ขัดคำสั่ง
หลังจากทุกคนเดินออกไป ฉันก็ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่พร้อมกับก้มมองแฟ้มรายงานนั่นอย่างน่าเบื่อ แล้วภาพวันวานก็ผุดเข้ามาในหัว
'เธอรู้ไหมว่าทำไมเทมโปถึงตามใจฉัน'นั่นเป็นคำพูดของฝนที่เอ่ยขึ้น
'...'ฉันพยายามไม่สนใจ เลือกที่จะเดินหนี แต่ทว่าเธอก็คว้าแขนของฉันไว้
'เพราะฉันกับเทมโปมีความลึกซึ้งมากกว่าคำว่าเพื่อน..."เธอยกยิ้มสีหน้าเย้ยหยันใส่
'...ก่อนเธอด้วยซ้ำ'ฉันก้มหน้าเม้มปากทั้งสองไว้แน่น รู้สึกเจ็บที่ใจเอามาก ๆ คืนนั้นฉันพลาดเองที่บอกรักเขา และทำให้ทุกวันนี้ฉันต้องตกอยู่ในสถานะเบ้และนางบำเรอของเขา
'ฉันไม่โกรธเทมโปหรอกนะที่เขาจะนอนกับใครต่อใคร เพราะสุดท้ายแล้วหลังจากเรียนจบเราจะแต่งงานกัน'
'มีเรื่องจะพูดแค่นี้..ก็ปล่อยแขนฉันได้แล้ว'ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบนิ่ง
'เธอมันก็แค่เพื่อน..ที่ไม่มีค่ากับเทมโปเลย เอ๊ะ! มีสิ มีไว้ใช้งาน คิกคิก'พูดจบ หญิงสาวที่ฉันเคยคิดว่าเป็นเพื่อน ก็ปิดปากหัวเราะชอบใจ ฉันไม่รอให้เธอปล่อยแขนจึงสะบัดออกแล้วรีบเดินออกมา
"เมื่อเรียนจบ..ฉันก็ขออย่าได้พบเจอกับพวกเธอเช่นกัน"ฉันกัดฟันพูดขึ้นแล้วกำหมัดแน่น ก่อนที่จะลงมือตรวจรายงานของชายหญิงสองคนนั้น
หลังเลิกเรียนฉันก็คืนแฟ้มรายงานที่ตรวจเรียบร้อยแล้วให้กับเทมโปรวมถึงของฝนด้วย ติ๊ด! เสียงข้อความดังเข้ามาในโทรศัพท์หลังจากที่เทมโปรับแฟ้มรายงานไป
ฉันกดดูแล้วเงยหน้ามองชายหนุ่มที่ยืนตรงหน้า
"ค่าตอบแทนที่ตรวจรายงานให้ฉันกับฝน"ชายหนุ่มร่างสูงพูดขึ้นพร้อมกับยกยิ้ม
"ขอบใจ"กล่าวจบ ฉันก็หันหลังกำลังจะก้าวขาเดินออกมา
"เดี๋ยว!"ฉันหยุดชะงักแต่ไม่ได้หันกลับไป
"เสาร์อาทิตย์นี้ฉันมีงานให้เธอ.."
"ฉันไม่ว่าง"ฉันรีบแทรกพูดขึ้นก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ ตึก ตึก ฝีเท้าหนักเดินมาแล้วหยุดยืนตรงหน้า
"ไม่ว่าง?"
"ใช่ ฉันไม่ว่างให้คนอื่นทำแทนเถอะ"ฉันปฏิเสธไปทันที เพราะพรุ่งนี้ฉันกับครอบครัวจะต้องไปเที่ยวพักผ่อนกัน
"มีนัดกับใคร ทำไมถึงไม่ว่าง"ชายร่างสูงเอามือสอดเข้าไปในกระเป๋าแล้วเบือนหน้าไปลอบหายใจสีหน้าดูไม่พอใจฉันที่ปฏิเสธเขา
"ฉันกับครอบครัวจะไปพักผ่อนกัน"
"ยกเลิกซะ!"เทมโปหันกลับมาแล้วออกคำสั่งฉันด้วยน้ำเสียงแข็ง
"ทำไมฉันต้องยกเลิกในเมื่อ..."ยังพูดไม่จบประโยคเทมโปก็ใช้มือหนาบีบที่ปลายคางฉันอย่างแรง
"เธอกล้าขัดคำสั่งฉัน?"ฉันสะบัดหน้าหนีจนมือของเทมโปหลุด
"เทมโป..นายเกินไปแล้วนะ"
"อะไรที่เรียกว่าเกินไป"
"นาน ๆ ทีฉันกับพ่อแม่จะได้ไปเที่ยวพักผ่อนกัน ทำไมนายต้อง..."
"ไว้ไปคราวหน้า หรือให้พ่อแม่เธอไปกันแค่สองคนก็ได้ส่วนเธอมาช่วยงานฉันก่อน"ฉันขมวดคิ้วจ้องหน้าเขาด้วยความโมโห
"งานของนายคืออะไร"พูดจบ เทมโปก็ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
"คอยรับใช้น้องดาว"น้องดาวคือหนึ่งในคู่นอนของเขา บ้าไปกันใหญ่แล้วให้ฉันยกเลิกที่จะไปเที่ยวพักผ่อนกับพ่อแม่เพื่อดูแลผู้หญิงของเขา
"เหอะ!..ทำไมนายถึงเป็นคนแบบนี้นายมัน.."
"ฉันมีค่าตอบแทนให้ รับรองว่าเธอต้องพอใจแน่"ฉันกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ คนเลวชอบใช้เงินฟาดหัวคนอื่น
"ฉันไม่ทำ"พูดจบ ฉันก็รีบก้าวขาเดินหนี
"ถ้าเธอกล้าปฏิเสธฉัน ก็เตรียมรับผลที่ตามมา"ฉันหยุดแล้วหันไปที่เขา
"เดี๋ยวก็ถึงเวลาที่เธอต้องไปฝึกงานแล้วหนิ..ถ้าไม่มีบริษัทไหนรับเธอเข้าฝึกงานจะทำยังไงน๊าาาา"เทมโปกลั้วหัวใจในลำคอก่อนที่จะเดินเข้ามาเอามือแตะที่ไหล่ฉัน
"พรุ่งนี้ไปเจอน้องดาวสิบโมงเช้าที่xoxด้วย"มันเป็นคำสั่งสุดท้ายที่เขาพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
"คนเลว!"ฉันสบถพร้อมกับมองแผ่นหลังเขาด้วยความโกรธแค้น
เช้าวันต่อมา
ฉันและครอบครัวต่างพากันออกจากบ้านแต่เช้า ใช่แล้วฉันไม่ยอมทำตามคำสั่งของเทมโปที่ใช้ฉันไปดูแลผู้หญิงของเขา เราสามคนพ่อแม่ลูกต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในระหว่างทาง ซึ่งมันทำให้ฉันมีความสุขมาก ก่อนหน้าที่พ่อโดนโกงพวกเราก็มักจะหาเวลาไปเที่ยวแบบนี้กันอยู่เสมอ แต่หลังจากที่พ่อโดนโกงบริษัทล้มละลาย ครอบครัวเราก็จมอยู่กับความตึงเครียดมาตลอด จนกระทั่งเทมโปเข้ามาช่วยเหลือทำให้เศรษฐกิจที่บ้านดีขึ้น แม้ว่าจะยังใช้หนี้ไม่หมด
พวกเรามาถึงที่พักช่วงสาย ๆ พอมาถึงก็ต่างแยกย้ายเข้าห้องพักที่จองไว้ พ่อกับแม่นอนด้วยกัน ส่วนฉันนอนคนเดียว แต่ก็สบายมาก โรงแรมที่เข้าพักไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดพอประมาณ พอเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ฉันก็เดินออกมาจากโรงแรมซึ่งด้านหน้าเป็นทะเลที่สวยงามจึงมีความคิดที่จะไปเดินเล่นสักหน่อย ก่อนที่จะไปทานมื้อกลางวันกับพ่อแม่
ระหว่างที่เดินอยู่ริมชายหาดแล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือดังเข้ามา
"ช่วยด้วยครับ"ฉันหันขวับไปที่เสียงแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มมีที่ท่าจะจมน้ำ ฉันตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือทันที และด้วยความที่ฉันค่อนข้างจะเก่งในเรื่องว่ายน้ำดำน้ำ จึงสามารถช่วยชายหนุ่มมาถึงฝั่งได้
"ผะ ผมเป็นตะคริวครับ"เขาคลำไปที่ขาด้วยสีหน้าที่ดูทรมาน
"ยืดขาค่ะ เดี๋ยวฉันนวดให้"เขาทำตามที่ฉันบอก
"ค่อย ๆ ผ่อนคลายอย่าเกร็งนะคะ"ชายหนุ่มผงกหัวรับ จากนั้นฉันก็ค่อย ๆ นวดบริเวณท่อนขาของเขา
"ดีขึ้นหรือยังคะ"
"ดีขึ้นแล้วครับ"ชายหนุ่มตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มให้ฉัน พอได้เห็นหน้าชัด ๆ ชายหนุ่มคนนี้ก็หล่อเหลาเลยที่เดียว ผ่านไปไม่นาน เขาก็บอกกับฉันว่าเริ่มดีขึ้นมากแล้ว ฉันจึงช่วยพยุงเขาลุกขึ้นแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้
"ขอบคุณนะครับ"ชายหนุ่มมีสีหน้าดีขึ้นพอได้นั่งบนเก้าอี้ก็กล่าวขอบคุณฉันทันที
"...."ฉันไม่พูดอะไรแต่ยิ้มหวานกลับไป
"ผมภิสิงห์ครับ"พูดจบเขาก็ยื่นมือมา ฉันจึงเอามือไปจับมือเขาแล้วแนะนำตัวเองตามมารยาท
"ฉันออร์แกนค่ะ"
"คุณเปียกหมดเลย..."เขาหันไปหยิบผ้าคลุมยื่นมาให้ฉัน
"....เอาผ้านี้คลุมตัวไว้ก่อนนะครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไป..."
"รับไว้เถอะครับ"ฉันก้มมองตัวเองก็รู้สึกตกใจ เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าเสื้อที่ฉันใส่พอเปียกน้ำมันบางมากมองเห็นถึงชั้นใน จึงรีบคว้าผ้าที่ภิสิงห์มาคลุมทันที ในขณะที่ใบหน้าก็เห่อร้อนด้วยความอาย
"ฉันขอตัวก่อนนะคะ..ส่วนผ้าเดี๋ยวจะเอามาคืน"พูดจบฉันรีบก้าวขาเดินทันที แต่ต้องชะงัก
"เดี๋ยวครับ.."ฉันหันไปที่เขา
"...แล้วเราจะเจอกันได้ยังไงล่ะครับ"
"...."ฉันยืนนิ่งขมวดคิ้ว นั่นสินะ แล้วฉันจะเอาผ้าคืนเขายังไง
"...."ภิสิงห์ยิ้มให้ฉันบาง ๆ แต่ดูมีเสน่ห์มาก
"ฉันขอเบอร์คุณไว้ได้ไหมคะ"
"ได้เลยครับ"เขารีบตอบกลับทันที จากนั้นเราก็แลกเบอร์โทรศัพท์กันเรียบร้อย ก่อนที่จะแยกตัวเข้าไปที่พักในโรงแรม
ครืนนน ครืนนน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่ฉันกำลังแต่งตัวหลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว.พอหยิบขึ้นมาดูก็ต้องถอนหายใจพรืดใหญ่เมื่อรู้ว่าเป็นเทมโปที่โทรเข้ามา แต่ก็ต้องจำใจกดรับ
(คิดดีแล้วใช่ไหมที่ขัดคำสั่งฉัน ออร์แกน!)ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงปลายสายก็ดังออกมาจนต้องเอาโทรศัพท์ห่างออกจากหู
"เทมโป..."
(ตอนนี้เธออยู่ไหน)เขากดเสียงทุ้มต่ำแทรกพูดขึ้น
"...."ฉันไม่ตอบได้แต่ลอบหายใจเบา ๆ
(ไม่บอกงั้นเหรอ)
"..."
(เธอจะได้รับผลที่ขัดคำสั่งฉัน และเธอจะต้องจำมันไปจนตาย!)
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา