ยามโหย่วรถม้าของเซียวหงก็กลับมาถึงจวน เซียวอี้เซียนที่ตอนนี้กำลังเคี่ยวยาให้กับท่านย่าของนางอยู่ เซียวหงมองดูบุตรสาวที่แปลกไป แม้ว่านางจะไม่อาลัยอาวรณ์จ้าวเฉิงแล้วก็ตาม แต่ปัญหายังคงอยู่ พรุ่งนี้พระราชโองการจะมา คนสกุลจ้าวจะมาหาเรื่องอีกไหม
จ้าวอันป๋อให้คนปล่อยข่าวไปทั่วว่าจะรับนางไปเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของจ้าวเฉิง เพราะนางทำชื่อเสียงสกุลสามีเสียหาย ให้เป็นอนุยังนับว่าให้เกียรติเกินไป หากมิใช่เพราะต้องรักษาคำพูดแค่ถือรองเท้าให้สาวใช้สกุลจ้าวนางยังไม่คู่ควร จ้าวอันป๋อไอ้คนสารเลวนั่นต้องการลบหลู่เกียรติสกุลเซียวให้ได้จริงๆเช่นนั้นหรือ ยาถูกเคี่ยวเสร็จแล้วเซียวอี้เซียนยกกาต้มยา ก่อนจะเทยาลงในชาม นางยกถาดไม้ที่รองถ้วยยาหันกลับมาก็เจอเข้ากับบิดาที่ยืนอยู่
"ท่านพ่อ...ท่านกลับมาแล้วเหนื่อยหรือไม่ เจรจาต่อรองเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"
"้เซียนเอ๋อร์อ่า นั่นฝ่าบาทเชียวนะ เจ้าใช้คำว่าต่อรองได้อย่างไรกัน"
"คิกๆ ท่านพ่อการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ไม่เรียกต่อรองแล้วจะให้เรียกว่าอย่างไรเจ้าคะ ยาอุ่นแล้วข้าจะยกไปให้ท่านย่าก่อน เดี๋ยวเราพ่อลูกค่อยมาคุยกัน ท่านพ่อไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ"
เซียวหงถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าให้บุตรสาว เซียวอี้เซียนยกยาเข้าไปในห้องให้ท่านย่าของนาง รวมถึงมารดาที่เหนื่อยจากการดูแลท่านย่าหลายวันแล้ว เซียวอี้เซียนอยากตำหนิเด็กสาวเจ้าของร่างเดิมเสียจริงๆ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือความรัก อยากแต่งงานกับจ้าวเฉิงเพียงเพื่อต้องการให้ตระกูลเซียวมีที่ช่วยค้ำยัน พอเขาไม่แต่งก็คิดว่าตัวเองทำให้ตระกูลอับอายทำลายตระกูลจึงฆ่าตัวตาย ช่างกตัญญูผิดวิธีจริงๆ
"เฮ้อนางหนู เจ้ามิเคยได้ยินหรือพึ่งคนอื่นมิเท่ากับพึ่งตนเอง เอาล่ะทุกอย่างข้าจะทวงคืนให้เจ้าไปให้สงบเถอะนะ"
เมื่อดูแลหญิงชราดื่มยาและให้นางได้นอนพักแล้ว เซียวอี้เซียนก็กำลังจะเดินออกมา นางกลับคว้าลำแขนกลมกลึงเอาไว้ น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงอย่างเห็นได้ชัด
"เซี่ยนเซี่ยนของย่า เจ้ามีพรสวรรค์เหมือนท่านปู่ของเจ้า ตระกูลเซียวจะต้องรุ่งเรืองอีกครั้ง อย่าได้พึ่งพาผู้อื่นเลย แค่กๆๆ"
"ท่าย่าวางใจ..หลานจะทำให้คนที่กล้าดูถูกตระกูลเซียว กล้าดูหมิ่นท่านปู่ต้องชดใช้ ท่านย่ารักษาสุขภาพให้แข็งแรง รอวันที่คนเหล่านั้นมาก้มหัวให้กับบรรพบุรุษตระกูลเซียวของเราเถอะเจ้าคะ"
"ดีๆๆ ฮ่าๆๆๆ นายท่านๆเห็นหรือเปล่า หลานสาวของเรานางช่างองอาจยิ่งนัก เซี่ยนเซี่ยนอ่า ก่อนหน้าเจ้าต้องแบกรับภาระตระกูลเอาไว้ จากนี้ไปมีเรื่องอันใดอย่าแบกไว้คนเดียว บิดาเจ้าแม้ไร้กำลังแต่เขามิได้ไร้สติปัญญา"
"ข้ารู้เจ้าค่ะข้ารู้ ท่านย่า..ท่านพ่อป่วยส่วนหนึ่งมาจากวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของท่าน หลานกล่าวเช่นนี้มิได้จะกล่าวโทษท่านแต่อย่างใด แต่ท่านเจ้าคะ ย่าท่านสงบจิตใจได้หรือไม่ อย่ายึดติดอีกเลย วางใจเถอะมีข้าอยู่ตระกูลเซียวไม่มีวันล่มสลายแน่นอนเจ้าค่ะ"
"เซี่ยนเซี่ยนของย่าหากเจ้าเป็นบุรุษตระกูลของเราคงได้ผู้สืบทอดแล้ว"
"หลานมีเงิน หลานหาเงินเก่ง เมื่อถึงเวลาหลานก็แต่งเขยเข้าบ้านสักคน พอให้กำเนิดบุตรชายเท่านี้สกุลเซียวก็ไม่ไร้ผู้สืบทอดแล้ว ท่านย่าพักผ่อนเถอะนะเจ้าคะ หลานมีงานอยากปรึกษาท่านพ่อสักหน่อย"
"อืม ไปเถอะเด็กดีของย่า"
เซียวอี้เซียนมาถึงศาลากลางน้ำที่บิดารออยู่แล้วก็เดินเข้ามาหา เซียวหงไอเบาๆสองสามที นางเข้าไปยืนด้านหลังลูบหลังให้บิดาเบาๆ ก่อนจะทุบตามบ่า ไหล่ สันหลัง ฟังจากเสียงหายใจในปอดของเขาคงมีเสมหะคั่งค้างอยู่ไม่น้อย เซียนอี้เซียนไม่ใช่หมอหญิงทะลุมิติอะไรเทือกนั้น แต่การเคาะปอดเป็นวิธีเบื้องต้นที่พยาบาลสอนได้ทั่วไป
เซียวหงรู้สึกอยากอาเจียน เสี่ยวฮวารีบนำกระโถนมาให้ เซียวหงอาเจียนออกมาเป็นเสมหะสีเขียวขุ่นเหนียวหนืด เซียวอี้เซียนยังคงลูบหลังไปด้วยเคาะปอดไปพลางๆด้วย จนกระทั่งบิดาอาเจียนออกมาเกือบครึ่งกระโถนนางจึงหยุดมือ หากเขาอาเจียนมากเกินไปอาจเหนื่อยจนเกิดอาการแทรกซ้อนได้
"ท่านพ่อ นี่เป็นการเคาะเบาๆเอาเสมหะออก ข้าขอความรู้มาจากท่านตาเจิ้นหนานเจ้าค่ะ เสี่ยวฮวา ขุดหลุมลึกๆแล้วเททิ้ง อย่าเอาไปล้างรวมกับสิ่งของอย่างอื่น เสร็จแล้วลวกน้ำร้อน ของท่านพ่อแยกเอาไว้ให้ท่านพ่อคนเดียว"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
ห้าปีผ่านไปเซียวอี้เซียนมาอยู่ที่ต้าฉินได้เจ็ดปีแล้ว ยามนี้นางมีบุตรชายสี่คนบุตรสาวสามคน เด็กทั้งเจ็ดคนล้วนเป็นเด็กเฉลียวฉลาด นางคลอดทุกครั้งได้ลูกแฝดทั้งสองครั้ง คุณตาบอกว่าเดิมทีคุณตามีคู่แฝด แต่เนื่องจากป่วยด้วยโรคเดียวกันกับเซียวอี้เซียนจึงจากไปก่อนวัย นางจึงไม่เคยเห็นหน้าเขา แต่หยางหมิงเฉิงบุตรชายคนรองมีส่วนคล้ายคุณตาเล็กเมื่อชาติที่แล้วมากนักคุณตาของนางบอกมาฮ่องเต้ประกาศราชโองการอีกห้าปีจะสละราชสมบัติให้รัชทายาทขึ้นครองราชย์ ต้าฉีเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ แคว้นรอบๆ กลายมาเป็นส่วนหนึ่ง ไร้สงคราม ราษฎรล้วนมีแต่ความสุข พระราชามีความสามารถ ขุนนางซื่อสัตย์รักแผ่นดินรัชทายาททรงมีโอรสสามพระธิดาสอง ลู่เสวียนมีบุตรชายสองบุตรสาวสาม จินฝานมีบุตรชายสามคนบุตรสาวสองคน หลิวหย่งมีบุตรชายสามคนไม่มีบุตรสาว ซึ่งเขาเสียดายยิ่งนัก วันนี้ทุกคนมารวมกันที่ตำหนักหย่งฉือเพื่อช่วยกันทำขนมไหว้พระจันทร์ ค่ำคืนนี้จะไหว้พระจันทร์ที่ตำหนักหย่งฉือ ทุกคนผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากมายย่อมผู้พันกันเป็นธรรมดา หยางเทียนหลงนั่งคุยกับสหายทุกคน"เขื่อนห้าแห่งสร้างเสร็จแล้ว เรือกลไฟพร้อมติดปืนใหญ่จำนวนยี่สิบลำก็สร้างเส
หยางเทียนหลงทำครัวที่ครัวเล็กที่ตำหนักตนเอง ไม่นานอาหารหลานอย่างก็พร้อมสำหรับเขากับนาง ใบหน้าเปื้อนเขม่าเตาไฟทำเอาเซียวอี้เซียนยิ้มน้อยๆก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้เขา จากนั้นก็คีบอาหารป้อนสามี เด็กทั้งสามยังคงหลับเพราะเพิ่งดื่มนมไปก่อนหน้า เมื่อเรียบร้อยสาวใช้ก้มาเก็บโต๊ะ หยางเทียนหลงนั่งพิงหัวเตียงเซียวอี้เซียนนั่งพิงอกแกร่งของเขา มือหนากอดเอวนางเอาไว้ หยางเทียนหลงปรึกษากับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"อีกสิบวันก็ครบเดือนพี่จะจัดงานให้ลูกของเรา แต่ว่าน้องๆเจ้าก็ครบเดือนเช่นกัน เจ้าว่าพวกเราจัดพร้อมกันเลยดีไหม""ขุนนางจะอึดอัดเอานะเพคะ พวกเขาต้องไปทั้งสองที่ในวันเดียวกัน ให้ท่านแม่กับท่านพ่อจัดก่อน อีกสักครึ่งเดือนเราค่อยหาฤกษ์มงคลจัดดีไหมเพคะ แต่ว่าตอนที่คลอดของขวัญมากมายนัก ตอนงานครบเดือนไม่รับของขวัญนะเพคะ ราษฎรยังคงอดอยากบางพื้นที่ เงินทองที่เอามาซื้อของขวัญเอาใจพวกเราบางทีอาจรีดไถภาษีมาจากชาวบ้านก็ได้ แม้จะกวาดล้างขุนนางไม่ซื่อไปไม่น้อย แต่ก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีขึ้นมาอีก และเพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นเอาความสนิทสนมมาอ้างภายหลังเพคะ""เมียพี่ฉลาดยิ่งนัก ว่าแต่ก่อนไปพี่จำได้ว่าเจ้าบอกว่ากล
หลังจากที่เซียวอี้เซียนคลอดบุตรฝาแฝดนางจำได้ว่าเซียวอี้เซียนคนเดิมมาเกิดเป็นบุตรสาวของนาง หลังจากสามวันนางก็ลืมเลือนเรื่องนี้ไปง่ายดายราวกับว่าก่อนหน้าไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งจวนเซียวและตำหนักหย่งฉือต่างก็มีแม่นมเพิ่มมาไม่น้อยเพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูทารกวันนี้ต้องขึ้นสำรวจแล้ว เพราะเลื่อนมาจากเดิมสี่วันแล้ว ฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักเพื่อเยี่ยมหลานสะใภ้ ยังมีไทเฮาเสด็จตามมาด้วย หยางเทียนหลงออกมารับเสด็จทั้งสองพระองค์ ฮ่องเต้ดำเนินเข้าไปเยี่ยม แม้ว่าห้องอยู่เดือนสตรีจะไม่สมควรแต่นางคือสตรีที่คุณต่อแผ่นดิน หลายๆอย่างที่ทำให้ราษฎรต้าฉินมีกินมีใช้ก็เป็นนางที่ทำให้กำเนิดขึ้นมาฮ่องเต้หยิบหยกที่รับสั่งให้ช่างหลวงแกะสลักเป็นพิเศษ หยกเป็นสีสองสีด้านในแกะสลักรูปมังกรเล็กแปดตัวอยู่ภายใต้มังกรตัวใหญ่ ว่ากันว่าหยกพิเศษนี้แม้แต่องค์ชายหรือองค์หญิงยังไม่อาจได้รับ มีเพียงรัชทายาทหยางเฟยหยางและพระโอรสองค์โตของรัชทายาทหยางเต๋ดูแลมิง และองค์ชายแปดเห็นยางก็อหยวนเท่านั้น"ตั้งชื่อหรือยังเล่าหลงเอ๋อร์""หลานรอเสด็จลุงพระราชทานให้พ่ะย่ะค่ะ""คนโตชื่อหยางหมิงเจี๋ยที่แปลว่าผู้ฉลาดและโดดเด่น คนรองชื่อหยางหมิงเฉ
ร่างสูงไปแล้ว เฉียวมู่หลานอุ้มเวินสือห่าวไปนั่งเล่นหน้าเรือนเผื่อทั้งสองพระองค์มีรับสั่งใช้งาน ส่วนหยางเทียนหลงเมื่อมาถึงก็เปิดประตูอย่างเบามือ ร่างอุ้ยอ้ายนอนหลับลมหายใจสม่ำเสมอ แต่บางครั้งก็เหมือนจะนิ่วหน้า ร่างสูงรีบเดินไปดู เขาสังเกตเห็นนางกำมือจิกผ้าห่มแน่น ส่งเสียงครางเบาๆ"อื้อ อ๊า"เหงื่อเม็ดโตไหลออกทั่วใบหน้า หยางเทียนหลงปลุกนางเบาๆ"เซี่ยนเซี่ยน...เป็นอะไรไปฝันร้ายหรือ ตื่นเถอะพี่อยู่นี่"เซียวอี้เซียนลืมตาก่อนจะเอ่ยเสียงแหบพร่า"พี่เทียนหลง...หม่อมฉัน จะ เจ็บท้อง อ๊าาา มะ ไม่ไหว"หยางเทียนหลงเอาผ้าห่มออกก่อนจะเห็นเตียงเปียกชุ่ม เซียวอี้เซียนมองหน้าเขาก่อนจะเอ่ย"น้ำคร่ำแตกแล้ว เรียกหมอตำแยเถอะเพคะ อื้อ จะ เจ็บจัง""ได้ๆๆ เด็กดีอดทนหน่อยนะ มู่หลานเรียกหมอตำแยมา พระชายาจะคลอดแล้ว""เพคะ หม่อมฉันจะรีบไป อาห่าวอยู่ตรงนี้อย่าไปไหน ข้าจะไปตามท่านหมอมาดูพระชายา""ขอรับท่านแม่""เด็กดี"เฉียวมู่หลานรีบไปตามหมอตำแย ไม่นานหมอตำแยก็ไปรวมกันที่เรือนท่านอ๋อง ตอนนี้พระชายาหลินที่ไปเข้าเฝ้าไทเฮามารถม้าเพิ่งมาถึงจวนรู้ข่าวก็รีบไปที่ตำหนักเล็กของบุตรชายทันที เสียงดังมาจากด้านใน นางเห็นหวงซื
หลังจากสถาปนามู่กุ้ยเฟยเป็นฮองเฮาเรียบร้อยสามวันต่อมาก็ได้เวลาปล่อยบอลลูยขึ้นฟ้าเพื่อสำรวจต้าฉิน หยางเทียนหลง รัชทายาท เซียวหาน เซียวหง และหวงเหวินเทียนต่างก็ขึ้นไปด้วยกันแต่อยู่คนละกระเช้า ทางด้านฮ่องเต้ทรงขึ้นกระเช้าเดียวกับหลานชาย เนื่องจากหากผิดพลาดหยางเทียนหลงถือว่ามีฝีมือดีที่สุดชายป่าตะวันตกของเมืองหลวง สถานที่สร้างบอลลูนวันนี้ทุกคนมารวมตัวกันเพียบพร้อม ค่ำนี้จะปล่อยบอลลูนขึ้น ทางด้านสามีทั้งหลายจะกลับไปหาฮูหยินของตนก่อน เพราะว่าอาจจะใช้เวลาบนนั้นประมาณครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย หากบินแล้วไร้อุปสรรค ก็จะเริ่มสำรวจแคว้นอื่นๆเช่นกัน เพื่อร่างแผนที่ให้ได้เปรียบทางสมรภูมิในอนาคต หากเกิดศึกสงครามอีกย่อมเฝ้าระวังแผ่นดินต้าฉินได้ดีกว่าเดิมทั้งหมดกลับจวนตนเอง รอยามโหย่วจะออกเดินทางพร้อมกับฮ่องเต้ หยางเทียนหลงแวะส่งพ่อตาและท่านปู่ของเซียวอี้เซียนเรียบร้อยก็รีบกลับตำหนักหย่งฉือ เหมือนเมื่อเช้านางจะลุกไม่ไหว เขาไม่อยากไปยามนี้เลยแต่กำหนดการมาแล้ว อีกอย่างนางเพิ่งแปดเดือนครึ่งยังไม่น่าคลอดในช่วงเวลานี้ แต่มารดานางกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อหยางเทียนหลงมาส่งพ่อตาและท่านพ่อของเขาปรากฏว่าในจวนสา
เฉียวมู่หลานรอคนของหาไห่เหลานำวัตถุดิบมาส่ง ใครจะรู้ว่าท่านย่าของนางกับบิดาจะพาชาวบ้านมามากมาย พวกเขาตรงมาฉุดกระชากนางเพื่อบังคับนางให้กลับไปแต่งงาน เฉียวมู่หลานขัดขืน คนเฝ้าประตูเข้าห้ามแต่พวกเขากลับรุมทำร้าย องครักษ์ของจวนจึงมาขัดขวาง"พวกเจ้าเห็นจวนอ๋องเป็นสถานที่จะมาก่อเรื่องได้เช่นนั้นหรือ""พวกเรามิได้มาก่อเรื่องท่านทหาร แต่ข้ามาตามหลานสาวไปแต่งงาน นางอายุยี่สิบห้าแล้วยังไม่ออกเรือนจะทำให้บานเฉียวเราลำบากไปด้วย""ท่านย่า ท่านขายข้าให้หวังต้าซานสิบตำลึงมิใช่ข้าไม่รู้ ข้าไม่แต่งปล่อยข้านะ ท่านพ่อท่านยังเป็นคนหรือไม่ถึงขายลูกสาวตนเอง โอ๊ย"เพี๊ยะ!! เฉียวมู่หลานถูกบิดาตบ หน้าก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างไร้เยื่อไย"เดิมก็เป็นแค่ของไร้ค่า จะมาโวยวายทำไมกลับบ้านนางตัวดี""หยุดมือ..ที่นี่จวนอ๋องกลับไปให้หมด"องครักษ์ตวาดแต่คนสกุลเฉียวไม่ยอม เฉียวมู่หลานจึงควักสัญญาขายตัวออกมาแล้วเอ่ยตอบกลับไป"ข้าขายตนเองแล้ว หากอยากแต่งข้าก็ให้หวังต้าซานเอาเงินมาไถ่ตัวข้าสามสิบตำลึง"แม่เฒ่าเฉียวถึงกับหน้าแดงเพราะความโมโห ก่อนจะพุ่งเข้ามาใช้ไม้เท้าฟาดที่หลานสาว ปึก!! ปึก!! ปึก!! เฉียวมู่หลานหลับตายอมรับไม้เท้