ดูถูก
หลังจากเทมโปพูดจบก็ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นอะไรออกมา ดูแล้วพ่อกับแม่ฉันคงไม่ได้อยากจะไปนั่นแหละ พอทานมื้อเช้าเรียบร้อย พวกเราก็ออกมาจากโรงแรมเพื่อไปนั่งเล่นรับลมริมหาด ระหว่างทางก็ได้เจอกับภิสิงห์ที่กำลังเดินมาพอดี
"สวัสดีครับ"เขายกมือไหว้ทักทายพ่อแม่ก่อนที่จะหันมายิ้มให้ฉัน ในขณะที่เทมโปยืนมองเขาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร
"สวัสดีจ๊ะ"แม่ตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ
"เอ่อ..เรื่องที่ผม..."
"พวกเราไม่ไป"เป็นเทมโปที่แทรกพูดขึ้น
"ยัยแกนอยากไปหรือเปล่าล่ะ"พ่อหันมาถามฉัน โดยไม่ได้สนใจคำพูดของเทมโป
"เอ่อ..."
"ถ้าอยากไปก็ไปเถอะ พ่อกับแม่แก่แล้วไม่ชอบนั่งเรือเวียนหัว"แม่พูดเสริมขึ้น ระหว่างที่พ่อแม่พูดเทมโปก็จ้องมาที่ฉันด้วยสายตาคมกริบแฝงดุดัน
"ไปกับพี่นะ..พี่อยากให้แกนไปด้วย"นั่นเป็นภิสิงห์พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"ไม่ต้องไปนะ"ทุกคนหันขวับไปที่คนพูด
"มันอันตรายผมเป็นห่วงออร์แกนน่ะครับ"เขาหันไปพูดกับพ่อแม่
"ถ้าเป็นห่วงคุณก็ไปด้วยกันสิครับ"เทมโปหันไปที่ภิสิงห์ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
"ทำไมผมต้องไป"
"ถ้าคุณไม่ไปก็อย่ามาห้ามออร์แกนเลย...."พูดจบก็หันไปที่พ่อกับแม่ฉัน
"...ผมสัญญาว่าจะดูแลออร์แกนเป็นอย่างดีครับ"
"ว่าไงยัยแกนจะไปกับพี่เขาไหม"ใจจริงฉันเองก็อยากไปนะ อีกอย่างนาน ๆ จะมาเที่ยวสักทีก็อยากเที่ยวให้สนุกแต่ทว่า..สายตาคมกริบก็จ้องฉันอย่างกดดัน
"แกนอยากไปค่ะ"สุดท้ายแล้วฉันก็ทำความต้องการของตัวเอง เรื่องอื่นค่อยว่ากัน พอพูดจบภิสิงห์ก็คลี่ยิ้มอย่างดีใจ
"อืม..."พ่อขานรับก่อนจะหันไปพูดกับภิสิงห์
"...ฝากดูแลออร์แกนด้วยนะภิสิงห์"
"ครับ"
"จะไปกับเขาไหมเทมโป"แม่หันไปพูดกับชายหนุ่มที่จ้องฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจ พอได้ยินแม่ฉันเอ่ยถามเขาจึงรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"ผมต้องไปดูแลเพื่อน..ในเมื่อออร์แกนอยากจะไป"เขากัดฟันพูดเสียงเข้ม
"ยังไงก็ช่วยดูออร์แกนด้วยล่ะกัน"
"ครับ"
จากนั่นภิสิงห์ก็พาฉันกับเทมโปไปที่เรือสปีดโบ๊ตที่เขาเช่าไว้ก่อนหน้า ระหว่างทางเทมโปเดินมาข้าง ๆ แล้วกระชิบบอกฉันว่า
"ยังไม่เข็ดสินะ"ฉันไม่สนใจคำพูดเขารีบก้าวขาเดินไปหาภิสิงห์ทันที พอมาถึงเรือสปีดโบ๊ต
"แกนมา พี่ใส่เสื้อชูชีพให้"ภิสิงห์เดินมาพร้อมกับถือเสื้อชูชีพสีส้ม
"เป็นง่อยหรือไงถึงใส่เองไม่ได้"นั่นเป็นเสียงของเทมโปที่กำลังเดินขึ้นมาบนเรือ
"ไม่เป็นไรหรอกผมเต็มใจใส่ให้แกนเอง"ภิสิงห์พูดขึ้นแล้วจัดการใส่เสื้อชูชีพให้ฉัน เทมโปหันมามองฉันตาเขม็งก่อนจะเดินไปนั่ง
"แล้วคุณไม่ใส่เหรอ"หลังจากใส่เสื้อชูชีพให้ฉันเรียบร้อยแล้ว ภิสิงห็หันไปเอ่ยถามเทมโปที่นั่งไขว้ห้างกระติกเท้า
"ไม่จำเป็น"ชายหนุ่มมาตอบกลับก่อนจะหันหน้ามองออกไปที่ทัองทะเล
"ป้องกันไว้ก็ดีนะครับ"
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่จำเป็น วุ่นวาย!"เขาตวาดใส่อย่างไม่มีมารยาททั้ง ๆ ที่ภิสิงห์มีอายุมากกว่า
"เหอะ"ภิสิงห์กลั้วหัวเราะเบา ๆ โดยไม่ได้ใส่ใจชายหนุ่มก่อนจะหันมาที่ฉัน
"ไปนั่งกับพี่ข้างหน้าไหม"
"...."ฉันขมวดคิ้วจ้องเขาด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องไปนั่งด้านหน้านั่งมันสำหรับคนขับไม่ใช่เหรอ
"พี่เป็นคนขับเรือเองน่ะ"
"อ๋อ"ฉันเข้าใจแล้วก็ผงกหัวรับ
"งั้นเราไปกัน"เราสองคนเดินไปที่หัวเรือโดยผ่านเทมโปที่นั่งอยู่
"แน่ใจนะว่าจะขับเอง..."เขาลุกขึ้นยืนขวางเราสองคน
"....ฉันไม่อยากเอาชีวิตมาเสี่ยงกับคนอย่างนายให้คนที่เขาเป็นมืออาชีพขับเถอะ"พูดจบก็เบือนหน้าไปลอบหายใจอย่างไม่สบอารมณ์
"ผมเรียนขับเรือมาสามปี และอีกอย่างตอนที่ผมอยู่เมืองนอกก็ขับออกจะบ่อย"
"ฉันไม่อยากรู้"เทมโปสวนกลับทันที
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับผมไม่พาคุณไปตายหรอก"พูดจบภิสิงห์ก็คว้ามือฉันเดินมาที่หัวเรือ
"ไอ้เวรนี่!"ฉันได้ยินเสียงสบถของเทมโปเบา ๆ ถึงกับต้องถอนหายใจอย่างเอือมระอา
ภิสิงห์ขับเรือออกมาจากฝั่ง โดยมีพนักงานขับรถนั่งอยู่ไม่ไกลเพื่อรอสแตนบาย
"วันนี้โชคดีที่อากาศดีไม่มีพายุ"ภิสิงห์พูดขึ้นในขณะที่กำลังขับเรืออยู่
"ใช่ค่ะ"ฉันหันไปยิ้มหวานให้แล้วมองไปที่ท้องทะเลสีครามสวยงามมาก ดูแล้วเพลินตาเพลินใจดี
"แกนชอบทะเล?"
"ใช่ค่ะแกนชอบทะเล..ตอนเด็ก ๆ แกนอยากจะมีบ้านติดทะเลด้วย คิกคิก"พูดจบฉันก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
"พี่มีบ้านติดทะเลที่ภาคใต้"
"จริงเหรอคะ"ภิสิงห์คลี่ยิ้มแล้วผงกหัวรับ
"ดีจัง"
"อยากไปไหม?..."ฉันหันขวับไปที่คนถาม
"...ถ้าอยากไปพี่จะพาไป"
"จะไปไหนกัน"จู่ ๆ ก็มีเสียงแทรกเข้ามาทำใหเฉันกับภิสิงห์หยุดการสนทนาแล้วหันไปที่เจ้าของเสียง
"เทมโป"ฉันพึมพำเบา ๆ
"ฉันหิว...ไปหาอะไรให้กินหน่อย"เทมโปพูดด้วยสีหน้าเรียบ
"ในเรือมีของว่างหยิบทานได้เลยครับ"สิ้นเสียง เทมโปก็หันไปมองที่ภิสิงห์
"ฉันจะให้ออร์แกนหยิบให้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด
"แล้วคุณหยิบทานเองไม่ได้?"
"ไอ้เวรนี่..."เทมโปสบถออกมาก่อนที่จะก้าวขาเดินไปที่ภิสิงห์ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง ฉันเห็นแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วขวางหน้าไว้ทันที
"หยุดนะเทมโป...แกนจะไปหยิบให้"ฉันคว้าแขนแกร่งดึงเขาออกมาแล้วหันไปพูดกับภิสิงห์
"เดี๋ยวแกนมานะคะ"ภิสิงห์พ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะตอบกลับสั้น ๆ
"ครับ"จากนั่นฉันก็ดึงแขนเทมโปมายังท้ายเรือ
"เทมโปรอตรงนี้นะ แกนจะไปจัดเตรียมของว่างมาให้"
"อืม"เขาตอบกลับ ๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์
ฉันเดินเข้ามารีบจัดเตรียมของว่างให้กับเทมโปทันที ทำไปก็ลอบหายใจไป เมื่อไหร่นะฉันจะได้หลุดพ้นจากเขาสักทีพอเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ยกมาเสิร์ฟให้กับชายหนุ่มผมสีทองที่นั่งรออยู่ท้ายเรือ แล้วยื่นถาดอาหารให้เขา
"รับไปสิ"เทมโปมัวแต่จ้องหน้าฉันไม่รับถาดอาหารไปสักที
"เธอจะไปไหน..."เขาเลิกคิ้วแล้วเอ่ยถาม
"...จะไปหามัน"
"ก็แกน.."ยังพูดไม่จบประโยคชายหนุ่มผมสีทองก็แทรกพูดขึ้น
"อย่ามาทำตัวร่านต่อหน้าฉัน"
"เทมโป!"ฉันตวาดใส่ด้วยความโกรธที่ว่าฉันร่าน
"ทำไม..หรือไม่จริง?"เขาพูดขึ้นพร้อมกับทำสีหน้ายียวน
"จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ"ฉันกัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งเพราะรู้สึกโกรธ
"ฉันดูถูกเธอตรงไหน..เห็น ๆ กันอยู่ว่าเธออยากจะนอนแบให้ไอ้เวรนั่นเอาจนตัวสั่น"
"...."ฉันจ้องหน้าชายหนุ่มพร้อมกับกำถาดอาหารไว้แน่น
"ในเมื่อเธอยังเรียนไม่จบก็ต้องให้ฉันเอาได้แค่คนเดียว.จำไว้!"สิ้นเสียงเทมโปก็หยิบแก้วน้ำผลไม้ขึ้นมายกดื่มก่อนที่จะวางลง
"แล้วก็ห้ามยุ่งกับมัน ไม่งั้นเธอไม่มีที่ฝึกงานแน่"พูดจบก็หยิบครัวซองขึ้นมากัดกิน
สุดท้ายฉันก็โดนบังคับให้นั่งกับเทมโปที่ท้ายเรือโดยไม่เต็มใจ พอเรือจอด ภิสิงห์ก็เดินมาหาฉันที่ท้ายเรือ
"พี่จองร้านอาหารแล้วเราไปทานมื้อกลางวันที่นั่นกัน"
"ค่ะ"ฉันขานรับแล้วลุกขึ้นแต่ทว่าชายหนุ่มผมสีทองยังคงนั่งอยู่
"คุณไม่ลงเหรอครับ"ภิสิงห์จึงเอ่ยถาม
"ชิว์!"เทมโปแสดงอาการหงุดหงิดก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วลงจากเรือนำหน้าฉันกับภิสิงห์
"ทำไมไม่ไปนั่งกับพี่ล่ะ"ภิสิงห์พูดขึ้น
"เอ่อ..."ฉันก็ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง ตอนนี้เทมโปเปรียบดั่งเจ้าชีวิตฉันไปแล้ว
"เพราะเทมโป?"ฉันส่ายหน้าช้า ๆ
"จะลงกันมาได้หรือยัง"เป็นเสียงของเทมโปที่ตะโกนขึ้นมา
"ไปเถอะ"ภิสิงห์จึงไม่ได้ถามอะไรลง เขาพาฉันลงเรือแล้วไปที่ร้านอาหาร
ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ
"กินข้าวเสร็จเราไปดำน้ำดูปะการังกัน"
"ค่ะ"ฉันตอบกลับด้วยความดีใจเพราะชอบการดำน้ำดูปะการังมาก
"ฉันไม่ไปนะ"
"งั้นผมไปกับแกนสองคนก็ได้"พอเทมโปพูดจบ ภิสิงห์ก็สวนขึ้นทันที แต่เทมโปไม่สนใจเขาหันมาที่ฉัน
"เธอต้องอยู่กับฉัน"
"แต่แกนอยากไปดำน้ำ..."
"แล้วฉันจะอยู่กับใคร"เทมโปแทรกพูดขึ้น
"ทำไมต้องบังคับให้แกนอยู่กับคุณด้วยในเมื่อแกนอยากจะดำน้ำดูปะการัง"
"อย่าเสือก!"
"เทมโป.."ฉันรีบเอ่ยปรามเขาทันที ก่อนจะหันไปที่ภิสิงห์
"...แกนขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ"
"ทำไมต้องไปขอโทษมัน"
"ผมว่าคุณพูดเกินไปแล้วนะ"ภิสิงห์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบสีหน้าดูไม่พอใจ
"เกินไปตรงไหน"
"ผมอายุมากกว่าคุณ..คุณควรจะให้เกียรติผมบ้าง"
"หึ"เทมโปแค่นหัวเราะในลำคอ
"ดูเหมือนคุณจะยังไม่โต"
"ไอ้..."
"หยุดเถอะ ตกลงแกนจะอยู่กับเทมโป...."ฉันรีบห้ามก่อนที่เรื่องมันจะเลยเถิดไปกว่านี้
"...พี่สิงห์ไปคนเดียวได้นะคะ"
"ถ้าแกนไม่ไปพี่ก็ไม่ไป"
"งั้นกลับ"
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา