공유

บทที่ 7 ฝากฝัง

작가: Luffy.g
last update 최신 업데이트: 2025-02-11 00:10:06

บทที่ 7 ฝากฝัง

วันถัดมาเจียงเสิ่นเย่วและเจียงอันเล่อก็เดินทางออกจากจวน ทั้งสองก้าวเท้าขึ้นไปบนรถม้าที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย ก่อนที่คนขับจะบังคับม้าตรงไปยังด้านหน้าของสำนักโยธา

“เล่อเอ๋อร์...แม้เจ้าจะพรางตัวเช่นนี้ แต่ข้าก็อดรู้สึกหวาดหวั่นใจไม่ได้ทีเดียว” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวออกมาพร้อมจ้องมองบุตรสาวตรงหน้า หญิงสาวที่มัดผมรวบขึ้นศีรษะดั่งเช่นชายหนุ่ม ทั้งยังแต่งกายเฉกเช่นบุรุษด้วยชุดผ้าต่วนสีเทา รูปร่างเล็กผิวขาวซีดจนดูนุ่มนิ่ม เจียงเสิ่นเย่วยังคงมองบุตรสายด้วยสายตาเป็นกังวล แม้ว่าฝีมือในการแต่งหน้าพรางตัวของแม่นมหลินจะดีเยี่ยมแต่ด้วยรูปร่างที่แตกต่างจากชายหนุ่มอย่างลิบลับ ก็ทำให้เขายังคงไม่สบายใจอยู่ดี

“ท่านพ่ออย่าได้กังวลไปเลย ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่มิให้ผู้ใดจับได้” เจียงอันเล่อยื่นมือไปบีบมือหนาของบิดาเอาไว้ พร้อมมองเขาด้วยสายตาออดอ้อน

“ข้าจะลองดูแล้วกัน” เจียงเสิ่นเย่วเบือนหน้าหนีอย่างนึกระอาใจ นี่คงเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของตนหรือไม่กันแน่

“เช่นนั้นเจ้าจงจำไว้ ต่อไปนี้เจ้าคือ “หลงซีอ่าว” เด็กหนุ่มกำพร้าไร้ซึ่งญาติมิตรและชาติกำเนิด”

“ขอรับนายท่าน ต่อไปนี้ซีอ่าวจะจดจำคำของนายท่านให้ขึ้นใจ” เจียงเสิ่นเย่วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขึงขัง แต่ท่าทางกลับล้อเลียนบิดาของตนอย่างชอบใจ

เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าสำนักโยธา เจียงเสิ่นเย่วก้าวเท้าลงจากรถม้าพร้อมเดินตรงไปยังประตู โดยมีชายหนุ่มเดินตามหลังเขาอย่างห่างกาย

“คารวะท่านโหว” ทหารเวรด้านหน้าโค้งกายคำนับเจียงเสิ่นเย่วในทันที

“ข้าต้องการพบใต้เท้าหาน” เจียงเสิ่นเย่วเอ่ยปากออกมา

ทหารรีบโค้งกาย ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปภายในโดยทันที เพียงไม่นานทหารคนดังกล่าวก็กลับมายังหน้าประตู พร้อมโค้งกายเชิญเจียงเสิ่นเย่วเข้าไปด้านใน

เจียงเสิ่นเย่วหันมองเจียงอันเล่ออีกครั้งอย่างชั่งใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมา และก้าวเท้าเดินตรงไปยังเรือนรับรอง

เมื่อเจียงเสิ่นเย่วเข้าไปภายในห้องรับรอง หานอี้หลงที่กำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่เบื้องหลังโต๊ะทำงานใหญ่ เมื่อหานอี้หลงเห็นเจียงเสิ่นเย่วจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกมาต้อนรับเขาอย่างสุภาพ

“คารวะท่านโหว...เชิญท่านนั่งก่อน” หานอี้หลงผายมือให้เจียงเสิ่นเย่วนั่งที่เก้าอี้รับแขกด้านข้าง สายตาของเขาปราดมองไปยังชายหนุ่มรูปร่างเล็กที่ติดตามเจียงเสิ่นเย่วเพียงชั่วแวบหนึ่ง

“ท่านโหวมาหาข้าถึงที่นี่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือ”

“ใต้เท้าหาน เช่นนั้นข้าไม่ขอเกรงใจ วันนี้ที่ข้ามา...ข้ามีเรื่องต้องการไหว้วานท่านจริงๆ นั่นแหละ” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวพลางหันมามองชายหนุ่มข้างกาย “นี่คือหลงซีอ่าว เขาเป็นเด็กกำพร้าที่ข้าเคยช่วยเหลือไว้ ข้าเห็นว่าชายผู้นี้มีหน่วยก้านดีจึงอยากขอให้ใต้เท้าหานรับเขาเข้าทำงานในสำนักโยธา” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวออกมาโดยยังคงสีหน้านิ่งเรียบราวกับเป็นเรื่องปกติทั่วไป

หานอี้หลงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเบนสายตาไปเพ่งมองที่ชายหนุ่มตรงหน้า “หลงซีอ่าว” แม้เจียงเสิ่นเย่วจะแต่งกายเป็นชายหนุ่ม แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูอ้อนแอ้นกับผิวขาวนวลเนียนนั้น ทำให้หานอี้หลงรู้สึกขัดหูขัดตาขึ้นมาในทันที ท่าทางบอบบางเช่นนี้จะทำงานในสำนักโยธาได้เช่นใด

“ท่านโหว...มิใช่ว่าข้าอยากขัดใจท่านหรอกนะ แต่ว่าชายหนุ่มผู้นี้...ดูไม่ค่อยเหมาะกับงานที่นี่มากนัก ข้าว่าท่านควรหางานที่สบายกว่านี้ให้กับเขาจะดีกว่า” หานอี้หลงกล่าวตอบอย่างตรงไปตรงมา สายตาจ้องมองหลงซีอ่าวด้วยสายตาดูแคลนอย่างเห็นได้ชัด

เจียงเสิ่นเย่วหัวเราะเจื่อนๆ ในลำคอ ก่อนจะพยายามโน้มน้าวใจหานอี้หลงอีกครั้ง “ใต้เท้าหาน แม้ซีอ่าวจะดูผอมแห้งไปสักหน่อย แต่เขานั้นมีความฉลาดหลักแหลมอยู่มากทีเดียว ข้าคิดว่าหากท่านให้โอกาสเขาสักหน่อย เขาจะสามารถช่วยผ่อนงานของท่านได้อยู่มาก...ตัวข้าเองเคยเห็นความสามารถของเขามาแล้ว ก็ได้แต่อดเสียดายที่จะปล่อยให้คนมีความสามารถเช่นนี้อยู่เฉยๆ ในจวนของข้า”

“แต่การรับคนเข้ามาทำงานในสำนักโยธา มิใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้ง่ายดายนัก...” หานอี้หลงยังคงมีสีหน้าลำบากใจ เขาหลุบตามองหลงซีอ่าวอีกครั้งอย่างประเมิน แต่กลับพบว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังยืนนิ่งอย่างสงบ ดวงตากลมโตยังคงจับจ้องมองเขาราวกับกำลังวอนขอคำตอบ

“ใต้เท้าหาน” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วแน่นอย่างเริ่มรู้สึกไม่พอใจนัก “การที่ข้ามาฝากฝังเขาเช่นนี้มิใช่เพื่อร้องขอท่านอย่างไม่สมเหตุผล ตัวข้าเองเป็นราษฎรแคว้นเจี้ยนย่อมต้องการให้บ้านเมืองเกิดความผาสุก ดังนั้นข้าจึงเห็นว่าความสามารถของซีอ่าวนั้น ย่อมเกิดประโยชน์ต่อแว่นแคว้นได้เป็นแน่ ขอเพียงท่านยอมให้เขาได้พิสูจน์ตัวเอง หากซีอ่าวสามารถช่วยเหลืองานท่านได้ดี นั่นก็เป็นผลดีต่อบ้านเมือง แต่หากเขาไร้ความสามารถ ข้าจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง”

หานอี้หลงนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ในเมื่อท่านโหวเอ่ยมากถึงเพียงนี้ ข้าก็มิมีเหตุผลอันใดที่จะขัดข้อง ขอเพียงเขาผ่านการทดสอบจากข้า ข้ายินดีให้เขาทำงานในที่แห่งนี้ ท่านโหวจะขัดข้องหรือไม่”

หานอี้หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมกับจ้องมองหลงซีอ่าวด้วยสีหน้าประเมินมอง

เจียงเสิ่นเย่วหันมองเจียงอันเล่ออย่างครุ่นคิดและชั่งใจ แต่เมื่อเห็นบุตรสาวพยักหน้าเล็กๆ ให้เขา เจียงเสิ่นเย่วก็ยืดตัวยืนตรงพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ “เช่นนั้นก็ตามที่ใต้เท้าหานเห็นสมควรก็แล้วกัน”

เจียงอันเล่อยกยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะก้มศีรษะต่ำให้หานอี้หลงอย่างรู้สึกมั่นอกมั่นใจ สาวจากโลกอนาคตมีดีกรีจบถึงปริญญาวิศวกรรมโยธา แถมยังรู้วิทยาการสมัยใหม่อีกต่างหาก

“ขอบคุณใต้เท้าหานที่ยินดีให้โอกาสข้าขอรับ” เจียงอันเล่อกล่าวออกมาพร้อมประกายตาที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในใจ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 53 บทสรุปของนิยาย

    ตอนที่ 53 บทสรุปของนิยายค่ำคืนในเมืองหลวงสงบเงียบลงหลังจากความวุ่นวายภายในวังหลวงได้จบสิ้นลง เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลาเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้เจียงเสิ่นเย่วถูกริบทรัพย์สินจนหมดสิ้นเหลือเพียงเงินทองบางส่วนเพื่อประทังชีวิตอย่างไม่ยากลำบากนัก เขาถูกกักบริเวณอยู่ภายในจวนสกุลเจียงโดยมีทหารควบคุมเพื่อมิให้ติดต่อผู้ใดซึ่งอาจเป็นการกบฏขึ้นอีกในภายหลัง ส่วนเหล่าขุนนางที่เกี่ยวข้อง บ้างก็ถูกประหาร บ้างก็ถูกเนรเทศจนมิเหลือสิ้นในขณะที่องค์หญิงห้าหงอวิ๋นชิว เจียงอันเล่อรู้ดีว่านางมีความทะเยอทะยานอยากมีอำนาจเพื่อปกป้องตนเองจากความโหดร้ายของวังหลวงมากเพียงใด การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงทำให้นางได้รับความโปรดปรานจากหงจูเหลียง รวมถึงได้รับพระราชทานตรายศสำหรับละเว้นโทษให้กับนางอีกด้วยในขณะที่หงฟางซินแม้จะเป็นบุตรชายคนเล็ก แต่เพราะความเฉลียวฉลาดและผลงานชิ้นดังกล่าว เดิมทีหงจูเหลียงตั้งใจจะมอบตำแหน่งรัชทายาทให้แก่เขา แต่หงฟางซินกลับปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้ตำแหน่งรัชทายาทจึงยังคงเป็นของพี่ชายของตนสืบต่อไป ส่วนฮองเฮาเม่งฉีเต๋อนั้นไม่ว่าจะเป็นบุตรคนใดของนางเป็นรัชทาย

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 52 ล้อมจับ

    ตอนที่ 52 ล้อมจับท้องฟ้ายามราตรีถูกแต่งแต้มด้วยแสงพลุที่แตกกระจายเป็นประกายระยิบระยับ งานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะของจางลู่เหวินถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในพระราชวัง หงจูเหลียงประทับบนบัลลังก์สูงสุด ล้อมรอบไปด้วยเหล่าขุนนางที่มาร่วมงานเลี้ยง เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงขับกล่อม ผสมกับเสียงหัวเราะของเหล่าขุนนางและแขกที่มาร่วมงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นเจียงเสิ่นเย่วได้รับเทียบเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย เขาสวมอาภรณ์หรูหราตามฐานะ ใบหน้าคงความสง่างามและเยือกเย็นเฉกเช่นทุกครั้ง แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความหวาดระแวง แผนการใหญ่ของเขากำลังใกล้จะเริ่มต้นขึ้น การที่หงจูเหลียงเชิญเขามาร่วมงานในค่ำคืนนี้มิรู้ว่าจะมีแผนการร้ายอันใดหรือไม่ แต่คนอย่างเขาเมื่อขึ้นหลังเสือแล้วก็มิอาจลงได้โดยง่าย เจียงเสิ่นเย่วจึงข่มใจปั้นหน้านิ่งขรึมและวางท่าอย่างสง่างามเพียงเท่านั้น“ท่านพ่อ...” เจียงอันเล่อมองบิดาของตนจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาแห่งความรู้สึกผิดและวิตกกังวล นางรับรู้ได้ถึงพายุแห่งความเปลี่ยนแปลงที่กำลังใกล้เข้ามา ดวงตาของหานอี้หลงที่ยืนอยู่ด้านข้างของนางฉายแววความห่วงใยในตัวหญิงสาวข้างก

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 51 เดินแผนการ

    ตอนที่ 51 เดินแผนการสายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาที่บานหน้าต่างกระทบกับผิวบางที่เปลือยเปล่าของเจียงอันเล่อ นางขยับกายซุกไซ้เข้ากระชับกับแผงอกหนาอุ่นนุ่ม ก่อนจะเหลือบมองหานอี้หลงที่นอนอยู่เคียงข้าง ใบหน้าของเขาสงบนิ่ง ดวงตาปิดสนิทกับลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ เจียงอันเล่อยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกตื้นตันใจ นางมิกล้าคิดหวังว่านางจะสมหวังเช่นนี้ เจียงอันเล่อหลับตาลงอีกครั้ง ดวงตาปิดสนิทพร้อมกับหลับใหลไปในที่สุดช่วงสายของวันใหม่หงฟางซินมายืนรออยู่ที่ด้านหน้าจวน เมื่อเขาเห็นเจียงอันเล่อและหานอี้หลงเดินออกมาพร้อมกัน คิ้วทั้งสองข้างของหงฟางซินก็กระตุกขึ้นมาในทันที สายตาของเขาฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน “เล่อเอ๋อร์...ดูท่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้าจะดีขึ้นมากกว่าที่ข้าคิดไว้” หงฟางซินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน พลางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆหานอี้หลงปรายตามองหงฟางซินอย่างไม่สบอารมณ์ เขายิ้มเยาะก่อนเอ่ยกลับออกมา “ข้ากับฮูหยินรักใคร่กันดี แล้วท่านเกี่ยวอันใดด้วยเล่า”“เจ้า” หงฟางซินกัดฟันแน่น นัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความขุ่นเคือง มือที่กำหมัดแน่นสั่นเล็กน้อยราวกับต้องการระงับอารมณ์ของตนเอง“พอได้แล้ว ทั้งสองคนน

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 50 ยอมทิ้งศักดิ์ศรี

    ตอนที่ 50 ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเจียงอันเล่อยิ้มเจื่อนขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหานอี้หลงยังคงนิ่งเฉย นางกะพริบตาเพื่อไล่หยาดน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น ดวงตาคู่งามฉายแววแน่วแน่ พยายามรักษาศักดิ์ศรีของตนไว้ให้คงอยู่ แม้ว่าในใจจะแหลกสลายไปแล้วก็ตาม“พรุ่งนี้ข้าจะส่งหนังสือหย่าให้ท่าน หวังว่าท่านจะมิทำให้ข้าลำบากใจอีก” เจียงอันเล่อกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับสั่นเครือแม้ว่าจะพยายามรักษาท่าทีมากเพียงใดก็ตาม นางตัดสินใจหมุนกายเตรียมก้าวเดินออกจากห้องไปเสียหานอี้หลงยืนนิ่งราวกับถูกตรึงเอาไว้ ความรู้สึกต่างๆ ประเดประดังเข้าใส่ราวกับคลื่นมหาสมุทร ดวงตาคมกริบที่เคยแน่วแน่ฉายแววเจ็บปวดอย่างที่สุด เมื่อเจียงอันเล่อหันหลังให้กับเขา ความรู้สึกหวาดกลัวพลันแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจจนหานอี้หลงแทบหายใจไม่ออก“เล่อเอ๋อร์” หานอี้หลงร้องเรียกออกมา ก่อนจะโถมตัวเข้าสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลังเอาไว้แน่น อ้อมแขนแกร่งรัดแน่นราวกับกลัวว่านางจะสลายหายไปในพริบตา“เล่อเอ๋อร์...ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไปเลย ข้ามีเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น” น้ำเสียงของหานอี้หลงสั่นไหวอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน ศีรษะก้มต่ำซบลงที่ลาดไหล่ของเจี

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 49 เหนี่ยวรั้งครั้งสุดท้าย

    ตอนที่ 49 เหนี่ยวรั้งครั้งสุดท้ายหานอี้หลงกระชากแขนเจียงอันเล่อเข้าปะทะกับแผงอกเข้าอย่างจัง ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้องมีเพียงเสียงลมหายใจที่ติดขัดของทั้งสองคน พร้อมสายตาที่จ้องมองกันอย่างมิมีใครยอมใคร“เจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่” หานอี้หลงตะคอกออกมาอย่างหมดความอดทน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยโทสะ ความหึงหวงแผ่ซ่านไปทั่วร่างราวกับเพลิงที่ไม่มีวันดับ ดวงตาดุดันจ้องมองร่างบางที่เบื้องหน้า“ใต้เท้า...ท่านต่างหากที่คิดจะทำอันใดกันแน่” เจียงอันเล่อโต้กลับในทันที“เฮอะ...ฮูหยินของข้าออกตะลอนไปทั่วเมืองกับชายอื่น เจ้าจะให้ข้านั่งรออยู่ที่จวนเฉยๆ เช่นนั้นหรือ”“เพี๊ยะ...” เจียงอันเล่อยกมือขึ้นสะบัดไปที่ใบหน้าของหานอี้หลงจนเต็มแรง “ใต้เท้า...ท่านอย่าได้คิดว่าดูถูกข้าเช่นนี้”หานอี้หลงยกมือขึ้นลูบใบหน้า พร้อมกับแสยะยิ้มขึ้นมาจนดูน่าหวาดกลัว เขากระชากแขนของเจียงอันเล่อเข้าหาตัวอีกครั้ง “งั้นข้าควรคิดเช่นใด...เจ้าลองตอบข้ามาสักหน่อย”เจียงอันเล่อสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา นางเชิดหน้าขึ้นอย่างทระนง ทว่าดวงตาของนางกลับมีร่องรอยของความผิดหวังลึกซึ้ง นางกวาดตามองหานอี้หลงอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินตรงไปยั

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 48 ร้อนใจ

    ตอนที่ 48 ร้อนใจในยามสายของวันหนึ่ง เจียงอันเล่อที่นั่งพลิกอ่านสารลับที่หลีอันเพิ่งนำมามอบให้ ดวงตางดงามแต่นิ่งลึกฉายแวววิตกกังวลใจขึ้นมาในทันที คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะกำสารลับไว้ในมือแน่นขึ้น “ถึงเวลาแล้วสินะ”“หลีอันรีบเตรียมรถม้าให้ข้าที” เจียงอันเล่อรีบสั่งหลีอันอย่างเร่งร้อน พลางเงยหน้ามองออกไปภายนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าสีครามที่ดูงดงามราวกับภาพวาดกลับมิอาจกลบเกลื่อนความรู้สึกอึดอัดภายในใจที่มี เจียงอันเล่อมิรอช้าอีกต่อไป นางรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดเรียบง่าย คลุมทับด้วยผ้าคลุมสีเข้มแล้วรีบออกจากจวนไปอย่างเงียบๆในขณะเดียวกันภายในห้องอักษรของจวนสกุลหาน หานอี้หลงนั่งอยู่หลังโต๊ะใหญ่ ม้วนเอกสารกระจัดกระจายอยู่เบื้องหน้า จ้าวกงยืนรายงานความเคลื่อนไหวของกองกำลังลับที่เตรียมซุ่มโจมตีจางลู่เหวินตามแผนการที่วางเอาไว้เป็นอย่างดี แต่หานอี้หลงกลับเพียงพยักหน้ารับอย่างเหม่อลอยราวกับจิตใจมิได้อยู่กับตัว“ใต้เท้า...ทหารลับรอเพียงคำสั่งจากท่าน...ชีวิตของแม่ทัพจางย่อมอยู่ในเงื้อมมือของเราขอรับ”ทันใดนั้นพ่อบ้านก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีลังเลใจ เขาเดินเข้ามาวางของว่างตรงหน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status