Share

บทที่6

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-08 23:12:58

คิ้วได้รูปของดรุณีสาวเพียงยักขึ้น ดวงตาหวานเจือดุหรี่มองพร้อมกอดอก ไอ้ต้าวหัวขโมยตัวเล็กหลุบตาลงอย่างคนไม่กล้าสู้หน้า ในขณะที่ผู้สูงวัยกว่าเตรียมจะฟาดไม่ยั้ง

"ลื้อมีปัญหาอะไรหรืออาจินจิน หรือคิดจะเข้าข้างอาตี๋ของลื้อ"น้ำเสียงข่มขู่ ทั้งคำเรียกขานของเจ้าของบ้าน เรียกสายตาประหลาดใจจากหญิงสาวได้ไม่น้อย ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความครุ่นคิด..ไอ้ต้าวหัวขโมยรู้จักเธอ?

“พวกคุณกล่าวหาว่าเด็กคนนี้เป็นหัวขโมย...มีหลักฐานหรือเปล่า?”

“นี้ไง เงินที่อาเทียนขโมยไป..แล้วพวกเพื่อนๆอั้วก็เห็นอีขโมยเงินด้วยจริงมั้ย?”คำท้ายของเด็กชายอายุมากสุดในกลุ่ม หันไปขอความเห็นกับบรรดาพวกลิ้วล้อ พวกนั้นเพียงพยักหน้ารับ แต่หากล้าสู้หน้ากับเจ่เจ้คนสวย..เพราะประวัติความดุร้ายของจินเยว่ขึ้นชื่อลือชาในชุมชนชาวจีนไม่ใช่น้อย

“เหรอ แต่เงินไม่ได้อยู่ในมือเด็กนั้นนี้ แต่อยู่ในมือนาย”

“นี้อาจินจิน ลื้อจะหาว่าลูกชายอั้วเป็นคนขโมย อาตี๋เล็กบ้านอั้วนี้นะจะขโมย? ถ้าอีอยากได้..อีก็ขออั้วแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องขโมยเงินเลย...ไม่เหมือนกับไอ้เด็กเหลือขอน้องชายลื้อหรอก ที่บ้านฐานะก็ยาจก ขโมยของชาวบ้านเขาไปทั่ว”

คำว่า ‘น้องชาย’ ส่งผลให้คนตัวเล็กนิ่วหน้าเล็กน้อย ก่อนดวงตาคมคู่สวยจะมองสำรวจร่างเล็กๆ นั่น..ไม่มีส่วนไหนของเด็กชายแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวที่จะเหมือนเธอ เว้นแต่ ‘แววตาเฉลียวฉลาด’

ไอ้คนโดนด่าว่าเป็นหัวขโมยแทบร้องไห้ เด็กชายผอมเกร็งพยายามดิ้นรนจากมือหนาใหญ่ของคนอายุมากกว่า

“เปล่า อั๊วไม่ได้เอาไป เจ่เจ้จินจินเชื่ออั้วนะ”

“ไอ้เด็กเหลือขอนี้ ยังจะโกหกอีก!!”เจ้าของบ้านฟาดหลังเข้าให้เต็มแรงไปหนึ่งที เรียกเสียงร้องเจ็บปวดของเด็กชายได้ทันที

“ฉันบอกให้หยุดไง!! งั้นเรามาพิสูจน์กันมั้ยละว่าเด็กคนนี้ขโมยเงินไปจริงมั้ย”น้ำเสียงหวานใสเจือดุเริ่มโมโห เธอเกลียดความรุนแรงในเด็กมากที่สุด

"พิสูจน์ ลื้อจะพิสูจน์ยังไง?"

ร่างบอบบางไม่ตอบ เธอเพียงแต่เดินไปหาชายหนุ่มรุ่นเดียวกัน ผู้ที่กำลังนั่งจิบชาไปด้วย เสพเหตุการณ์ตรงหน้าไปด้วยอย่างคนอารมณ์ดี..ดวงตาชั้นเดียวมองพฤติกรรมของยัยตัวร้ายหน้าสวยแห่งตรอกหมายเลขแปดด้วยความสนใจ ซึ่งหญิงสาวเองแทบจะไม่ชายตามองคนตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ

จินเยว่จัดการหงายถ้วยน้ำชาที่ยังไม่ใช้ทั้งสองถ้วยขึ้น พร้อมรินน้ำชาใส่ถ้วย นิ้วเรียวสวยกระดิกเรียกเด็กชายที่มีอายุมากสุด อาจเพราะดวงตาหวานดำขลับเจือดุ...บุคลิกเต็มไปด้วยอำนาจ ร่างอวบอ้วนของเด็กชายวัยสิบสองจึงเดินเข้ามาอย่างเสียไม่ได้

“เหรียญที่เด็กนั่นขโมยคือเหรียญที่นายถือถูกมั้ย?”เสียงอาเจ้สุดสวยเรียบเรื่อย ร่างอวบอ้วนพยักหน้ารับหงึกหงัก เด็กชายเกร็งโดยไม่รู้ตัว 

“งั้นนายเอาเหรียญนั่นใส่ถ้วยใบนี้..ส่วนนายมานี้ซิ”จินเยว่สั่ง และหันไปเรียกไอ้ต้าวที่ถูกเรียกว่าน้องชายให้เดินเข้ามาหา พร้อมหยิบเหรียญอีกอันจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้เด็กชายตัวเล็ก

การกระทำของหญิงสาวคนสวยสร้างความแปลกใจกับทุกคนได้ไม่น้อย แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าอาเจ้สุดสวยจะมาไม้ไหน...เด็กชายคู่กรณีจึงหย่อนเหรียญในมือลงถ้วยชา..ในขณะที่คนมีฐานะเป็นน้องชายผู้กำลังกำเหรียญแน่นก็หย่อนเหรียญลงอีกถ้วย

เจ้าของบ้านวัยกลางคนนามว่าเหมยรีบเข้ามาดูด้วยความสนใจ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเบิกตากว้าง เหตุเพราะถ้วยของลูกชายเธอนั่นปกติดี แต่ถ้วยของเด็กชายที่ถูกกล่าหาว่าขี้ขโมยกับมีน้ำมันใสๆ ลอยขึ้นมา

“นี้..คืออะไร อั้วไม่เข้าใจ”ซ้อเหมยตั้งคำถามขึ้นทันที

“แบมือให้อาซ้อแกดูซิ”ยัยตัวแสบหันไปสั่งคนเป็นน้องชาย เด็กชายเองก็ตกใจไม่น้อย..ก่อนจะรีบปฎิบัติตาม...ภาพตรงหน้าที่ผู้สูงวัยเห็นคือมือเล็กๆ หยาบด้านแวววาวเต็มไปด้วยน้ำมัน 

“หยิบปาท่องโก๋ที่อยู่ในกระเป๋าให้อาซ้อดูด้วย”เธอยังคงสั่งต่อ และอีกเช่นเคยเด็กชายยังคงปฎิบัติตาม ดวงตาคมคู่สวยมีเสน่ห์หรี่มองเย็นชา ริมฝีปากรูปกระจับบิดขึ้นเล็กน้อย 

“ถ้าเด็กคนนี้ขโมยเงินซ้อจริง เหรียญต้องมีน้ำมันเคลือบ เพราะอีพึ่งกินปาท่องโก๋ไป..ทีนี้คงรู้ตัวหัวขโมยตัวจริงแล้วใช่มั้ย?”น้ำเสียงหยามเยาะ เล่นเอาใบหน้าผู้สูงวัยกว่าขึ้นสีด้วยความอับอาย ก่อนร่างอวบอ้วนจะกระโจนเข้าหาคนเป็นลูกพร้อมบิดหูของเจ้าหัวขโมยตัวจริง

“ไป..เข้าบ้านกับอั้ว อายุแค่นี้ริอาจขโมย อั้วจะตีลื้อให้ขาหักเลยคอยดู!!”

“โอ้ยยยย อั้วเจ็บ ม๊าเบาๆ หน่อย”เสียงร้องโอดโอยของเด็กชายนิสัยไม่ดีลั่นไปทั้งตรอกเล็กๆ แห่งนั้น ดวงตาคู่สวยแต่คมกริบกับมองสองแม่ลูกด้วยความสมเพช..ร่างเพรียวระหงรั้นแขนผู้สูงวัยไว้ก่อนที่เจ้าหล่อนจะพาลูกชายเข้าบ้าน...ใบหน้าอวบอ้วนเต็มไปด้วยริ้วรอยมองกลับด้วยความสงสัย

“เดี๋ยว...หยุดก่อน” 

“...”

“เมื่อกี้ซ้อตีอาตี๋ของอั้วไปหนึ่งที”ทันทีที่เสียงเย็นชาของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญพูดจบ กลับกลายเป็นเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นในความเงียบ...มือเรียวยาวราวลำเทียนสะบัดเล็กน้อย เพราะคำว่าออมมือไม่มีอยู่ในสารบทของเธอ...ในขณะที่รอยแดงบนแก้มของเด็กชายตัวโตเป็นรอยฝ่ามือขึ้นสีทันทีเช่นกัน พฤติกรรมดุร้ายของหญิงสาวทำคนบริเวณรอบๆ เงียบงัน

“นี้..ลื้อ..ลื้อกล้าตบหน้าลูกอั้ว”

“อื่อ ทำไมอั้วจะไม่กล้า..ทีลื้อยังตีเด็กคนหนึ่งโดยไม่หาข้อเท็จจริงเลย..เพราะฉะนั้นเราก็หายกันแล้วอะเนอะ”น้ำเสียงคนตัวเล็กกว่าเหี้ยมเกรียมเอาจริง ดวงตาคมหวานแสนดุส่งผลให้คนอายุมากกว่าพูดไม่ออก และกว่าจะรู้ตัวหญิงสาวก็ลากน้องชายกลับไปแล้ว

กลางตรอกร่างเพรียวระหงที่ดูบอบบางกำลังลากคอเด็กชายผอมเกร็งมาตามทาง...ไอ้ต้าวน้องชายที่เธอเองยังจำไม่ได้ ร้องโวยวายมาตามทาง บัดเดี๋ยวอ้อนวอน บัดเดี๋ยวขอร้อง...สักพักก็เริ่มข่มขู่

"เจ่เจ้อย่าทำกับอั้วแบบนี้นะ ไม่งั้นอั้วจะไปฟ้องอาม่าแน่" และเช่นเคยคำขู่ที่กาลก่อนไม่เคยได้ผลฉันใด ปัจจุบันไอ้ต้าวต่างภพผู้ซึ่งไร้ความทรงจำในอดีตก็ยังคงจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด ก็ย่อมไม่กลัวฉันนั้น...ยิ่งขู่เหมือนเธอจะยิ่งลากคอเขาแรงขึ้น เล่นเอาเด็กชายแทบร้อง

"เจ่เจ้จินจิน เบาๆ อั้วเจ็บ"

"รู้จักเจ็บด้วยเหรอ...ไอ้เด็กหัวขโมย"เสียงขู่ฟ่อเหี้ยมเกรียม เต็มไปด้วยความโมโหหิว...อีกทั้งหงุดหงิด 

"อั้วขอโทษ เจ่เจ้อย่าทุบตีอั้วเลยนะ ไม่งั้นตอนเย็นอั้วไปช่วยงานที่โรงน้ำแข็งไม่ไหวแน่"เด็กชายเริ่มกลับมาอ้อนวอนอีกรอบ อาจเพราะรู้รสมือรสเท้ากันดี...พี่สาวตัวเล็กแต่ใจยักษ์ของเขาเห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แต่มือไม้หาได้เบาไม่...เพราะคำว่า 'ทุบตี' ทำให้หญิงสาวชะงัก..มันทำให้เธอชักสงสัยแล้วว่าร่างเดิมในอดีตของเธอคงเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงไม่ใช่น้อย

"งั้นนายตอบฉันมาก่อน ทำไมต้องขโมยด้วย?"

"ก็อั้วหิวนี้ เมื่อวานอั้วได้กินข้าวแค่สองมื้อเอง"น้ำเสียงเศร้าสร้อยของเด็กชายตัวผอม ส่งผลให้คนที่ถูกเรียกว่า 'เจ่เจ้' งงงัน มือเรียวสวยปล่อยคอเสื้อ ดวงตาคมกริบกวาดมองคนตรงหน้าจากหัวจรดเท้า...เสื้อผ้าที่เด็กชายตัวจ้อยที่สูงเพียงอกเธอสวมใส่คือเสื้อยืดสีน้ำตาลหม่นๆ ที่ดูแลผ่านการซักมาหลายรอบ จนสีจางและบางลง..กางเกงสีดำเข้มสั้นเต๋อ ถ้าสังเกตดีๆ ก็มีรอยปะชุนไม่น้อย

ถ้าเธอกับเด็กคนนี้เป็นพี่น้องกันจริง...ทำไมเด็กชายถึงดูยากจนข้นแค้น สวมเสื้อผ้าเก่าๆ ทั้งยังเป็นหัวขโมยด้วยเล่า? 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่7

    "เราเป็นพี่น้องกันถูกมั้ย? ถ้านายหิวขนาดนั้นทำไมไม่มาขอดีๆ ทำไมต้องขโมยด้วยละ"น้ำเสียงคนอายุมากกว่าเต็มไปด้วยความสงสัย บรรยากาศบางอย่างส่งผลให้เด็กชายรู้สึกผิดปกติ...หญิงสาวตรงหน้ายังคงดุร้ายไม่ต่างจากในอดีต แต่ในความดุนั้นยังแฝงด้วยกระแสธารความเมตตา ที่เขาเองก็สัมผัสมันได้โดยเฉพาะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นเจ่เจ้จินจินจอมเห็นแก่ตัว เอาแน่เอานอนกับอารมณ์ไม่ได้คนนั้น..คนเป็นพี่คงจะจัดการกับอาซ้อเหมย ด้วยวิธีการ 'ด่า' ทะเลาะเบาะแว้งกันลั่นถนน เขารู้ว่าเจ่เจ้ต้องช่วยเขา...แต่เหตุผลที่ช่วยคงไม่ใช่พิศวาสนึกรักน้องชายหรอก แต่เป็นเพราะสำหรับเธอแล้ว น้องชายไม่ต่างจากสิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง... คนเป็นเจ้าของสามารถทิ้งขว้างหรือรังแกได้...แต่หายอมให้คนอื่นรังแกไม่...นั่นแหละ 'จินเยว่' เจ่เจ้คนสวย และแสนดุร้ายของเขา"ว่าไง ทำไมเงียบ"คนอายุมากกว่ารีบทวนคำถามซ้ำ คนเป็นน้องเม้มปากแน่น ดวงตาชั้นเดียวชี้ขึ้นค้อนควักเต็มไปด้วยความเจ็บใจปนน้อยใจ"ขออย่างงั้นเหรอ? คนหวงของแบบเจ้จินจินนี้นะ จะยอมแบ่งของกินของใช้..เงินทองให้กับคนอื่น""เดี๋ยวนี้ฉันพี่นายจริงๆ ใช่มั้ย?"หญิงสาวชักไม่แน่ใจ แต่ดูจากท่าทีเด็ก

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่8

    แต่เธอก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่แม่ของเธอเลือกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือสิ่งที่ผิด เพราะตั้งแต่อาปา แต่งเมียรองเข้าบ้าน...ผู้สูงวัยก็ทำหน้าที่สามีที่ดี เลิกจากงานเป็นคนขับเรือขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดกลางของที่บ้าน ก็คลุกอยู่กับลูกเล็กซึ่งก็คือเธอ กับเมียรอง ที่น่าแปลกแม่บ้านใหญ่ยังคงหัวอ่อน และปล่อยชีวิตตามน้ำไปเรื่อยๆ เธอไม่เคยวีนเคยเหวี่ยงยังคงทำหน้าที่สะใภ้คนจีนทั้งดูแลพ่อแม่สามี ทำงานบ้าน ไปช่วยธุรกิจกงสีของที่บ้าน ดูแลลูกชายลูกสาวทั้งสองเป็นอย่างดี อาปาของเธอเองเพียงมีหน้าที่ไปกินข้าวเย็นกับที่บ้านใหญ่ ส่วนเวลาที่เหลือก็ดูแลเธอกับแม่หลังจากฟังเรื่องราวที่น้องชายเล่า...ภาพความทรงจำลางๆ บางอย่างกับลอยขึ้นมา ภาพชายร่างสูงใหญ่...แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู อ้อมกอดอบอุ่นของหญิงสาวคนหนึ่งกับโอบกอดเธอไว้ "แล้ว...อาปากับแม่เจ้ละ ท่านทั้งสองอยู่ไหน"หญิงสาวสอบถามด้วยความสงสัย...ความรู้สึกเศร้าจางๆ วาบเข้ามา ดารินรู้ว่ามันคือความรู้สึกของร่างเดิม... คำถามของคนเป็นพี่ทำเด็กชายเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เจ้าตัวแสบจะกินข้าวไปด้วยเล่าไปด้วย"เสียทั้งคู่แล้ว แม่ของเจ้ เสียตอนเจ้ห้าขวบ ส่วนอาปาเสี

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่9

    ณ ตึกแถวหัวมุม"เจ่เจ้จินจิน ทำไมต้องซื้อข้าวของเยอะขนาดนี้ด้วย"น้องชายตัวผอมบ่นกระปอดกระแปด มือเล็กแต่หยาบช่วยบรรดาเฮียๆ ผู้ซึ่งเป็นลูกจ้างขนของเข้าบ้านมีทั้งหม้อ กระทะหลายขนาด ตะหลิวทัพพี อะไรที่ควรมียัยเจ่เจ้หน้าสวยตัวแสบขนซื้อมาหมด"ของมันต้องใช้"คนเป็นพี่ตอบเสียงเรียบ มือเรียวสวยจัดแจงแยกผัก แยกหมูไข่ใส่ตู้เย็น เฟยเทียนได้แต่เบ้ปาก...ตั้งแต่จำความได้ชีวิตที่เติบโตมาด้วยกัน..พี่สาวเขาไหนเลยเคยเข้าครัว...ถ้าเป็นเจ่เจ้เซียงเซียงก็ว่าไปอย่าง บ้านตระกูลอื่นลูกสาวเมียรองอาจต้องเก่งงานบ้านงานเรือนงานครัว ดูแลปรนนิบัติผู้สูงวัยในตระกูล ถ้าจะมียกเว้นก็คงเป็นครอบครัวเขานี่แหละ ตั้งแต่อาปาพาลูกสาวอันเกิดจากภรรยาที่รักกลับบ้าน ชีวิตของจินเยว่ก็ราวกับเจ้าหญิง งานบ้านงานเรือนเป็นหน้าที่ของม๊าใหญ่กับพี่สาวคนโต ส่วนอาปากับเฮียคังคือคนหาเงินเข้าบ้าน ส่วนลูกชายคนเล็กแบบเขายังมีหน้าที่ช่วยอาปา อาม๊าหยิบจับงานเล็กๆ น้อย เขายังจำได้ครั้งหนึ่งในวัยแรกรุ่น เจ่เจ้เซียงเซียงมีนัดกิจกรรมในวันหยุดที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ ส่งผลให้วันนั้นเจ้ไม่ได้ซักชุดนักเรียน กับถุงเท้าของเจ่เจ้จินจิน...พอเจ่เจ้เซียงเซียงกล

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่10

    บนโต๊ะกลมกลางบ้าน หนึ่งเด็กชาย หนึ่งหญิงสาวนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยจินเยว่เองเริ่มเนียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากน้องชายผู้เฉลียวฉลาด"ว่าแต่ปีนี้ปีพ.ศ.อะไร?""เจ้หมายถึงพุทธศักราช?""อื่อ"คนเป็นพี่รับเสียงเรียบ เฟยเทียนมีสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แม้แต่เรื่องชีวิตประจำวัน...พี่สาวเขายังลืม..อาการชักหนักแล้ว แต่ก็ยังคงตอบไป"ปีพุทธศักราช 2493 ครับ""1950?""เจ้หมายความว่ายังไง""แปลว่าตอนนี้เป็นยุคสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สองซินะ"คนเป็นพี่เริ่มพึมพำ..ดวงตาคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย..สมัยเรียนวิชาประวัติศาสตร์เธอจดจำได้ว่าสงครามโลกครั้งที่สองจบในปี 1945 ในความโชคร้ายก็ยังคงมีความโชคดีอยู่บ้าง..เพราะถ้าเธอเกิดดวงซวยต้องไปเกิดในช่วงสงครามเธอนึกสภาพตัวเองออกตัวรอดไม่ออกเลย เด็กชายพยักหน้ารับ ทั้งยังอธิบายเพิ่ม"ใช่เจ้ ข้าวปลาอาหารเลยแพง อั้วกับหลานๆ เลยอยู่กันแบบอดๆ ยากๆ ยิ่งช่วงหลังอาปาเสียครอบครัวเราลำบากกันมาก รายได้ก็ขาด รายจ่ายก็มาก..ช่วงนี้ยังดีที่ราคาสินค้าถูกลงมาเยอะแล้ว"น้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยอารมณ์ของลูกชายคนสุดท้องเศร้าหมอง สำหรับเขาอาปาเป็นผู้ชายที่ขยันอดทน นอกจากงานของกงสี

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่11

    ใช้เวลาสักพักกับข้าวบนโต๊ะก็เกลี้ยง เล่นเอาภรรยาคนสวยมองตาปริบๆ ไหนบอกว่าแค่ 'ก็ดี' ไง.. ใบหน้าหล่อเหลาราวกับหยกชั้นดีมีสีหน้าอิ่มเอมมากกว่าทุกๆ วัน ริมฝีปากแดงหยักเปื้อนด้วยคราบน้ำมัน..เล่นเอาแม่ครัวจำเป็นนิ่วหน้าเล็กน้อย..มือคู่สวยหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยในกระเป๋ากางเกงเอื้อมมาเช็ดให้ ตัวเจ้าหล่อนเอนเข้าหาแทบจะตัวติดกัน..กลิ่นหอมอ่อนๆ บนนวลเนื้อสาว...ทำเอาชายหนุ่มหน้าแดงแปร๊ด"นายนี้นะ ยังเหมือนเดิมเลย...กินก็เลอะ ฉันทำอาหารอร่อยใช่มั้ยละ"คำท้ายมีเย้า ดวงตาได้รูปสวยพราวระยับ ก่อนที่มือใหญ่หันมากุมข้อมือไอ้ต้าวตัวเล็ก เสียงแหบพร่ากระซิบใกล้หูอย่างดุๆ"พูดไม่สุภาพอีกแล้วนะ"อาจเพราะดวงตาคมแวววับคาดโทษ หรือคำพูดที่เขาใช้เตือน..ส่งผลให้หญิงสาวต่างภพได้สติ..เขาไม่ใช่คู่หมั้นผู้คลั่งรักเธอ!! ก่อนที่ไอ้ต้าวตัวเล็กจะทันได้พูดอะไร คุณสามีก็เลือกที่จะเตรียมหนีขึ้นข้างบนอีกตามเคย เล่นเอาจินเยว่นิ่วหน้า"เดี๋ยวนั่น เฮียจะไปไหน?""...""เฮียลืมอะไรหรือเปล่า?""อื่ม ไม่นะ""ช่วยฉันเก็บถ้วยชามบนโต๊ะด้วยค่ะ แล้วก็เอาไปล้าง..ฉันเคยบอกเฮียซานแล้วใช่มั้ย บ้านเราอยู่ด้วยกันต้องช่วยกันดูแล วันนี้ฉันเป็นคน

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่12

    เมื่อเห็นเจ้าของบ้านเงียบไป..คนตัวเล็กกว่าชักหงุดหงิดใจ..แถมไอ้ต้าวหน้าหล่อยังคงทำสีหน้าอ่านไม่ออกด้วยแล้ว..ยิ่งอยากเอาอะไรฟาดให้สักเปรี้ยง..แต่ก็ต้องคอยท่องกับตัวเองในใจว่าเธอยังคงต้องพึ่งพาเขาอยู่..หน้ากากความน่ารักอ่อนหวานจึงถูกยัยตัวแสบหยิบมาใช้ทันที"นะคะเฮียซาน จินจิน..อยากขายของ"เสียงหวานออดอ้อนอย่างที่ใช้นับครั้งได้ แต่สามีตัวโตยังคงมองกลับมาอย่างคนรู้ทัน"...""นะคะ""หึ แล้วแต่เธอซิอยากทำอะไรก็ทำ..ขอแค่อยากสร้างเรื่องให้เฮียต้องมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ก็พอ" คำพูดกระแหนะกระแหนเย็นชาทำคนตัวเล็กกว่าสะอึก..แถมพูดจบชายหนุ่มก็ลุกไปนั่งอ่านหนังสือต่อซะงั้น เล่นเอาหญิงสาวต่างภพมองตามอย่างหงุดหงิดใจเล็กๆ แต่ก็ยังทำอะไรเขามากไม่ได้ ร่างเพรียวระหงจึงลุกขึ้นไปจัดแจงกางมุ้ง..ด้วยความตั้งใจจะนอนตั้งแต่หัวค่ำ..เพราะพรุ่งนี้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เธอ 'ต้องทำ'และวันนี้ต่างจากเมื่อคืนวาน..พอหัวถึงหมอนปุ๊บไอ้ต้าวตัวเล็กก็หลับสนิทปั๊บ เรียกสายตาคมปนครุ่นคิดของสามีตัวโต'เธอคิดจะทำอะไรกันแน่นะ จินเยว่'จวบจนรุ่งสางเจ้าของบ้านหนุ่มลุกขึ้นมาก็ไม่เจอภรรยาตัวแสบแล้ว..เล่นเอาเขาประหลาดใจไม่น้อย..ย

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่13

    ณ ตลาด yเวลานี้พระอาทิตย์เริ่มสาดแสงขึ้นมาบ้างแล้ว ผู้คนในตลาดค่อนข้างจอแจ ร่างเพรียวระหงของคนเป็นพี่เดินนำหน้า ในขณะที่คนเป็นน้องเดินตาม..ก่อนที่เจ้าตัวจะแวะบ้านร้านค้าที่ขายเฉพาะข้าว..เสียงหวานใสต่อรองราคาพร้อมสั่งปลายข้าวสารหอมมะลิหลายถังทั้งที่เมื่อวานหญิงสาวพึ่งซื้อข้าวสารไปเอง เล่นเอาคนเป็นน้องชายมองการกระทำตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก..ในขณะที่ร่างบอบบางยอบตัวลงเล็กน้อย เพื่อตรวจเช็กคุณภาพข้าว..ในความคิดของหญิงสาวข้ามภพนั่นยังถือว่าตัวเองโชคดีนัก ที่ย้อนกลับเข้ามาในช่วงพศ. ที่พ้นจากภาวะผูกขาดการค้าขายข้าวที่แต่เดิมมีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่ทำได้ขณะเดียวกันภาวะเงินเฟ้อที่ก่อนนี้ค่อนข้างรุนแรงกับค่อยๆ ลดลงจนราคาสินค้าทั่วไปอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไป แต่ราคาข้าวก็ยังอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง..ยังดีจากที่เธอสำรวจเมื่อวาน คู่แข่งในชุมชนบริเวณนั้นยังน้อยอยู่..ไม่งั้นการทำอาหารขายอาจไม่คุ้มเหนื่อย“เจ้..ซื้อข้าวไปทำไมเยอะแยะ”เสียงเล็กกระซิบถาม “ทำโจ๊ก”“หืม ทำเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ”“อื่อ ค่อยว่า..ไปร้านอื่นต่อ”คนตัวเล็กชำระเงินเรียบร้อยก็เดินนำน้องชายเข้าร้านเฟอร์นิเจอร

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่14

    "นี้ตั้งใจจะเปิดร้านขายอาหารเช้าจริงๆเหรอ?""ใช่ซิ ไม่งั้นจินจินจะเสียเงินซื้อโต๊ะเก้าอี้ใหม่ไปทำไมละ"ไอ้ต้าวภรรยาตัวเล็กตอบเสียงเรียบ..แววตามีคำตำหนิกลายๆ..เล่นเอาคนถามรีบแก้ตัว "เปล่า..เฮียไม่ได้จะว่าอะไร แค่เห็นปกติเธออยู่บ้านไปวันๆ ไม่เห็นทำงานบ้าน..งานครัว พอเธอบอกจะเปิดร้านขายอาหารเช้าเฮียเลยคิดว่าเธอพูดเล่น"และใช่! ดูเหมือนคำแก้ตัวของไอ้ต้าวสามีจะดูไม่ได้ผลนัก..เมื่อคนตัวเล็กกว่านิ่วหน้าตอบ"อ๋อ เฮียซานจะบอกว่าฉันขี้เกียจ?""...""สรุปว่ายังไง!!!"เสียงหวานเจือดุชักไม่พอใจ มือน้อยละจากงานตรงหน้าทันที"ก็..ประมาณนั้น"คนไม่ชอบโกหกอุบอิบตอบ"หึ งั้นไม่ต้องกินมันละข้าวชงข้าวเช้าเนี่ย"พูดจบร่างเล็กเตรียมจะดึงชามถ้วยคืน แต่คุณสามีกับยกมันขึ้นอย่างรู้ทัน ลี่ซานรีบเปลี่ยนมุมไปนั่งที่โต๊ะอีกฝั่งที่หญิงสาวเอื้อมมือมาถึง ใบหน้าสวยเจือดุของคนเป็นเมียขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองตามอย่างฉุนๆ แต่ในสายตาของเขากลับน่าเอ็นดูเสียอย่างงั้น ไอ้ต้าวตัวโตรีบจ้วงโจ๊กในถ้วยจนหมด..ในความคิดของคุณหมอจอมซึนไม่ยอมรับว่าเธอทำอาหารอร่อย คิดเพียงแค่ว่าจะให้เขาแบกท้องกลับไปกินที่บ้านม๊าก็กระไรอยู่..ก่อนที่ร่างสูงโปร

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08

Bab terbaru

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ2

    ณ มหาวิทยาลัย J ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศหลังตึกคณะบริหารธุรกิจ...หญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังยืนรอชายหนุ่มทายาทของตระกูลดังอย่างใจจดใจจ่อ...ท่าทางกระสับกระส่ายพาลให้เพื่อนสาวที่มาด้วยสองคนหัวเราะคึกคัก "ยัยซีลีนเธอจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นยะ ทำเหมือนไม่เคยอ่อยผู้ไปได้"เพื่อนที่มาด้วยกันแซวเมื่อเห็นดาวคณะนิเทศกระสับกระส่ายใบหน้าสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยมถูกแต่งแต้มเป๊ะปัง จนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลังมองด้วยความชื่นชม...นอกจากหน้าตาที่ดีเลิศ โปรไฟล์เจ้าหล่อนก็แสนจะไม่ธรรมดา..เพราะเป็นถึงลูกสาวบริษัทรับเหมารายใหญ่ระดับประเทศ คนที่มาจีบมีตั้งแต่ลูกเศรษฐีด้วยกัน ไปจนนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง...แต่ชายที่หญิงสาวตกหลุมรักดันเป็นชายหนุ่มสุดหล่อแสนเย็นชาของคณะบริหาร"คีรีมาทางนั้นแล้วยัยซีลีน"เพื่อนอีกคนรีบสะกิด เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าราวกับหลุดมาจากนิยายจีน..ที่ตอนนี้มีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาเล็กน้อย..ยิ่งสายตาคมกริบที่กวาดมองยิ่งพาให้หัวใจไฮโซสาวหวั่นไหวร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปตรงหน้าตามแรงผลักของคนเป็นเพื่อน"สวัสดีคีรี"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมช้อนดวงตากลมโตขึ้นมอง...ชายหนุ่มเพียงหรี่ต

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ1

    ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนณ MMMO international schoolเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปีศึกษาปีที่สี่ผู้มีฐานะเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ..ซึ่งเวลานี้กำลังนั่งอารมณ์ไม่ดีอยู่บริเวณหน้าโถงประชุมของโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง..นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหมู่คนที่ผ่านไปผ่านมา..คล้ายกับกำลังใครสักคนอยู่...รุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงเมื่อสบสายตาเข้าก็แทบเป็นลม..บรรยากาศเย็นชาน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวเด็กหนุ่มน้อยลงเลยไม่ถ้าในโรงเรียนหรือมหาลัยวิทยาลัยมีเดือนคณะ นายคีรี สิริวงษ์ชัย ย่อมเหนือเมนขึ้นไปอีกขั้นแน่ละ ทั้งรูปร่างหน้าตา..รวมถึงฐานะวงศ์ตระกูลที่จัดอยู่ในหนึ่งกลุ่มลูกหลานผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ...รวมถึงผลการเรียนอันดับหนึ่งของสายชั้น เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงเสียงก็เพราะเป็นหนักหนา..ต้องเรียกว่า hot ยิ่งกว่า hotดังนั้นตั้งแต่เกิดมาใครๆ ล้วนต่างประจบสอพลอ เชิดชูบูชา ถ้าจะมีคนหนึ่งที่ปฏิเสธมัน ก็คงไม่พ้นนางสาวดาริน กิตติวรชัยกุล เจ้าหล่อนอย่าว่าแต่ประจบเอาใจเขาเลย วันๆ มีแต่ไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้าอีกทั้งวันนี้ยัยตัวร้ายยังหลอกให้เขามารอหน้าโถงประชุมใหญ่ได้ครึ่งค่อนชั่วโมง ทั้งๆ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่81 จบ

    รถสปอร์ตคันหรูยังวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย..เพียงแต่รอบนี้หญิงสาวสายซิ่งกับขับรถด้วยความไวที่ช้าลงกว่าปกติ หลังคารถเปิดประทุนถูกเปิดออก..สายลมยามดึกปะทะหน้าพาให้อารมณ์ดีไม่น้อย..ผมดำสลวยที่เริ่มยาวถูกมัดรวบง่ายๆ ไว้ด้านหลัง น่าแปลกปกติอดีตคู่หมั้นคนสวยจะตัดมันเสียสั้นกุด เพราะเจ้าหล่อนติดนิสัยขี้รำคาญจวบจนรถหรูจอดสนิทตรงลานจอดรถสะพานขึ้น p มันคือสถานที่...ที่หญิงสาวมาทุกครั้งเวลาไม่สบายใจ หรือเวลาที่เขารู้สึกแย่..เธอจะยืนอยู่บนข้างๆ หันมามองหน้าเขา พร้อมเอียงหัวรับฟังเล็กน้อย..แล้วก็ปล่อยเขาพูดไป..แม้จะไม่มีคำแนะนำดีๆ แต่แค่เธอยืนอยู่ตรงนั้น แค่รับฟัง..มันก็ทำให้เขามีความสุข เวลานี้ก็เช่นกัน..ร่างเพรียวระหงยังยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ดวงตาคู่สวยที่เขานึกรักเหม่อมองออกไปยังแม่น้ำสายใหญ่ประจำประเทศ ใบหน้าด้านข้างของเธอยังงดงามราวกับรูปสลัก..ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดเหมือนสีเสื้อผยอเล็กน้อย..ก่อนที่เธอจะตัดสินใจผินตากลับมามองเขา..เราต่างก็รู้ถึงนัยยะเดียวกัน..เขารู้ว่าเธอจดจำได้..และอะไรบางอย่างในดวงตาเขาก็บ่งบอกว่าเขาจดจำได้เช่นกัน“นายคีรี”“ว่ายังไงนางสาวดาริน”คำเรียกขานที่ชอบใช้แท

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่80

    "หมายความว่ายังไงคะ!!!"คำตอบของคนเป็นพ่อ ส่งผลให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ...หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลง..ความรู้สึกสูญเสียบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ป๊ะป๋าก็หมายความตามนั้น ป๊ะป๋าเป็นคนขอถอนหมั้นเอง""อ้าว ได้ยังไงคะ แล้วแบบนี้นายคีรีไม่เสียใจแย่เหรอ""ถ้านายคีรีจะเสียใจก็เป็นปัญหาของนายคีรีซิ เกี่ยวอะไรกับบ้านเราด้วยล่ะแค่วันนั้นขับรถพาอายไปลงเขา...ป๋าก็แทบจะฆ่ามันทิ้งแล้ว..ถอนหมั้นๆ ไปก็ดีแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่เคยชอบพันธะนี้อยู่แล้วนี่""ป๊ะป๋า!!! มันไม่ใช่ความผิดของนายคีรี วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ..นายคีรีเขาปกป้องอายด้วยซ้ำ""ไม่รู้ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย"คนเป็นพ่อผู้หวงลูกสาวรีบตัดจบอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบมือถือมาไล่อ่านข่าว ไม่สังเกตสีหน้าซีดเซียวของคนเป็นลูกแม้แต่นิด'เผด็จการชะมัด..เผด็จการเหมือนใครกันนะ ก็เหมือนตัวเธอนะซิ!!'เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์คนป่วยเริ่มอาการดีขึ้น...อีกทั้งได้สรุปในใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นไอ้คนที่ไม่ชอบออกงานเลี้ยงสังคมหรูหราก็กลับมาออก...เพื่อจะเห็นหน้าใครบางคนและยังสามารถใช้เหตุผลประมาณว่า 'บังเอิญเจอกัน เลยไ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่79

    เมื่อคนเป็นพี่กลับบ้านมาแล้วพบน้องชายทำหน้าเครียด ในมือของเขามีสมุดเบิกถอนสมุนไพร ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเสียววาบในใจ...ดวงตาคมกริบหรี่มอง พร้อมโยนสมุดในมือลงบนโต๊ะ"มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?""...""ทำไมเจ้ทำแบบนี้ เจ้ทำมันลงไปได้ยังไง""ลื้อมันบ้าอาซาน อีฮวงนั้งไม่สมควรให้กำเนิดลูกหลานตระกูลหลี่!!""คนที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลหลี่คือเจ้ต่างหาก ส่วนจินจินเธอดีเกินกว่าผู้หญิงหลงท่ก สันดานเลวอย่างเจ้มาก""อาซาน นี้ลื้อ นี้ลื้อด่าอั๊ว""เออ อั๊วด่าเจ้นี้แหละ เรื่องนี้มันไม่จบแน่ เจ้เตรียมใจไว้ได้เลย"คนเป็นน้องพูดพร้อมกับเก็บสมุดเบิกจ่ายสมุนไพรติดมือไปด้วย เล่นเอาพี่สาวเหงื่อตก แต่หล่อนรู้น้องชายนั้นแสนดีขี้ใจอ่อนมากแค่ไหน...อีกอย่างจินเยว่ก็เสียไปหลายปีแล้ว...ไหนเลยจะมาเอาผิดเธอได้แต่ไอ้คนใจดีมาตลอดชีวิต กับเลือกนำเรื่องไปฟ้องอาปามู่เฉิน กับอาม๊าด้วยรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนยุติธรรม...เมื่อบุพการีรับรู้เรื่องทุกอย่างก็ถึงกับตกใจ...เพราะสิ่งที่ลูกสาวคนเดียวกระทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก มันไม่ต่างทำจากการทำร้ายสายเลือดครอบครัวตระกูลหลี่ดังนั้นตอนหลี่หนิงเกอเดินเข้าห้องทำงานของอาปามู่เฉิน

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่78

    ระหว่างที่ชายหนุ่มลงมือทำความสะอาดหลุมศพของภรรยา...หลี่มู่เฉินที่เดาไว้แล้วว่าลูกชายจะมาที่นี้ ก็เดินเข้ามาหาทันที หลังจากที่ยัยหนูจินเยว่เสียไปได้สองเดือน..ลูกชายของเขามักมาทำความสะอาด เอาดอกไม้มาวาง “อาซาน”“อ้าว อาปา มาได้ยังไงครับ”เสียงแห้งถามกลับ พร้อมส่งรอยยิ้มเศร้าหมองไปให้..ใบหน้าภายใต้หมวกสานกันแดด แดงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ด้านนอกเป็นระยะเวลานาน“อื่ม อาปามีเรื่องจะคุยกับลื้อ”หลังจบคำผู้ชายสองวัยจึงเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพจินเยว่นัก“ลื้อแน่ใจแล้วรึ ที่จะลาออกจากโรงพยาบาล”“ครับ”“เห้อ อาซาน..ฟังอาปานะ จินจินอีตายไปแล้ว แต่ลื้อยังมีชีวิตอยู่”“อื่ม ผมรู้..ผมเองก็กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ไง”“แบบที่ลื้อทำอยู่ เขาไม่ได้เรียกว่าการใช้ชีวิตนะอาซาน”เสียงอาปาอ่อนล้า มือหนาหยาบตบหลังลูกชายเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“อาปารู้ว่าลื้อรักจินจินมาก”“...”“ไม่งั้นอาปาคงไม่หมั้นหมายลื้อให้จินจินหรอก”“ทำไม...อาปารู้ละครับว่าผมรักจินจิน”น้ำเสียงลูกชายโตเริ่มพร่า..เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่ารักเธอตั้งแต่เมื่อไร“จำได้มั้ย ว่าปีหลังๆ มานี้ ลื้อชอบบ่นว่าน้อง..แต่พอกลับมาทีไ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่77

    ชาตินี้น้องตามพี่มา ชาติหน้าพี่ยาตามน้องไปความรู้สึกเจ็บปวดเกาะกินทั้งแก่นกระดูก ลามไปยังเนื้อหนังมังสาทุกส่วนก่อนสติสุดท้ายจบลง..ร่างเพรียวระหงสะดุ้งตกใจตื่น..น้ำตาหยดใสไหลลงจากหางตาทั้งสองข้าง..เสียงสะอื้นไห้เจ็บปวด..ก่อนดวงตาดำคู่สวยจะจับโฟกัสทุกอย่างได้..มือเรียวเล็กข้างซ้ายร้อนชื้น..คนที่กุมมือไว้ไม่ปล่อย...ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนายคีรี ผู้ที่ทั้งชีวิตไม่เคยปล่อยมือเธอเลยสักครั้งในอดีตวันที่เธอตื่นฟื้นจากอุบัติเหตุครั้งแรก...ความรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากตอนนี้แม้แต่น้อย..แต่สิ่งที่ต่างมีเพียงแค่ว่า..เธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้...มีเพียงความรู้สึกเจ็บปวดเคียดแค้นที่เกาะกินจิตวิญญาณ.. เธอเกลียดผู้ชายคนนั้นจับใจแต่ครั้งนี้นั้นแตกต่าง..ดารินในวัยสิบสามขวบ ยังคงไร้เดียงสาในเรื่องความรัก กับนางสาวจินเยว่ในวัยยี่สิบผู้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างปล่อยปละละเลย และยึดติด รวมถึงดารินหรือจินเยว่ในปัจจุบันที่ทะลุเข้าไปในอดีตเหตุการณ์เดียวกัน...แต่ความเข้าใจต่างกันในครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแค่ว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อทุ่มเทไป ย่อมสมควรได้คืนกลับมา..มีแต่คำถามว่าทำไมเขาไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่ตามใจเธอ...เธอเป็นเม

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่76

    ร่างเพรียวระหงซุกตัวกอดสามีตัวโตไว้แน่น..หลี่ลี่ซานเองก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ..เลือกทางไหนก็ผิดทั้งนั้น..มือเรียวได้รูปปัดลูกผมที่ระหน้าด้วยความทะนุถนอม“จินจินแน่ใจนะคะ ที่ทำแบบนี้”“ค่ะ มันเป็นทางเลือกเดียวที่เรามี...ถ้าสมมติวันนี้เฮียซานไม่ไปช่วยเจ้เซียงเซียง.. ถ้าเกิดเจ่เจ้แกเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เราคงเหมือนมีตราบาปไปตลอดชีวิต อีกอย่างจินจินมีเรื่องจะสารภาพค่ะ”ปลายเสียงเธอแผ่วเบา..ริมฝีปากรูปกระจับถูกกัด“สารภาพเรื่องอะไรครับ”“ผู้ชายคนนั้น...เจ้าน้อยแสนอะไรนั้น...จินจินเป็นคนแนะนำให้ไปจีบเจ่เจ้เซียงเซียงเองค่ะ”“…”“แต่จินจินไม่รู้หรอกนะคะ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกชอบทุบตีผู้หญิง”น้ำเสียงคนตัวเล็กติดประหม่า ดวงตาคู่สวยช้อนมองสำรวจนึกกลัวว่าเขาจะรังเกียจ..เพียงแต่แววตาใสกระจ่างที่มองมาเต็มไปด้วยความเข้าใจ“จินจินอย่าคิดมากเลยนะคะ เซียงเซียงเลือกของตัวเธอเอง ไม่เกี่ยวกับจินจินเลย”“แล้วเฮียไม่คิดว่าจินจินร้ายเหรอคะ”“อื่อ ร้ายแต่น่ารัก เฮียชอบ”เขาพึมพำตอบ ก่อนจมูกโด่งสวยจะฝังลงไปตรงซอกคอภรรยาตัวน้อยอย่างหลงใหล..ในชีวิตเขาล้วนต้องการเพียงเธอ...แค่เธอก็พอแล้วเช้าวันต่อมาคุณหมอหนุ่มจำต้

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่75

    ตกเย็นวันนี้โชคดีที่เคลียงานได้เร็ว หญิงสาวจึงได้กลับบ้านก่อน เธอลงมือเข้าครัวทำอาหารเย็นเอง เมนูวันนี้เป็นอาหารไทยง่ายๆ อย่างต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดโป้ยเซียง และไก่กรอบชุบแป้งทอด โดยไม่คิดว่าจะมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ บุกขึ้นมาถึงบ้าน...คุณนายเหวินผู้เป็นแม่สามี จูงลูกสาวคนเดียวเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน ด้านหลังเองมีเด็กในบ้านเดินตามมาด้วย“สวัสดีค่ะ ม๊า มาได้ยังไงคะ”“จินจิน อาซานกลับมาหรือยัง อั๊วมีเรื่องจะคุยกับอี”แม่สามีตั้งคำถามขึ้นมาแทน“น่าจะใกล้แล้วนะคะ ม๊านั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวจินจินชงชามาให้”เจ้าของบ้านเชื้อเชิญ ก่อนจะหายเข้าไปในครัว ชงชารสโปรดให้ด้วยความใส่ใจ แต่พอออกมาต้องประหลาดใจ นอกจากแม่สามีที่นั่งรอ ยังมีซุนเหยียนแม่เลี้ยงที่นั่งงงๆ อยู่ด้านข้าง ซึ่งเวลานี้ส่วนใหญ่ม๊ามักจะดูแลอาบน้ำ ป้อนข้าวหลานอยู่ตึกด้านข้าง“อ้าว ม๊าใหญ่ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”“พอดีหนิงเกอไปตามม๊ามา..ม๊าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเรื่องอะไร” คำตอบของคนเป็นแม่เลี้ยง คล้ายสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างที่ ‘ผิดปกติ’ดวงตาคมคู่สวยหลุบลง ก่อนจะเลือกเก้าอี้ตัวข้างๆ แม่สามี..บุคลิกหลังตรง งามสง่า..บรรยากาศสงบนิ่งเป็นนักหนา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status