ตาม
(เธอจะได้รับผลที่ขัดคำสั่งฉัน และเธอจะต้องจำมันไปจนตาย!)คำพูดของเทมโปทำให้ฉันรู้สึกว่าหัวใจสั่น ๆ หวาดกลัวอยู่เหมือนกัน เพราะน้ำเสียงเขาดูจริงจังแฝงความโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็น
"...."ฉันนิ่งไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกไป
(เตรียมตัวไว้ล่ะกัน!)เสียงคำขู่จบลง เทมโปก็กดวางสายไป
ฉันจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างเอือมระอากับคนที่มักจะเอาแต่ใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ออร์แกน ทำอะไรอยู่"นั่นเป็นเสียงแม่ฉันที่พูดขึ้นอยู่ที่หน้าประตูห้อง.
"แต่งตัวอยู่ค่ะ"ฉันขานกลับไปแต่ไม่ได้ไปเปิดประตูให้ท่าน
"เร็ว ๆ หน่อยนะพ่อกับแม่รออยู่"
"ค่ะ แกนจะรีบตามไป"พูดจบ ก็มีเสียงฝีเท้าบางเดินออกไป จากนั้นฉันก็รีบแต่งตัวทันที
พอออกมาจากลิฟต์ก็เห็นพ่อกับแม่รออยู่ที่ล็อบบี้ทั้งคู่เห็นฉันก็ลุกขึ้นจากโซฟา
"อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"พ่อเอ่ยถามเมื่อฉันเดินมาถึง.
"อะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่พ่อกับแม่เลย"ฉันพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้ท่าน จากนั้นพวกเราก็พากันออกมาจากโรงแรมมุ่งตรงไปยังร้านอาหารที่แถวชายหาด
พอมาถึงพนักงานก็พาฉันไปที่โต๊ะซึ่งบรรยากาศดีมาก ระหว่างที่ฉันกวาดสายตาไปรอบ ๆ ร้านก็ได้สบตากับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็หันมาสบตากับฉันพอดี
"คุณ/คุณ"เราอุทานขึ้นเบา ๆพร้อมกับยกยิ้มให้กัน ก่อนที่ชายคนนั้นจะลุกจากเก้าอี้เดินมายังโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่กับพ่อแม่
"สวัสดีครับ"สิ้นเสียงพ่อกับแม่ก็เงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยท่าทางสงสัยก่อนที่จะหันมาที่ฉัน
"นี่คุณภิสิงห์..."
"คุณออร์แกนเป็นคนช่วยผมไว้เราน่ะครับ"ยังไม่ทันได้พูดอะไรภิสิงห์ก็แทรกพูดขึ้นมาซะก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้พ่อแม่หายสงสัย
"เชิญนั่งก่อนค่ะ"แม่เป็นคนเอ่ยชวน ภิสิงห์ก็นั่งลงข้าง ๆ ฉัน
"เรื่องมันเป็นยังไง ทำไมยัยแกนถึงไปช่วยคุณได้"พอภิสิงห์นั่งปุ๊บแม่ก็ถามขึ้นทันที
จากนั้นภิสิงห์ก็เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังโดยไม่ผิดเพี้ยน
"แบบนี้เองสินะ"พ่อฉันพึมพำเบา ๆ พอได้ยินหลังจากภิสิงห์เล่าจบ
"ผมขอถือโอกาสนี้เลี้ยงอาหารทุกคนนะครับ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ในขณะที่พ่อแม่และฉันต่างพากันมองหน้ากัน
"เอ่อ..."
"ถ้าจะบอกว่าเกรงใจ...ไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับถ้าคุณออร์แกนไม่ช่วยผมไว้ป่านนี้ผมอาจจะเป็นผีเฝ้าทะเลไปแล้ว"พอภิสิงห์พูดจบฉันก็คลี่ยิ้มเบา ๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น
"เรียกแกนเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ เรียกคุณรู้สึกไม่ชินเลย แหะ ๆ"ฉันพูดขึ้นพร้อมกับเอามือเกาท้ายทอยด้วยความเขิน
"ทำงานทำการอะไรเหรอคะคุณ"คำถามของแม่ทำให้ฉันกับพ่อหันไปที่ท่านพร้อมกัน ทางพ่อก็มองแม่ด้วยสีหน้าดุนิดหน่อย.ฉันพอรับรู้ได้ว่าเป็นคำถามที่ไม่ควรถามสำหรับคนเพิ่งจะเจอกัน
"ผมทำงานที่บริษัท2Z"ภิสิงห์ตอบกลับแล้วล้วงไปในกระเป๋าหยิบนามบัตรมาให้พวกเรา พ่อแม่ลูกคนล่ะใบ
"บริษัทอสังหา?"ฉันพึมพำเบา ๆ เมื่อได้เห็นนามบัตรที่ภิสิงห์ยื่นให้
"ใช่ครับ มีปัญหาเรื่องบ้าน ที่ดินปรึกษาผมได้นะครับ"ต่างคนก็ผงกหัวรับ ฉันจ้องไปที่นามบัตรนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ทางบ้านของเทมโปก็มีบริษัทเกี่ยวกับอสังหาเหมือนกัน แต่บริษัทนั้นค่อนข้างใหญ่โตและมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง และที่สำคัญพ่อฉันก็ทำบริษัทนั้น ด้วยความช่วยเหลือจากเทมโป
"อืม"พ่อฉันขานรับสั้น ๆ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าท่านก็ทำงานบริษัทอสังหาเหมือนกัน
"คุณภิสิงห์เป็นลูกชายเจ้าของบริษัท?"ฉันพลั้งปากเอ่ยถามขึ้นเหมือนเห็นนามสกุลประธานกับรองประธานเป็นนามสกุลเดียวกัน
"ใช่ครับ..."เขาตอบกลับพร้อมคลี่ยิ้มบาง ๆ
"...เรียกพี่แทนคุณได้ไหมเหมือนกันกับที่แกนไม่อยากให้เรียก"
"เหอะ"ฉันกลั้วหัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้าตอบ.
อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ พวกเราก็ลงมือรับประทานอาหารกัน แต่ฉันสังเกตว่าพ่อมีท่าทางราวกับรอใครบางคนอยู่ ท่านมักจะมองไปยังรถยนต์ที่ขับเข้ามา
"พ่อมองหาใครหรือเปล่าคะ"
"เทมโปน่ะ เห็นบอกว่าจะตามมา"เคร๊งงง สิ้นเสียงคำพูดของพ่อ ฉันเกิดรู้สึกมือไม่อ่อนแรงขึ้นมาทันที ช้อนที่อยู่ในมือจึงร่วงหล่นกระทบจานเสียงดังทำให้คนในห้องต่างพากันมองมาที่ฉัน
"ขอโทษค่ะ"ฉันกล่าวออกไปพร้อมกับก้มหน้างุดหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก
"นั่นไงเทมโปมาแล้ว"เคร๊งงง ช้อนในมือฉันร่วงหล่นเป็นครั้งที่สอง พร้อมกับหันหน้าไปมองตามพ่อก็เห็นรถคันหรูที่คุ้นเคยขับเข้ามาในลานจอดรถของร้านอาหาร ไม่นานชายหน้าที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่นิสัยชั่วร้ายเอาแต่ใจก็ลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในร้าน
"เทมโปทางนี้"พ่อของฉันโบกมือเรียกเขาที่อยู่ไม่ไกล.เทมโปส่งสายตามาที่ฉันแล้วยกยิ้มมุมปากแต่ต้องชะงักนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว ซึ่งมีภิสิงห์นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาก้าวขายาวเดินเอามือล้วงกระเป๋ามาที่โต๊ะ
"ใครเหรอแกน"ภิสิงห์กระชิบเอ่ยถามเบา ๆ
"เอ่อ เพื่อนแกน.."
"สวัสดีครับ"ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เทมโปก็เดินมาถึงแล้วยกมือสวัสดีทักทายพ่อกับแม่ฉันก่อนที่จะส่งสายตามาที่ฉันสลับไปจ้องหน้าภิสิงห์
"เชิญนั่ง ๆ"พ่อผายมือไปที่เก้าอี้หัวโต๊ะให้กับหลานชายเจ้านายของตนนั่ง
"ขอบคุณครับ..กำลังทานกันอยู่เหรอครับ"ปากหนาเอ่ยแต่สายตายังจ้องมาที่ฉัน
"เพิ่งจะเริ่มทานกันได้นิดหน่อย อยากทานอะไรเพิ่มไหม.."พ่อพูดจบก็กำลังจะกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ แต่เทมโปก็ห้ามไว้
"ไม่ครับผมทานที่อยู่บนโต๊ะได้"เขาพูดและยิ้มให้พ่ออย่างสุภาพ
"ออร์แกนตักข้าวให้เทมโปหน่อยสิ"นั้นเป็นคำสั่งของแม่ซึ่งบนหน้าเทมโปมีถ้วยจานช้อนวางอยู่แล้ว ฉันลอบหายใจเบา ๆ แล้วหยิบจานเปล่าตักข้าวให้เขา
"ลืมแนะนำเลย..."พ่อพูดขึ้นแล้วหันไปที่ภิสิงห์
"...นี่เทมโปเป็นเพื่อนออร์แกน และเป็นหลานชายเจ้านายน้าเอง"ว่าจบภิสิงห์ที่ยิ้มทักทายเทมโปตามมารยาทแต่ทว่าเขากลับทำหน้านิ่งแล้วหันไปทางอื่น
"เทมโปนี่คุณภิสิงห์เป็นลูกชายเจ้าของบริษัท.."
"ขอโทษครับผมไม่อยากรู้"เทมโปแทรกพูดขึ้นอย่างไม่มีทารยาท ทำให้พ่อดูหน้าเสียนิดหน่อย ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าแล้วหันไปพูดกับภิสิงห์
"แกนขอโทษแทนเทมโปด้วยนะคะ เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ"
"ไม่เป็นไร"ภิสิงห์ตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มให้ พร้อมกับตักอาหารใส่ลงมาที่จากฉัน
"ลองทานนี่สิอร่อยนะ"
"ขอบคุณค่ะ"ฉันกล่าวก็ยิ้มหวานให้เขา หางตาเห็นว่าเทมโปทำหน้านิ่งมองมาที่ฉันอยู่ตลอด
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา