บนรถ…
“พี่จะไปทำงานที่ไหนเหรอคะ?” สโนว์เอ่ยถามคนข้างกายอย่างไม่รู้ว่าที่ทำงานของเขาในวันนี้คือที่ไหน “บริษัท” “บริษัทพี่ทำเกี่ยวกับอะไรเหรอคะ?” “เพชรพลอย” “อ่อ ขายพวกสร้อยคอสร้อยข้อมือใช่มั้ยคะ” ที่จริงก็พอรู้จักแบรนด์ของเขาแหละ Lozan แบรนด์ที่มีทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวนต่างหูและอื่นๆ อีกมากมายครบจบในที่เดียวกันและนอกจากโด่งดังเป็นที่นิยมของเหล่าสาวๆ แล้วยังมีราคาสูงลิ่วอีกด้วย “อืม” “แพงมั้ย” “เธอไม่มีปัญญาซื้อ” “ดูถูกกันเกินไปแล้วนะ!” หันไปมองค้อนเขา ถามแค่ราคาแต่กลับมาบอกว่าไม่มีปัญญาซื้อนี่มันจะดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะโรซาน! “…” “พี่นะ ฮึ!” “ฉันทำไม?” “แก่แล้วคุยด้วยไม่รู้เรื่อง” “เธออยากตายมั้ย?” มองหน้าคนข้างกายด้วยสายตาเย็นชา ทว่าไม่ได้ทำให้เด็กสาวอย่างสโนว์กลัวแต่อย่างใด เธอยกแขนขึ้นมากอดอกจ้องหน้าเขากลับด้วยความหมั่นไส้ “ใครจะอยากตายคะ มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว” “หึ” “ทำเป็นยอมรับความจริงไม่ได้ ตัวเองอายุสามสิบห้าแล้วนะ” “สามสิบสี่” แย้งคนตัวเล็กทันควัน สามสิบแล้วไง สามสิบยังแจ๋วไม่เคยได้ยินรึไง “อีกไม่กี่เดือนก็จะสามสิบห้าแล้วนี่” “…” “ถ้าพาหนูไปทำงานที่บริษัทด้วย ต้องมีแหวนให้หนูสักวงนะคะ” แหวนวงเดียวบริษัทเขาคงไม่เจ๊งหรอก “แต่ว่าถ้ามากไปหลังเลิกงานพาหนูไปกินของอร่อยๆ ก็พอ” “อยู่กับเลย์พูดมากแบบนี้มั้ย?” “พูดมากแบบนี้แหละ แต่พี่เลย์ชอบฟังไม่เหมือนพี่ที่ชอบเงียบกับทำหน้าดุใส่” “แต่เธอก็ไม่เคยกลัว” “ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะกลัวแต่เพราะเป็นพี่เลยไม่กลัว” “เงียบบ้างไป” บอกพลางตวัดลำแขนไปโอบเอวคอดตามด้วยดึงให้เธอขยับมานั่งชิดตัวเขา สโนว์ตกใจนิดๆ และพยายามจะขยับออกแต่ลำแขนแกร่งกอดเธอไว้แน่น “พี่ซานปล่อยสิคะ” “นั่งนิ่งๆ” “พี่เอามือออกจากเอวหนูสิคะ อ้ะ!” เธอสะดุ้งอีกครั้งเมื่อโรซานเอามืออกจากการกอดเอวและมาวางบนหน้าตักของเธอ “พี่ซาน เอามือออกไปเลยนะ!” จับมือเขาเพื่อจะดึงออกแต่เขากลับกดมันลงบนต้นขาเธอแน่น “หรืออยากให้ล้วง?” “ละ ล้วงอะไร! โรคจิตจริงๆ เลยนะ” ถามเสียงห้วนๆ จ้องหน้าคนหน้ามึนด้วยสายตากราดเกรี้ยวแต่ในสายตาโรซานมันกลับดูน่ารักมากกว่าน่ากลัวเสียอีก “ให้พูดมั้ยล่ะว่าล้วงอะไร” “ไม่ต้อง! ทะลึ่งที่สุดเลยนะแล้วแค่หนูจุ๊บเมื่อวานทำเป็นมาบอกว่าอย่าทำอีก ทีตัวเองอ่ะ ตัวเองอ่ะทะลึ่งที่สุดเลยพี่ซาน!” โวยวายดังลั่นรถเมื่อจับมือเขาไม่ออก แถมมันยังอยู่ไม่ไกลจากกลางใจสาวของเธอที่ถึงแม้จะมีกางเกงปิดกั้นแต่พอเขาลงแรงมือก็รู้สึกเสียววูบวาบไปหมดทั้งตัว “หรือเธออยากเริ่มก่อน?” “เริ่มอะไร” “คิดว่าอะไรล่ะ” มองต่ำลงไปยังหน้าอกที่อวบอิ่มของสาวน้อยข้างกายที่รีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองทันที “พี่ซานนิสัยไม่ดี!” “เธอคิดว่าตัวเองนิสัยดีเหรอ?” “พี่ซาน!” “เสียงเธอแหลมมันจะทำลายสมาธิเรทท์” บอกเสียงเรียบๆ แล้วขยับแขนไปโอบเอวบางไว้อีกครั้งโดยที่ครั้งนี้สโนว์ไม่ได้ขัดขืนเพราะโทรศัพท์เธอมีสายเรียกเข้าจึงต้องยุติสงครามกับคนข้างกายเพื่อรับสาย (ฮัลโหลครับที่รัก) “พี่เลย์อยู่ไหนคะ?” (อยู่บ้านเพื่อนครับ) “อ่อ ทำอะไรอยู่คะ” (นั่งรออาหารย่อยครับ เพิ่งกินข้าวเสร็จหนูล่ะทำอะไรกินข้าวหรือยัง?) “กินข้าวมานิดเดียวเองค่ะ มาทำงานกับพี่ซาน” (ทำไมกินนิดเดียวล่ะครับ) “เขาให้กินนิดเดียว” บอกเสียงอ่อนๆ “เธอกินน้อยเองต่างหาก” โรซานเอ่ยแทรก ปลายสายจึงหัวเราะออกมาเมื่อฟังดูน้ำเสียงอ่อนๆ ของแฟนสาวแล้วคงไม่พ้นจะต้องโดนดุหรือโดนขัดใจจากเพื่อนเขาแน่ (ทำไม หนูดื้อกับเขาเหรอ?) “ไม่ได้ดื้อ เขาชอบเถียงหนู” (เขาเถียงหนูหรือว่าหนูเถียงเขาครับ?) แฟนสาวมีนิสัยเป็นยังไงมีหรือเขาจะไม่รู้ “พี่ไม่เข้าข้างหนูเหรอคะ” (เข้าข้างสิ แต่อย่าดื้อมากนะรู้มั้ย) “ค่ะ” (หนูอยู่กับเขาเชื่อฟังเขานะ พี่ซานโตกว่าหนูเยอะหนูต้องให้เกียรติเขาอย่าก้าวร้าวกับเขานะครับ) “ทราบแล้วค่ะ” (พี่ต้องทำงานอีกหลายวัน อย่าให้ได้ยินว่าหนูดื้อกับเขานะกลับไปพี่จะไม่คุยด้วยเลย) “หนูไม่ดื้อกับเขาค่ะ จะไม่ดื้อแล้ว…” บอกเสียงอ่อนๆ (โอเค พี่จะไปทำงานแล้วหนูก็อย่าไปกวนพี่เขาล่ะ รักหนูนะครับ) “หนูก็รักพี่นะคะ รักมากที่สุดเลย” รอยยิ้มหวานๆ เผยขึ้นมาบนใบหน้าเรียวสวยเมื่อได้ยินน้ำเสียงอ่อนนุ่มของแฟนหนุ่ม จากนั้นก็วางสายไปเพราะเลเจนต้องไปทำงานส่วนเธอก็มาถึงบริษัทของโรซานพอดี ร่างเล็กเดินตามคนตัวใหญ่เข้าไปในตัวบริษัทโดยมีมือขวาเขาเดินตามหลังไปอีกที ดวงตากลมโตมองไปรอบตัวที่พอเหล่าพนักงานเห็นเธอเดินมาพร้อมกับประธานบริษัทต่างก็หันไปซุบซิบนินทา “พี่ซาน” สโนว์รีบเดินไปข้างโรซานเรียกเขาเสียงแผ่วเบา “อย่าไปสนใจ” “แต่ว่าไม่ชอบ…” น้ำเสียงที่แผ่วเบาเอ่ยบอกพร้อมกับมองไปยังพนักงานที่ยังคงนินทาเธอซึ้งๆ หน้า “เรทท์จัดการให้ด้วย” เขาหันไปสั่งคนสนิทแล้วจูงมือเล็กพาไปเข้าลิฟต์ “ไม่ชอบก็ไม่ต้องไปฟัง พวกมันมีปากต่อให้ด่าว่าแค่ไหนก็ยังพูดอยู่ดี” เอ่ยต่อเมื่อเข้ามาในลิฟต์แล้วเห็นคนตัวเล็กจ๋อยลง “ทำไมพวกเขาต้องคิดว่าหนูกับพี่แอบกินกันด้วย?” ถามพลางก้าวขาเดินออกจากลิฟต์ตรงเข้าไปยังห้องทำงานของโรซาน ใช่! และนั่นคือข่าวลือที่ออกมาจนเข้าเดือนที่สามแล้วว่าเธอกับโรซานแอบกินกัน เป็นชู้กัน เธอที่เป็นคนรักของเลเจน โรซานที่เป็นเพื่อนเลเจนและถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้ของเธอ “ไม่รู้สิ” “ทำไมไม่รู้” “หรือเธอรู้?” “หนูไม่รู้” “…” เดินไปนั่งที่ทำงานของตัวเอง ส่วนสโนว์ก็ยืนทำหน้าจ๋อยอยู่กลางห้อง เธอกับโรซานไม่ได้ไปทำอะไรลับหลังเลเจนจริงๆ ไม่ได้แอบกินกัน แต่ทำไมถึงได้มีข่าวลือแบบนั้นออกมาก็ไม่รู้ “ทำไมถึงได้ชอบกุข่าวขึ้นมากันเองนักนะ” รำพึงกับตัวเองพร้อมถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “แต่ว่าหนูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับพี่เลย์เลย เขารู้รึเปล่าคะ?” “รู้” “แต่ว่าเขาดูไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยนะคะ” “จะซีเรียสทำไมในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องจริง หรือว่าเธออยากทำให้เป็นเรื่องจริงล่ะ?”“สโนว์ครับ”“หนูไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรจริงๆ” ขาเรียวหยุดเดิน เสียงสั่นๆ บอกคนข้างกายโดยที่น้ำตามันไหลไม่หยุด แม้จะเช็ดไปแล้วหลายต่อหลายครั้งมันก็ยังคงไหลมาไม่หยุด“กลับบ้านกันนะครับ”“ฮืออออออ”“ไหนว่าไม่เป็นอะไรแล้วร้องทำไมครับ”“เสียใจ เจ็บใจ โมโหและก็โกรธ ฮือออออ” มือเล็กยกขึ้นมาปิดหน้าปิดตาตัวเองร้องไห้ เธอขยับไปกอดเขาซุกหน้าลงบนแผงอกแกร่งแล้วปล่อยความเสียใจออกมาเป็นน้ำตา“ร้องออกมาให้หมดวันนี้วันเดียวเลยนะ ผู้ชายแบบนั้นไม่ควรค่าให้เธอเสียใจหรอก วันนี้เดี๋ยวพี่จะปลอบใจเธอเอง” น้ำเสียงในประโยคท้ายนั้นทำให้สโนว์ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่มีสีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์“นะ หนูเสียใจจริงๆ นะคะ”“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าเธอแกล้งเลยนี่นา”“สีหน้าพี่เจ้าเล่ห์ หื่นกามมีความลามกกับโรคจิตนิดๆ”“…” จูงมือเล็กพาไปที่รถและเข้าไปนั่งด้านในพร้อมกับขับออกไปตามถนนเรื่อยๆ“พี่คะ”“มันนอกใจนอกกายเธอไปแต่งงานมีเมียมีลูก ดังนั้นเราก็ควรไปทำลูกแข่งกับมัน สักห้าหรือหกคนดีนะ”“เยอะไปมั้ยคะ หนูเลี้ยงไม่ไหวหรอกนะ” ยังกับจะตั้งทีมฟุตบอลไปได้นะนั่น“ไม่เยอะไปหรอก พี่ช่วยเธอเลี้ยงเอง”“ทำเหมือนเลี้ยงเป็นแหละ”
“ไปกินไอศกรีมดีกว่า” ว่าแล้วก็เดินเลี้ยวเข้าไปในร้านไอศกรีม คุยกับคนแบบเขาไปก็ยิ่งมีแต่จะปวดหัวหาที่นั่งได้แล้วสโนว์ก็สั่งไอศกรีมไปหนึ่งถ้วยใหญ่ๆ รอเพียงไม่กี่นาทีก็ถูกนำมาเสิร์ฟเธอจึงตักมันทานไปอย่างไม่อยากจะสนใจคนตรงข้ามที่นั่งทำหน้าไร้อารมณ์มองเธออยู่“แฟนเธอโทรมา” โรซานเอ่ยบอกคนตัวเล็กที่นั่งตั้งหน้าตั้งตาทานไม่ได้สนใจโทรศัพท์ตัวเองที่สั่นครืดๆ อยู่บนโต๊ะข้างถ้วยไอศกรีมเลยสักนิด“อ่อ คิดว่าของพี่” วางช้อนลงแล้วหยิบมันขึ้นมากดรับสาย “ฮัลโหลค่ะ”(หนูอยู่ไหนครับ พี่เพิ่งถึงสนามบินแล้วเดี๋ยวไปหาหาครับ)“…” มองหน้าโรซานไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไป(สโนว์ครับ ช่วงนี้เป็นอะไรไปเนี่ยทำไมเงียบใส่พี่บ่อยจัง)“หนูอยู่ห้างค่ะ พี่ซานพามากินไอศกรีม”(โอเคครับเดี๋ยวพี่ไปหานะครับ)“ค่ะ…” ตัดสายทิ้งวางโทรศัพ์ไว้ที่เดิมแล้วสนใจกับไอศกรีมถ้วยใหญ่ตรงหน้าต่อ“เลย์เหรอ?”“อือ”“จะบอกเลิกมันมั้ย?” เป็นคำถามที่ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยุแยงให้พวกเขาเลิกกันอ่ะ“ไม่รู้”“ก็แล้วแต่เนอะ ไม่ได้สนใจอยู่แบบนี้ก็สนุกดี”“พี่ซาน…” เรียกเขาเสียงแผ่ว แม้เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนไม่ได้คิดอะไรแต่เธอคิดว่าภายในใจลึก
“เธอดูสิ ขยับไปได้นิดเดียวก็ไฟแดงต่อแล้วกว่าจะออกจากเส้นนี้ได้ก็คงเป็นชั่วโมง”“คนโรคจิต” สะบัดหหน้าหนีเขาที่ยอมปล่อยมือออกจากหน้าอกเธอเพื่อไปรูดซิบกางเกงปลดกระดุมตามด้วยควักเอาความใหญ่โตของเขาออกมาจนเธอถึงกับหายใจแทบไม่ทั่วท้องเมื่อได้เห็นมัน“ถอดกระโปรงกับกางเกงในออกแล้วมาขึ้นพี่สิ”“พี่ซาน”“หรือจะให้พี่ขึ้นเธอ แต่ว่าถ้ารถมันขยับคงโดนบีบแตรไล่”“เดี๋ยวคนอื่นเห็นนะคะ ไว้ค่อยกลับไปเอาที่บ้านได้มั้ย” บอกอย่างออดอ้อน ดวงตากลมโตมองไปยังมือหนาที่จับแก่นกายแท่งใหญ่รูดขึ้นลงจนมันแข็งตัวเต็มที่แล้ว แม้จะชอบความใหญ่ยาวของมันแค่ไหนแต่นี่คือกลางไฟแดงเชียวนะ!“ไม่มีใครเห็นหรอก”“แต่ว่าพี่คะ…”“ทำไงได้ล่ะตอนนี้พี่หิวเธอมากเลยนะ”“พี่ซาน…”“เธอเรียกชื่อพี่บ่อยเกินไปแล้วนะ” มองหน้าคนตัวเล็กด้วยสายตาดุๆ จนสโนว์ต้องยอมถอดกระโปรงกับกางเกงในของตัวเองออกแล้วขยับขึ้นไปนั่งคร่อมโรซาน“อ๊ะ พี่คะ…”“เอามันใส่เข้าไปด้วยสิ ทำไมต้องให้บอกทุกเรื่องเลยนะ”“จะว่าหนูบื้ออีกก็พูดมาเถอะ” สโนว์พูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แล้วยกตัวขึ้นเล็กน้อยจับแก่นกายที่อวบใหญ่สอดเข้ามาในร่องสวาทตามด้วยนั่งกดทับมันลงไปจนมิดลำ“อ๊า! จะ เจ็
“คุยกับใครเมื่อกี้” เสียงทุ้มนุ่มจากโรซานดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงในชุดทำงานเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ เขาปรายตามองคนตัวเล็กที่ยืนบ่นอะไรพึมพำอยู่เมื่อสักครู่แล้วกวักมือเรียกเธอซึ่งก็ยอมเดินมานั่งบนตักเขา“พี่เลย์โทรมาค่ะ”“ว่าไง”“บอกว่าพรุ่งนี้จะมาหา มาเอาเอกสารด้วยมั้ง”“ไม่ดีใจเหรอ?” ถามเมื่อเห็นใบหน้าหวานไม่ดีใจเหมือนที่ควรจะเป็น เธอถอนหายใจทิ้งอีกครั้งแล้วโนมใบหน้าไปจุ๊บปากหนาเบาๆ อย่างไม่ได้เกรงใจสายตาของเหล่าบอดีการ์ดกับแม่บ้านที่ยืนตากผ้าอยู่เลยสักนิด“ก็ดีใจ แต่ว่าพี่คะ…”“หื้ม?”“เรา เราทำแบบนั้นกันแล้ว…” พูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าเขาจนโรซานต้องใช้มือจับคางเธอให้หันหน้ามาทางเขา“แล้ว?”“แล้วจะอยู่แบบนี้ไปตลอดเหรอคะ”“พี่เคยสงสัยว่าตัวเองจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้มากแค่ไหน และพี่ได้คำตอบแล้วว่าพี่รักเขามากจนไม่สนว่าคนอื่นจะมองพี่เป็นคนยังไง เป็นชู้ของเธอ เป็นผู้ชายที่แย่งเมียเพื่อนพี่ไม่เคยสนใจคำพูดพวกนั้นเลยสักนิด”“พี่รักหนูเหรอคะ?”“พี่รักเธอมาตั้งนานแล้ว เธอก็รู้แล้วไมใช่เหรอ?”“หนูคิดว่าพี่ไม่ได้รักหนูแล้ว คิดว่าพี่โกรธเกลียดหนูและที่ยังอยู่กับหนูเพราะหนูเป็นน้องสาว” ตั้งแต่เธอคบกับเลเ
“ทนหน่อยได้มั้ย เจ็บแค่นิดเดียวนะครับ” ว่าพลางขบกรามตัวเอง ช่องทางรักของเธอคับแน่นทำให้แก่นกายของเขาเจ็บไม่ต่างจากเธอ มือหนาวางลงบนที่นอนข้างคนตัวเล็กแล้วเริ่มขยับกายดุนดันความใหญ่โตเข้าไป“อือออ เจ็บ…พี่คะหนูเจ็บ!”“สโนว์ครับ…” เรียกเธอเสียงแผ่วเบาเมื่อสุดท้ายเขาก็ได้เข้าไปอยู่ในตัวเธอจนสุดลำแล้ว ร่างเล็กปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามือกว้างยื่นไปปาดคราบน้ำตาทิ้งก่อนจะจุมพิตที่เปลือกตาเธออย่างอ่อนโยน“มันเจ็บนะคะ”“เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วครับ พี่คิดว่าพี่จะไม่ได้เป็นคนแรกของเธอซะแล้ว” พูดจบก็ก้มลงไปมองจุดที่เชื่อมติดกันอยู่ ปากทางเข้าที่มีเลือดบริสุทธิ์ของเธอเปรอะเปื้อนบ่งบอกได้ว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ“ฮึ! อึดอัดนะ”“งั้นขยับนะครับ”“อ๊ะ เบาๆ สิคะ ยังเจ็บอยู่เลยนะ” บอกเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อเขาเริ่มขยับเอวเร็วและหนักทั้งที่มันเพิ่งเริ่มเกม ชายหนุ่มส่ายหน้าให้เธอเบาๆ แล้วจับเรียวขาขาวขึ้นมาพาดบ่าไว้“เธอน่ากินมากเลยรู้มั้ยสโนว์ น่ากินไปหมดเลย”“อ๊า~ พี่ซาน…อย่าเอาแรงแบบนี้ อื๊อ” ร่างเล็กเชิดหน้าขึ้น ตาพร่ามัวไปหมดเมื่อเอวสอบเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นกายเข้ามาอย่างรุนแรง แม้ความเจ็บจ
แขนเล็กถูกมือหนาคว้าไว้พร้อมกับเสียงเรียกที่ทำให้เธอต้องหันไปมองเขาด้วยความไม่พอใจกับการถูกขัดแบบนี้ แต่พอเห็นว่าเป็นไซรัสเธอจึงถอยออกมาเขาจึงปล่อยแขนเธอแล้วจับขวดไวน์ในมือเล็กวางบนโต๊ะ“มันเรียกหนูว่าอีร่าน” เธอหันไปฟ้องคนตัวใหญ่ที่แม้จะไม่ใช่โรซานแต่กับเขาเธอก็กล้าที่จะฟ้อง มาเฟียหนุ่มหันไปมองผู้หญิงสามสี่คนนั้นที่มีหนึ่งคนเลือดอาบหน้าอยู่และเขาคิดว่าหากเขาไม่เข้ามาห้ามไว้ต้องมีคนตายอย่างแน่นอน“อีร่านเหรอ?”“…” พยักหน้ารับ สายตาที่กราดเกลี้ยวจับจ้องไปยังกลุ่มผู้หญิงตรงหน้าด้วยความโมโหจนใบหน้าเธอแดงก่ำไปทั่วหน้า“ล่ากับกัสพาสโนว์ไปร้านอื่นแล้วดูแลอย่าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนเรทท์ลากอีสามสี่ตัวนั้นตามกูมา” ไซรัสหันไปบอกสองสาวที่พยักหน้ารับพร้อมดึงมือเล็กให้เดินออกจากร้านไป ส่วนเรทท์กับลูกน้องไซรัสก็มาลากผู้หญิงสี่คนนั้นไป….“พามาที่นี่ทำไม?” สโนว์ถถามเพื่อนทั้งสองเมื่อที่ที่เธอมายืนอยู่ตอนนี้คือหน้าบริษัทโรซานไม่ใช่คาเฟ่หรือร้านอาหารร้านใหม่ที่ควรจะไป“ขืนไปร้านแล้วมีคนนินทาอีกแกคงได้ฆ่าคนตายและพวกฉันคงโดนปาดคอตายตามพวกนั้นไปเพราะไม่ได้ดูแลแกน่ะสิ” กัสจังว่าพลางส่ายหน้าให้สโนว์