Beranda / แฟนตาซี / Undisclosure / บ้านมิลเลอร์

Share

บ้านมิลเลอร์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-12 13:30:13

“บอกแล้วไงเอดี้ ฉันไม่อยากไปไหนทั้งนั้น ไม่มีอารมณ์ ไม่เข้าใจหรือไง” อเล็กซิสโต้ตอบกับเพื่อนสนิทผ่านโทรศัพท์บ้าน

“ไปเถอะนะ เธอต้องเจอเพื่อนบ้างนะอเล็กซ์ จะเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่กับบ้านไม่ได้เด็ดขาด นะ ๆ ฉันไปด้วยเหมือนกัน” เพื่อนสาวขอร้อง

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะนิสัยช่างตื๊อของเอโลดี้ อเล็กซิสจึงจำเป็นต้องตอบตกลงไปงานปาร์ตี้ที่บ้านของเวด มิลเลอร์ทั้งที่ไม่ได้เต็มใจอยากไป เพื่อนกับเหล้า อันไหนจะช่วยให้ฉันเลิกคิดเรื่องบ้า ๆ ในหัวได้ดีกว่ากันนะ

หลังจากวันนั้น วันที่อเล็กซิสจับได้ว่าเดวี่นอกใจเธอ เขาคอยโทรมาหาเธอเกือบทุกชั่วโมง ในวันถัดมา เดวี่มาหาที่บ้านอีกครั้ง อเล็กซิสจึงตัดสินใจบอกเลิกอย่างเป็นทางการ รวมทั้งยอมฟังคำขอโทษเพื่อจบทุกอย่างให้สมบูรณ์ แม้ยังรักเดวี่มากอยู่เต็มหัวใจ แต่ก็ไม่เหลือความไว้วางใจในตัวเขาแล้ว หนำซ้ำอาการช้ำในยังสาหัสอยู่มาก เธอทำใจคบต่อกับเขาไม่ได้ ทว่าทั้งที่บอกเลิกเดวี่ไปแล้ว เขากลับยังปรากฏตัวในความฝันของเธอเสมอ มันน่าสมเพชที่เธอยังอยากที่จะฝันถึงเขา เพราะในความฝัน เธอลืมไปว่าทั้งสองเลิกกันไปแล้ว เธอชอบฝันเรื่องคืนงานพรอมที่ผ่านมา อเล็กซิสคิดว่ามันอาจจะมาจากความรู้สึกผิดที่คอยหลอกหลอนตัวเธออยู่ แต่มันเป็นความรู้สึกผิดที่เกิดจากการตัดสินใจบนความพอใจของตัวเอง เพราะอเล็กซิสพร้อมใจที่จะทำในสิ่งนั้น ทั้งที่รู้ว่าพ่อและแม่ไม่มีทางเห็นด้วย

สิ่งที่ทำให้อเล็กซิสรู้สึกแย่ยิ่งกว่าการเลิกกับเดวี่ก็คือ จูน เพื่อนสาวเลือกที่จะเงียบหายไป อดีตเพื่อนรักไม่โทรหา ไม่มาขอโทษ ไม่แม้แต่สารภาพผิด หรือทำอะไรทั้งนั้น ตั้งแต่วันนั้น จูนที่

อเล็กซิสรู้จักหายเข้าไปในหลุมดำ ลอยไปไกลสู่สุดขอบจักรวาลอันไกลโพ้น มีเพียงหนึ่งคำถามที่ติดอยู่ในใจของอเล็กซิสเสมอ นั่นคือ ทำไมจูนถึงทำแบบนี้ ทำไมจูนถึงให้คุณค่ากับมิตรภาพที่แสนยาวนานของพวกเธอราวกับมันเป็นเพียงเศษขยะ

“ลูกจะไปไหนจ๊ะ” แม่ของเธอถาม ถึงแม้วันนี้เป็นวันศุกร์ แต่คาเลบและเบียนน่าไม่ได้ไปทำงานวันนี้

“ปาร์ตี้ที่บ้านเวดค่ะ หนูจะกลับมาก่อนสี่ทุ่มนะคะ”

เบียนน่าพยักหน้า หมายความว่าอนุญาต “ดีจ้ะ เห็นลูกออกไปข้างนอก เจอเพื่อน ๆ บ้างก็ดี ขอให้สนุกนะลูกรัก”

“ทำไมไม่ชวนเจสซี่ไปด้วยล่ะ” พ่อของเธอผละจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ เขาหรี่ตามองตามประสาคนขี้เป็นห่วง

อเล็กซิสหัวเราะเมื่อแม่ตีแขนพ่อเบา ๆ “ลูกไปบ้านมิลเลอร์มากี่รอบแล้ว ไปเถอะลูก อย่าฟังเสียงคนแก่เลย” เธอจบประโยคด้วยเสียงหัวเราะร่วน

“ค่ะ เดี๋ยวหนูกลับมานะ” อเล็กซิสโบกมือและเดินออกจากบ้านไป

“คุณเห็นลูกหยิบมือถือของผมไปแล้วเหรอยัง” คาเลบยังคงเป็นห่วงอยู่ดี

**********

ตะวันใกล้ลาลับทอแสงระบายสีลงบนก้อนเมฆจนท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มประกายทอง ลมเย็นอ่อน ๆ พัดผ่านร่าง อเล็กซิสขี่จักรยานผ่านร้านสปาตะวันออก หน้าประตูร้านมีโปสเตอร์โฆษณาแปะติดทับกันมากมาย เมื่อก่อน เธอจะเห็นโปสเตอร์หนังวัยรุ่นของจอห์น ลีลอยด์ติดเด่นหราเป็นตัวดึงดูดสายตาคนทุกคนที่เดินผ่าน แต่ตอนนี้โปสเตอร์ใบนั้นหายไปแล้ว และอาจจะอยู่ในก้นถังขยะสักใบ ชื่อของเขาหายไปตามที่เจสซี่สันนิษฐานไว้ทุกประการ

การที่เธอครุ่นคิดแต่เรื่องของจอห์นช่วยดับเพลิงโมโหที่มีต่อเดวี่และจูนได้ช่วงหนึ่ง แต่ความคิดนี้มาพร้อมกับความกลัวเมื่อรู้ว่าเพื่อนคนหนึ่งหายตัวไป และอาจจะเรียกได้ว่า ‘ตลอดกาล’ สิ่งที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตัวตนของจอห์นหายไปด้วย ทางการลบตัวตนของเขาออกไปจนหมด สิ่งที่เจสซี่สันนิษฐานฟังดูมีเหตุผลมากขึ้นทุกที แม้อเล็กซิสจะยังไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ในใจเริ่มเชื่อไปแล้วว่าจอห์นถูกจับและถูกนำตัวเข้าโปรแกรมบำบัดที่ไม่เคยมีใครกลับออกมา อันเนื่องมาจากสามวันที่ผ่านมา อเล็กซิสไม่สามารถค้นหาชื่อ ‘จอห์น ลีลอยด์’ ในเสิร์ชเอนจีนใด ๆ ได้เลย เว็บไซต์ของเขาและของแฟนคลับถูกปิดลง หากจะพูดถึงข่าวการหายตัวไป ผู้คนจะกระซิบกันเบา ๆ ไม่กล้าพูดเสียงดัง เพราะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน สุดท้าย คนก็จะสรุปเอาง่าย ๆ ว่า เขาตายไปแล้ว อเล็กซิสเป็นห่วงครอบครัวของเขามากกว่าอะไรทั้งหมด เพราะเมื่อเธอคิดว่าหากใครสักคนในครอบครัวมีชะตากรรมแบบเดียวกับจอห์น เธอจะจัดการกับความคิดและความรู้สึกของตัวเองอย่างไร เมื่อเธอจะไม่ได้เห็นหน้าคนที่เธอรักอีกต่อไป และแค่เพียงคิดถึงยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายและน่ากลัวเกินกว่าที่จะทำ

คฤหาสน์ของเวดตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางคฤหาสน์หลังอื่นในเขตตอนเหนือของเมือง ห่างจากใจกลางเมืองพอสมควร บ้านของเขาใหญ่โตและหรูหราเหมือนกับบ้านของจูน (เฮ้อ เธอห้ามตัวเองไม่ให้เลิกคิดถึงสองคนนี้ไม่ได้เลยจริง ๆ) เวดจัดงานปาร์ตี้ริมสระน้ำ แต่อเล็กซิสไม่ได้ใส่ชุดบิกินี่ หรือนำชุดมาเปลี่ยน เพราะเธอตั้งใจจะมาดื่ม ดื่ม และเมาให้ได้มากที่สุดมากกว่า

“หวัดดี อเล็กซ์”

ลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ปรี่เขามาทักทายแขก อเล็กซิสมองเวด มิลเลอร์ที่ดูฮอตมากกว่าเวลาปกติเพราะเขาอยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำขาสั้นสีกากี เปลือยอกล่ำท่อนบน เขายืนโบกมืออย่างร่าเริงให้กับเธอ มีแขกในงานเยอะกว่าที่คิดไว้เสียอีก อเล็กซิสเห็นทีมเชียร์ลีดเดอร์ทั้งกลุ่มยกเว้นแต่ว่าไม่มีเงาของหัวหน้าทีมอย่างเอโลดี้เลย

“อ้าว เอดี้อยู่ไหน”

“เอดี้มาไม่ได้แล้ว ยัยนั่นเพิ่งโทรบอกฉันเมื่อกี้นี้เอง บอกว่าต้องไปช่วยพ่อจัดการวัตถุดิบในร้านอาหาร”

“ฮะ!” อเล็กซิสรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง เพราะเอโลดี้ยืนกรานว่าจะมา แล้วใครจะช่วยพาเธอกลับบ้านถ้าหากอเล็กซิสเมาเล่า นี่มันแกล้งกันหรือเปล่า เอดี้ไม่มาจริง ๆ เหรอเนี่ย

เวดตบบ่าเธอเบา ๆ “เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก ทุกคนรู้จักเธออยู่แล้วนี่นา ก็เพื่อนกันหมดทั้งนั้น มา ๆ ถึงเวลาทำตัวให้สดชื่นได้แล้ว” เขาบอกแล้วดึงเธอเข้าไปในงาน

“อะไรนะ ทำตัวให้สดชื่น นี่นายรู้เหรอ” อเล็กซิสอดแปลกใจไม่ได้ที่เขารู้ว่าเธอกับเดวี่เลิกกันแล้ว เพราะเธอไม่ได้บอกใครเลยยกเว้นคนในครอบครัว

อ้อ...ลืมเอดี้ไปได้ยังไง

“ฉันไม่ได้ชวนสองคนนั้นมาหรอก อย่ากังวลเลย” เขาบอก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status