Beranda / โรแมนติก / กลรักพี่ชายแสนร้าย / บทที่ 1 น้องสาวคนใหม่

Share

กลรักพี่ชายแสนร้าย
กลรักพี่ชายแสนร้าย
Penulis: เด็กหญิงมอมแมม (I'm star)

บทที่ 1 น้องสาวคนใหม่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-25 10:52:37

@ สนามแข่งรถ

เสียงเร่งเครื่องของรถซูเปอร์คาร์สองคันดังกระหึ่มอยู่ในสนามแข่งรถตรงจุดออกตัว สองหนุ่มเพื่อนซี้ ทิวเขา และ วายุ กำลังจ้องเขม็งมองกันประหนึ่งว่ามีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปวิ่งมาระหว่างดวงตาทั้งสองคู่

แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน แต่เมื่ออยู่ในสนามแข่งทั้งคู่ต่างก็มองอีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้ใคร ๆ ก็รู้ว่าไอ้สองคนนี้มันไม่ยอมกันมาแต่ไหนแต่ไร

เมื่อไฟสัญญาณให้ออกตัวรถสองคันก็พุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็ว ทั้งทักษะการขับและประสบการณ์การแข่งทั้งสองหนุ่มถือว่าฝีมือสูสีไม่มีใครดีหรือด้อยไปกว่ากัน

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด สองหนุ่มเชือดเฉือนราวกับเป็นคู่ศัตรูมาแต่ชาติปางไหน ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นนำอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่รอบสุดท้ายรถของทิวเขาจะเร่งเครื่องขึ้นมาจนทิ้งห่างจากรถของวายุอยู่หลายช่วงคัน

“วันนี้ไอ้ทิวเขาแม่งได้ว่ะ แซงหน้าไอ้วายุไปหลายช่วงคันแล้ว เฮ่อ! สงสัยกูจะได้เสียเงินอีกแหง ๆ”

ออสติน หนุ่มลูกครึ่งไทยนอร์เวย์เอ่ยขึ้นขณะยืนลุ้นอยู่บนห้องรับรองลูกค้าวีไอพีของสนามแข่งรถ นัยน์ตาสีน้ำตาลเพ่งไปด้านหน้าที่เป็นกระจกใสซึ่งสามารถมองเห็นวิวสนามได้แบบสามร้อยหกสิบองศา

ภายในห้องกว้างมีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่เอาไว้เพื่อรับชมการแข่งขันในสนาม เพราะฉะนั้นรถทุกคันที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ในนั้นจึงไม่อาจรอดพ้นสายตาของผู้ที่อยู่ในห้องนี้ไปได้

เจ้าขุน นั่งไขว่ห้างพลางยกแก้วเหล้าขึ้นมาควงอย่างใจเย็น นัยน์ตาสีเข้มเพ่งไปยังหน้าจอ ก่อนที่มุมปากหนาจะยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นว่าทิวเขาเป็นผู้คว้าชัย

วันนี้เขาเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน

“แม่งเอ๊ย!”

ออสตินสบถอย่างหัวเสียก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โซฟา มือหนาคว้าแก้วเหล้าของตัวเองมาสาดลงคอด้วยท่าทางหงุดหงิด

เขาลงเดิมพันข้างวายุเอาไว้วันนี้จึงเป็นฝ่ายเสียเงินให้เจ้าขุน

“มึงอย่าพาล จ่ายมาซะดี ๆ”

เจ้าขุนวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วกระดิกนิ้วยิก ๆ

ออสตินหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดโอนเงินสามล้านให้แก่ผู้ชนะเดิมพัน

ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่งหันไปมองหน้าคนที่กำลังหัวเราะเยาะเขาอย่างไม่สบอารมณ์

“กูเตือนมึงแล้วว่าอย่าพนันตอนไอ้ทิวเขามันกำลังโมโห เสือกไม่เชื่อกูเอง”

เจ้าขุนไหวไหล่อย่างคนเหนือกว่า มองหน้าคนแพ้แล้วยิ้มเย้ยหยัน จู่ ๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้ใช้ฟรี ๆ ตั้งสามล้านใครไม่เอาก็โง่แล้ว

“ใครจะไปคิดว่าเวลามันโมโหแล้วจะขับรถไม่กลัวตายแบบนี้วะ รู้งี้เก็บเงินไว้เปย์หญิงดีกว่า”

คนแพ้บ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อน ก่อนจะเทเหล้าใส่แก้วแล้วยกดื่มเพียว ๆ ดับความขุ่นเคือง

ไม่นานนักสองหนุ่มนักซิ่งก็เดินเข้ามาในห้องวีไอพีของสนามแข่งรถที่พวกเขาทั้งสี่คนร่วมทุนกันสร้างขึ้นมา

ทั้งสี่หนุ่มชื่นชอบการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ จึงสร้างสนามแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ส่วนเรื่องการหารายได้เป็นเพียงเหตุผลรองลงมาพวกเขาจึงไม่ได้ซีเรียสหากไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้สนาม

“ไอ้ห่าวายุมึงไม่ได้เรื่องเลย ออกตัวอย่างแรงแต่เสือกมาแผ่วปลาย กูเลยแม่งต้องเสียเงินให้ไอ้เจ้าขุนตั้งสามล้านเลยดูดิ”

เพราะยังรู้สึกโมโหไม่หายออสตินจึงบ่นไม่หยุด ใจจริงเขาอยากจะเอาเท้าถีบมันสักทีสองทีเสียด้วยซ้ำ ขับยังไงปล่อยให้คู่ต่อสู้ทิ้งห่างตั้งหลายช่วงคัน

“ก็ไอ้ห่าทิวเขาแม่งเสือกเหยียบมิดไมล์ ใครมันจะไปกล้าเหยียบแข่งกับมันวะ กูก็กลัวตายเว้ย”

คนแพ้พร่ำบ่นให้คนที่เพิ่งลงสนามประลองฝีมือกันมาเมื่อกี้

“เหยียบเต็มตีนขนาดนี้มึงจะรีบไปรับน้องสาวคนใหม่ตามคำสั่งของพ่อมึงเหรอ”

เจ้าขุนเอ่ยแซวคนแข่งชนะ เรื่องที่ผู้เป็นพ่อสั่งว่าวันนี้ตอนหนึ่งทุ่มให้ไปรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่สนามบิน ทว่าตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มแล้วแต่ทิวเขากลับยังนิ่งเฉยไม่มีทีท่าว่าจะทำตามคำสั่งของผู้เป็นพ่อ

และเป็นเพราะเรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้ทิวเขาทั้งโมโหและหงุดหงิดตั้งแต่เช้า

“น้องสาวพ่องมึงดิ อย่ามาพูดหมา ๆ กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่”

ผู้โดนแซวตวาดอย่างไม่สบอารมณ์ คนกำลังหงุดหงิดไอ้พวกเพื่อนสนิทกลับเอาแต่พูดจากวนประสาทอยู่ได้

‘น้องสาวห่าเหวอะไร กูเป็นลูกคนเดียวโว้ย’

“นี่ก็จะสองทุ่มแล้วนะเว้ย ถ้ามึงไม่ไปสักทีเดี๋ยวพ่อแม่มึงก็โทรมาเฉ่งกบาลอีกหรอก เมื่อตอนหัวค่ำก็โทรมาย้ำรอบหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ”

เพราะไม่อยากฟังเพื่อนแพล่มตอนมันถูกพ่อด่า วายุเลยตัดรำคาญโดยการเตือนสติทิวเขาให้ยอมทำตามคำสั่งของผู้เป็นพ่อจะดีกว่า

ทิวเขากระดกเหล้าเข้าปากรัว ๆ ไม่อยากไปแต่ขัดคำสั่งของผู้เป็นใหญ่ในบ้านไม่ได้ สุดท้ายจึงหยัดกายลุกจากโซฟาแล้วเดินออกไปโดยไม่พูดไม่กล่าว

“อ้าว! ไอ้ห่า คิดจะไปก็ไปไม่บอกเพื่อนสักคำ” ออสตินบ่นตามหลัง

รถคันหรูขับออกจากสนามแข่งรถด้วยความเร็ว ระหว่างนั้นทิวเขาก็คอยเหลือบมองเวลาบนเรือนไมล์เป็นระยะ ๆ

‘สองทุ่ม’

รอได้ก็รอ ถ้ารอไม่ได้ก็กลับเชียงรายไปสิ

อีกด้าน

น้ำหวาน หญิงสาววัยสิบเก้าปีเต็มนั่งอยู่เพียงลำพังในสนามบิน คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างกังวลใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาคนที่จะมารับทว่ายังไร้วี่แวว

ร่างเล็กเดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่งในมือกำสายกระเป๋าสะพายเอาไว้แน่น

ครืด! ครืด! ครืด!

เสียงเรียกเข้าดังขึ้นพร้อมกับไฟหน้าจอที่สว่างวาบขึ้นมา เธอรีบกดรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคุณอาที่เคารพ

“ค่ะ อาขวัญ”

[น้ำหวาน เจอพี่รึยังลูก]

“ยังเลยค่ะ”

[ทำอะไรอยู่นะตาทิวเขา ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่ไปรับน้องอีก]

เสียงปลายสายบ่นให้ลูกชายเพียงคนเดียวที่ชอบทำตัวเหลวไหล อุตส่าห์กำชับเอาไว้แล้วเชียวว่าให้ไปรอรับน้องที่สนามบินก่อนหนึ่งทุ่ม จนป่านนี้แล้วยังไปไม่ถึงอีก

[งั้นเดี๋ยวอาโทรหาพี่เขาก่อนนะ น้ำหวานรออยู่ตรงนั้นอย่าเพิ่งไปไหนนะลูก]

“ค่ะ”

หลังจากวางสาย ของขวัญ ก็โทรหาลูกชายตัวดี เสียงสัญญาณดังอยู่ไม่นานเขาก็กดรับสายของผู้เป็นแม่

[ตาทิวเขาอยู่ไหนแล้วทำไมป่านนี้ยังไม่ไปรับน้อง]

“กำลังขับรถอยู่ครับ แม่ก็รู้ว่าทางไปสนามบินรถมันติดแค่ไหน”

เขาทำหน้าเซ็งกะตายระหว่างสนทนา รู้สึกไม่ถูกชะตากับยัยเด็กน้ำหวานนี่เลยสักนิด มาวันแรกก็เริ่มสร้างความวุ่นวายแถมยังทำให้เขาถูกผู้เป็นแม่บ่นอีกต่างหาก

[เร็ว ๆ เลยนะ น้องรอตั้งนานแล้ว]

“รู้แล้วค้าบบบบบบ”

ลากเสียงครับยาว ๆ ราวกับประชดก่อนจะกดวางสาย จากนั้นก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง

กะอีแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งพ่อแม่ก็ไม่มี เป็นเด็กที่พ่อริวเพื่อนสนิทพ่อของเขาเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น ไม่รู้ทำไมพ่อกับแม่ต้องให้ความสำคัญนักหนา

เวลาต่อมา

ร่างสูงประมาณร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรเดินหน้าตึงเข้าไปในสนามบิน ดวงตาคู่คมกวาดมองไปรอบ ๆ บริเวณนั้น ทว่ากลับไม่พบกับคนที่มีหน้าตาใกล้เคียงกับยัยน้ำหวานที่เขาเคยเจอเมื่อสมัยเด็ก

เด็กผู้หญิงตัวอ้วน ๆ หน้ากลม ๆ ในตอนนั้น ตอนนี้จะต่างจากเดิมสักเท่าไหร่กันเชียว

ถึงกระนั้นผู้เป็นพ่อก็น่าจะส่งรูปถ่ายปัจจุบันของเธอมาให้บ้าง ไม่ใช่ดีแต่โทรมาสั่งอย่างเดียว

ชายหนุ่มแอบตำหนิบิดาอยู่ในใจระหว่างที่เดินตามหาหญิงสาวจนทั่วอาณาบริเวณของสนามบิน

คนที่เดินสวนไปสวนมาใช่ว่าจะน้อย ๆ ซะที่ไหนจะให้หาเจอง่าย ๆ ได้ยังไงกัน

‘วุ่นวายฉิบหาย’

 “พี่ทิวเขารึเปล่าคะ”

เสียงหวานเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง เขาหันกลับไปมองแล้วชะงักงันเล็กน้อยเมื่อผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่ยัยเด็กผู้หญิงตัวอ้วน ๆ หน้ากลม ๆ อย่างที่เขาคิดไว้ แต่กลับเป็นหญิงสาวรูปร่างดีผิวพรรณขาวผ่องสะอาดสะอ้านใบหน้าสวยหวานตราตรึงใจ

เธอเป็นใครทำไมหน้าไม่คุ้นเลย

“เอ่อ...คุณคือ”

ทิวเขาดูเสียอาการ รอยยิ้มอย่างเป็นมิตรผุดขึ้นที่ริมฝีปากของเขาระหว่างที่สำรวจใบหน้าของหญิงสาว ก่อนจะรีบหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของเธอ

“น้ำหวานเองค่ะ พี่ทิวเขาจำน้ำหวานไม่ได้เหรอคะ”

คนตรงหน้าเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มหวาน

ไม่น่าเชื่อว่ายัยเด็กตัวอ้วนกลมดิ๊กในอดีตคนนั้น พอโตขึ้นมาจะดูดีจนน่าตกตะลึง

ทิวเขายืนอึ้งราวกับโดนสาปอยู่ครู่ใหญ่ เมื่อได้สติเขาก็ทำหน้าขึงขังใส่แล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“ยืนบื้ออยู่ทำไม ตามมาสิ”

ว่าเสร็จร่างสูงก็เดินตัวปลิวออกไป นอกจากไม่ช่วยถือกระเป๋าเขายังไม่รออีกด้วย น้ำหวานหุบยิ้มแล้วรีบหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางสองใบเดินตามชายหนุ่มด้วยความทุลักทุเล

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเขาก็ยังเกลียดเธอเหมือนเดิมสินะ

หญิงสาวมองแผ่นหลังกว้างแล้วตัดพ้อในใจ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   ตอนพิเศษ 2 (ตอนจบ)

    อีกด้านหลังรถซูเปอร์คาร์คันงามจอดนิ่งที่ลานจอดรถของคอนโด ร่างสูงก็อุ้มแฟนสาวลงจากรถแล้วพาเข้าไปในลิฟต์ เมื่อประตูลิฟต์ปิดสนิทริมฝีปากจิ้มลิ้มก็ถูกประกบทันที ทำราวกับว่าอยู่ในห้องส่วนตัวทั้งที่ยังอยู่ในลิฟต์“อื้อ~”มือบางตีลงที่หัวไหล่ของเขาพร้อมกับครางท้วง ทิวเขาผละริมฝีปากออกมาแล้วยิ้มขำน้ำหวานทำตาเขียวปั้ดใส่คนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองประตูห้องยังไม่ทันปิดสนิทริมฝีปากหนาก็ประทับลงบนริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนผ่าวสอดแยงเข้าไปในโพรงปากนุ่มแล้วดูดเม้มปลายลิ้นเล็ก ส่งเรียวลิ้นไปเซาะซอนจนทั่วทุกมุม จูบแลกลิ้นเกี่ยวกระหวัดจนชุ่มฉ่ำไปทั่วปาก จากนั้นเขาก็วางร่างเล็กให้ยืนบนพื้นมือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างบางพลางถอดเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ น้ำหวานเองก็ไม่น้อยหน้าจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของชายหนุ่มออกเช่นกันนัยน์ตาคมจ้องมองเรือนร่างงดงามที่อยู่เบื้องหน้าด้วยอารมณ์ปรารถนา มือหนาเคลื่อนไล้ไปตามผิวกายขาวผ่องอย่างผะแผ่วขณะดันร่างเล็กไปจนชิดกับฝาผนังจากนั้นก็พรมจูบไปตามซอกคอระหง ขณะที่มือข้างหนึ่งเคล้นคลึงตรงสะโพกมน ส่วนมืออีกข้างทำหน้าที่ปลุกเร้าตรงสองเต้าเต่งตึงลมหายใจผ่าวร้อนเป่ารดลงบนลำคอขา

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   ตอนพิเศษ 1

    “จะพากันไปไหนเหรอลูก”เสียงผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกชายซึ่งกำลังถือกระเป๋าสะพายเดินตามแฟนสาวลงมาจากชั้นสองของบ้านน้ำหวานนั่งลงบนโซฟาแล้วเป็นคนตอบคำถามแทนชายหนุ่ม“หวานก็ไม่รู้ค่ะ พี่ทิวเขาไม่ยอมบอกเลยค่ะว่าจะพาไปไหน”“อ้าว! จะพาน้องไปไหนทำไมไม่บอกน้องล่ะ”หันไปถามลูกชายตัวดีที่นั่งอยู่ด้านข้างหญิงสาวซึ่งตอนนี้กำลังทำท่าทางออเซาะเธอราวกับเป็นเด็กน้อยจนน่าหมั่นไส้ลูกชายสุดที่รักหันมาทางผู้เป็นแม่แล้วเอ่ยตอบ“บอกไม่ได้ครับมันเป็นความลับ”ผู้เป็นแม่ถอนหายใจเหนื่อยอกเหนื่อยใจก่อนจะตวัดมือไล่ไม่อยากสนใจ ปล่อยให้ทั้งคู่พากันไปเที่ยวตามประสาคนหนุ่มคนสาวหลังไหว้ลาทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันไปที่รถ ทิวเขาเป็นคนคอยบริการเปิดประตูพร้อมทั้งคาดเข็มขัดนิรภัยให้น้ำหวาน จากนั้นเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นทางฝั่งคนขับ ก่อนที่รถคันหรูจะเคลื่อนออกจากบ้านพาเธอไปยังสถานที่ที่เขานัดแนะเอาไว้กับเพื่อน ๆ@สนามแข่งรถวันนี้ที่สนามแข่งรถดูคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีการจัดงาน รถหลายคันวิ่งวอร์มอยู่ในสนามโดยมีผู้ชมมากมายยืนรายล้อมอยู่บริเวณรอบ ๆหลังจอดรถทิวเขาก็เดินไปเปิดประตูให้น้ำหวาน หญิงสาวมีความวิตกกังวลอย่างบอกไม่ถูก ภาพความทร

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 57 หวานฉ่ำ NC

    “อ๊ะ~” ร่างเล็กสั่นสะท้านร้องเสียงครวญครางอย่างได้อารมณ์ สองมือที่บีบขยำเนินนมออกแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆแม้จะรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ทว่าความเสียวกลับมีมากกว่า น้ำหวานดิ้นพล่านขณะถูกดูดดึงสองเต้าอย่างหนักหน่วง ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนไซ้ขึ้นไปตรงซอกคอ ใช้ฟันขบเบา ๆ ตรงลำคอระหงด้วยความมันเขี้ยว น้ำหวานเสียดเสียวจนแทบจะขาดใจ มือสองข้างเลื่อนไล้ไปตามเรือนร่างบางจนมาถึงตรงกลางกายสาว ปลายนิ้วบดคลึงตรงจุดกระสันเสียวผ่านกางเกงชั้นในตัวบางจนน้ำรสหวานไหลเยิ้มออกมาเลอะเป้าเปียกแฉะ ร่างสูงหยัดกายคุกเข่าตรงกลางระหว่างขาเนียน มือหนาจับเรียวขาสวยอ้าออกขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม ปลายนิ้วเขี่ยตรงจุดกระสันเสียวจนแน่ใจว่าเปียกเยิ้มเต็มที่เขาก็แหวกเป้ากางเกงชั้นในไปไว้ด้านข้าง ดวงตาคู่คมจดจ้องไปยังร่องกลีบสีชมพู ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดเอาน้ำลายไปถูชโลมบนแท่งเนื้อลำเขื่องของตัวเอง มือหนาชัดรูดแกนกายลำใหญ่สองสามครั้ง จ่อส่วนปลายไว้ตรงปากร่อง จับปลายหยักถูไถตรงเม็ดติ่งเสียวเพื่อเพิ่มอารมณ์ซาบซ่านให้หญิงสาว “อ๊ะ~พี่ทิวเขา หวานไม่ไหวแล้ว ใส่เข้ามาเลยได้ไหมคะ

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 57 เป็นแฟนกันนะ NC

    หลังพูดคุยและทานข้าวเที่ยงร่วมกันกับแม่ครูและน้อง ๆ ในบ้านเด็กกำพร้าน้ำหวานก็เอ่ยลาทุกคนเนื่องจากทิวเขาบอกเธอว่าจะพาไปยังที่ที่หนึ่ง ซึ่งเขาไม่ได้บอกว่าเป็นที่ไหนรถคันหรูวิ่งไปตามเส้นทางที่น้ำหวานค่อนข้างคุ้นเคย เธอรู้สึกสงสัยอยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามจนในที่สุดรถคันงามก็มาจอดนิ่งที่หน้าบ้านไม้ทรงล้านนา“พี่ทิวเขาพาหวานมาที่นี่ทำไมคะ”“เดี๋ยวก็รู้ครับ”ชายหนุ่มลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้หญิงสาว เธอทำท่าเก้ ๆ กัง ๆ เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า“ลงมาเถอะน่า”หญิงสาวลงจากรถตามคำชวน ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบ ๆ อาณาบริเวณบ้านหลังใหญ่ที่เธอเคยอยู่อาศัยตั้งแต่เด็กจนโตแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัยทิวเขายิ้มให้หญิงสาว“เข้าไปข้างในกันเถอะ”“เดี๋ยวค่ะ เราเข้าไปข้างในไม่ได้นะคะ บ้านหลังนี้ถูกขายเป็นของคนอื่นไปแล้ว”มุมปากหนากระตุกยิ้มบางเบา เขายกกุญแจบ้านหลังใหญ่ขึ้นมาโชว์ให้หญิงสาวดู“หมายความว่าไงคะ”“บ้านหลังนี้เป็นของน้ำหวานแล้วนะ”น้ำหวานยืนนิ่งแววตาเต็มไปด้วยฉงนสงสัย ไม่นานความสงสัยทุกอย่างก็คลี่คลายด้วยคำอธิบายของคนตรงหน้า“พี่รู้ว่าน้ำหวานรักบ้านหลังนี้มาก พี่ก็เลยซื้อบ้านหลังนี้ไว้”“

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 56 ไม่ใช่แฟน

    หลังจากน้ำหวานโอนเงินค่าผ่าตัดไปให้แม่ครู ดินก็ได้เข้ารับการผ่าตัดในทันที การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีเนื้อเยื่อของผู้บริจาคไตเข้ากันได้ดีกับดินเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นไม่นานดินก็ได้กลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“หยุดยาวสามวันหวานจะขึ้นไปเยี่ยมนะคะ”เสียงน้ำหวานกำลังพูดคุยโทรศัพท์กับแม่ครูอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้านทิวเขาคอยเดินตามไม่ห่าง ความจริงเพราะอยากแอบฟังว่าเธอคุยกับใครมากกว่า[ดินต้องดีใจแน่ ๆ ที่รู้ว่าน้ำหวานจะมา]“แม่ครูอย่าเพิ่งบอกพี่ดินนะคะ หวานว่าจะไปเซอร์ไพรส์น่ะค่ะ”[จ้ะ แม่จะรูดซิปปากเอาไว้ให้แน่นเลยจ้ะ]“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ”[แม่ล้อเล่นจ้ะ เออ! น้ำหวานรู้เรื่องที่ทางญาติพ่อริวเขาประกาศขายบ้านแล้วใช่ไหม]คิ้วเรียวขมวดมุ่นหลังได้ยินแม่ครูพูด ความจริงก็พอรู้ว่าพวกญาติของพ่อริวอยากขายบ้านหลังนั้นจนเต็มแก่ น้ำหวานดูเศร้าลงทันทีจนคนที่ยืนอยู่ข้างกายสังเกตเห็น“หวานพอรู้ค่ะ” พูดเสียงสั่นน้ำเสียงของเธอทำให้คนปลายสายเป็นห่วง[โธ่! น้ำหวานไม่ต้องคิดมากนะลูก สิ่งของพวกนั้นมันเป็นของนอกกายไม่นานมันก็สูญสลาย ความทรงจำดี ๆ ต่างหากที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต]แม่คร

  • กลรักพี่ชายแสนร้าย   บทที่ 55 หลอก

    “น้ำหวานเดี๋ยวก่อน น้ำหวาน” ร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบตามร่างเล็กไปจนถึงหน้าลิฟต์ มือหนาเอื้อมจับข้อมือเล็กแล้วดึงรั้งเอาไว้ ใบหน้าสวยหันมามองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ เรื่องความเป็นความตายใครให้เอามาล้อเล่น “ฟังฉันอธิบายก่อน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอน่ะ” “ทุกทีคุณก็พูดแบบนี้ สรุปคือไม่เคยมีเรื่องไหนที่คุณตั้งใจสักเรื่อง” เธอสาวพยายามสะบัดแขนออกจากคนเจ้าเล่ห์ ตั้งท่าจะเดินไปกดลิฟต์ทว่ากลับถูกคนตัวสูงดึงรั้งเอาไว้อีกครั้ง วงแขนแกร่งสวมเข้าที่เอวคอดแล้วกอดรัดร่างเล็กแนบกับลำตัว “ขอโทษ ยกโทษให้ความโง่ของฉันเถอะนะ ฉันโง่เองที่คิดอะไรตื้น ๆ แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ฉันก็ไม่รู้สักทีว่าเธอรักฉันรึเปล่า” “คุณมันชอบเล่นกับใจคนอื่น เห็นความรู้สึกของหวานเป็นเรื่องล้อเล่นรึไง” “ฉันไม่ได้เห็นความรู้สึกของเธอเป็นเรื่องล้อเล่นนะน้ำหวาน ฉันรักเธอมากวันทั้งวันฉันอาการหนักเอาแต่เพ้อถึงเธอ คุณแม่ก็เลยโทรให้เธอมาดูใจฉันไง” จับร่างเล็กให้หันมาสบตากันหลังจากอธิบายเรื่องทั้งหมด “คุณมันเจ้าเล่ห์ที่สุดเลย” เธอทุบมือ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status