"คุณพักอยู่ห้องข้างๆ นี่เองเหรอ?"
"อืมใช่" ชายหนุ่มละสายตาจากจอโทรศัพท์ที่กำลังเขี่ยเล่นอยู่เพื่อมองไปดูใบหน้าคนที่ถาม "มีอะไรหรือเปล่า"
"ทำไมคุณถึงให้ฉันมาอยู่.." แล้วทำไมเขาไม่เปิดห้องใหม่ให้เธอล่ะ อยู่แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากอยู่ห้องเดียวกัน
"ห้องที่นี่ไม่ว่างหรอกนะ ถูกจองล่วงหน้าเป็นเดือน" โรงแรมของเขาอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา แถมมีล่องเรือชมบรรยากาศยามเย็นด้วย ใครที่เป็นลูกค้าของโรงแรมได้ใช้บริการนั้นฟรีแถมมีบริการอาหารให้ด้วย คนเลยต้องจองล่วงหน้าถึงจะได้เข้าพัก
ข้าวปุ้นต้องเปลี่ยนแผนใหม่เธอเลยกลับมาเอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วย ทีแรกคิดว่าห้องนั้นยังไม่มีใครอยู่ ถ้าอาบน้ำเสร็จใช้แค่ผ้าเช็ดตัวคลุมร่างกายก็คงไม่เป็นไร แต่นี่เป็นห้องของเจ้าของโรงแรมเลยเหรอ
ถึงแม้ห้องน้ำจะมีแค่ห้องเดียวแต่ก็อลังการมาก เพราะในห้องน้ำมีอ่างจากุชชี่แถมถ้าเปิดผ้าม่านก็จะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเธอก็เปิดประตูออกมา แต่พอออกมาก็ไม่เห็นเขานั่งอยู่ที่เดิมแล้ว
ชั้นล่างของโรงแรม.. ข้าวปุ้นลงมาข้างล่างเพื่อจะไปหาอะไรทาน แต่พอออกมาด้านนอกก็เห็นบรรยากาศริมแม่น้ำมีทางเท้าให้คนเดินเธอเลยลองเดินดู
"คุณป้าเป็นอะไรไหมคะ" เดินออกมาเห็นป้าคนหนึ่งเหมือนจะล้มเลยรีบไปพยุงท่าน "คุณพี่เป็นยังไงบ้างคะเจ็บไหมคะ" เข้ามาใกล้ถึงเห็นว่าใบหน้าของท่านไม่น่าจะเรียกป้าได้เลย ข้าวปุ้นเลยเปลี่ยนสรรพนามเรียกพี่แทน
"ฉัน 50 แล้วจะเรียกป้าก็เรียกเถอะ"
"แต่ใบหน้าผิวพรรณของคุณเหมือนคน 30 ต้นๆ เลยนะคะ"
"จริงเหรอ" เด็กชมแบบนี้ก็อดดีใจไม่ได้
"เดี๋ยวข้าวพาไปหาที่นั่งก่อนดีกว่าค่ะ"
"หนูชื่อข้าวเหรอ"
"ชื่อข้าวปุ้นค่ะ"
"ข้าวปุ้นที่หมายถึงขนมจีนน่ะเหรอ"
"อะไรนะคะ?' ได้ยินคำพูดนี้ก็นึกถึงคำพูดของอัคคี เธอคิดว่าเขาเมาที่ไหนได้เขาคงจะถามเหมือนคุณป้าคนนี้ "ใช่ค่ะ"
"หนูมาพักโรงแรมนี้เหรอ หรือหนูทำงานที่นี่"
"มาทำงานค่ะ"
"หนูทำงานแผนกไหนล่ะ"
"เพิ่งเข้ามาวันแรก ทำโซนบาร์ค่ะ"
"แล้วนี่หนูจะออกมาเดินเล่นเหรอ"
"เพิ่งมาที่นี่วันแรกเลยอยากจะเดินชมบรรยากาศค่ะ"
"หนูอยากขึ้นเรือไหม"
"ขึ้นได้เหรอคะ"
"ฉันก็กำลังจะไปขึ้นเรือนั่นแหละแต่ด้วยร่างกาย ..เราอย่าพูดเรื่องนี้กันดีกว่าถ้าหนูจะไปตามมาสิ"
ข้าวปุ้นเลยถือโอกาสพยุงป้าเดินไปที่ท่าเรือของโรงแรม มาถึงเรือก็จอดเทียบท่ารออยู่แล้ว เหมือนว่าเรือรอป้าแค่คนเดียว พอขึ้นมาเรือก็ออกจากท่าน้ำ
"คุณป้าเหมาเรือเหรอคะ"
"หึหึ..จะว่าแบบนั้นก็ได้"
"คุณป้าต้องรวยมากแน่เลยค่ะ"
"ก็ไม่เท่าไรหรอก สมัยก่อนฉันเคยล่องเรือแบบนี้กับสามี มันเป็นความฝันที่เราสองคนจินตนาการกันไว้ ว่าถ้าอายุเยอะขึ้นเราจะมาล่องเรือชมบรรยากาศแบบนี้กันอีก" ไม่รู้นึกยังไงถึงอยากพูดเรื่องความเก่าความหลังให้เด็กคนนี้ฟัง และข้าวปุ้นก็เป็นผู้ฟังที่ดีเธอรอจนกว่าจะมีจังหวะถามแทรก
"คุณป้าคงรักคุณลุงมากเลยสินะคะ"
"ฉันรักเขาแต่เขาไม่ได้รักฉันหรอก"
"ทำไมคะ"
"เขามีผู้หญิงคนใหม่ มีลูกกับผู้หญิงอีกคน"
"คุณป้า.." ถ้าจะถามอีกก็กลัวว่าจะเสียมารยาทดีไม่ดีไปกระตุ้นอารมณ์ของท่าน
"เขาเสียไปแล้วล่ะ"
"เสียแล้วหรือคะ"
"ใช่ ฉันมันโง่มากเลยนะ กว่าจะมารู้ว่าเขามีบ้านอีกหลังก็ตอนงาน ศ พ ของสามี"
"เมียน้อยพาลูกมางานศพเหรอคะ"
"หนูรู้ได้ยังไง"
"เหมือนละครหลังข่าวเลยค่ะ"
"หึหึ"
"ในเมื่อเขาไม่จริงใจกับเราเราก็อย่าไปคิดถึงเขาสิคะ"
"ฉันก็อยากทำแบบนั้นให้ได้ แต่ฉันคงคิดถึงเขาไปจนวันตาย"
"นั่นเพราะคุณป้าจิตใจงดงามไงคะ คุณป้าอภัยให้คนที่หักหลังในความรักได้"
"หนูมีแฟนหรือยัง"
"คุณป้าถามข้าวหรือคะ"
"ใช่"
"ไม่มีผู้ชายคนไหนตาต่ำหรอกค่ะ"
"จะเรียกว่าตาต่ำได้ยังไงหนูสวยขนาดนี้ แถมยังรู้จักพูดรู้จักเจรจากับผู้ใหญ่ด้วย"
"ข้าวไม่กล้าให้ใครเข้ามาในชีวิตหรอกค่ะ กลัวว่าเขาจะต้องมารับผิดชอบ ไม่อยากให้เขาลำบากไปด้วย"
"ทำไมล่ะ"
"ข้าวเป็นเด็กกำพร้าค่ะ"
"เด็กกำพร้าก็มีเกลื่อนไป ไม่เห็นต้องปิดกั้นตัวเองเลย"
"ข้าวมีคนที่ต้องทดแทนบุญคุณ ถ้ามีครอบครัวกลัวว่าจะทดแทนบุญคุณได้ไม่ดีค่ะ"
"คนที่มีบุญคุณก็ส่วนคนที่มีบุญคุณ เราจะใช้ทั้งชีวิตทดแทนไม่ได้หรอกนะ เพราะเราเกิดมาก็ต้องหาความสุขให้กับตัวเอง"
"ขอบคุณนะคะป้า ที่ให้แง่คิดที่ดี" ไม่เคยมีใครพูดให้เธอฟังแบบนี้ เธอใช้ความรู้สึกของตัวเองสั่งสอนตัวเอง ว่าบุญคุณต้องทดแทน
"ฉันมีลูกชายอยู่สองคน คนหนึ่งโสดแต่อีกคนไม่แน่ใจเพราะเห็นมีผู้หญิงมาตามจีบอยู่ ถ้าหนูไม่รังเกียจอยากเป็นลูกสะใภ้ฉันไหมล่ะ"
"อะไรนะคะ?"
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 140 ตอนจบ"ได้ยินแม่บอกว่าคุณยังไม่ทานข้าวเที่ยงเหรอ"แพรไหมพยักหน้าตอบไม่ใช่แค่ข้าวเที่ยงหรอกข้าวเช้ายังทานไม่ค่อยลงเลยด้วยความเป็นหมอเขาเลยสอบถามอาการของเธอให้แน่ใจ ว่าเธอมีอาการแพ้ท้องแบบไหนเพราะการแพ้ท้องมีหลายแบบ พอรู้ถึงอาการของเธอแล้วรังสิมันต์เลยเข้าไปในตัวเมืองเพื่อจัดยามาให้เธอทานก่อน และหาอาหารบำรุงครรภ์มาเตรียมไว้ให้เธอในระหว่างที่เขาทำเรื่องวันต่อมา.."แม่เก็บของทำไมคะ" แพรไหมเปลี่ยนเสื้อผ้านักศึกษาออกมาเตรียมจะไปเรียนแล้วก็เห็นว่าแม่กำลังเก็บของ"เราจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯไงลูก""ย้าย?""คุณหมอยังไม่บอกเราเหรอ""ยังไม่บอกค่ะ" เมื่อคืนนี้กินยาที่เขาให้ไปง่วงนอนมากเลยหลับ ตอนที่เธอหลับรังสิมันต์ออกมาปรึกษาแม่เรื่องนี้ ทั้งสองเลยตกลงว่าจะไปอยู่ที่นั่น แต่ก่อนนางอาจจะยังลังเลอยู่แต่ตอนนี้มีหลานเล็กๆ แถมหลานอีกคนก็กำลังจะเกิด นางจะเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไม่ได้แล้ว"แล้วพี่หมอล่ะลูก""ตอนนี้เข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ"ไม่นานรังสิมันต์ก็ออกมาจากห้องเห็นแม่ของเธอกำลังเก็บของอยู่พอดี"ตอนเช้าผมจะพาแพรไปคุยเรื่องเรียนก่อนนะครับ ช่วงสายๆ เดี๋ยวผมมาช่วยเก
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 139 >>{"สวัสดีครับคุณแม่ ผมนึกว่าแพร"} {"เมื่อกี้ยัยแพรก็อยู่ตรงนี้แหละ แต่ตอนนี้เข้าไปอ้วก"}>>{"แพรเป็นอะไรครับ?"} {"ตาหมอมีธุระด่วนจะคุยกับน้องไหมล่ะ"}>>{"พอดีว่าพรุ่งนี้ผมต้องเดินทางไปสัมมนาที่ต่างประเทศครับเลยอยากจะคุยกับแพรก่อน ว่าแต่วันนี้แพรทานอะไรบ้างครับ"} เขาวินิจฉัยเธอผ่านทางโทรศัพท์ เพราะคนที่จะอาเจียนได้มีหลายปัจจัย แต่ก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายทั้งนั้นเลย ร่างกายถึงได้ขับของพวกนั้นออกมา {"วันนี้น้องไปเรียนแม่ไม่รู้ว่าที่มหาวิทยาลัยทานอะไรบ้างเดี๋ยวรอน้องออกมาก่อนนะลูก"}ไม่นานแพรไหมก็ออกมาแม่เลยบอกว่าคุณหมอรอสายอยู่ {"ค่ะคุณหมอ"}>>{"แพรมีอาการเป็นยังไงบ้าง"} {"เวียนหัวคลื่นไส้ค่ะ"}>>{"มีอาการเวียนหัวร่วมด้วยเหรอ? เป็นมากี่วันแล้ว"} {"หลายวันแล้วค่ะ แต่เป็นๆ หายๆ"}>>{"ไปหาหมอหรือยัง"} {"ทีแรกแพรนึกว่าอาการนี้มันจะหายไปแล้วเลยไม่ได้ไปหาหมอค่ะ"}>>{"ประจำเดือนเดือนนี้มาหรือยัง"} ประโยคต่อมาของคำถามทำให้แพรไหมถึงกับชะงัก {"เกี่ยวอะไรกับประจำเดือนคะ"}>>{"ตอบผมมาก่อน"} {"ยังไม่มาเลยค่ะ"}>>{"เดือนสุดท้ายมาวันที่เ
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 138เช้าวันต่อมา.."สายแล้ว" มือหนาเอื้อมไปบีบจมูกเธอเบาๆ เพื่อเป็นการปลุกให้ตื่น"อืม" นอกจากจะไม่ตื่นแล้วเธอยังคงฝังใบหน้าลงกับแผ่นอกของเขาแนบแน่นขึ้น"วันนี้วันศุกร์ต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ""ไม่ไป" เสียงงัวเงียเปล่งออกมาเบาๆ โดยที่ไม่ได้ขยับเขยื้อน"ไม่ไปไม่ได้""ถ้ากลับมากลัวไม่เจอคุณหมอ""ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าแม่จะกลับมา""จริงหรือคะ" จากที่งัวเงียอยู่เมื่อครู่ดูสดใสขึ้นมาทันทีทันใด"จริงสิ""ถ้าแพรไปเรียนคุณหมอก็เหงาสิคะ""ไม่เป็นไรหรอก"เขาไม่เป็นไรแต่เรานี่สิจะไม่ใจขาดก่อนเหรอ ยิ่งรู้ว่าเขารออยู่ที่บ้านเธอรู้ว่าตัวเองต้องคิดถึงเขามากแน่เลยแต่แพรไหมก็ต้องไปเรียนเดี๋ยวเขาหาว่าเกเรรังสิมันต์ขับรถของแม่มาส่งเธอที่มหาวิทยาลัย เพราะเขาไม่ได้เอารถมาด้วย ตอนมาที่นี่ก็ให้รถที่สนามบินมาส่ง"คุณหมอลงไปด้วยกันไหมคะ""ไปได้เหรอ" เขากลัวว่าเธอจะอายเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่มีแฟนอายุเยอะกว่า"ไปได้สิคะ" อยากจะอวดแฟนใจจะขาดอยู่แล้ว พอลงจากรถแพรไหมก็ควงแขนของคุณหมอเดินเข้ามาที่คณะ"แพร?" มีเพื่อนหลายคนที่รู้จักคุณหมอ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่รู้จัก "คนนี้เหรอคุณหมอสุดหล
ตุ๊บ! อยู่ดีๆ ร่างของจิรายุก็กระเด็นออกจากประตู"กรี๊ดด" สาวๆ สองคนที่ยืนรอลุ้นอยู่ด้านหลังตกใจกรีดร้องเสียงดัง เพราะคิดว่าขโมยขึ้นบ้านจริงๆ ส่วนจิรายุที่เป็นทัพหน้าตอนนี้กองอยู่กับพื้นหน้าประตูบ้านชั้นบน"โอ๊ยย" มีไม้ในมือแท้ๆ แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้"ใคร! ออกมานะ" แพรไหมที่เข้าไปพยุงจิรายุตะโกนเข้าไปในบ้าน บอกให้คนที่ทำร้ายเพื่อนออกมาจากที่ซ่อนจังหวะเดียวกันนั้นเจ้าของเท้าที่ถีบจิรายุก็เผยโฉม"คุณหมอ?" แพรไหมแทบขยี้ตาดูอีกรอบว่าเธอมองถูกหรือเปล่า หรือคิดถึงเขามากจนมองโจรเป็นเขา"ผมเอง" ตอนที่พูดสายตาเขามองมือเธอที่กำลังพยุงไอ้ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นอยู่"คุณหมอจริงๆ ด้วย" แพรไหมรีบปล่อยมือแล้วตรงเข้าไปหาเขา "คุณหมอมาได้ยังไงคะ""นั่งเครื่องมา""แล้วคุณหมอรู้จักบ้านของแพรได้ยังไงคะ" นอกจากรู้จักบ้านแล้วเขาต้องมีกุญแจบ้านเธอด้วยถึงจะเข้ามาได้แบบนี้"เจอแม่ที่โรงพยาบาล" ตอนที่พูดเขายังคงมีท่าทีไม่สบอารมณ์สายตายังคงมองไปดูไอ้คนที่มันสำออยอยู่ที่จริงจิรายุไม่ได้สำออยหรอกใครเจอเข้าไปก็ต้องจุกกันบ้างแหละ"จิเธอเป็นอะไรไหม" พอนึกได้ว่าลืมเพื่อนแพรไหมกำลังจะหันกลับไปถามแต่ถูกมือหนาโอบเข้ามาก่อนจะ
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 136เพราะแบบนี้แหละเขาถึงยังไม่บอกเรื่องการประเมิน กลัวว่าเธอจะไม่สบายใจ เพราะผลการประเมินคะแนนของเธอได้มากที่สุดและเรื่องนี้อาจารย์ก็ปล่อยไปไม่ได้ เพราะนักศึกษาข้องใจกับการให้คะแนน แถมคนที่ให้คะแนนก็เป็นคนรักของคนที่ได้คะแนนสูงสุดด้วยทางอาจารย์เลยต้องโทรติดต่อกลับไปที่โรงพยาบาล ว่าพอจะให้เหตุผลเรื่องการให้คะแนนได้ไหม หรือถ้าให้เหตุผลไม่ได้ก็จะขอให้ทางโรงพยาบาลแก้คะแนนตามความเหมาะสม ไม่อยากให้มีผลกระทบต่อการฝึกงานของนักศึกษาเลยแต่พออาจารย์ได้รับรู้ถึงเหตุผลนั้นแล้ว รวมถึงคลิปที่ทางคุณหมอรังสิมันต์เตรียมไว้ให้ ก็ได้นำหลักฐานนั้นเข้ามาแจ้งกับนักศึกษาที่รังสิมันต์ไม่บอกเหตุผลตั้งแต่แรกเพราะเขาอยากกลั่นกรองคนในชีวิตของเธอด้วย ถ้าทุกคนยอมรับโดยไม่มีข้อกังขานั่นหมายถึงเพื่อนแท้เพื่อนแท้จะไม่แอบแทงข้างหลังกัน และเพื่อนแท้ก็ต้องมองเห็นว่าเธอช่วยเพื่อนมากแค่ไหน แต่คนที่กล้ามีข้อสงสัยนั่นหมายถึงเห็นแก่ตัวมากหวังแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียวหลังจากที่อาจารย์นำหลักฐานการให้คะแนนเข้ามาบอกนักศึกษาที่สงสัยเสร็จแล้วทุกคนก็เงียบ เพราะมันก็เป็นจริง แบบที่คุณหมอให้เหตุผลมาว่า
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 135เช้าของวันต่อมา.. รังสิมันต์ไม่ได้บอกเธอหรอกว่าผลการประเมินของเธอได้เท่าไร แต่เขาก็ได้จนเสร็จเพราะถึงแม้เธอจะไม่ทำต่อเขาก็ทำเองได้ ..ที่ไม่บอกกลัวเธอจะคิดมากและแพรไหมก็เข้าใจ ในเมื่อเขาบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงเดี๋ยวก็คงไปรู้ที่มหาวิทยาลัยเองมาถึงโรงพยาบาลนักศึกษาฝึกงานก็ถูกเรียกตัวให้มาพูดคุยกัน เพราะพรุ่งนี้แล้วที่ทุกคนต้องเดินทางกลับ"สวัสดีครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฝึกงานนี้จะช่วยให้นักศึกษาทุกท่านได้เรียนรู้การใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย""นอกจากจะหล่อแล้วแถมคำพูดคำจายังกินใจอีก""อย่าปลื้มมากนั่นผัวเพื่อน""เราก็มาฝึกงานที่นี่เป็นเดือนๆ ทำไมไม่เจอเหมือนยัยแพรเลย""แกได้ยินสุภาษิตไหมที่ว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่มาแข่งบุญวาสนามันแข่งกันไม่ได้หรอกนะ""ถ้านักศึกษาเรียนจบแล้วใครต้องการอยากมาสายอาชีพนี้ โรงพยาบาลแห่งนี้ยินดีต้อนรับนะครับ""จริงหรือคะคุณหมอ ดีจังเลยค่ะ""ผลการประเมินผมได้ส่งอีเมลไปทางมหาวิทยาลัยให้แล้วนะครับ"นักศึกษาทุกคนต่างก็กล่าวคำขอบคุณก่อนจะแยกย้ายไปแผนกที่รับผิดชอบ ส่วนมากวันนี้เป็นวันร่ำลาพี่ๆ ที่ช่วยกันฝึกสอน