Home / โรแมนติก / SiRen เงือกสาว ผจญภัย / #71 ค่ำคืนที่เงียบสงบ

Share

#71 ค่ำคืนที่เงียบสงบ

last update Last Updated: 2025-08-11 11:39:53

เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นท่ามกลางสายลมทะเล ฟลอเรสเดินไปหาเอเรนที่กำลังจัดเก็บเครื่องมืออย่างขะมักเขม้น แต่สายตากลับดูเหนื่อยล้า

“เอเรน เจ้าเคยคิดไหม ว่าเราจะยังได้เห็นแสงแดดอีกนานแค่ไหน?” ฟลอเรสถาม

เอเรนหันมายิ้มบางๆ “ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากเห็นมันอีกนานๆ แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดจนกว่าจะหมดลมหายใจ”

ฟลอเรสหัวเราะ “คำพูดเจ้าโหดร้ายยิ่งกว่าปลาหมึกยักษ์อีกนะ”

เอเรนขมวดคิ้ว “อย่าแหย่ข้านักล่ะ!”

เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ ทำให้บรรยากาศที่เคยเครียดค่อยๆ ผ่อนคลายลง ลูกเรือคนอื่นก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ทั้งเรื่องข่าวสาร เรื่องตลกเล็กๆ หรือเรื่องบ้านเกิดที่แต่ละคนคิดถึง

มาเรียเดินมาหาฟลอเรสพร้อมถือลูกอมในมือ “นี่เจ้า ต้องใช้พลังงานนะ จะได้ไม่หมดแรง”

ฟลอเรสรับลูกอมมาแล้วอมไว้ในปาก “ขอบใจเจ้า นี่แหละที่ทำให้ข้ายังเดินต่อไปได้”

จู่ๆ เสียงร้องหัวเราะดังมาจากมุมเรือ ใครบางคนกำลังเล่นเกมทายคำกับลูกเรือคนอื่นๆ ทำให้หลายคนหยุดงานมาช่วยกันเล่น

ฟลอเรสเดินไปดู พบว่าเป็นบรรยากาศที่พวกเขาแทบลืมไปว่ากำลังอยู่กลางทะเลที่เต็มไปด้วยอันตราย

“ถ้าพวกเจ้าลืมเรื่องร้ายๆ สักพัก ข้าก็ยินดี” ฟลอเรสพูด พลางมองไปยังฟ้าสว่างที่เริ่มแจ่มใสขึ้น

แต่ในใจของเขาเอง ยังคงเตือนตัวเองว่าความสงบนี้อาจเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่พายุครั้งใหม่จะมาถึง

“พรุ่งนี้… ข้าจะต้องเตรียมพร้อมให้มากกว่าเดิม” ฟลอเรสบอกกับตัวเอง

ฟ้าสว่างเต็มที่อีกครั้ง ลมทะเลพัดเบาๆ เหมือนเป็นคำสัญญาว่า พวกเขาจะยังไม่ยอมแพ้ แม้จะต้องเผชิญกับอันตรายที่รออยู่ในความมืดของทะเลก็ตาม

ท้องฟ้าเริ่มสว่าง แต่ความสงบนี้กลับไม่ยาวนานนัก ทันใดนั้น ฝั่งทิศตะวันออกเกิดเงาเรือเล็กแล่นเข้ามาในระยะที่เห็นได้ชัด ไอล่าพายเรือไม้ลำเล็กมาพร้อมกับคนจากหมู่บ้านอีกสามสี่คน ทุกคนแต่งตัวเรียบง่ายแต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เอเรนที่ยืนอยู่หัวเรือ หันไปมองด้วยสายตาประหลาดใจ “นั่นเรือของไอล่าใช่ไหม?”

ฟลอเรสก็หันตามเสียง “ทำไมเธอถึงตามมาได้?”

อีธานที่ยืนอยู่กลางลำเรือ ใบหน้าขึงขังเกร็งทันที “ข้าไม่คิดเลยว่าไอล่าจะตามพวกเราได้… มันเสี่ยงเกินไป”

เสียงพายกระทบผืนน้ำดังเป็นจังหวะชัดเจน เมื่อเรือเล็กแล่นเข้ามาใกล้มากขึ้น ไอล่าพายเรือมาจนถึงด้านข้างของซีฟินิกซ์ เธอยกมือทักทายเล็กน้อย ดวงตาแฝงความกังวลแต่แน่วแน่

“ข้าเห็นพวกเจ้ากำลังสู้กับสัตว์ร้ายในทะเล ไม่คิดว่าเจ้าจะรอดมาได้” ไอล่าพูดเสียงนิ่ง “หมู่บ้านส่งคนมาช่วยเจ้า ข้าตามมาเพื่อช่วยพวกเจ้า”

อีธานก้าวไปยังขอบเรือ “ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจ้า ขอบใจที่มา แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย”

ฟลอเรสจับมือไอล่าไว้แน่น “ถ้ามาได้แล้ว เจ้ายังไงก็คือเพื่อนของพวกเรา”

เอเรนหันไปพูดกับคนในหมู่บ้าน “เร็วเข้า! ลงเรือมาช่วยพวกเราซ่อมแซมและเตรียมพร้อมรับมือพวกสัตว์ร้ายอีกครั้ง”

เสียงพูดคุยและการเคลื่อนไหวเริ่มวุ่นวายขึ้นบนเรือเล็กและเรือซีฟินิกซ์ พร้อมกับความหวังและความกังวลปะปนกันไป

อีธานมองไปที่ไอล่าอย่างจริงจัง “เจ้าต้องระวังตัวเองด้วย ที่นี่ไม่ใช่ที่ปลอดภัย”

ไอล่ายิ้มบางๆ “ข้ารู้ดี แต่ข้าไม่ยอมทิ้งพวกเจ้าไว้กลางทะเลนี้แน่”

ฟลอเรสถอนหายใจอย่างโล่งใจ “มีเจ้าอยู่ด้วย พวกเราน่าจะมีโอกาสมากขึ้น”

ไฟจากตะเกียงและกองไฟเล็กๆ กลางลำเรือสาดแสงอ่อนๆ เป็นวงกลมอบอุ่น ลูกเรือหลายคนรวมกลุ่มกันหุงหาอาหาร ทำกับข้าวง่ายๆ จากเสบียงที่เหลืออยู่

เสียงกระทบของหม้อและเสียงหัวเราะเบาๆ ผสมผสานกับเสียงคลื่นซัดสาดเบาๆ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น แม้ความเหน็ดเหนื่อยจะยังคงชัดเจนในแววตาของทุกคน

คนหนึ่งตักข้าวใส่จาน พลางพูดกับอีกคนว่า “คืนนี้คงได้นอนหลับสบายเสียทีนะ”

อีกคนพยักหน้า “ขอแค่ไม่เจอสัตว์ประหลาดกลางดึกอีกก็ดี”

ในขณะที่ลูกเรือคนอื่นทยอยเข้าพัก ฟลอเรสและไอล่ายังคงนั่งอยู่ริมเรือ ใกล้กับเสาที่ยังเหลือความอบอุ่นจากไฟที่ลุกโชนไม่มากนัก

ฟลอเรสหันไปมองไอล่า “เจ้าพักผ่อนบ้างเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางไกล”

ไอล่ายิ้มอ่อน “ข้ายังไม่ง่วง ข้าอยากคุยกับเจ้าสักพัก”

ฟลอเรสเลิกคิ้ว “เรื่องอะไร?”

ไอล่ามองไปยังผืนน้ำมืด “ข้าแค่...อยากรู้ว่า เจ้ามีอะไรอยู่ในใจ หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้”

ฟลอเรสถอนหายใจ “ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ ข้ารู้แค่ว่า ทะเลนี้ไม่ใช่แค่สถานที่ธรรมดาอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยความลับและอันตรายที่เราไม่เข้าใจ”

ไอล่าพยักหน้า “ใช่ ข้าเองก็รู้สึกเหมือนกัน”

ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วครู่ ก่อนที่ฟลอเรสจะถามอย่างระมัดระวัง “เจ้าคิดว่าเราจะอยู่รอดได้ไหม?”

ไอล่าหัวเราะเบาๆ “ข้าไม่รู้หรอก แต่ข้ารู้ว่าถ้าเราไม่ยอมแพ้ ยังไงก็ต้องมีทางออก”

ฟลอเรสยิ้มบางๆ “คำพูดของเจ้าทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น”

เสียงคลื่นกระทบเรือยังคงซัดเบาๆ เป็นเพลงกล่อมบรรเลงให้คืนนี้ผ่านไปช้าๆ แต่ในใจของทั้งสอง พายุในอนาคตก็ยังรอคอยอยู่ไม่ไกล

ฟลอเรสกับไอล่านั่งพิงเสารองเรือ ฟังเสียงคลื่นเบา ๆ ที่ซัดกระทบเรืออย่างไม่หยุดยั้ง

“เจ้าเคยคิดไหมว่า… ถ้าเรารอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้จริง ๆ ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร” ไอล่าถามเสียงนุ่ม

ฟลอเรสเงียบไปสักครู่ ก่อนตอบ “ข้าเคยฝันอยากอยู่ในที่สงบ ๆ ไม่มีสงคราม ไม่มีสัตว์ร้าย ไม่มีความหวาดกลัวแบบนี้”

“ข้าก็เช่นกัน” ไอล่ายิ้มบาง ๆ “แต่บางทีมันก็เหมือนโชคชะตาพาเรามาเจอกับเรื่องแบบนี้ เพื่อให้เราเข้มแข็งขึ้น”

ฟลอเรสหันไปมองไอล่า ใบหน้าของเธอในแสงจาง ๆ ดูสงบนิ่งแต่แฝงด้วยความกล้าหาญ “เจ้ากล้าหาญกว่าที่ข้าคิดไว้มาก”

ไอล่าหัวเราะ “ถ้าไม่กล้า ข้าคงไม่ยอมตามเจ้ามาไกลขนาดนี้”

“ขอบใจที่มาอยู่ข้างข้า” ฟลอเรสพูดเสียงเบา

“ข้าจะอยู่ข้างเจ้าเสมอ” ไอล่าตอบอย่างจริงใจ

ทั้งสองคนเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่ฟลอเรสจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง “พรุ่งนี้…เราจะต้องเข้มแข็งและพร้อมสำหรับทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”

ไอล่าพยักหน้า “ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #76 พ้นความตาย

    น้ำรอบตัวเงียบ…เงียบจนหัวใจของดรานเต้นดังราวกับเสียงกลองในโถงก้อง ราชินีใต้น้ำค่อย ๆ ลอยลงจากบัลลังก์ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนฝัน แต่ดวงตานั้นคม และแน่นิ่งพอจะทำให้เขาลืมหายใจ“เจ้ามีดวงตาของคนที่เคยทรยศทะเล” เธอเอ่ย เสียงเหมือนกระซิบข้างหูแต่แทรกเข้ามาในหัวโดยตรงดรานขยับดาบขึ้น…แต่ร่างกลับหนักเหมือนถูกมัดด้วยโซ่มองไม่เห็น น้ำรอบขาเขาหมุนวนเป็นเกลียวสีดำแล้วค่อย ๆ ดึงเขาลงไปช้า ๆนีราร้อง “ดราน! อย่าให้เธอมองตา!”สายเกลียวสีดำพันขึ้นมาถึงเอว ดรานฟันลงไป แต่ดาบกลับทะลุผ่านราวกับฟันเงา ราชินีลอยเข้ามาใกล้จนผมยาวของเธอพันกับแขนเขาเย็นเหมือนน้ำแข็ง และริมฝีปากนั้นกระซิบเพียงคำเดียว“นอน…”ดวงตาของดรานค่อย ๆ ปิด เสียงทุกอย่างหายไป ร่างเขาเริ่มหย่อนวูบเหมือนร่างไร้วิญญาณคาเอลกับนีร่าพุ่งเข้ามา แต่คลื่นแรงมหาศาลปะทุขึ้นจากราชินี โถงทั้งโถงกลายเป็นพายุหมุนที่ผลักพวกเขากระเด็นออกไปติดผนังหินราชินีเงยหน้าขึ้น ดวงตาสว่างวาบ เตรียมจะดึงวิญญาณของดรานเข้าสู่ความว่างนิรันดร์ฟุ่บ!เงาสองร่างพุ่งจากด้านบนของโถงน้ำเหมือนลูกศร เสียงโลหะเฉือนน้ำแหลมสูง อีธานใช้แรงน้ำหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนดาบใหญ่ของเ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #75 ผู้ใดหลงเข้ามา ผู้นั้นจะไม่มีชีวิตกลับออกไป

    ความมืดกลืนทุกสีและทุกเส้นเงา เหลือเพียงประกายจาง ๆ จากหอกของนีรากับดวงตาหลายคู่ของสัตว์เกราะใต้ทะเลที่ยังขยับช้า ๆ แต่มั่นคงเสียงแหวกน้ำมาจากรอบทิศ ไม่ใช่เสียงเดียว…แต่เป็นหลายสิบ หลายร้อย แทรกอยู่ในคลื่นหัวใจของทุกคน คาเอลกำมีดแน่นจนข้อนิ้วซีด เขาพยายามเพ่งมองหาเงาแต่สิ่งเดียวที่เห็นคือน้ำที่ขุ่นขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนมีอะไรคนมันจากทุกด้าน“มันกำลังไล่ต้อนเรา” แบร์กตันกระซิบ ทั้งที่รู้ว่าเสียงคงไม่ช่วยพรางจากสิ่งมีชีวิตที่ใช้คลื่นน้ำเป็นหูทันใดนั้น สิ่งหนึ่งพุ่งเข้ามาจากมืดด้านบน มันเร็วเกินจะเห็นรูปร่างชัด คาเอลปัดออกด้วยมีดแต่แรงปะทะกลับทำให้เขาหมุนควงกลางน้ำ ดรานคว้าข้อมือเขาดึงกลับมาด้วยแรงพอให้รู้ว่า ถ้าพลาดแม้เพียงครั้งเดียว พวกเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นเสียงของราชินีดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ชัดและใกล้เหมือนอยู่ข้างหู"หัวใจของเจ้าจะเต้นถึงกี่ครั้ง… ก่อนที่มันจะหยุด"นีร่าข่มใจแล้วตะโกน “แบร์กตัน! มีทางออกไหม?”ชายแก่ชี้ไปยังผนังฝั่งซ้าย “มีโพรงแคบหลังเสาหินนั่น! แต่ต้องเสี่ยงวิ่งผ่านพวกมันทั้งหมด!”เหมือนคำพูดยังไม่ทันหมด ฝูงเงาก็พุ่งออกจากความมืด—เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายปลากระโทงครีบขาดเก

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #74 เผชิญหน้ากับความตาย

    สายฝนหยุดลงเพียงชั่วคราวเหมือนฟ้าต้องการให้พวกเขาเคลื่อนตัวต่อ แบร์กตันม้วนแผนที่เก็บอย่างระวัง เสียงน้ำหยดจากกิ่งไม้ดังเป็นจังหวะเหนือหัว คาเอลยกถุงเสบียงขึ้นพาดบ่า “เอาล่ะ ไปเจอมังกรยักษ์ของราชินีกัน”นีร่าไม่ได้ตอบ เธอกำลังคิดถึงสัญลักษณ์รูปตาที่ติดบนแผนที่ เส้นรัศมีสามเส้นที่แผ่ออกมาราวกับกำลังจับจ้องคนมองกลับ—มันให้ความรู้สึกเหมือนสิ่งนั้นกำลัง ‘มอง’ เธออยู่จริง ๆเส้นทางลัดของแบร์กตันพาพวกเขาเลาะไปตามเนินหินที่ชื้นและเต็มไปด้วยเถาวัลย์สีดำ รากไม้บิดเกลียวเหมือนงูคอยเกี่ยวข้อเท้าผู้บุกรุก เสียงคลื่นเบื้องล่างค่อย ๆ จางลง เหลือเพียงเสียงน้ำหยดและสายลมพัดผ่านโพรงหินเมื่อข้ามโขดหินใหญ่ด้านหน้า พวกเขาก็มองเห็นทะเลสาบกว้างเงียบสนิทอยู่กลางป่า ผิวน้ำดำราวกระจกที่ดูดซับแสงทั้งหมด ไร้คลื่น ไร้แม้แต่เสียงกบร้องแบร์กตันหยุดแล้วพูดเสียงต่ำ “นั่นคือ ‘ประตูกลางน้ำ’… ทางลงสู่รังของราชินี”คาเอลย่นคิ้ว “แล้วเราจะลงไปยังไง? ว่ายลงไปแล้วเคาะประตูหรือ?”“มันมีทางเดินใต้น้ำ” แบร์กตันชี้ไปที่ผนังหินริมทะเลสาบ “แต่ต้องกลั้นลมหายใจนานพอควร ”นีร่าเอาหอกเคาะพื้นเบา ๆ “เรามีทางเลือกอื่นไหม”แบร์กตันส่

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #73 เเผนที่นำไปสู่หายนะ

    เพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันของแบร์กตันที่ไหววูบตามจังหวะลม พวกเขาเดินเลาะชายป่า เสียงคลื่นเริ่มถูกแทนที่ด้วยเสียงแมลงยามค่ำ “ทางนี้มันดู… ไม่ค่อยเป็นมิตรนะ” คาเอลกระซิบ พลางมองไปทางพุ่มไม้ที่ไหวอย่างไร้ลม “เจ้าคิดว่ามีอะไร” ดรานถาม คาเอลยกไหล่ “อาจจะเป็นเสือ… หรือแค่กระรอกตัวใหญ่พิเศษที่ชอบแทะหัวคน” แบร์กตันหยุดกะทันหัน ยกมือเป็นสัญญาณให้เงียบ ทุกคนก้มลงตามสัญชาตญาณ เสียง “ซ่า…” ดังจากโคลนเบื้องหน้า ราวกับมีอะไรลากตัวผ่านน้ำตื้น จากเงามืดนั้น ร่างบางอย่างโผล่ขึ้น—ไม่ใช่สัตว์บนบก แต่เป็นสิ่งที่มีเกล็ดเงินแวววาว และแขนยาวเกินมนุษย์ ดวงตากลมโตราวลูกแก้วจับจ้องพวกเขา ก่อนที่มันจะส่งเสียงแหลมก้อง ราวกับโลหะขูดกัน “เฮ้… มีเพื่อนมาทักทายแล้ว” คาเอลพึมพำ แต่เสียงสั่นนิด ๆ “เจ้านี่… ไม่ใช่กระรอก” สิ่งนั้นกระโจนพุ่งใส่ทันที! ดรานชักดาบต้านไว้ เสียงโลหะปะทะเกล็ดดัง ก๊อง! แต่แรงกระแทกทำเอาเขาถอยไปสองก้าว นีร่าใช้หอกสั้นฟันสวน แต่โดนเพียงปลายแขนเกล็ดที่แข็งราวเหล็ก แบร์กตันสบถเบา ๆ ก่อนจะขว้างตะเกียงใส่ มันแตกเป็นเปลวไฟกระจายบนโคลน สิ่งนั้นกรีดร้องลั่น ถอยกลับไปในเงามืด—แต่เสียงเคลื่อน

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #72 ร่วมมือเพื่อโค่นราชินีดำ

    ผืนทรายชื้นเย็นของชายฝั่งเกาะเงียบงันรับร่างของนีร่าที่ล้มลงคว่ำ หน้าอกกระเพื่อมแรงจากการหอบหายใจ ดรานและคาเอลตามมาติด ๆ ทั้งคู่เปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า น้ำเกลือกัดผิวจนแสบดรานทรุดนั่งพิงตอไม้ใหญ่ “ข้า… แทบเดินไม่ไหวแล้ว” เสียงแหบพร่า แววตาขุ่นมัวด้วยความเหนื่อยล้าคาเอลนั่งลงข้าง ๆ พลางหัวเราะเบา ๆ แบบติดตลกแม้จะหมดแรง “ถ้าเจอปลาหมึกยักษ์อีก ข้าจะยอมให้มันกลืนไปเลย… อย่างน้อยคงไม่ต้องทนหิวแบบนี้”นีร่ามองทั้งสองด้วยสายตาหนักแน่น แต่แฝงความกังวล “เราต้องหาอะไรกินเดี๋ยวนี้ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ พวกเจ้าจะหมดแรงจนเดินไม่ไหว”รอบตัวมีเพียงป่าโปร่งที่ทอดยาวขึ้นไปบนเนิน กลิ่นดินชื้นและใบไม้ปนกับกลิ่นไอทะเล ลมพัดเอาเสียงบางอย่างมาจากในป่า คล้ายเสียงกิ่งไม้แตกเป็นระยะดรานพยายามยันตัวขึ้นยืน “อาหาร… น้ำจืด… อะไรก็ได้”คาเอลเหลือบมองไปรอบ ๆ “ข้าเห็นอะไรเป็นเงา ๆ ตรงโน้น อาจจะเป็นหมู่บ้าน หรือไม่ก็…” เขาหยุดพูดก่อนจะยิ้มมุมปาก “ก็อาจจะเป็นกับดักของพวกที่เราไม่รู้จัก”นีร่าเม้มปากแน่น “ถ้ามันเป็นกับดัก เราก็จะได้รู้ก่อนที่เราจะอดตาย”ทั้งสามคนค่อย ๆ เดินตามเส้นทางทรายที่เริ่มกลายเป็นดินโคลน ใบ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #71 ค่ำคืนที่เงียบสงบ

    เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นท่ามกลางสายลมทะเล ฟลอเรสเดินไปหาเอเรนที่กำลังจัดเก็บเครื่องมืออย่างขะมักเขม้น แต่สายตากลับดูเหนื่อยล้า“เอเรน เจ้าเคยคิดไหม ว่าเราจะยังได้เห็นแสงแดดอีกนานแค่ไหน?” ฟลอเรสถามเอเรนหันมายิ้มบางๆ “ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากเห็นมันอีกนานๆ แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดจนกว่าจะหมดลมหายใจ”ฟลอเรสหัวเราะ “คำพูดเจ้าโหดร้ายยิ่งกว่าปลาหมึกยักษ์อีกนะ”เอเรนขมวดคิ้ว “อย่าแหย่ข้านักล่ะ!”เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ ทำให้บรรยากาศที่เคยเครียดค่อยๆ ผ่อนคลายลง ลูกเรือคนอื่นก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ทั้งเรื่องข่าวสาร เรื่องตลกเล็กๆ หรือเรื่องบ้านเกิดที่แต่ละคนคิดถึงมาเรียเดินมาหาฟลอเรสพร้อมถือลูกอมในมือ “นี่เจ้า ต้องใช้พลังงานนะ จะได้ไม่หมดแรง”ฟลอเรสรับลูกอมมาแล้วอมไว้ในปาก “ขอบใจเจ้า นี่แหละที่ทำให้ข้ายังเดินต่อไปได้”จู่ๆ เสียงร้องหัวเราะดังมาจากมุมเรือ ใครบางคนกำลังเล่นเกมทายคำกับลูกเรือคนอื่นๆ ทำให้หลายคนหยุดงานมาช่วยกันเล่นฟลอเรสเดินไปดู พบว่าเป็นบรรยากาศที่พวกเขาแทบลืมไปว่ากำลังอยู่กลางทะเลที่เต็มไปด้วยอันตราย“ถ้าพวกเจ้าลืมเรื่องร้ายๆ สักพัก ข้าก็ยินดี” ฟลอเรสพูด พลางมองไปยังฟ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status