ปราบพยศ2
"ทะ เทมโป"ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
หึ"เขาแค่นเสียงหัวเราะแล้วปาเสื้อที่ขาดทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี ก่อนจะสอดมือเข้าไปที่ด้านหลังของฉัน
หยุดนะ!"ฉันพยายามขัดขืนแล้วตวาดใส่เขา
"เธออยากจะเก็บชั้นในไว้อยู่ไหม หึ้ม?"เทมโปเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าอย่างผู้ชนะ
"..."ฉันสบตาเขานิ่งด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
"ถ้าอยากจะเก็บมันไว้ก็อย่าขัดขืน...ไม่งั้นฉันก็จะฉีกมันซะ"น้ำเสียงที่แข็งกร้าวและสีหน้าที่เอาเรื่องทำให้ฉันก็ชะงักแล้วปล่อยให้ชายบนร่างจัดการถอดเสื้อผ้าฉันออกมาอย่างง่ายดาย
จากนั้นร่างกายฉันก็เปลือยเปล่าอยู่บนโซฟาด้วยน้ำตาคลอเบ้า ฉันไม่สามารถสู้รบอะไรกับเขาได้เลยจริง ๆ
"อื้อออ"เทมโปใช้ลิ้นร้อนได้หยอกล้อที่ปลายยอดปทุมถันฉันอย่างมูมมามและรุนแรงจนฉันรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ
"เทมโปเบา ๆ หน่อย..."ยังพูดไม่จบประโยคเขาก็ชะงักแล้วช้อนตาจ้องขึ้นมามองฉันด้วยสายตาดุดัน
"ฉันกำลังจะทำให้เธอจำว่าถ้าพยศกับฉันแล้วจะต้องเจอกับอะไร"ชายหนุ่มร่างสูงผมสีทองหยัดกายขึ้นแล้วปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น ด้วยสายตาที่เล้าโลมเรือนร่างฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
"ออร์แกนเธอก็สวยดีนะ..น่าเสียดายที่ฉันมองเธอเป็นได้แค่เพื่อน"พรึ่บ! เสียงเสื้อเชิ้ตที่เขาโยนลงไปที่พื้นหลังจากพูดจบ
ชายหนุ่มผมสีทองกระชากแขนฉันให้ลุกขึ้น แล้วออกคำสั่ง
"ถอดกางเกงให้ฉันหน่อย"เขายืนเต็มความสูงตรงหน้าแล้วคว้ามือฉันไปที่เข็มขัดของเขา และแน่นอนที่ฉันต้องทำตามคำสั่ง ฉันค่อย ๆ ปลดเข็มขัดออกก่อนจะปลดกระดุมกางเกงยีนส์ราคาแพงแล้วรูดซิบลง แท่งร้อนที่อยู่ภายในกางเกงในบ็อกเซอร์เริ่มขยายตัวจนเห็นได้ชัด
"ลูบมันหน่อยสิ"สิ้นเสียง มือบางของฉันก็ค่อย ๆ ลูบลำยักษ์ผ่านกางเกงในบ็อกเซอร์ทันที
"อ่า"เทมโปเงยหน้ามองเพดานแล้วคำรามออกมาเบา ๆ ผ่านตามไรฟัน ก่อนจะผลักฉันนอนราบลง แล้วถอดกางเกงตัวเองจนหมด จากนั้นก็ขึ้นคร่อมขึ้นมาร่างฉันที่ท่อนบน
"โม้กให้หน่อย"เขาจับท่อนเอ็นที่มีขนาดใหญ่เกินมาตรฐานจ่อมาที่ปากฉัน
"ทำให้มันแตก..แล้วฉันจะเบามือกับเธอ"พูดจบก็ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ฉันคว้าท่อนเอ็นลำยักษ์ที่กำไม่มิดเข้ามาในปากแล้วรูดเข้ารูดออกช้า ๆ ก่อนจะใช้ลิ้นตวัด ดูด เลียที่ปลายหัวหยัก วน ๆ ไป
"ซี๊ดดดด เธอยังเก่งเหมือนเดิมอ่าส์..."ฉันใช้ครอบลำยักษ์แล้วปรนเปรอเขาอย่างพึงพอใจ และไม่นาน...
"อ๊ากกกก ออร์แกนนน"น้ำคาวสีขาวขุ่นก็พ่นเข้ามาในปากฉันจนทะลักออกมา ฉันจำใจต้องกลืนมันลงคอเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง
เทมโปยกยิ้มอย่างพึงพอพอใจก่อนจะลงจากโซฟาแล้วคว้าแขนฉันให้ลงตาม
"จะทำอะไร"ฉันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเมื่อชายร่างสูงผลักฉันให้หันหน้าเข้ากำแพงซึ่งห้องข้าง ๆ นั่นเป็นห้องที่พ่อแม่พักอยู่
"เทมโป!"ฉันตวาดใส่เขาเบา ๆ อย่างไม่พอใจ แต่เทมโปทำไม่สนใจหยิบถุงยางอนามัยที่อยู่ในกางเกงยีนส์ราคาแพงออกมาแล้วฉีกมันด้วยปากก่อนจะสวมใส่ท่อนเอ็นของตัวเอง
"ไปทำที่เตียงเถอะ"ฉันขยับกายจะก้าวขาเดินแต่มือหนาก็คว้าไว้
"ฉันอยากรู้ว่าห้องนี้มันเก็บเสียงดีหรือเปล่า"พูดจบ ก็จับร่างฉันเอาหน้าเข้ากำแพงแล้วดึงสะโพกฉันตั้งฉากก่อนจะเอาลำยักษ์ตีที่ปั้นท้ายฉันสองสามที จากนั้นก็สอดใส่มันเข้าไปในร้องแคบจนมิดลำในคราเดียว
"อ๊ะ..อื้อออ"มันเจ็บแต่ก็ไม่กล้าเปล่งเสียงร้องออกมาดัง
"หึ"เสียงกลั้วหัวเราะทุ้มดังเข้ามาข้าง ๆ หู พลั่บ พลั่บ พลั่บ
เทมโปขยับสะโพกหนารัว ๆ และรุนแรงราวกับจะทำให้ฉันส่งเสียงออกมา พลั่บ พลั่บ เขาจับเอวคอดของฉันหลาม ๆ แล้วกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่ยั้ง.
"อะ...อ๊ะ"มันทั้งเสียวและจุก แต่ต้องกดเสียงร้องไม่ให้ดังออกมาเพราะกลัวว่าห้องข้าง ๆ จะได้ยิน
"เสียวว่ะ ออร์แกน ซี๊ดดด"พลั่บ พลั่บ
"ไปทำบนเตียงเถอะ..อะ อร้าย"สิ้นเสียง..เทมโปหยุดชะงัก
"ก็ได้..แต่เธอต้องให้ทำฉันทั้งคืน"ว่าจบเขาก็ถอนท่อนเอ็นออกแล้วยกฉันอุ้มในท่าเจ้าสาวไปที่เตียง...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ออร์แกน ตื่นหรือยังลูก"ฉันสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นอย่างลนลานเพราะคิดว่าจะมีเทมโปยังนอนอยู่บนเตียง แต่เมื่อกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก็ไม่พบร่างชายหนุ่ม จึงตะโกนบอกคนเป็นแม่ที่เรียกอยู่หน้าประตู
"ตื่นแล้วค่ะ..แกนขออาบน้ำแปบเดียวเดี๋ยวจะตามลงไปนะคะ"
"จ๊ะ งั้นพ่อกับแม่รออยู่ที่ห้องอาหารนะ"
"ค่ะ"พอฉันขานรับ เสียงเท้าบางก็เดินไป จากนั้นฉันก็ลงจากเตียงทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นปกปิด แต่ทว่าพอเท้าได้แตะที่พื้น ขาก็สั่น ๆ จนก้าวไม่ออก จึงฟุบตัวนั่งบนเตียง ภาพเมื่อคืนก็ผุดเข้ามาในหัว กว่าเทมโปจะทำเรื่องอย่างว่ากับฉันเสร็จ ก็เกือบตีห้าจนฉันหมดเรี่ยวแรง แต่ไม่รู้ว่าเขาออกจากห้องไปตั้งแต่ตอนไหน
ฉันกัดฟันลากสังขารที่บอบซ้ำเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงลงมาหาพ่อกับแม่ที่ห้องอาหาร พอไปถึงก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพบว่าเทมโปนั่งดื่มกาแฟและพูดคุยอยู่กับพ่อแม่ฉัน ครืนนน ครืนน
ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปเสียงโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น จึงล้วงมันขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วดูสายที่โทรเข้า
"พี่ภิสิงห์"ฉันพึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะกดรับสาย
"ฮาโหลค่ะ พี่สิงห์"
(ทานมื้อเช้าหรือยังครับ)ภิสิงห์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"แกนกำลังจะทานค่ะ"
(อ๋อ..แล้วเรื่องที่พี่จะชวนไปเที่ยวที่เกาะบอกพ่อกับแม่หรือยัง)
"ยังเลยค่ะ แต่แกนจะบอกท่านเดี๋ยวนี้แหละ"
(โอเค)พอสิ้นเสียง ฉันก็กดวางสายแล้วเดินไปยังโต๊ะอาหารที่พ่อแม่นั่ง
"ใครโทรมาเหรอ"แม่เป็นคนเอ่ยถาม
"พี่สิงห์ค่ะ..."ตุบ ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อเทมโปก็วางแก้วกาแฟลงเสียงดังด้วยสีหน้าไม่พอใจใส่ฉัน
"ภิสิงห์โทรมาทำไมเหรอ"แม่มองไปที่เทมโปอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันมาถามฉันต่อ
"คือพี่สิงห์จะชวนพวกเราไปเที่ยวที่เกาะใกล้ ๆ นี่ค่ะ"
"ไม่ไป!"นั่นเป็นเสียงเทมโปที่แทรกขึ้นมา ทุกคนต่างหันไปที่เขา
"คือตอนนี้ลมแรงคลื่นก็สูงมันอันตรายน่ะครับ"เทมโปก็อ้างไปเรื่อย ทั้งที่วันนี้อากาศค่อนข้างดี เหมาะที่จะล่องเรือด้วยซ้ำ ฉันได้แต่คือในใจไม่อยากพูดอะไร เพราะกลัวว่าเขาจะคิดว่าฉันพยศกับเขาอีก
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา