Masuk“อืม... ไอ้เด็กเวรเอ้ย”
ตึกตัก ตึกตัก
หนูใจเต้นแรงพร้อมๆ กับค่อยๆ ไถลตัวลงไปนั่งยองๆ กับพื้นห้องจากหลังประตู มือเล็กๆ ที่เอามาปิดปากตัวเองไว้สั่นเทาอย่างตื่นเต้น แม้ว่าจะแง้มประตูไป แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น แล้วก็เหมือนว่าเปิ้นจะบ่าสังเกตเห็นด้วยว่าหนูกำลังแอบมองเขาทุกอิริยาบถอยู่ เขาเริ่มทำ... อะไรบางอย่าง
หนูเห็นแวบๆ ว่าเขากำลังละเลงข้อมือกับบางสิ่งบางอย่างที่ผงาดขึ้นมาระหว่างต้นขาของเขา มันเป็นลำท่อนใหญ่ เป็นปล้องเหมือนหนอนยักษ์ที่กำลังจะพ่นพิษร้าย และมีเส้นเลือดผุดขึ้นบ้างประปราย
หนูหายใจบ่าทั่วท้องเลยล่ะเจ้า รู้สึกเขินแบบไม่มีสาเหตุจนต้องหลับตาปี๋
“แฮ่ก...”
แต่เสียงหอบหายใจและครางครวญของเปิ้นก็ยังคงลอดเข้ามาในกกหู
เสียงของเปิ้นดูเร้าใจจังเน้อ แหบต่ำแถมยังดูเซ็กซี่สุดๆ อีกด้วย หนูฟังแล้วเขินจังเลย
แถมไอ้นั่นที่ตั้งชูชันขึ้นมา ถึงจะได้เห็นแค่แวบเดียว แต่กลับทำให้ตรงกลางระหว่างขาของหนูมีน้ำอะไรสักอย่างปริ่มออกมามากขึ้น
ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจหนูเต้นเร็วมากกว่าเดิม ทำไมรู้สึกอยากเอามือไปแตะมันจังเลยก๋า
คิดแล้วก็ค่อยๆ เอาปลายนิ้วเล็กๆ ของตัวเองสัมผัสเบาๆ ที่กลางร่องกลีบที่ฉ่ำชื้น
“อะ...!” แต่มันกลับรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาอย่างรุนแรงจนแทบกรี๊ด แต่หนูก็รีบเอาอุ้งฝ่ามือขึ้นมาปิดปากไว้ได้ทัน หนูหลับตาแน่น น้ำตาคลอที่หน่วยตา ในขณะที่จะคลึงร่องเสียวของตัวเองเบาๆ ไปอีกครั้ง
อีกครั้ง และอีกครั้ง
ซ่า
“...!!!”
จนในที่สุด หนูรีบตะครุบปากของตัวเองเอาไว้เมื่อรู้สึกว่ายิ่งคลึงก็เหมือนปัสสาวะจะราดหนักขึ้นทุกที แต่หนูกลับไม่ยอมหยุดมือ หนูคลึงมันไปเรื่อยๆ ทั้งลูบวนเบาๆ ที่ส่วนที่แข็งเป็นไตด้านบน จนกระทั่งเอานิ้วมากวนๆ วนๆ ตรงกลางกลีบที่พอมีรูให้สอดเข้าไปได้ และยิ่งทำแบบนั้นพร้อมกับฟังเสียงหอบเหนื่อยของเปิ้นคลอไปด้วยแล้ว
นะ... หนูก็เผลอปัสสาวะราดกางเกงออกมาเลยเจ้า
“อึก... ออกมาเยอะจังเลย” หนูกัดริมฝีปากที่อวบอิ่มของตัวเองแน่นจนรู้สึกเจ็บเพื่อไม่ให้เกิดเสียงให้เปิ้นที่อยู่ข้างนอกได้ยินเข้า แล้วพยายามเอามือมาปิดไม่ให้ปัสสาวะออกมามากกว่านี้ เพราะมันท่วมออกมาจากกางเกงในแล้วหยดลงพื้นจนเปียกไปหมดแล้ว
นะ... น่ารังเกียจจังเน้อ นี่หนูทำอะหยังเนี่ย
หนูทำอะไรลามกลงไปก่อ?
ถ้าเปิ้นรู้ เปิ้นต้องเกลียดหนูมากแน่ๆ เปิ้นจะต้องถีบหนูออกจากห้อง แล้วไล่หนูกลับบ้านแน่ๆ เลยล่ะเจ้า
“ตะ... ต้องรีบเช็ดแล้ว”
หนูพึมพำกับตัวเองพร้อมกับมองซ้ายมองขวาเพื่อหาผ้าที่พอจะเช็ดน้ำปัสสาวะที่เลอะพื้นห้องได้ แต่ในนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากฟิกเกอร์ และพวกเครื่องคอมที่หนูขอให้ป้อซื้อให้เพราะมีงานอดิเรกคือการเล่นเกม
ถ้าจะมีอะไรที่พอจะเช็ดได้ ก็คงจะเป็นเสื้อและกางเกงในบนตัวหนูนี่ล่ะเน้อ
หนูคิดแบบนั้นก็เลยค่อยๆ รูดกางเกงในลงมา แล้วถอดชุดกระโปรงที่มักชอบใส่เวลาอยู่ที่บ้านที่เชียงใหม่เสมอ แม้ว่าป้อจะบอกอยู่ตลอดเวลาว่าชุดแบบนี้มันล้าสมัยไปแล้วก็เต๊อะ
หนูเหงื่อซ่กตอนที่ถอดเสื้อออกมาจนหน้าอกหน้าใจอันใหญ่โตเด้งออกมาจากผ้า ก่อนที่จะค่อยๆ ก้มลงไปใช้เสื้อและกางเกงในซับน้ำที่เปียกด้านล่าง ซับไปด้วยก็ร้องไห้ซิกๆ ไปด้วย เพราะหนูทั้งกลัวทั้งรู้สึกอาย
หนูรู้สึกว่าสิ่งที่หนูทำมันเป็นสิ่งที่ผิด เป็นผู้หญิงบ่าควรทำจะอี้เลย
ป้อไม่เคยสอนหนูเรื่องพวกนี้ หนูแค่เคยอ่านเอาจากการ์ตูนที่เขาเรียกกันว่าโดจินชิ และพอป้อเข้ามาเจอ ป้อก็บอกว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่แม่ญิงบ่าควรอ่านและบ่าควรยะเป๋นอย่างมากด้วย มันน่ารังเกียจและผิดศีลธรรม
หนูโดนป้อบอกว่าการยะจะอี้ได้ควรเกิดในเวลาที่เหมาะสม แต่ยังบ่าใจ้ตอนนี้ เพราะหนูเป็นคนที่อ่อนต่อโลกมาก
“ฮือ... อ้ายขอโทษค่ะป้อ” หนูสะอื้นฮักออกมาอย่างรู้สึกผิดจับใจ ก่อนที่จะเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้นแล้วซับน้ำจนเสร็จ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี ก็เลยกลั้นก้อนสะอื้นแล้วค่อยๆ แง้มประตูไปสอดส่องด้านนอก
แล้วก็พบว่า...
เปิ้นไม่ได้อยู่ตรงนั้นและหอบแฮ่กอีกต่อไปแล้ว มีแต่เศษทิชชู่ที่ถูกใช้แล้วกระจายอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาหนังก็เท่านั้น
หนูเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนที่จะค่อยๆ ย่องออกไปพร้อมกับถือชุดและกางเกงในที่ชุ่มน้ำ พร้อมกับเปิดประตูห้องน้ำที่ไม่ได้ล็อกเพื่อเข้าไปทำความสะอาดผ้าและตากไว้ในนั้น
แกรก
“!!!”
“!!!”
แต่ว่า
ภาพตรงหน้าที่เปิดออกไป ก็คือเปิ้นที่ยืนปัสสาวะอยู่ เขาหันกลับมามองหนู และก้มต่ำลงมองสภาพของหนูที่ตอนนี้เหลือแค่ชุดชั้นในส่วนด้านล่างโล่งโจ้งเปิดนาผืนน้อย พร้อมกับมือเล็กที่กำชุดกับกางเกงในที่มีหยดน้ำหล่นลงพื้นติ๋งๆ โดยที่หนูเองก็กำลังจ้องงูพิษสีเนื้อของเขาที่กำลังพ่นน้ำออกมาอย่างตกตะลึงพรึงเพริด
พวกเราเบิกตากว้างกันทั้งคู่ ก่อนที่เปิ้นจะกลั้นใจปัสสาวะจนเสร็จ แล้วกดชักโครก รูดซิปกางเกงขึ้นอย่างไวว่อง
“ไอ้... นี่มึงยังไม่ไปแต่งตัวอีกเหรอ!!” เขากลบเกลื่อนความอายด้วยการเอานิ้วทั้งห้ามาปิดตาและตะคอกลั่นห้องน้ำ ในขณะที่หนูที่เอาแต่จินตนาการถึงเจ้าหนอนยักษ์ไม่ยอมสลัดทิ้งได้ก็หน้าร้อนวูบขึ้นมาทั้งตัว
“อะ...” หนูสะอึก สงสัยต้องพูดความจริงออกไปซะแล้ว “อ้ายปวดฉี่เน้อแล้วเห็นมีคนใช้ห้องน้ำเลยยืนรอจนฉี่ราด อ้ายแค่รอจนมันเงียบเลยจะมาซักกางเกงในน่ะเจ้า”
สกิลการโกหกของอ้ายก็มีเยอะอยู่เหมือนกันนะ
“เวรเอ้ย!! เข้ามา” แต่เปิ้นดันเชื่อ เขาสบถออกมาไม่ซ้ำคำ ก่อนที่หนูจะค่อยๆ ก้าวเข้ามาในห้องน้ำ แล้วร่างสูงก็ยื่นมือหนามาตรงหน้า “จับมือกูไว้ แล้วดึงกูไปทางซ้าย กูจะได้เบี่ยงตัวออกไป”
“ตะ... แต่”
“ไม่มีแต่! กูไม่ดูอะไรๆ ของมึงหรอก จับมือกูเดี๋ยวนี้!”
“จะ เจ้า!” หนูรีบตอบแล้วกลั้นใจเอื้อมมือเล็กๆ ของตัวเองไปกุมมือหนาที่สากแต่อุ่นวาบของเขา ก่อนที่จะหลับตาปี๋ออกแรงดึงให้เปิ้นขยับไปทางซ้ายที่ติดผนังห้องน้ำ
ฝ่ามือแกร่งของเขาตะกายผนังไว้ได้ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะคลายมือออกจากมือเล็กๆ ของหนู แล้วพุ่งออกไปจากประตูห้องน้ำที่เปิดกว้าง พร้อมกับปิดประตูให้สุดเสียงทันที
ปึง!
“แฮ่ก...” พอเขาออกไปจากห้องน้ำได้หนูก็เริ่มหายใจออกมาได้อีกครั้ง เพราะตอนจับมือเขาน่ะกลั้นหายใจจนหน้าดำหน้าแดงเลย ก่อนที่จะล้มตัวลงนั่งยองๆ ที่พื้นกระเบื้องของห้องน้ำอย่างหมดแรง
ปะ... เปิ้น
เปิ้นเอามือข้างที่กุมเจ้านั่นมาจับมือหนูด้วย และพอพลิกฝ่ามือมาดู หนูก็เจอกับ... คราบอะไรบางอย่างสีขาวๆ ขุ่นๆ ติดมือเล็กน้อย
นี่มันคืออะหยังก่อ?
ตึกตัก ตึกตักหนูใจเต้นน้อยๆ จนรู้สึกได้นิดหน่อย หลังจากที่โดนรวบศีรษะเข้ามาซบที่หน้าอกหนาๆ ของเปิ้น เป๋นครั้งแรกที่เปิ้นกอดหนู (ที่บ่าใจ้เพราะเมาเหมือนตอนนั้น) และพอได้แนบชิดกับแผงอกที่แข็งแกร่งของเปิ้น หนูก็รู้สึกดีรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับเปิ้นมากๆ“... ขอบคุณนะเจ้า” หนูไม่ได้เก็บอาการที่ว่าอยากจะกอดเขากลับ เพราะพอคิดได้แบบนั้นหนูก็รีบโอบรอบเอวสอบที่ทั้งมือของหนูโอบบ่าได้เต็มตัวของเขาทันที หนูเห็นว่าเปิ้นสะดุ้งนิดๆ แต่ต่อมาเขาก็ลูบผมหนูกลับแปลกจัง ปกติเปิ้นจะหวงตัวจะตายนี่เน้อ แต่คราวนี้เขายอมให้หนูกอด แถมยังลูบหัวหนูด้วย“อ้ายฮักเปิ้นนะ”หนูเลยสารภาพออกไปอย่างซื่อๆ แบบนั้นอย่างซาบซึ้งใจ เพราะเขาน่ะเหมือนกับเป็นพี่ชายคนหนึ่งในชีวิตหนูที่สำคัญที่สุดเลย เขาคอยช่วยเหลือหนูตั้งแต่เด็กแล้ว แม้ว่าทุกครั้งเปิ้นจะชอบแสดงท่าทีว่าเบื่อและรำคาญหนูมากก็ตามแต่พอได้ยินหนูโพล่งคำนี้ออกมา มือเขาที่วางอยู่บนหัวหนูก็แทบจะผละออกเหมือนต้องของฮ้อนในทันทีทันใด“นี่มึงรู้ความหมายของคำที่มึงพูดออกมาปะ” เสียงเขาสั่นด้วย จนหนูที่กอดแล้วเอาหัวที่ผมยาวยุ่งเหยิงซุกซบกับอกแกร่งเขาอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองเ
พลั่ก!“อะ โอ้ย”ทั้งตัวของหนูถูกผลักจนกระแทกเข้ากับผนังที่เย็นชืดข้างหลัง เพื่อนๆ ของเดียร์กอดอกยืนอยู่ตรงหน้า หลังจากที่จบคลาสเรียนแล้วพวกเธอเรียกตัวหนูให้ตามมาข้างๆ ห้องน้ำหญิงที่หลังตึกคณะวิศวะ แล้วเริ่มลงมือรังแกหนูเหมือนเช่นเคย“สะเออะดีนัก แกคิดว่าแกเป็นเพื่อนเดียร์แล้วจะเผยอจองหองพูดปรามอะไรกับนางฟ้าของพวกเราได้ทุกอย่างอย่างงั้นเหรอ”“อะ... อ้ายบ่าได้ตั้งใจ” หนูพยายามจะหยัดตัวลุกขึ้นเพราะว่าตัวเลอะไปด้วยโคลน หลังจากฝนตกเมื่อตอนเช้า สนามหญ้าแถวนี้ก็เปียกชุ่มไปหมด พอโดนผลักล้มลงไป ก็เลยเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวเมื่อกี้ก็โดนตบไปฉาดหนึ่งด้วย สะ... แสบหน้าจัง“อย่าคิดว่าที่ตัวเองเกือบเป็นดาวคณะแซงเดียร์แล้วจะยโสโอหังยังไงก็ได้ แกก็เป็นแค่เพื่อนในห่วงโซ่อาหารชั้นที่ต่ำที่สุดของเดียร์ รู้เอาไว้ซะด้วย!”“... อ้ายฮู้แล้วเจ้า”“แล้วเวลาเดียร์จะทำอะไร ไม่ต้องสะเหล่อมาขัดขาเดียร์ นี่คือคำเตือน!”“...”“อีเด็กทรงโต น่ารังเกียจจริงๆ ทั้งโง่ทั้งอวดดี ถุย!” หนูหลับตาปี๋เมื่อหนึ่งในพวกเธอพ่นน้ำลายใส่จนกระเด็นมาโดนกระโปรงพลีทของตัวเองเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาเมื่อพวกเธอสะบัดหน้าเดินจากไปต้องบ่าร
[พาร์ท : เพชฌฆาต]แสงแดดมันจ้าเข้าตาตอนที่กำลังจะตื่น จนผมต้องปรือตาขึ้นมาพร้อมๆ กับความปวดจี๊ดที่สมองจากอาการเมาค้าง ค่อยๆ ผุดลุกขึ้นมา แล้วก็พบว่าตัวเองนอนปวดเอวอยู่ที่พื้น เงยหน้ามองบนโซฟาหนังก็เห็นว่ามีผ้าห่มผืนนึงกองอยู่คงจะมีคนเดียวแหละว่ะที่เอามาให้ ถ้าเป็นกุมารที่เลี้ยงไว้ ก็ทำได้แค่เปิดปิดไฟสร้างอภินิหารอย่างเดียว กับพูดคุยด้วยเวลามันเหงาเออ ฟังไม่ผิดหรอก ผมเลี้ยงกุมารทองอย่างที่บอกว่าไม่เชื่อเรื่องบาปบุญอะไรนั่น แต่ถ้าของขลังหรือพวกไสยศาสตร์กับภูตผีปีศาจหรือพรายนี่โคตรจะเชื่อ ผมเลยสักยันต์เสือคู่ไว้ที่กลางหลังไง ว่ากันว่าคนสักยันต์นี้ จะมีฤทธิ์แคล้วคลาดจากศัตรู ใครๆ เห็นก็ยำเกรง เลยไม่แปลกที่จะมีแต่คนเห็นผมเป็นสัตว์ประหลาด ที่เกือบทำคนตายได้ด้วยหมัดๆ เดียวแล้วก็ไม่แปลกที่จะถือว่าหัวเป็นของสูงด้วยแกรกผมเดินเซไปที่หน้าประตูห้องตัวเองที่ล็อกไว้จากด้านใน ล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกง แล้วไขประตูเข้าไปภายใน ห้องของผมนั้นมีหิ้งบูชาของขลังที่ดูน่ากลัว อธิบายไปก็ไม่น่าจะเข้าใจ แต่จะเป็นการบูชาภูตผีปีศาจ รวมถึงกุมารทอง และของขลังต่างๆ เอาไว้ช่วยให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงมากกว่
หนูนอนตีขาเล่นเกมคุ้กกี้รันอยู่บนเตียงที่ปูเองเป็นครั้งแรกปกติจะให้แม่บ้านปูให้ตลอดเน้อ อีกอย่างตอนที่ปูก็เอาแต่เล่นเกมไปด้วย เพราะถ้าผละมือออกมาเมื่อไหร่เกมจะโอเวอร์ทันที ก็เลยปูได้แบบครึ่งๆ กลางๆ สักพักก็ขี้เกียจแล้ว เลยล้มตัวลงนอนเล่นเกมต่อไม่ยอมหยุดจนตกดึกหนูบ่าได้สนใจว่าเปิ้นหายออกไปไหน เพราะทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากยืนซักกางเกงในกับชุดบนอ่างล้างหน้าแล้วตากมันไว้ในห้องน้ำ เปิ้นก็อันตรธานหายไปแล้วเปิ้นบ่าอยู่ก็ดีแหละ เจอเรื่องตอนนั้นไป... หนูก็บ่ารู้ว่าจะสู้หน้าเขาจะใดดีเหมือนกันไม่ได้อายที่เขาเห็นนมหนูหรอก ยังไงก็พี่น้องกันแต่ไอ้งูพิษของเปิ้นนี่สิทำยังไงก็สลัดออกจากหัวบ่าได้สักทีพอนึกถึงภาพๆ นั้น หนูก็หน้าร้อนขึ้นมาในขณะที่ยังกดเกมอย่างขมักเขม้น นึกถึงร่างกายที่ใหญ่โตของเปิ้น กล้ามแขนที่มีเส้นเลือดสวยๆ กับตรงลำท่อนที่ใหญ่ยาวแถมยังมีเส้นเลือดผุดประปรายอีกโอ้ยๆๆๆ บ้าจริงๆ เล่นเกมบ่าฮู้เรื่องแล้วเน้อหนูบ่นกระปอดกระแปดในใจแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยากหรือจะกึ้ดผิดกันนะที่เลือกมาอยู่กับเปิ้น?ติ๊ง ต่องหนูสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเ
“เชี่ย มึงใจเย็นก่อนดิ!”ไอ้แมนที่รับหมัดทุกหมัดเข้ากับเป้าชกที่มันตั้งศอกไว้ถึงกับเซแล้วผงะถอยหลังไป เพราะเมื่อทันทีที่ผมมาถึงร้านอาเจ๊กแล้วขึ้นเวทีมวยกับมันอย่างที่ฝึกกันเป็นประจำ ผมก็ทั้งฮุกหมัดซ้ายหมัดขวาใส่เป้าชกจนทอมที่ขึ้นชื่อว่าพละกำลังเกินหญิง เป็นกอริลล่าในร่างผู้หญิงเพราะกล้ามบึกบึนของมันต้องเซไปอีกทางและพอมันเปิดช่องให้แบบนั้น ผมเลยพุ่งตัวใหญ่ๆ เข้ามาแล้วจะซัดเข้าหน้ามันแบบจังๆ โดยที่ไม่สนว่าแม่งจะไม่ได้ใส่อะไรกันหน้าไว้หรือไม่“ไอ้เหี้ยเพชร ใจเย็นๆ!!”พลั่ก!!“อั่ก!”จนสุดท้าย เมื่อเพื่อนเห็นว่าวิธีชกดีๆ คงจะคุมคนที่สติแตกอย่างผมไม่อยู่ มันเลยใช้ตีนถีบอัดที่กลางเป้าของผมซึ่งเป็นจุดตายสำหรับผู้ชายทุกคน จนผมต้องหยุดทุกการกระทำทุกอย่างลงแล้วล้มลงไปนอนกุมเป้ากับพื้นอย่างเจ็บปวดไอ้เหี้ยแมนเอาส้นตีนมาขยี้หัวที่ตัดสกินเฮดของผมแล้วบี้ไปมา“มึงเป็นห่าไร มึงคิดจะชกกูเหรอไอ้เหี้ยเพชร มึงจะฆ่าตัดตอนเพื่อนที่เลี้ยงดูมึงตลอดมาเหรอวะ”“... อีกอริลล่าเอ้ย” ผมสบถด่ามันออกมาอย่างเจ็บใจ มันเลยพ่นลมหายใจ ถอดเป้าชกส่งให้ไอ้เจนที่ยืนเกาะเชือกเวทีอยู่รับไว้เหยียบหัวแบบนี้กูถือนะ วันจันทร์ไปข
“อืม... ไอ้เด็กเวรเอ้ย”ตึกตัก ตึกตักหนูใจเต้นแรงพร้อมๆ กับค่อยๆ ไถลตัวลงไปนั่งยองๆ กับพื้นห้องจากหลังประตู มือเล็กๆ ที่เอามาปิดปากตัวเองไว้สั่นเทาอย่างตื่นเต้น แม้ว่าจะแง้มประตูไป แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น แล้วก็เหมือนว่าเปิ้นจะบ่าสังเกตเห็นด้วยว่าหนูกำลังแอบมองเขาทุกอิริยาบถอยู่ เขาเริ่มทำ... อะไรบางอย่างหนูเห็นแวบๆ ว่าเขากำลังละเลงข้อมือกับบางสิ่งบางอย่างที่ผงาดขึ้นมาระหว่างต้นขาของเขา มันเป็นลำท่อนใหญ่ เป็นปล้องเหมือนหนอนยักษ์ที่กำลังจะพ่นพิษร้าย และมีเส้นเลือดผุดขึ้นบ้างประปรายหนูหายใจบ่าทั่วท้องเลยล่ะเจ้า รู้สึกเขินแบบไม่มีสาเหตุจนต้องหลับตาปี๋“แฮ่ก...”แต่เสียงหอบหายใจและครางครวญของเปิ้นก็ยังคงลอดเข้ามาในกกหูเสียงของเปิ้นดูเร้าใจจังเน้อ แหบต่ำแถมยังดูเซ็กซี่สุดๆ อีกด้วย หนูฟังแล้วเขินจังเลยแถมไอ้นั่นที่ตั้งชูชันขึ้นมา ถึงจะได้เห็นแค่แวบเดียว แต่กลับทำให้ตรงกลางระหว่างขาของหนูมีน้ำอะไรสักอย่างปริ่มออกมามากขึ้นตึกตัก ตึกตักหัวใจหนูเต้นเร็วมากกว่าเดิม ทำไมรู้สึกอยากเอามือไปแตะมันจังเลยก๋าคิดแล้วก็ค่อยๆ เอาปลายนิ้วเล็กๆ ของตัวเองสัมผัสเบาๆ ที่กลางร่องกลีบที่ฉ่ำชื้น“อะ...!”







