ด้านลี่อินที่เดินออกมาพ้นจากแนวป่าแล้ว หญิงสาวได้นำของที่หาได้ไปเก็บที่กระท่อมหลังน้อยก่อน ล้างเนื้อล้างตัวให้เรียบร้อยก่อนจะไปรับบุตรสาวกลับบ้าน ป่านนี้เจ้าลูกหมีน้อยของนางคงจะงอแงร้องหาตนแล้ว
“เสี่ยวเหลียนแม่มาแล้ว” ลี่อินร้องเรียกเจ้าตัวน้อยมาแต่ไกล เมื่อเห็นว่าท่านป้าเจียงพานางออกมานั่งรออยู่ใต้ร่มไม้หน้าบ้าน คงจะออกมารอนางกระมังนั่งชะเง้อคอมองซะขนาดนั้น
“ยาย แม่” มือน้อย ๆ ชี้มาทางมารดา เพื่อบอกให้ท่านยายเจียงรู้ว่าท่านแม่มาแล้ว ทั้งยังยิ้มจนเห็นฟันสองซี่ที่เพิ่งจะขึ้นอีกด้วย
“พอเจอหน้าแม่ลืมยายอย่างข้าเลยนะเสี่ยวเหลียน” ป้าเจียงเอ่ยหยอกเย้าเด็กน้อย พอเสี่ยวเหลียนได้อยู่ในอ้อมกอดมารดา ทั้งอ้อนทั้งหอมไม่สนใจนางอีกเลย
“ขอบคุณท่านป้ามากนะเจ้าคะ ที่ช่วยดูแลเสี่ยวเหลียนให้ข้า” ลี่อินโค้งตัวเล็กน้อย ขอบคุณที่ป้าเจียงช่วยดูแลบุตรสาวให้ระหว่างที่นางเข้าป่า
“ไม่เป็นไร เสี่ยวเหลียนก็เหมือนหลานข้าคนหนึ่ง” อยู่กับเสี่ยวเหลียนนางไม่เหงาเลยสนุกเสียด้วยซ้ำ
“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะท่านป้า” เมื่อเห็นว่ารบกวนท่านป้าเจียงมานานแล้ว หญิงสาวจึงได้ขอตัวลาท่านป้าเจียงจะได้พักผ่อนเสียที
พอกลับมาถึงกระท่อมหลังน้อย ลี่อินจึงจับเสี่ยวเหลียนอาบน้ำ ก่อนจะปล่อยให้นั่งเล่นรอนางทำอาหารมื้อเย็น วันนี้นางจะทำข้าวต้มใส่ไข่ก็พอเพราะนางก็เหนื่อยมาทั้งไว้แล้ว อยากจะรีบพักผ่อนเต็มที
เสี่ยวเหลียนเมื่อข้าวต้มไข่เข้าปากดูเหมือนว่าอาหารมื้อนี้จะถูกใจนางมาก เด็กน้อยอ้าปากรอให้มารดาป้อน พอไม่ทันใจมือน้อย ๆ ก็จะคว้าช้อนจากมือมารดาให้ได้ เผลอแป๊บเดียวข้าวต้มไข่ในถ้วยก็หมดในที่สุด หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาให้กับความตะกละของบุตรสาว
ยามซวี (19.00-20.59 น.) เสี่ยวเหลียนหลับไปแล้วนางคงจะเล่นทั้งวันจนเหนื่อย เดาว่าระหว่างรอลี่อินเข้าป่าคงจะไม่ยอมนอนกลางวันเป็นแน่ วันนี้จึงไม่ต้องกล่อมเจ้าลูกหมีนอนให้ยาก กินอิ่มหนังท้องตึงรออาหารย่อยไม่นานเจ้าเด็กจอมตะกละก็ผล็อยหลับไป
ลี่อินที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันเช่นกัน จึงได้ล้มตัวนอนแต่ในขณะพลิกตัวกลับมาอีกทาง สายตานางกลับเห็นแสงอะไรวิบวับอยู่ตรงมุมห้องพอดี จึงได้ลุกขึ้นไปดูด้วยความสงสัย
“นี่มัน มาได้อย่างไร” ลี่อินทั้งตกใจและแปลกใจในคราวเดียว แต่ที่แน่ ๆ นางดีใจเสียมากกว่า
สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าร่างบางมันคือกระเป๋าเดินทางในโลกก่อน ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ได้
“โอ๊ยเจ็บ” ด้วยคิดว่าตนฝันไปจึงลองบิดแขนดู ปรากฏว่ามันเจ็บมากจนมั่นใจแล้วว่าคือเรื่องจริง
ลี่อินไม่รอช้า นางรีบปราดเข้าไปหากระเป๋าเดินทางใบโต รูดซิปกระเป๋าออกดูข้างในมีสิ่งของอยู่ครบเหมือนเดิมหรือไม่
“ขอบคุณสวรรค์อย่างน้อยท่านก็ไม่ได้ใจร้ายกับข้าเกินไป” หญิงสาวยิ้มเต็มใบหน้า อย่างน้อยของทุกอย่างก็อยู่ครบ แม้ของด้านในบางอย่างจะนำมาใช้ประโยชน์กับภพนี้ไม่ค่อยได้ก็เถอะ
ภายในกระเป๋ามีทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋าเงิน และกระเป๋าเครื่องประดับจำพวกหยก ที่นางหาซื้อมาเพราะความชื่นชอบในความสวยของมัน และยังเป็นเครื่องประดับที่นิยมในจีนด้วย โสมที่ซื้อมาเพราะความสงสารก็ยังอยู่ครบ
ลี่อินรีบเปิดดูกระเป๋าเงินของตนดู ในโลกก่อนนางใช้เงินในการเที่ยวเยอะมาก จำได้ว่าเงินที่เหลือในกระเป๋าใบเล็กเหลือเงินสดเพียงหนึ่งพันบาท แต่ใจนางก็ไม่ได้ดีใจอะไรเพราะถึงมีเงินจำนวนนั้นแล้วอย่างไร มันก็ไม่สามารถนำมาใช้ในโลกมิตินี่ได้อยู่ดี
“แม่เจ้า” ลี่อินเผลอร้องเสียงดัง รีบเอามือยกขึ้นปิดปากเมื่อนึกได้ว่าบุตรสาวกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เกรงว่าจะรบกวนการนอนของเสี่ยวเหลียน
เงินจำนวนหนึ่งพันบาทภายในกระเป๋าตอนนั้น บัดนี้มันได้กลายเป็นตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงในโลกมิติที่นางมาอาศัยอยู่ ไม่ใช่ว่ามีแค่หนึ่งใบมันกลับมีเป็นปึก ลี่อินเจ้ารวยแล้วแบบนี้ตนกับเสี่ยวเหลียนก็ไม่ต้องอดตาย นางสามารถปรับปรุงบ้านใหม่ และยังซื้อที่จำนวนห้าหมู่ที่นางตัวนางอยากจะได้แล้ว
เป็นเช่นนี้นางก็ไม่ต้องทะลุมิติมาเพื่อสู้ชีวิตแล้ว นางทะลุมิติมาเพื่อรวยชัด ๆ แต่ตอนนี้ลี่อินกำลังคิดไม่ตกว่า นางจะเก็บเจ้ากระเป๋าใบใหญ่นี่ไว้ที่ใด หากคนมาเห็นจะขโมยไปหรือไม่ ถ้ามันหายไปแล้วปรากฏออกมาตามใจนึกได้คงจะดี
แต่แล้วภาพตรงหน้าหญิงสาวกระเป๋าเดินทางใบนั้น ได้หายวับไปทันทีตามที่ใจนางต้องการ พอลี่อินอยากให้มันปรากฏออกมาก็เป็นไปตามที่นางนึกคิดจริง ๆ
ด้วยความสงสัยหากว่ามันจะเป็นไปตามที่นางนึกคิดจริง หญิงสาวจึงได้ลองเอาเห็ดหลินจือแคระลงไปในกระเป๋า ที่เรียกว่าเห็ดหลินจือแคระก็เพราะว่ามันแห้งแกร็นจนเหลืออยู่นิดเดียว
ปรากฏว่ามันสามารถใส่ของจากโลกนี้เข้าไปได้อย่างที่คิดไว้จริง ๆ อีกทั้งเห็ดหลินจือกลายเป็นสีเข้มขึ้น ดอกใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับว่ามันมีชีวิตใหม่อีกครั้ง และไม่ว่าลี่อินจะนำสิ่งใดมาใส่เข้าไปมันก็สามารถบรรจุได้โดยไม่รู้จักเต็ม
ของที่นำไปใส่ก็เพิ่มจำนวนมากอีกตามจำนวนของสิ่งของที่ใส่ไป มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ตัวนางที่เคยอ่านนิยายแนวทะลุมิติ แล้วคนที่ทะลุเข้าไปมีของวิเศษ ลี่อินได้แต่คิดมาตลอดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ มาวันนี้นางได้เจอกับตัวแล้วมันช่างวิเศษจริง ๆ
“ไหนดูสิว่าเรตติ้งจะดีไหม” ร่างบางเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องมือทำมาหากินคู่กาย ได้แอบลุ้นว่ายอดวิวจะดีไหม“ยอดวิวห้าหมื่นในหนึ่งวัน ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ยฉัน” แต่พอลองตบหน้าตัวเองดูมันก็เจ็บ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีคนสนใจมากขนาดนี้ ปกติแล้วในความทรงจำของอ้อมแอ้ม นิยายของเธอหนึ่งวันยอดวิวหลักสิบ ครึ่งหนึ่งจากแฟนคลับเดนตายของเธอ อีกครึ่งคือคนที่แวะเข้ามาด่าหญิงสาวรีบกดรีเฟรชหน้าเว็บดูอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบนิยายไม่ได้รวน แต่กดเท่าไหร่ก็มียอดเท่าเดิม ไม่สิมันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างหาก‘ฮือออ ไรท์คะ นางเอกกับลูกสาวสู้ชีวิตมาก’‘ติดตามเลยค่า นิยายสนุกมาก’‘อู๊ยยย พระเอกคือดีงาม’‘น้อนน่าร๊ากกก’‘ไรท์เปลี่ยนแนวนิยายแล้วหรือคะ นิยายเรื่องเก่าของไรท์ประสาทแดกมากค่ะ’และยังมีอีกหลายคอมเมนต์แต่ก็มาในทิศทางที่ดี แสดงว่าตัวเธอมาถูกทางแล้ว ที่เหลือก็รอยอดอีบุ๊กอีกสองวัน เปิดขายวันแรกจะเป็นอย่างไรก็ต้องมาวัดกันแล้ว ว่าเธอควรจะสามารถยึดอาชีพนักเขียนต่อไปไหม ถ้าไม่โอเคก็จะหาอย่างอื่นทำเสริมสองวันผ่านไป“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง” อ้อมแอ้มกำลังนับถอยหลัง เธอกำลังลุ้นกับยอดขายอีบุ๊กเรื่องแรกในฐานะอ้อมแอ้มคนใ
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โลกใบนี้ช่างตื่นตาตื่นใจเสียจริง ลี่อินฟื้นขึ้นมาในห้องที่ดูแปลกประหลาดไม่คุ้นตา กับใบหน้าของเธอที่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ในตอนแรกลี่อินก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเรื่องน่าอัศจรรย์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองได้ลี่อินฟื้นขึ้นมาในวันหนึ่งพบว่าตัวเองอยู่ในห้องสีขาว มีเครื่องมือแปลกประหลาด มีสายอะไรต่อมิอะไรห้อยระโยงระยางตามตัวเธอเต็มไปหมด ความทรงจำเดิมเริ่มกลับมากเป็นสาย เรื่องราวมากมายไหลเวียนเข้ามาภายในหัวไม่หยุดอ้อมแอ้มหรือก็คือชื่อใหม่ของเธอ ไม่เพียงแค่ความทรงจำเดิมของเจ้าของร่าง แต่ยังมีอีกอย่างที่เธอได้ อ้อมแอ้มตัวจริงสลับไปเป็นลี่อิน พวกเธอทั้งสองต่างสลับกันอยู่ในโลกต่างมิติของกันและกัน ไม่สิไม่ใช่เธอสองคนแต่เป็นคนเดียวกันต่างหาก คนหนึ่งเป็นมิติอนาคตส่วนอีกคนเป็นมิติโบราณ มิติที่ควรจะเป็นไปตามครรลองของกาลเวลาที่มันควรจะเป็น มันกลับเปลี่ยนสลับเธอให้กลับไปในมิติต่างเวลาหลังจากพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลในประเทศจีนจนหายดีแล้ว อ้อมแอ้มก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย ต่อจากนี้ไปเธอคืออ้อมแอ้ม และจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ตามใจของตัวเอง ที่แห่งนี้มีทั้งอิสระไม่มีกฎระเบีย
“หนูซื้อหมดเลย คุณยายขายเท่าไหร่คะ” อ้อมแอ้มรับของมาถือไว้ ก่อนที่หญิงสาวจะล้วงเอากระเป๋าเงินออกมา เพื่อจะจ่ายเงินค่าโสมให้กับคุณยาย“หนึ่งร้อยหยวนลูก” เห็นไหมหลานของนางน่ารักถึงเพียงนี้ ตาแก่นั้นทำหลานสาวนางได้ลงคอ“นี่ค่ะคุณยาย แต่ทำไมขายถูกนักล่ะคะ” เธอคิดว่ามันถูกมากเกินไป เงินหนึ่งร้อยหยวนเทียบกับเงินไทยแล้วเป็นเงินแค่ห้าร้อยยี่สิบห้าบาทเอง ถูกกว่าร้านอาหารบางที่ที่เธอเข้าไปทานมาอีก โสมสามต้นเธอก็เปิดดูแล้ว หากเอาไปขายก็คงจะได้ราคาดีอยู่ ถึงจะไม่มีความรู้เรื่องโสมแต่หญิงสาวก็มั่นใจว่ามันจะต้องแพงกว่านี้“ยายคิดแค่นี้ หนูก็เก็บใส่กระเป๋าไว้ให้ดี มันจำเป็นหนูจะต้องได้ใช้มัน”“คุณยายคะ อะอ้าว หายไปไหนแล้วล่ะ” เธอแค่ก้มเก็บของใส่กระเป๋าแป๊บเดียวเอง จะว่าคุณยายเดินเร็วก็คงจะไม่ใช่ เวลาแค่ไม่ถึงนาทีจะหายตัวไปได้อย่างไรกัน อย่าบอกนะว่าเป็น...? ยิ่งอยู่ในวัดด้วย วิ่งสิคะรออะไร“อ๊ากกกกกกกก”อีกหนึ่งโลกมิติ‘ลี่อินเอ๊ย’ลี่อินที่วันนี้นอนซมเพราะพิษไข้ นอนอยู่บนเตียงทำจากไม้ไผ่กลางเก่ากลางใหม่ ตัวนางที่ดูเหมือนจะหลับลึกตั้งแต่หัวค่ำ แต่ตอนนี้หูกลับได้ยินเสียงของใครบางคนแว่วอยู่ข้างหู หญิงส
ผู้เฒ่าดวงชะตาแทบจะนั่งไม่ติด เดินวกไปวนมาคิดจนหัวแทบจะระเบิด แต่ก็ยังไม่สามารถคิดหาวิธีแก้ไขความผิดของตนเองได้ สองวันที่แล้วในขณะกำลังทำหน้าที่ของตนอยู่นั้น ด้วยเพราะความเผอเรอทำให้เขาขีดเขียนเส้นดวงชะตาสลับกันทำให้คนอีกช่วงเวลาแห่งมิติที่ถึงเวลาตายกลับไม่ตาย ส่วนคนที่ชะตายังไม่ถึงฆาตกลับสลับดวงวิญญาณเป็นคนที่ต้องตายแทน ตอนนี้วงล้อแห่งดวงชะตาของพวกนางทั้งสองได้หมุนสลับมั่วกันไปหมด ผู้เฒ่าดวงชะตาไม่รู้จะทำเช่นไรดี คนที่ต้องตายแต่ไม่ตายก็ช่างเถิด แต่คนที่ยังไม่ถึงชะตานี่สิคือปัญหาใหญ่เหลือเวลาอีกเพียงน้อยนิด ก็จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงตามวงล้อแห่งชะตาแล้ว หากจะขีดเขียนเส้นดวงชะตาขึ้นใหม่ก็ต้องใช้เวลาอีกสักพัก เวลานี้ตาเฒ่าหัวหงอกเช่นเขาก็ยังคิดวิธีไม่ออกจะแก้เช่นไรได้ทันกัน“ตาเฒ่าเหตุใดถึงหน้าไม่สู้ดีนักเล่า” แม่ซื้อเห็นเฒ่าดวงชะตามีสีหน้าไม่สู้ดีมาหลายวันแล้ว นางรู้สึกเป็นห่วงจึงได้ลองมาถามไถ่ถึงสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ“คือว่า เรื่องมันเป็นอย่างนี้นะยายเฒ่า” เฒ่าดวงชะตาตัดสินใจเล่าให้กับแม่ซื้อฟัง เขาพยายามคิดแก้ปัญหาเรื่องนี้คนเดียวมาหลายวันแล้ว คิดอย่างไรก็คิดไม่ตกเสียทีโป๊ก
“อะแฮ่ม ท่านแม่ของพวกเจ้ากำลังจะมีน้อง” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืดออก พูดอย่างภูมิใจแจ้งข่าวดีให้กับลูก ๆ ทั้งสาม ส่วนใบหน้าหรือก็ยิ้มไม่หุบ“ข้าไม่เอาน้องสาวนะเจ้าคะ” อี้หลานฮวา“ข้าก็ไม่ชอบน้องสาว” หวงหลานฮวา พร้อมกับเหล่ตาไปทางน้องเล็กสุด ที่มือไม่เคยว่างเว้นกัดกินหมั่นโถวเต็มปาก จากนั้นก็เคี้ยวจนแก้มตุ่ย“ข้าจะได้เป็นพี่” ไป๋หลานฮวา ต่อไปนางก็ไม่ต้องคอยทำตามคำสั่งของใครแล้ว นางจะได้เป็นผู้สั่งบ้างเสียที แค่คิดก็มีความสุขแล้วนางจะใช้น้องเล็กไปเอาของกินในครัวมาให้ ยามที่ถูกท่านแม่จำกัดมื้ออาหารเด็ก ๆ ทั้งสามเมื่อรู้ว่าท่านแม่จะมีน้อง ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขอเป็นน้องชายบ้าง เพราะว่าท่านพี่หลี่เจี๋ยบุตรชายของท่านป้าเฟยฮวาทั้งฉลาดและเก่งกาจ พวกนางก็อยากจะได้น้องชายแล้วเก่งดั่งเช่นท่านพี่หลี่เจี๋ยบ้าง ด้วยตนเป็นสตรีต้องทำตามขนบธรรมเนียม บางอย่างก็ไม่สามารถทำได้ จึงอยากจะให้น้องที่กำลังจะเกิดมาเป็นชายมากกว่าสตรี“ท่านพี่แล้วเสี่ยวเหลียนไปไหนเจ้าคะ ไม่เห็นสองสามวันแล้ว” ลี่อินถามถึงบุตรสาวอีกคนเสี่ยวเลียนพอโตเป็นสาวรูปโฉมงดงามไม่แพ้หญิงงามอันดับหนึ่ง เป็นถึงท่านหญิงมู่ตานผู้เลื่องชื่อ ใน
“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว ประเดี๋ยวข้าจะจัดเทียบยาบำรุงครรภ์ให้นะขอรับ” ท่านหมอประจำตระกูลกล่าวแสดงความยินดี“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”ลี่อินที่มีสีหน้าซีดเซียวนอนดมยาดมอยู่บนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน หญิงสาวคิดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ ก็ในเมื่อสามีตัวดีไม่เคยว่างเว้นเลยสักวัน นี้ก็ผ่านมาสิบปีแล้วสามีก็ยังคงตัวติดกันมิได้ห่าง เมื่อก่อนเป็นเช่นไร ผ่านไปสิบปีแล้วก็ยังคงเป็นเช่นเดิมนางก็อุตส่าห์กินยาคุมกำเนิดมิได้ขาดแล้วเชียวนะ ก่อนกินยังตรวจดูให้ดีเสียก่อนจะกินทุกครั้ง ด้วยกลัวว่าสามีตัวดีจะแอบเปลี่ยนเม็ดยาคุมกำเนิดอีก ก็ระวังตัวดีแล้วเชียวเหตุใดถึงได้ตั้งครรภ์อีกจนได้เอ๊ะ!หรือว่านางเองที่เป็นคนลืมกินยาคุมกำเนิดกันนะ แล้วจะเป็นตอนไหนกัน หรือว่าจะเป็นตอนที่แอบหนีไปท่องเที่ยวกันสองคน หรือจะเป็นตอนแอบหนีลูก ๆ ไปเที่ยวงานประจำเมือง หรือจะเป็นตอนที่สามีกลับจากทำภารกิจตึง ตึงปัง“ภรรยารักเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง พี่ดีใจเหลือเกินที่เรากำลังจะมีลูกเพิ่มอีกแล้ว” แม้เวลาจะเปลี่ยนไปกว่าสิบปี แต่ทว่ากาลเวลาก็ไม่อาจทำให้ชายหนุ่มดูแก่ลงเลย เขายังคงดูหนุ่มแน่นทั้งยังดูสง่างามยิ่งกว่