공유

แผนลับ

last update 최신 업데이트: 2025-06-14 17:26:04

ในวันรุ่งขึ้น องค์จักรพรรดิได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางผู้ใหญ่และแม่ทัพนายกอง เพื่อปรึกษาหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหม่ยหลินและหลี่เฟยหลงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อรับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

"ข้าไม่ยอมส่งตัวท่านแม่เจียงไปเด็ดขาด!" แม่ทัพใหญ่ผู้แข็งแกร่งกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน "ให้พวกเขามา! เราพร้อมที่จะรบ!"

แต่ท่านราชครูจ้าวกลับมีความเห็นที่แตกต่างออกไป "การรบไม่ใช่ทางออกเสมอไป ท่านแม่ทัพใหญ่ หากเราหลีกเลี่ยงสงครามได้ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง"

"แล้วท่านราชครูจะให้เราทำอย่างไร! ส่งตัวเชฟหลวงผู้ล้ำค่าของเราไปให้ศัตรูอย่างนั้นรึ!" แม่ทัพใหญ่ไม่พอใจ

ในขณะที่การโต้เถียงดำเนินไปอย่างดุเดือด องค์จักรพรรดิก็ทรงยกพระหัตถ์ขึ้น เพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง

"ข้าได้ตัดสินใจแล้ว" องค์จักรพรรดิมีราชโองการด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าจะส่งตัวท่านแม่เจียงไปยังแคว้นเยว่... แต่มีข้อแม้!"

คำประกาศขององค์จักรพรรดิทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง เหม่ยหลินเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน

"ฝ่าบาท!" ท่านราชครูจ้าวอุทานด้วยความตกใจ

"ฟังข้าให้จบก่อน" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "ข้าจะส่งท่านแม่เจียงไป... แต่เธอจะไปในฐานะ "ทูตแห่งอาหาร" ไม่ใช่เชลยศึกหรือผู้รักษา! เธอจะต้องไปปรุงอาหารให้องค์จักรพรรดิเยว่ และหากองค์จักรพรรดิเยว่ทรงมีพระพลานามัยดีขึ้น... พวกเขาจะต้องเซ็นสัญญาไม่รุกรานเราเป็นเวลาสิบปี! และที่สำคัญที่สุด... ท่านแม่เจียงจะไปพร้อมกับหลี่เฟยหลง และจะได้รับความคุ้มครองจากกองกำลังพิเศษของเรา! และหากพวกเขากล้าทำอันตรายแม้แต่น้อย... ข้าจะส่งกองทัพทั้งหมดไปบดขยี้แคว้นเยว่ให้ราบเป็นหน้ากลอง!"

แผนการขององค์จักรพรรดิเป็นการเดิมพันที่สูงลิ่ว แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่พระองค์มีต่อเหม่ยหลินอย่างหาที่สุดมิได้

"ฝ่าบาท... หม่อมฉันเกรงว่า..." เหม่ยหลินพยายามทัดทาน

"ไม่ต้องห่วงท่านแม่เจียง" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "ข้าเชื่อในความสามารถของท่าน และข้าก็เชื่อว่าท่านจะสามารถนำพาสันติภาพมาสู่แผ่นดินนี้ได้! นี่คือบททดสอบครั้งสำคัญของท่าน! ท่านกล้าที่จะรับมันหรือไม่!"

เหม่ยหลินมองไปที่หลี่เฟยหลงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาพยักหน้าให้เธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น เหม่ยหลินถอนหายใจลึกๆ และตัดสินใจที่จะยอมรับบททดสอบนี้

"เพคะฝ่าบาท! หม่อมฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด! และจะนำพาสันติภาพกลับมาให้แคว้นของเราให้ได้เพคะ!" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

การเดินทางสู่ดินแดนศัตรู

การเดินทางสู่แคว้นเยว่เป็นการผจญภัยครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เหม่ยหลิน หลี่เฟยหลง และกองกำลังพิเศษขององค์จักรพรรดิ ประกอบด้วยองครักษ์ฝีมือดีที่ถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี นำโดยหัวหน้าหมา ผู้ซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพพิเศษในภารกิจนี้

ตลอดการเดินทาง พวกเขาเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่หนาวเหน็บกว่าแคว้นของพวกเขามาก เส้นทางที่ขรุขระและเต็มไปด้วยโจรป่า แต่ด้วยความสามารถในการนำทางของหัวหน้าหมา และฝีมือการต่อสู้ของหลี่เฟยหลงและเหล่าทหารองครักษ์ พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไปได้

เมื่อเดินทางถึงชายแดนแคว้นเยว่ พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากกองกำลังทหารของแคว้นเยว่ที่เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ บรรยากาศตึงเครียดและเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ

"พวกเรามารับท่านแม่เจียงไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิเยว่!" แม่ทัพของแคว้นเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงห้าวหาญ

เหม่ยหลินรู้สึกได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและดูถูกจากทหารของแคว้นเยว่ พวกเขาคงไม่คิดว่าสตรีธรรมดาๆ อย่างเธอจะสามารถทำอะไรได้

ในราชสำนักแคว้นเยว่: บททดสอบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

วังหลวงของแคว้นเยว่มีความโอ่อ่าไม่แพ้กัน แต่บรรยากาศกลับดูเยือกเย็นและเคร่งขรึมกว่ามาก เหม่ยหลิน หลี่เฟยหลง และหัวหน้าหมา ถูกนำตัวไปยังห้องโถงใหญ่ ซึ่งองค์จักรพรรดิเยว่ประทับอยู่บนบัลลังก์ทองคำ

องค์จักรพรรดิเยว่เป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาของพระองค์ฉายแววเฉลียวฉลาดและเต็มไปด้วยอำนาจ แต่พระพักตร์ของพระองค์กลับดูซีดเซียวและอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกว่าทรงประชวรหนักจริงตามที่ราชทูตกล่าวอ้าง

"คารวะฝ่าบาท" เหม่ยหลินกล่าวพลางก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม

"เจ้าคือแม่เจียงอย่างนั้นรึ?" องค์จักรพรรดิเยว่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงไปด้วยความกังขา "ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เจ้าก็เป็นเพียงสตรีธรรมดาๆ คนหนึ่ง ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะมีความสามารถในการรักษาอาการประชวรของข้าได้"

คำพูดขององค์จักรพรรดิเยว่เป็นการดูถูกอย่างชัดเจน แต่เหม่ยหลินก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคือง เธอรู้ว่าเธอต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน

"หม่อมฉันไม่ได้เป็นหมอเพคะฝ่าบาท" เหม่ยหลินตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่หนักแน่น "แต่หม่อมฉันมีความรู้เรื่องอาหารและสมุนไพรบางอย่าง ที่อาจจะช่วยบรรเทาพระอาการของฝ่าบาทได้เพคะ"

องค์จักรพรรดิเยว่ทรงหัวเราะในลำคอ "หึ! งั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า! จงปรุง 'ซุปแห่งชีวิตอมตะ' ของเจ้ามาให้ข้าได้ลิ้มลอง! แต่มีข้อแม้..."

พระองค์ทรงหยุดคำพูดไว้ชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เจ้าจะต้องปรุงซุปนั้นด้วย วัตถุดิบจากป่าต้องห้ามของเรา! และหากซุปที่เจ้าปรุงไม่สามารถทำให้ข้าพอใจได้...เจ้าจะต้องถูกประหารชีวิต! และข้าจะบุกยึดแคว้นของเจ้า!"

คำกล่าวขององค์จักรพรรดิเยว่ทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง ป่าต้องห้าม ของแคว้นเยว่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่อันตรายที่สุด เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายที่ไม่เคยพบเห็น และสมุนไพรบางชนิดก็มีพิษร้ายแรง การจะเข้าไปในป่าแห่งนั้นและหาวัตถุดิบที่เหมาะสมมาปรุงอาหารนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

"ฝ่าบาท! นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้วนะขอรับ!" หลี่เฟยหลงอุทานด้วยความโกรธ

"หุบปาก!" แม่ทัพของแคว้นเยว่ตะคอก "เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดในที่ประชุมนี้!"

เหม่ยหลินยกมือขึ้นห้ามหลี่เฟยหลง เธอรู้ว่าการโต้เถียงตอนนี้มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

"หม่อมฉันยอมรับข้อแม้เพคะฝ่าบาท" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เธอเงยหน้าขึ้นมององค์จักรพรรดิเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "แต่หม่อมฉันขออนุญาตนำบุตรชายและหัวหน้าหมาไปเป็นผู้ช่วยในการหาวัตถุดิบด้วยเพคะ"

องค์จักรพรรดิเยว่ทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ได้! ข้าจะอนุญาต! แต่หากพวกเจ้าคิดจะเล่นตุกติก...เจ้าจะต้องเจอดีแน่!"

ภัยร้ายในป่าต้องห้ามและแสงสว่างที่คาดไม่ถึง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   วิกฤตการณ์

    หลังจากเหตุการณ์ในแคว้นเยว่ เหม่ยหลินและคณะเดินทางกลับสู่แคว้นของตนอย่างปลอดภัย พร้อมกับมิตรภาพครั้งใหม่และข้อตกลงสันติภาพอันล้ำค่าที่นำพาสันติสุขมาสู่สองอาณาจักร องค์จักรพรรดิทรงปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทรงจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และทรงยกย่องความดีความชอบของเหม่ยหลินและไป๋เฟิงอย่างสมเกียรติไป๋เฟิงได้รับการแต่งตั้งเป็นราชทูตพิเศษ มีหน้าที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น และเขาก็แวะเวียนมาเยี่ยมเหม่ยหลินและครอบครัวอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลายเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและบริสุทธิ์แต่ความสงบสุขมักไม่จีรังยั่งยืน เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวปีนั้น พายุหิมะลูกใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีก็พัดถล่มอาณาจักรอย่างไม่คาดฝัน หิมะตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ปกคลุมทั่วทั้งแคว้นด้วยผืนสีขาวโพลน อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แม่น้ำลำคลองกลายเป็นน้ำแข็ง พืชผลทางการเกษตรเสียหายยับเยิน การคมนาคมหยุดชะงัก ผู้คนต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บและความอดอยากวิกฤตการณ์ในวังหลวงและคำร้องจากองค์จักรพรรดิแม้แต่ในวังหลวงเองก็ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะครั้งนี้ การขนส่งเสบียงอาหารจากภายนอกทำได้ยากลำบาก คลังเสบียงขอ

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   หลักฐาน

    องค์จักรพรรดิเยว่เสวยซุปแห่งการฟื้นคืนชีพด้วยความลังเล พระองค์ทรงจิบซุปช้าๆ และทันใดนั้นเอง...พระองค์ก็ทรงไอออกมาอย่างรุนแรง! พร้อมกับอาเจียนออกมาเป็น เลือดสีดำ!เสียงฮือฮาดังไปทั่วท้องพระโรง ขันทีผู้นั้นถึงกับหน้าซีดเผือด"เป็นไปได้อย่างไร!" ขันทีผู้นั้นตะโกน "เจ้าแม่ครัวชั่ว! เจ้าวางยาพิษฝ่าบาท!""หยุดเดี๋ยวนี้!" ไป๋เฟิงก้าวออกมาข้างหน้าอย่างองอาจ "นี่ไม่ใช่ยาพิษ! แต่มันคือ ยาถอนพิษ! ที่กำลังขับยาพิษที่เจ้าแอบใส่ในยาอายุวัฒนะของพระบิดาข้ามานานหลายปี!"คำกล่าวของไป๋เฟิงทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง ขันทีผู้นั้นถึงกับตัวแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับคนตาย"ฝ่าบาท!" ไป๋เฟิงคุกเข่าลงต่อหน้าองค์จักรพรรดิเยว่ "หม่อมฉันคือไป๋เฟิง... องค์ชายรองของพระองค์พะย่ะค่ะ!"องค์จักรพรรดิเยว่มองไป๋เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความหวัง พระองค์ทรงจำลูกชายของพระองค์ได้"ขันทีผู้นี้... เขาหลอกลวงพระองค์มาตลอดพะย่ะค่ะ!" ไป๋เฟิงกล่าวต่อ "เขาต้องการที่จะช่วงชิงอำนาจจากพระองค์ เขาแอบใส่ยาพิษลงในยาอายุวัฒนะของพระองค์ เพื่อให้พระองค์อ่อนแอ และควบคุมพระองค์ได้!"หลั

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   วัตถุดิบปริศนา

    ความจริงที่เปิดเผยจากไป๋เฟิงทำให้เหม่ยหลินเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เธอรู้ว่าภารกิจของเธอไม่ได้มีแค่การปรุงอาหารเพื่อรักษาองค์จักรพรรดิเยว่ แต่ยังรวมถึงการช่วยไป๋เฟิงเปิดโปงความจริง และหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของขันทีผู้นั้นด้วย"งั้นตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ?" หลี่เฟยหลงถาม"เราต้องหาวัตถุดิบที่เหมาะสมมาปรุงซุปแห่งชีวิตอมตะให้องค์จักรพรรดิเยว่" เหม่ยหลินกล่าว "แต่คราวนี้...เราจะไม่แค่ปรุงซุปบำรุงธรรมดา" เธอหันไปมองไป๋เฟิง "เราจะปรุงซุปที่สามารถ ล้างพิษ ออกจากร่างกายขององค์จักรพรรดิเยว่ได้!"ไป๋เฟิงพยักหน้า "ข้ารู้จักสมุนไพรบางชนิดในป่าต้องห้ามแห่งนี้ ที่มีสรรพคุณในการล้างพิษได้ แต่พวกมันหายากยิ่งนัก และมักจะเติบโตในที่ลับแล"ไป๋เฟิงนำทางพวกเขาเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมในป่าต้องห้าม พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยากลำบากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน พืชมีพิษที่ร้ายแรง และกับดักที่ถูกวางไว้โดยฝีมือมนุษย์"ท่านไป๋เฟิง! นั่นคืออะไรขอรับ!" หลี่เฟยหลงชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีผลไม้สีดำสนิท ดูเหมือนมีหนามแหลมคม"นั่นคือ 'ผลโลหิตทมิฬ'" ไป

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   รอยปริของศรัทธา

    การปรากฏตัวของไป๋หู่ราวกับสายฟ้าฟาดกลางป่าต้องห้าม! เหม่ยหลิน สบตาเขาด้วยความไม่เข้าใจปนประหลาดใจอย่างที่สุด หลี่เฟยหลงและหัวหน้าหมาต่างตะลึงงัน ไม่คาดคิดว่านายพรานหนุ่มผู้เคยช่วยชีวิตพวกเขาไว้ จะมาปรากฏตัวในชุดคลุมสีดำ และมีบทบาทในการช่วยเหลือพวกเขาในดินแดนศัตรูแห่งนี้"ไป๋หู่! ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!?" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไป๋หู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ สายตาของเขาฉายแววหนักใจ แต่ก็มีความเด็ดเดี่ยวซ่อนอยู่ เขาก้มศีรษะให้เหม่ยหลินเล็กน้อย"ขออภัยท่านแม่เจียง ที่ข้าต้องปกปิดเรื่องราวบางอย่าง" ไป๋หู่กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "แท้จริงแล้ว...ข้าไม่ใช่แค่นายพรานธรรมดาในป่าแห่งนั้น""แล้วท่านเป็นใครกันแน่!?" หลี่เฟยหลงถามอย่างสงสัยระคนไม่ไว้วางใจไป๋หู่หันไปมองทหารที่ล้มลงอยู่กับพื้น ก่อนจะกล่าวต่อ "ข้าคือ ไป๋เฟิง... อดีตองค์ชายรองแห่งแคว้นเยว่"คำสารภาพของไป๋เฟิงราวกับระเบิดที่ลงกลางกลุ่ม! หลี่เฟยหลงและหัวหน้าหมาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มผู้ลึกลับที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ จะมีฐานะสูงส่งถึงเพียงนี้ และที่สำคัญ... เขาคื

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ป่าต้องห้าม

    การเดินทางสู่ป่าต้องห้ามของแคว้นเยว่เริ่มต้นขึ้น เหม่ยหลิน หลี่เฟยหลง และหัวหน้าหมา พร้อมด้วยทหารนำทางสองสามนายจากแคว้นเยว่ ที่ดูท่าทางไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยป่าต้องห้ามแห่งนี้แตกต่างจากป่าที่พวกเขาเคยเข้าไปอย่างสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วยพืชพรรณรูปร่างแปลกประหลาดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และมีสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักชื่อแฝงตัวอยู่ทั่วไป บรรยากาศของป่าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอันตรายและความลึกลับ"ท่านแม่! ดูนั่นขอรับ!" หลี่เฟยหลงชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีผลไม้สีม่วงเข้มดูน่ากลัว"อย่าไปแตะต้องนะลูก" เหม่ยหลินเตือน "ผลไม้บางชนิดในป่าแห่งนี้มีพิษร้ายแรง"พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าว โดยเฉพาะจากทหารนำทางของแคว้นเยว่ที่คอยจ้องมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ราวกับรอโอกาสที่จะสร้างปัญหาในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางลึกเข้าไปในป่า จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับเงาร่างของ บุรุษลึกลับ ที่ปรากฏขึ้นจากพุ่มไม้ เขาสวมชุดคลุมสีดำปิดบังใบหน้า และมีท่าทางลับๆ ล่อๆ"ใครกันนั่น!" หลี่เฟยหลงตะโกน และชักดาบเตรียมพร้อมบุรุษลึกลับไม่ตอบ เขาเพียงแค่ชี้ไปที่ทหารนำทางของแคว้นเยว่ แล้วส่

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   แผนลับ

    ในวันรุ่งขึ้น องค์จักรพรรดิได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางผู้ใหญ่และแม่ทัพนายกอง เพื่อปรึกษาหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหม่ยหลินและหลี่เฟยหลงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อรับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"ข้าไม่ยอมส่งตัวท่านแม่เจียงไปเด็ดขาด!" แม่ทัพใหญ่ผู้แข็งแกร่งกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน "ให้พวกเขามา! เราพร้อมที่จะรบ!"แต่ท่านราชครูจ้าวกลับมีความเห็นที่แตกต่างออกไป "การรบไม่ใช่ทางออกเสมอไป ท่านแม่ทัพใหญ่ หากเราหลีกเลี่ยงสงครามได้ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง""แล้วท่านราชครูจะให้เราทำอย่างไร! ส่งตัวเชฟหลวงผู้ล้ำค่าของเราไปให้ศัตรูอย่างนั้นรึ!" แม่ทัพใหญ่ไม่พอใจในขณะที่การโต้เถียงดำเนินไปอย่างดุเดือด องค์จักรพรรดิก็ทรงยกพระหัตถ์ขึ้น เพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง"ข้าได้ตัดสินใจแล้ว" องค์จักรพรรดิมีราชโองการด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าจะส่งตัวท่านแม่เจียงไปยังแคว้นเยว่... แต่มีข้อแม้!"คำประกาศขององค์จักรพรรดิทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง เหม่ยหลินเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน"ฝ่าบาท!" ท่านราชครูจ้าวอุทานด้วยความตกใจ"ฟังข้าให้จบก่อน" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "ข้าจะส่งท่า

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status