีกตัวโอบรัดรอบเอว ลากเธอดิ่งลงไปใต้ผิวน้ำอย่างรวดเร็วเสียงทะเลถูกแทนที่ด้วยเสียงหัวใจเต้นโครมครามในหัวของนีร่า โลกกลายเป็นสีฟ้ามืดขุ่นเต็มไปด้วยฟองน้ำและเงาที่ไหวไปมา เงือกนักรบสองตัวเคลื่อนไหวเร็วราวสายฟ้า กล้ามเนื้อแขนแข็งราวกับเหล็ก บังคับเธอให้ผ่านช่องหินใต้น้ำคาเอลพุ่งตามลงมา แทงหอกสั้นใส่หนึ่งในนั้น เลือดสีฟ้ากระจายเป็นหมอกในน้ำ แต่เงือกอีกตัวฟาดหางกระแทกเขาจนกระดูกดัง กร๊อบ คาเอลลอยกระเด็นไปกระแทกหิน ดรานดำน้ำตามแต่ถูกฝูงเงือกเสริมกำลังเข้าขวางเป็นชั้นๆนีร่าพยายามดิ้น เธอกัดฟันบังคับร่างให้ไม่กลืนมากเกินไป แต่น้ำเค็มก็เริ่มแทรกเข้าปอด ลูกแก้วในมือส่องสว่างแรงขึ้นจนแทบเผามือ เงือกที่จับเธอเหลือบตามองแสงนั้นและยิ้มเยาะ “ราชินีของเรา…จะดีพระทัยมาก” เสียงมันดังในหัวราวกับพูดผ่านน้ำช่องหินเปิดออกสู่โพรงมหึมาท

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #64 ความร่วมมือ

    คลื่นกลางคืนซัดกระแทกตัวเรือรบขนาดมหึมาที่โคลงเคลงไปมากลางท้องทะเล แสงตะเกียงน้ำมันเรียงรายบนดาดฟ้าเหมือนดวงดาวลอยอยู่บนผืนน้ำ เสียงโซ่และล้อหมุนของปืนใหญ่หมุนเข้าที่ดัง ครืด…ครืด… ผสมกับเสียงตะโกนของลูกเรือที่เร่งเตรียมศึกกัปตันแบร์กตัน — ชายร่างสูงใหญ่ ผิวกร้านจากเกลือทะเล ดวงตาข้างหนึ่งปิดด้วยที่ปิดตาหนังฉลาม — ยืนเท้ากับหัวเรือ เขามองไปทางทิศตะวันตกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวงผู้ช่วยส่วนตัวรีบวิ่งขึ้นมารายงาน “ท่านกัปตัน! ข่าวจากฝั่งตะวันออก…มีการเคลื่อนไหวของพลังโบราณในเขตวิหารใต้ทะเล”แบร์กตันหรี่ตา “เป็นข่าวจริงหรือข่าวลวง?”ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย “คนของเราที่ประจำหมู่เกาะดานวินยืนยันแล้ว เห็นแสงจากใต้ทะเล…และน้ำปั่นวนเหมือนมีอะไรตื่นขึ้น”แบร์กตันไม่พูดอะไร เขาหันไปมองกลุ่มคนที่กำลังขึ้นเรืออีกลำ — กลุ่มชายหญิงในชุดเกราะสีเงินขลิบทอง มีตราสัญลักษณ์ดาบบนอก ผู้นำของกลุ่มนั้นก้าวออกมา — “ผู้รักษากฎ” หญิงผมยาวสีดำขลับ ดวงตาสีเทาเย็นเฉียบ เธอชื่อ เซเลน่า เสียงเธอดังก้องเหนือเสียงคลื่น“กัปตันแบร์กตัน…พลังที่ตื่นขึ้นคือ ‘ผู้ถือสมดุล’ หากปล่อยให้ตกอยู่ในมือผิดคน มหาสมุทรจะลุกเป็นไ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #63 ไฟสงครามของราชินี

    เสียงหยดน้ำจากเพดานสูงหยดลงแอ่งน้ำดัง ติ๋ง...ติ๋ง แต่แล้วเสียงนั้นก็ถูกกลบด้วยเสียงครืดๆ เหมือนโซ่เหล็กถูกลากไปตามหินดรานยกดาบขึ้นพร้อมคำรามต่ำ “พวกมันมาแล้ว”เงามืดตรงทางเข้าขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของเงือกพิทักษ์เกราะปะการัง ดวงตาสีแดงเรืองแสง และแหลมขวานหินยาวเกือบครึ่งตัว มันไม่มาเพียงตัวเดียว — เบื้องหลังยังมีอีกสองร่างโผล่ตามมาเป็นปีกซ้ายขวาคาเอลกลืนน้ำลาย “บอกข้าเถอะว่าพวกนั้นแค่มาแจกโบรชัวร์ต้อนรับ ไม่ใช่มาหั่นพวกเรา”นีร่าก้าวขึ้นหน้า พลังจากลูกแก้วที่สลายไปยังวนเวียนรอบตัวเธอ น้ำรอบเท้าเริ่มสั่นเป็นวงคลื่น “เราต้องออกไปจากที่นี่ก่อนที่ทางออกจะถูกปิด”“ปิด?!” คาเอลเงยหน้ามองรอยแยกเหนือเพดานที่เริ่มมีเศษหินร่วง “เดี๋ยวนะ! ข้าพึ่งล้างผมเมื่อเช้า!”เสียงคำรามของเงือกพิทักษ์ก้องสะท้อนทั่ววิหาร พวกมันพุ่งลงน้ำแล้วโผล่ขึ้นตรงทางเดินกลางน้ำด้วยความเร็วราวกับฉลามดรานปัดการโจมตีของตัวแรก ดาบกระทบขวานจนประกายไฟกระจาย “นีร่า! ใช้พลังของเจ้าซะ!”เธอหลับตา มือทั้งสองกวาดขึ้น — น้ำจากแอ่งดำพุ่งขึ้นกลายเป็นผนังน้ำขวางทาง แต่แรงของพวกมันก็ทุบทะลุจนผนังแตกกระจายเป็นฝ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #62 กำเนิดราชินีองค์ใหม่

    อุโมงค์หินใต้ดินคดเคี้ยวและแคบจนแทบต้องคลาน รอยสลักเวทมนตร์เรืองแสงสีน้ำเงินริบหรี่เป็นระยะ แสงจากเปลวไฟพกพาทำให้เงาทั้งสามยาวยืดบนผนังเหมือนปีศาจในตำนานคาเอลหอบเบาๆ ขณะคลานตามหลังดราน “อย่าเข้าใจผิดนะ ข้าไม่กลัวที่มืด...แค่ไม่ค่อยถูกกับที่ที่ มีอะไรดุกว่าข้าอยู่ข้างหน้า เท่านั้นเอง”“เงียบหน่อย” ดรานสบถเบาๆ “เสียงสะท้อนมันดังไกลมากที่นี่”“โอเค โอเค ข้าจะเงียบ…หลังจากบอกว่าเข่าข้าไปบี้หอยที่พื้นนี่เข้าแล้วแน่ๆ มันแหลมเหมือนมีความแค้น!”นีร่าอดหัวเราะไม่ได้ “นี่ถ้าติดเกราะเหมือนเงือกที่เมืองใต้น้ำ คงรอดหอยได้ล่ะมั้ง”คาเอลยักคิ้วให้ทั้งคู่ แม้ในความมืด “พวกนั้นเกล็ดหนา ฉันแค่...บางกว่า นุ่มกว่า เรียกได้ว่าเป็นเงือกฉบับขนมปังปิ้ง”ดรานหลุดขำจมูก “เงือกขนมปังปิ้งเนี่ยนะ”“ใช่ และขนมปังปิ้งจะพาคุณรอดจากความตายได้ทันใดนั้น แผ่นหินใต้เท้าพังครืดลง! ทั้งสามร่วงลงไปในโพรงเบื้องล่าง ก่อนจะกระแทกพื้นน้ำตื้นเสียงดัง ซ่า!นีร่าดีดตัวลุกขึ้นก่อน มือลูบน้ำออกจากตา “ทุกคนปลอดภัยไหม!?”“ขาอยู่ แขนอยู่” ดรานคราง“ข้าเจอน้ำ...แล้วก็หอยอีก” คาเอลพูดพลางดีดเปลือกหอยออกจากคอเสื้อ “เอาจริงนะ—ข้าเริ่มคิด

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status