Share

บทที่ 11

last update Huling Na-update: 2025-09-02 11:51:50

"หนูยังไม่ตอบตอนนี้ก็ได้ ฉันแค่พอใจในตัวหนู เดี๋ยวมีโอกาสฉันจะแนะนำลูกชายให้รู้จัก"

"เอ่อ..ค่ะ" ตกใจหมดเลยอยู่ดีๆ  ก็แนะนำลูกชายให้เรา

มัวแต่คุยกับท่านพอหันออกไปมองดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก็ทำให้ข้าวปุ้นถึงกับตกตะลึงในความงาม

"สวยใช่ไหมล่ะ ฉันไม่ได้มาล่องเรือแบบนี้นานแล้วล่ะ ก่อนสามีจะป่วยเลยมั้ง"

ท่านคงรักและซื่อสัตย์กับสามีมาก ผู้ชายแบบนี้ไม่น่าเอามาทำพันธุ์เลย

"พอสามีฉันเสีย ฉันก็ไปอยู่ต่างประเทศเพิ่งกลับวันนี้แหละ"

"อ้าวหรือคะ"

"ลูกๆ ยังไม่รู้นะเนี่ย" ท่านหมายถึงลูกชายทั้งสองคนของท่านยังไม่รู้ว่ากลับมาแล้ว

ลูกของท่านโชคดีจังเลยที่มีแม่อบอุ่นแบบนี้

"ฉันได้ยินเราบอกว่าทำงานโซนบาร์หรือ"

"ใช่ค่ะ"

"โรงแรมนี้มีบาร์แล้วเหรอ"

"เจ้าของโรงแรมบอกว่าอยากยกระดับบาร์ให้เป็นสถานบันเทิงค่ะ" เธอเล่าเรื่องที่คุยกับอัคคีให้ท่านฟัง และท่านก็ถามมาประโยคหนึ่ง ท่านถามว่าเจ้าของโรงแรมคนพี่หรือคนน้องเหรอที่ขอให้เธอมาช่วยงาน ข้าวปุ้นไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ทำแจกันแตก แต่เธอก็บอกว่าเคยทำงานสถานบันเทิงมาก่อน เจ้าของที่นี่เป็นเพื่อนกับเจ้านายเลยขอตัวเธอให้มาช่วยงาน

"ข้าวไม่แน่ใจว่าพี่หรือน้องแต่ชื่อคุณอัคคีค่ะ"

"อ้อ"

"คุณป้ารู้จักหรือคะ"

"ก็พอรู้จักบ้าง ฉันว่าหนูชมบรรยากาศก่อนดีกว่าเวลานี้กำลังสวยเลย"

"ข้าวไม่เคยมานั่งล่องเรือแบบนี้สักทีค่ะครั้งแรกเลยนะคะเนี่ย"

"ถ้าหนูชอบก็มากับฉันสิ"

"ได้หรือคะ"

"ไหนๆ ฉันก็ไม่มีใครอยู่แล้วมีหนูมาเป็นเพื่อนก็ดี" เพราะลูกชายมัวแต่ยุ่งกับการทำงานคงไม่มีเวลามานั่งเรือเป็นเพื่อนแม่หรอก

จนเวลาผ่านไปทั้งสองก็แยกย้าย ก่อนจากลานางก็ได้ขอเบอร์โทรของข้าวปุ้นไว้

ข้าวปุ้นกลับมาห้องพักก็เห็นว่าในห้องไม่มีใคร เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ในห้องนอนหรือออกไปข้างนอกแต่ก็ไม่ได้สนใจ พอเข้ามาในห้องนอนก็หลับเป็นตายแถมห้องนี้สะดวกสบายทุกอย่างเลย

ช่วงดึกๆ ของคืนนั้น อัคคีได้รับข้อความไลน์จากพี่ชายเลยรีบกลับไปที่บ้าน

"แม่กลับมาทำไมถึงไม่บอกล่ะครับ"

"แม่เห็นพวกเรายุ่งงาน เลยจัดการอะไรเองทุกอย่าง"

"คิดถึงแม่จังเลยครับ" อัคคีเดินเข้าไปกอดแม่ไว้แน่น ท่านขอไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเพื่อไม่อยากจำเรื่องที่ทำร้ายจิตใจ

"เราไม่กลับมาพักบ้านเลยเหรอ"

"งานที่โรงแรมยุ่งมากครับผมเลยพักที่นั่น"

"พักกับสาวหรือเปล่า"

"คุยกันไปนะครับเดี๋ยวผมจะขึ้นนอนแล้ว" เพลิงนั่งคุยกับแม่ได้ครู่ใหญ่แล้วพอน้องชายมาเขาก็เลยจะขึ้นไปนอน เพลิงไม่ได้ไปค้างที่โรงแรมกับน้องชายหรอกเพราะไม่อยากทิ้งบ้านไว้

"พรุ่งนี้ผมจะให้คนจัดงานเลี้ยงต้อนรับแม่กลับบ้านนะครับ" เขาไม่ได้ตอบเรื่องที่แม่ถามว่าพักกับสาวหรือเปล่า

"ตามใจเราสิ" นางไม่ใช่ตาสีตาสาเป็นถึงผู้ร่วมหุ้นรายใหญ่ของโรงแรม กลับมาเลยต้องจัดงานจะได้พูดคุยกับผู้ร่วมหุ้นและผู้บริหาร "แม่มีผู้หญิงคนหนึ่งอยากให้มาร่วมงานด้วย"

"ผู้หญิงที่ไหนครับ เดินทางมากับแม่เหรอครับ"

"เปล่าหรอกเธออยู่ที่ประเทศเรานี่แหละ"

"แม่รู้จักที่ไหน"

"ที่โรงแรมนั่นแหละ"

"แม่ไปโรงแรมมาแล้วหรือครับ"

"แม่ไปล่องเรือ" เพลิงที่บอกว่าจะขึ้นบ้านได้ยินน้องพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงเลยรอฟังดูก่อน

อัคคีกลัวว่าแม่จะเจอ 18 มงกุฎเลยต้องถามหน่อย แต่ไม่เป็นไรถ้าท่านจะให้มาร่วมงานด้วยพรุ่งนี้เดี๋ยวเขาก็คงเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเอง

คืนนี้อัคคีค้างที่บ้านเพราะแม่กลับมา จนถึงเช้าของวันต่อมาเขาถึงได้รีบออกไปที่โรงแรม เพราะต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับแม่อีก

หุ้นส่วนและผู้บริหารทุกคนได้รับเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยง รวมถึงเพื่อนๆ ของแม่ที่อยู่ในประเทศ

วันนี้ช่วงเช้าข้าวปุ้นยุ่งกับงานที่เธอมารับผิดชอบ จนถึงตอนเที่ยงเธอเลยคิดว่าจะออกไปหาอะไรทานนอกโรงแรมสักหน่อย เพราะคงไม่มีปัญญาทานข้าวในโรงแรมหรอก

"หนูจะไปไหนเหรอ" ตอนที่เธอเดินออกไปป้าคนเมื่อคืนมองเห็นพอดีเลยเดินตามมา

ข้าวปุ้นไม่แปลกใจหรอกที่เจอท่าน เพราะคิดว่าท่านก็คงพักอยู่โรงแรมนี้เหมือนกัน "ข้าวกำลังจะออกไปทานข้าวค่ะ"

"หนูไปทานข้างนอกเหรอ"

"ใช่ค่ะ"

"ในนี้ก็มีห้องอาหารไม่ใช่เหรอ"

ก่อนจะตอบท่านข้าวปุ้นมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวว่าใครจะมาได้ยิน

"มีอะไรเหรอจ๊ะ"

"รู้แล้วป้าอย่าไปบอกใครนะคะ โรงแรมนี้อาหารแพงมาก"

"หึหึ.. ฉันไม่บอกใครหรอก แล้วนี่หนูจะไปทานอะไร"

"ข้าวชอบทานส้มตำค่ะว่าจะไปลองทานหน้าโรงแรมดู"

"ส้มตำเหรอจ๊ะ?"

"ป้าเคยทานไหมคะ"

"เคย"

"งั้นดีเลยเราไปเซอร์เวย์ร้านแถวนี้ด้วยกันดีกว่าค่ะ" ข้าวปุ้นเอื้อมไปจูงแขนของคุณป้าแล้วเดินตามออกมาจนถึงร้านไก่ย่างส้มตำ

"......" นางมองดูอาหารที่ข้าวปุ้นสั่งมาที่บอกว่าเคยทานคือเคยทานตำไทยไม่ใช่ตำปูปลาร้าแบบนี้

"ป้าทานได้ไหมคะ"

"คงได้" นางไม่ค่อยทานส้มตำหรอกเลือกทานแค่ไก่ย่างกับข้าวเหนียว และในระหว่างที่นั่งทานข้าวด้วยกันนางเลยชวนเธอไปร่วมงานเลี้ยง

"งานเลี้ยงเหรอคะ ข้าวไม่กล้าไปหรอกค่ะ"

"งานนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับฉันกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อนคนแรกที่ฉันรู้จักก็คือหนูจะไม่ไปร่วมได้ยังไง"

"เพื่อน?" ท่านให้เกียรติเธอเป็นเพื่อนเลยเหรอ

"หนูคงไม่คิดว่าฉันแก่เกินไปที่จะเรียกว่าเพื่อนได้นะ"

"ไม่ได้คิดแบบนั้นเลยค่ะ..ตกลงค่ะข้าวจะไปร่วมงานเลี้ยงด้วย"

"อีกไม่กี่ชั่วโมงงานเลี้ยงก็จะเริ่มแล้วงั้นเราไปช้อปปิ้งดูเสื้อผ้ากันหน่อยไหม"

"แต่ข้าวต้องกลับไปทำงานค่ะ"

"ไม่เป็นไรหรอกน่าไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย"

"....ค่ะ" เธอมีนิสัยอย่างหนึ่ง ปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็น และครั้งนี้ก็เช่นกัน

[ห้างสรรพสินค้า]

เข้ามาในห้างนางก็พาเธอเดินตรงไปที่ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม

ข้าวปุ้นก็เดินตามเข้าไป ระดับท่านก็คงจะไม่ไปซื้อร้านโนเนมหรอก

"หนูไปลองชุดนี้ดูสิ"

"ข้าวไม่ซื้อหรอกค่ะ"

"ฉันจะซื้อให้"

"ข้าวไม่กล้ารบกวนท่านหรอกค่ะ"

"เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ"

"แต่นี่มันราคาแพงเกินไปค่ะ" ข้าวปุ้นเห็นสีหน้าท่านแล้วเลยใจอ่อนยอมลองชุดที่ท่านส่งมาให้

เกิดมาไม่เคยใส่ชุดแบบนี้สักที แล้วเธอจะกล้าใส่ไปออกงานเหรอ

"เสร็จหรือยังหนูข้าวปุ้น"

"เสร็จแล้วค่ะ"

"ออกมาให้ฉันดูหน่อยเร็ว"

"เอ่อคือ"

"ออกมาเถอะน่า" นางมองผู้หญิงคนนี้ไม่ผิดจริงๆ ถ้าแต่งหน้าทำผมขึ้นอีกหน่อยส่งประกวดได้เลยนะเนี่ย "ฉันเอาทั้งหมดนี้เลย" นางไม่ได้เอาแค่ชุดที่ข้าวปุ้นลอง ยังเอากระเป๋ารองเท้าที่เข้าชุดกัน แถมมีเครื่องประดับเพิ่มมาอีก

ข้าวปุ้นพยายามปฏิเสธ เธอคงไม่มีเงินมาคืนท่านหรอก

"ผู้ใหญ่ให้ของก็ต้องรับไว้สิ"

"ขอบคุณท่านมากนะคะ" หลังจากที่ไหว้ขอบคุณท่านแล้วเธอก็หิ้วของที่ได้เดินตามท่านออกมาจากร้านแบรนด์เนมหรู และมาหยุดอยู่ที่ร้านเสริมสวยไม่ไกลกันนัก

"เอาให้สวยจนจำไม่ได้เลยนะ"

"คะ?" ทีแรกคิดว่าท่านจะเข้ามาเสริมสวยแต่ไม่คิดว่าจะเป็นเธอ

ทั้งสองเสริมความงามไปได้พักหนึ่งก็มีโทรศัพท์เข้ามา

>>{"แม่อยู่ไหนครับงานใกล้จะเริ่มแล้ว"}

   {"เริ่มงานไปก่อนเลยเดี๋ยวแม่เข้าไป"} นางพูดแค่นี้ก็วางสายไป ตอนที่กำลังวางสายมองไปดูผู้หญิงที่มาด้วยกัน ถ้าไม่ได้นั่งเสริมสวยด้วยกันคงจำไม่ได้ว่าเป็นคนคนเดียวกัน

"หนูสวยมากเลยนะ"

"ต้องขอบคุณช่างค่ะ" ข้าวปุ้นมองตัวเองในกระจกแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน

ในเวลาต่อมาที่โรงแรม..

"พร้อมหรือยัง"

"ค่ะ" เธอคิดว่าท่านจัดเลี้ยงกับพวกเพื่อนฝูงของท่าน คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เลยเดินเข้ามาในงานกับท่านด้วยความมั่นใจ..

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 140 ตอนจบ

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 140 ตอนจบ"ได้ยินแม่บอกว่าคุณยังไม่ทานข้าวเที่ยงเหรอ"แพรไหมพยักหน้าตอบไม่ใช่แค่ข้าวเที่ยงหรอกข้าวเช้ายังทานไม่ค่อยลงเลยด้วยความเป็นหมอเขาเลยสอบถามอาการของเธอให้แน่ใจ ว่าเธอมีอาการแพ้ท้องแบบไหนเพราะการแพ้ท้องมีหลายแบบ พอรู้ถึงอาการของเธอแล้วรังสิมันต์เลยเข้าไปในตัวเมืองเพื่อจัดยามาให้เธอทานก่อน และหาอาหารบำรุงครรภ์มาเตรียมไว้ให้เธอในระหว่างที่เขาทำเรื่องวันต่อมา.."แม่เก็บของทำไมคะ" แพรไหมเปลี่ยนเสื้อผ้านักศึกษาออกมาเตรียมจะไปเรียนแล้วก็เห็นว่าแม่กำลังเก็บของ"เราจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯไงลูก""ย้าย?""คุณหมอยังไม่บอกเราเหรอ""ยังไม่บอกค่ะ" เมื่อคืนนี้กินยาที่เขาให้ไปง่วงนอนมากเลยหลับ ตอนที่เธอหลับรังสิมันต์ออกมาปรึกษาแม่เรื่องนี้ ทั้งสองเลยตกลงว่าจะไปอยู่ที่นั่น แต่ก่อนนางอาจจะยังลังเลอยู่แต่ตอนนี้มีหลานเล็กๆ แถมหลานอีกคนก็กำลังจะเกิด นางจะเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไม่ได้แล้ว"แล้วพี่หมอล่ะลูก""ตอนนี้เข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ"ไม่นานรังสิมันต์ก็ออกมาจากห้องเห็นแม่ของเธอกำลังเก็บของอยู่พอดี"ตอนเช้าผมจะพาแพรไปคุยเรื่องเรียนก่อนนะครับ ช่วงสายๆ เดี๋ยวผมมาช่วยเก

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 139

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 139 >>{"สวัสดีครับคุณแม่ ผมนึกว่าแพร"} {"เมื่อกี้ยัยแพรก็อยู่ตรงนี้แหละ แต่ตอนนี้เข้าไปอ้วก"}>>{"แพรเป็นอะไรครับ?"} {"ตาหมอมีธุระด่วนจะคุยกับน้องไหมล่ะ"}>>{"พอดีว่าพรุ่งนี้ผมต้องเดินทางไปสัมมนาที่ต่างประเทศครับเลยอยากจะคุยกับแพรก่อน ว่าแต่วันนี้แพรทานอะไรบ้างครับ"} เขาวินิจฉัยเธอผ่านทางโทรศัพท์ เพราะคนที่จะอาเจียนได้มีหลายปัจจัย แต่ก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายทั้งนั้นเลย ร่างกายถึงได้ขับของพวกนั้นออกมา {"วันนี้น้องไปเรียนแม่ไม่รู้ว่าที่มหาวิทยาลัยทานอะไรบ้างเดี๋ยวรอน้องออกมาก่อนนะลูก"}ไม่นานแพรไหมก็ออกมาแม่เลยบอกว่าคุณหมอรอสายอยู่ {"ค่ะคุณหมอ"}>>{"แพรมีอาการเป็นยังไงบ้าง"} {"เวียนหัวคลื่นไส้ค่ะ"}>>{"มีอาการเวียนหัวร่วมด้วยเหรอ? เป็นมากี่วันแล้ว"} {"หลายวันแล้วค่ะ แต่เป็นๆ หายๆ"}>>{"ไปหาหมอหรือยัง"} {"ทีแรกแพรนึกว่าอาการนี้มันจะหายไปแล้วเลยไม่ได้ไปหาหมอค่ะ"}>>{"ประจำเดือนเดือนนี้มาหรือยัง"} ประโยคต่อมาของคำถามทำให้แพรไหมถึงกับชะงัก {"เกี่ยวอะไรกับประจำเดือนคะ"}>>{"ตอบผมมาก่อน"} {"ยังไม่มาเลยค่ะ"}>>{"เดือนสุดท้ายมาวันที่เ

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 138

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 138เช้าวันต่อมา.."สายแล้ว" มือหนาเอื้อมไปบีบจมูกเธอเบาๆ เพื่อเป็นการปลุกให้ตื่น"อืม" นอกจากจะไม่ตื่นแล้วเธอยังคงฝังใบหน้าลงกับแผ่นอกของเขาแนบแน่นขึ้น"วันนี้วันศุกร์ต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ""ไม่ไป" เสียงงัวเงียเปล่งออกมาเบาๆ โดยที่ไม่ได้ขยับเขยื้อน"ไม่ไปไม่ได้""ถ้ากลับมากลัวไม่เจอคุณหมอ""ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าแม่จะกลับมา""จริงหรือคะ" จากที่งัวเงียอยู่เมื่อครู่ดูสดใสขึ้นมาทันทีทันใด"จริงสิ""ถ้าแพรไปเรียนคุณหมอก็เหงาสิคะ""ไม่เป็นไรหรอก"เขาไม่เป็นไรแต่เรานี่สิจะไม่ใจขาดก่อนเหรอ ยิ่งรู้ว่าเขารออยู่ที่บ้านเธอรู้ว่าตัวเองต้องคิดถึงเขามากแน่เลยแต่แพรไหมก็ต้องไปเรียนเดี๋ยวเขาหาว่าเกเรรังสิมันต์ขับรถของแม่มาส่งเธอที่มหาวิทยาลัย เพราะเขาไม่ได้เอารถมาด้วย ตอนมาที่นี่ก็ให้รถที่สนามบินมาส่ง"คุณหมอลงไปด้วยกันไหมคะ""ไปได้เหรอ" เขากลัวว่าเธอจะอายเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่มีแฟนอายุเยอะกว่า"ไปได้สิคะ" อยากจะอวดแฟนใจจะขาดอยู่แล้ว พอลงจากรถแพรไหมก็ควงแขนของคุณหมอเดินเข้ามาที่คณะ"แพร?" มีเพื่อนหลายคนที่รู้จักคุณหมอ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่รู้จัก "คนนี้เหรอคุณหมอสุดหล

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 137

    ตุ๊บ! อยู่ดีๆ ร่างของจิรายุก็กระเด็นออกจากประตู"กรี๊ดด" สาวๆ สองคนที่ยืนรอลุ้นอยู่ด้านหลังตกใจกรีดร้องเสียงดัง เพราะคิดว่าขโมยขึ้นบ้านจริงๆ ส่วนจิรายุที่เป็นทัพหน้าตอนนี้กองอยู่กับพื้นหน้าประตูบ้านชั้นบน"โอ๊ยย" มีไม้ในมือแท้ๆ แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้"ใคร! ออกมานะ" แพรไหมที่เข้าไปพยุงจิรายุตะโกนเข้าไปในบ้าน บอกให้คนที่ทำร้ายเพื่อนออกมาจากที่ซ่อนจังหวะเดียวกันนั้นเจ้าของเท้าที่ถีบจิรายุก็เผยโฉม"คุณหมอ?" แพรไหมแทบขยี้ตาดูอีกรอบว่าเธอมองถูกหรือเปล่า หรือคิดถึงเขามากจนมองโจรเป็นเขา"ผมเอง" ตอนที่พูดสายตาเขามองมือเธอที่กำลังพยุงไอ้ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นอยู่"คุณหมอจริงๆ ด้วย" แพรไหมรีบปล่อยมือแล้วตรงเข้าไปหาเขา "คุณหมอมาได้ยังไงคะ""นั่งเครื่องมา""แล้วคุณหมอรู้จักบ้านของแพรได้ยังไงคะ" นอกจากรู้จักบ้านแล้วเขาต้องมีกุญแจบ้านเธอด้วยถึงจะเข้ามาได้แบบนี้"เจอแม่ที่โรงพยาบาล" ตอนที่พูดเขายังคงมีท่าทีไม่สบอารมณ์สายตายังคงมองไปดูไอ้คนที่มันสำออยอยู่ที่จริงจิรายุไม่ได้สำออยหรอกใครเจอเข้าไปก็ต้องจุกกันบ้างแหละ"จิเธอเป็นอะไรไหม" พอนึกได้ว่าลืมเพื่อนแพรไหมกำลังจะหันกลับไปถามแต่ถูกมือหนาโอบเข้ามาก่อนจะ

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 136

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 136เพราะแบบนี้แหละเขาถึงยังไม่บอกเรื่องการประเมิน กลัวว่าเธอจะไม่สบายใจ เพราะผลการประเมินคะแนนของเธอได้มากที่สุดและเรื่องนี้อาจารย์ก็ปล่อยไปไม่ได้ เพราะนักศึกษาข้องใจกับการให้คะแนน แถมคนที่ให้คะแนนก็เป็นคนรักของคนที่ได้คะแนนสูงสุดด้วยทางอาจารย์เลยต้องโทรติดต่อกลับไปที่โรงพยาบาล ว่าพอจะให้เหตุผลเรื่องการให้คะแนนได้ไหม หรือถ้าให้เหตุผลไม่ได้ก็จะขอให้ทางโรงพยาบาลแก้คะแนนตามความเหมาะสม ไม่อยากให้มีผลกระทบต่อการฝึกงานของนักศึกษาเลยแต่พออาจารย์ได้รับรู้ถึงเหตุผลนั้นแล้ว รวมถึงคลิปที่ทางคุณหมอรังสิมันต์เตรียมไว้ให้ ก็ได้นำหลักฐานนั้นเข้ามาแจ้งกับนักศึกษาที่รังสิมันต์ไม่บอกเหตุผลตั้งแต่แรกเพราะเขาอยากกลั่นกรองคนในชีวิตของเธอด้วย ถ้าทุกคนยอมรับโดยไม่มีข้อกังขานั่นหมายถึงเพื่อนแท้เพื่อนแท้จะไม่แอบแทงข้างหลังกัน และเพื่อนแท้ก็ต้องมองเห็นว่าเธอช่วยเพื่อนมากแค่ไหน แต่คนที่กล้ามีข้อสงสัยนั่นหมายถึงเห็นแก่ตัวมากหวังแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียวหลังจากที่อาจารย์นำหลักฐานการให้คะแนนเข้ามาบอกนักศึกษาที่สงสัยเสร็จแล้วทุกคนก็เงียบ เพราะมันก็เป็นจริง แบบที่คุณหมอให้เหตุผลมาว่า

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 135

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 135เช้าของวันต่อมา.. รังสิมันต์ไม่ได้บอกเธอหรอกว่าผลการประเมินของเธอได้เท่าไร แต่เขาก็ได้จนเสร็จเพราะถึงแม้เธอจะไม่ทำต่อเขาก็ทำเองได้ ..ที่ไม่บอกกลัวเธอจะคิดมากและแพรไหมก็เข้าใจ ในเมื่อเขาบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงเดี๋ยวก็คงไปรู้ที่มหาวิทยาลัยเองมาถึงโรงพยาบาลนักศึกษาฝึกงานก็ถูกเรียกตัวให้มาพูดคุยกัน เพราะพรุ่งนี้แล้วที่ทุกคนต้องเดินทางกลับ"สวัสดีครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฝึกงานนี้จะช่วยให้นักศึกษาทุกท่านได้เรียนรู้การใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย""นอกจากจะหล่อแล้วแถมคำพูดคำจายังกินใจอีก""อย่าปลื้มมากนั่นผัวเพื่อน""เราก็มาฝึกงานที่นี่เป็นเดือนๆ ทำไมไม่เจอเหมือนยัยแพรเลย""แกได้ยินสุภาษิตไหมที่ว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่มาแข่งบุญวาสนามันแข่งกันไม่ได้หรอกนะ""ถ้านักศึกษาเรียนจบแล้วใครต้องการอยากมาสายอาชีพนี้ โรงพยาบาลแห่งนี้ยินดีต้อนรับนะครับ""จริงหรือคะคุณหมอ ดีจังเลยค่ะ""ผลการประเมินผมได้ส่งอีเมลไปทางมหาวิทยาลัยให้แล้วนะครับ"นักศึกษาทุกคนต่างก็กล่าวคำขอบคุณก่อนจะแยกย้ายไปแผนกที่รับผิดชอบ ส่วนมากวันนี้เป็นวันร่ำลาพี่ๆ ที่ช่วยกันฝึกสอน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status