ตอนที่ 5 แผนสูง
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น มัทนาคิดว่าเป็นเพื่อนของเธอที่ย้อนกลับมา เธอจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้
“ไอ้มด ไหนบอกว่า...พี่อิท!” มัทนาเปิดประตูเห็นว่าไม่ใช่เพื่อนของเธอ เธอจึงทำท่าจะปิดประตูลง แต่ถูกมือใหญ่ผลักเอาไว้ไม่ยอมให้เธอปิดลงได้ง่ายๆ
“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งปิด” เขาใช้แรงแค่เพียงนิดเดียว แต่เธอใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมี ก็ไม่สามารถสู้แรงของเขาได้
“ปล่อยค่ะ เราไม่รู้จักกัน” เธอร้องบอกเขาเสียงดังอีกครั้ง นึกโมโหตัวเองทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิด
“เรารู้จักกันแล้ว” เขาเถียงกลับมา แล้วรีบแทรกตัวเข้ามายืนอยู่ด้านในห้องของเธอจนได้สำเร็จ
“ออกไปนะคะ!” การกระทำของเขาทำให้เธอกลัว กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอเข้า อยู่กันในห้องสองต่อสองแบบนี้ด้วย มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย สถานการณ์แบบนี้อันตรายจริงๆ
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรเราตอนนี้หรอกน่า” คำพูดของเขามันไม่น่าไว้ใจ เพราะฟังดูดีๆคิดแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์
“ขอร้อง ออกไปก่อนเถอะนะคะ”
“ก็บอกว่าไม่ต้องกลัวไง ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ”
“ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่ามั้ยคะ” มัทนาเริ่มหาทางออกให้ตัวเอง
“ก็ดีนะ กินข้าวหรือยัง” เขาถามท่าทางสบาย ส่วนมัทนาถอยหลังยืนห่างที่สุดเท่าที่จะห่างได้ อิทธิพลเห็นแล้วนึกขัดใจอยู่มาก ตกลงเธอเป็นคนขี้กลัวหรือว่ารังเกียจเขากันแน่
“กินแล้วค่ะ”
“งั้นพี่พาไปกินขนม”
“...........” ในใจของมัทนาเธอไม่อยากไปด้วยเลยสักนิด เธอยังคงยืนนิ่งทำท่าคิดว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี
“ออกมาสิ หรือจะเปลี่ยนใจอยู่ในห้องน้องต่อก็ได้นะ พี่ไม่ติด” มัทนาก็เลยจำใจเดินตามออกไป โดยที่เธอไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าสะพายติดบ่าไปด้วย
“รอพี่แป๊บนึง” เขารีบเข้าห้องของตัวเองไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับมือถือ จากนั้นก็รีบกลับออกมา
“ไม่ไปได้มั้ยคะ คุยกันแค่หน้าห้องตรงนี้ก็พอ” เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปไหน ซึ่งเธอก็ต้องอ่านหนังสือต่อด้วย
“ไปเถอะน่า...อยู่กับพี่ปลอดภัยแน่นอน” เฉพาะวันนี้!
“..........” ในที่สุดเธอก็ยอมเดินตามเขาไป เธอปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่ง ครั้นจะหนีก็คงไม่รอดเพราะห้องอยู่ติดกัน
“ขึ้นรถสิ”
“คือ...” เธอยืนนิ่งไม่ยอมเปิดประตู ไม่อยากไปด้วยเลย สำหรับเธอเขาคือคนแปลกหน้า ไว้ใจไม่ได้!
“เข้าไปเถอะน่า...” เขาเดินอ้อมมาฝั่งที่เธอยืนอยู่แล้วเปิดประตูผลักเธอเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นจึงปิดประตูลงทันที แล้วจึงเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเหมือนเดิม เขาเปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่ง เห็นเธอยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยก็เลยหวังดีเอื้อมมือไปหยิบเข็มขัดนิรภัยเพื่อที่จะคาดให้เธอ แต่!
“จะทำอะไรคะ!” ยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปได้ถึงไหน คนขี้กลัวก็รีบพูดขึ้นมาซะก่อน
“อย่าคิดมากสิ” เขารีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เธอ เสื้อชุดนักศึกษารัดรูปที่เธอสวมใส่อยู่มันช่างบางเหลือเกิน มองเข้าไปก็รู้เลยว่าเธอใส่บราสีอะไร ทำได้แค่เพียงคิดในใจเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรออกมา กลัวว่าไก่จะตื่นซะก่อน
สำหรับมัทนาจังหวะที่เขาเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดให้ เธอหายใจแทบไม่ออก เพราะใบหน้าของเขาขยับเข้ามาเกือบชิดติดกับใบหน้าของเธอ ความใกล้ชิดกันเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่เป่าลดเธอด้วย
ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายสองต่อสองในสถานการณ์แบบนี้ และดูเหมือนว่าหัวใจของเธอมันกำลังเต้นแรง ที่น่าจะเกิดขึ้นเพราะความตื่นเต้น
จากนั้นอิทธิพลก็ค่อยๆเคลื่อนรถออกไปจากลานจอดรถของทางคอนโด
“พี่จะพาหนูไปไหนคะ” มัทนาเริ่มถาม ความขี้กลัวของเธอ ทำให้เธอไม่ไว้ใจเขาง่ายๆ
“พี่อิทจะพามายไปไหนคะ...พูดใหม่ซิ” คนอารมณ์ดีกำลังทำหน้าที่ขับรถ อยากให้เธอเรียกเขาว่าพี่อิท แล้วก็แทนตัวเองด้วยชื่อเล่น
“...........”
“ถ้าไม่ยอมพูด พี่จะพาเราเข้าโรงแรม” เขาแกล้งขู่เธอเล่น ตามนิสัยของเขา ซึ่งคนขี้กลัวอย่างเธอมีหรือจะไม่พูด
“พี่อิทจะพามายไปไหนคะ” เธอยอมพูด ซึ่งปกติเวลาเธอพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนเธอก็มักจะแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นอยู่แล้ว
“ว่าจะพาไปเดินห้างใกล้ๆ อยากกินอะไร”
“มายไม่หิว”
“แต่พี่หิว ไปนั่งกินเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” ที่บอกว่าหิว เขาไม่ได้หิวข้าวหรอกแต่น่าจะหิวอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของกิน ก่อนกลับมาถึงห้องพักเขาแวะทานข้าวมาแล้ว แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้นมันก็แค่ข้ออ้าง สงสัยต่อจากนี้ไปเขาคงต้องรอกินข้าวเย็นพร้อมเธอซะแล้ว
อิทธิพลเลี้ยวรถเข้าไปจอดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทั้งสองลงจากรถแล้วเดินตามกันเข้าไปในห้าง
อีกคนใส่ชุดทำงานเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงสแล็คสีดำเนื้อผ้าอย่างดี เดินเคียงคู่มากับผู้หญิงตัวเล็กสวมชุดนักศึกษารัดรูปอวดหุ่นสวย
ทั้งสองเดินตามกันเข้ามาในร้านปิ้งย่างร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้า เขาคิดเอาเองว่าเด็กๆอย่างเธอน่าจะชอบกินอะไรแบบนี้ อีกอย่างในร้านก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายแล้วแต่จะกิน จะเป็นเครื่องดื่ม ไอติม ขนมหวาน หรือแม้แต่ผลไม้ก็มี
“สองที่ครับ”
“เชิญลูกค้าทางด้านนี้เลยค่ะ” ผู้คนในร้านมีไม่มาก แต่เขากลับเอื้อมมือมาจับมือของเธอเอาไว้หลวมๆ แล้วพาเดินไปด้วยกันคล้ายกับกลัวว่าเธอจะหลง ครั้นจะสลัดมือออกก็ไม่กล้า เธอก็เลยปล่อยให้เขาจูงไป ทั้งสองเดินมาหยุดนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งภายในร้าน แล้วเริ่มตักอาหารมาปิ้ง มัทนาเองพอเห็นของอร่อยตรงหน้าน้ำย่อยก็เริ่มทำงาน เธอลงมือย่างและกินกับเขาท่าทางเอร็ดอร่อย
“ไหนบอกไม่หิวไง”
“ไหนๆก็มาแล้ว จะให้มายนั่งดูพี่นั่งกินคนเดียวเหรอคะ” ก็จริงของเธอ ตักเข้าปากไปได้แค่ไม่เท่าไหร่ ทั้งสองก็อิ่ม จากนั้นจึงพากันเดินออกจากร้านแล้วไปชอปปิงกันต่อ
“อยากได้อะไรมั้ย พี่ซื้อให้”
“ไม่ค่ะ” มัทนารีบปฏิเสธทันที
“อยากให้จริงๆ ไม่ต้องกลัวพี่หรอกน่า ยังไงพี่ก็หวังในตัวเราอยู่แล้ว” คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาทำให้มัทนาหน้าบูดขึ้นมาทันที
“.............” คำพูดของเขาที่คิดว่ามันตลก แต่คนฟังกลับมีสีหน้าไม่นึกตลกด้วยเลยสักนิด
“ดูทำหน้าเข้า กระเป๋ามั้ย ชอบใบไหน” เขาถามอีกครั้ง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงรีบควงแขนเขาเข้าร้านไปแล้ว แต่นี่อะไรทำไมจีบยากจัง
“ไม่เอาค่ะ” ถ้าเธอรับของจากเขาก็เท่ากับว่าเธอมีใจ เธอก็เลยเลือกที่จะเดินหนีแต่อิทธิพลก็เดินตามแล้วคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้ทัน
“ไม่พอใจอะไร” เขาแค่พยายามทำในสิ่งที่คิดว่าผู้หญิงน่าจะชอบ แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของเขาจะทำให้เธออึดอัด
“อย่าคิดนะคะ ว่าเงินของพี่จะซื้อมายได้” คำพูดของมัทนาทำให้อิทธิพลถึงกลับหน้าเสีย เขายอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าเงินของเขาสามารถซื้อได้ทุกอย่าง แต่น่าจะยกเว้นเธอ น่าสนใจ!
“พี่...ขอโทษ”
“มายจะกลับห้อง”
“กลับก็กลับ” เขาตามใจ แต่คนหน้ามึนก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือของเธอ เขายังคงจับเอาไว้ในแบบเหนียวแน่น เขาจับจูงพาเธอเดินไปที่รถเพื่อขับกลับคอนโด
ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ3ปีผ่านไปโมนาวัยสามขวบกว่าๆ นั่งเฝ้าน้องชายวัยห้าเดือนที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปลไฟฟ้าลายการ์ตูนสีฟ้าอ่อน“คุณย่าขา น้องมันเดย์นอนเปลสวยจังเลยค่ะ” เปลใหม่เพิ่งลองซื้อมาใช้ แถมลายตัวการ์ตูนยังสวยสะดุดตาคนพี่เอามากๆ“เมื่อก่อนโมนาก็นอนเปลสวยแบบนี้แหละลูก” คุณย่าตอบหลานสาวตัวเล็กที่นั่งเฝ้าน้องหรือเฝ้าเปลก็ไม่รู้ตั้งแต่เช้าแล้ว“เปลของโมนาสีอะไรคะคุณย่า”“โมนาเป็นผู้หญิง สีชมพูลูก”“แล้วเปลของโมนาไปไหนแล้วคะ”“โมนาตัวหนักนอนพังไปแล้ว...” เป็นเสียงของคุณพ่ออิทที่เดินเข้ามาพร้อมกับคุณแม่มาย ช่วยคุณย่าตอบคำถามของเด็กขี้สงสัย“คุณพ่อขา...โมนาอยากนอนเปลสวยๆเหมือนที่น้องมันเดย์นอนค่ะ”“โมนาตัวยาว นอนไม่ได้แล้วลูก”“ไม่มีของเด็กโตเหรอคะ”“โมนาจะนอนตอนไหน พ่อไม่เคยเห็นโมนานอนกลางวันมานานมากแล้วนะ”“เอาไว้นอนตอนกลางคืนไงคะ” ด้วยความอยากได้บ้าง นอนกลางคืนก็ได้ ส่วนกลางวันบังคับเท่าไหร่โมนาก็ไม่ยอมนอน พอตกเย็นมา หลับเร็วทุกวัน“อ้าว...ถ้าโมนานอนในเปล แล้วพ่อจะนอนกอดใครล่ะทีนี้”“อื้อ...ถ้างั้นโมนาไม่เอาแล้วก็ได้ค่ะ โมนานอนกอดคุณพ่อกับคุณแม่ดีกว่า” เสียงโมนาวัยสามขวบพูดจ๋อยๆไม่ไ
ตอนที่ 29 ตอนพิเศษ @มัทนาฉันอุ้มลูกสาววัยสามเดือนกอดเอาไว้ในอ้อมอกแม่ ลูกสาวของฉันกับพี่อิท แกชื่อน้องโมนา กำลังดูดนมจากเต้า สายตาของแกกำลังมองหน้าแม่ตาแป๋ว “ใครชื่อน้องโมนาเอ่ย...” ฉันคุยกับลูกไปด้วยในขณะที่กำลังให้นมแกไปด้วย“หนูใช่มั้ยลูก...” แก้มใสๆกับขนตายาวเป็นแพ ทำให้ฉันชอบกดจมูกหอมแก้มนิ่มๆของแกไม่รู้จักเบื่อ หอมได้ทั้งวัน มีความสุขที่สุดใบหน้าของโมนาได้พ่อกับแม่มาอย่างละครึ่ง แต่พี่อิทชอบไปคุยกับคนอื่นว่าลูกสาวของเขาเหมือนเขามากตามประสาคนเห่อลูก“น้องโมนาลูกสาวแม่มายกับพ่ออิทกินเก่งจังเลย” ปากเล็กๆดูดเอาๆน่ารักน่าชัง“เมื่อไหร่พ่ออิทจะกลับมาหาน้องโมนาสักทีน้า...” ในขณะที่ฉันกำลังให้นมลูกไปด้วย ฉันก็มักจะชอบพูดคุยกับแกแบบนี้เป็นประจำดวงตาใสๆมองมาที่ฉันตาแป๋ว น้องโมนาห่วงเล่นมากๆ คุยด้วยนิดๆหน่อยๆแกก็ปล่อยนมแม่แล้วยิ้มหวานให้ฉัน แต่แกก็หันกลับไปดูดต่อ สงสัยคงจะยังไม่อิ่มตอนนี้ฉันกับพี่อิทย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านคุณแม่ของพี่อิทเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากท่านอาสาเลี้ยงน้องโมนาให้ ตอนแรกฉันกับพี่อิทก็คิดว่าคลอดแล้วจะเอาลูกมาทิ้งไว้ให้คุณแม่เลี้ยงให้ ตามที่เคยคุยกันไว้ แต่พอคลอดน้อง
ตอนที่ 28 คืนวิวาห์ Nc+ วันเวลาผันผ่านไป วันนี้เป็นวันเข้าประตูวิวาห์ของทั้งสอง อิทธิพลและมัทนา งานแต่งถูกจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว ภายในงานเชิญแขกญาติผู้ใหญ่และคนสนิทเท่านั้นพิธีช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี งานเลี้ยงช่วงเย็นเต็มไปด้วยเพื่อนของเจ้าสาว ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งเพื่อนหญิงและเพื่อนชาย“เจ้าสาว...เข้าห้องหอก่อนลูก เจ้าบ่าวรอนานแล้ว” ชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงยาวยังคงนั่งอยู่ที่กลุ่มเพื่อนที่มาร่วมแสดงความยินดีไม่ยอมลุก“ค่าแม่...” ขานรับครั้งที่สาม แต่ก็ยังไม่ยอมลุก ส่วนเจ้าบ่าวเขาก็ยังคงสวมชุดสูทสีเดียวกับเจ้าสาว นั่งรออยู่ในห้องหอเรียบร้อยนานแล้ว ชะเง้อคอยาวเมื่อไหร่เจ้าสาวของเขาจะลุกมาสักที"อิทไปตามน้องป่ะ..." คุณแม่ของเจ้าสาวเอ่ยบอกให้เจ้าบ่าวออกไปตามเจ้าสาวเพื่อทำพิธีส่งตัวเข้าหอ"ครับ" เจ้าบ่าวเดินออกไปตามเจ้าสาวของเขา เขาเดินเข้าไปทางด้านหลังของเธอ จับใบหูของเธอแล้วออกแรงดึงเล็กน้อย จนเธอต้องหันหลังไปมอง"เรียกหลายครั้งแล้วนะ" บ่นเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงก้มใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลงไปหอมแก้มเธอโชว์เพื่อนๆของเธอ จนเสียงกรี๊ดกร๊าดดังลั่นบริเวณนั้น แต่เขาก็ยังไม
ตอนที่ 27 พาเข้าบ้านรถยนต์คันที่มัทนานั่งมา ถูกเลี้ยวเข้าไปจอดที่บ้านสองชั้นหลังใหญ่สไตล์ยุโรป ทางเข้าบ้านเป็นคอนกรีตลาดยาวไปจนถึงตัวบ้านด้านหน้าบ้านมีสนามหญ้าและสวนดอกไม้ขนาดกำลังดี พื้นที่โดยรอบกว้างขวางสะอาด ด้านข้างตัวบ้านมีต้นไม้ใหญ่ปลูกพอให้ร่มรื่น“ที่นี่บ้านพี่อิทเหรอคะ” รถจอดสนิทที่โรงจอดรถด้านข้างตัวบ้าน“ครับ...ป่ะเข้าไปด้านในกัน” พี่อิทพาฉันเดินเข้าไปด้านในตัวบ้าน ด้านนอกที่ว่าสวยแล้ว ด้านในจัดตกแต่งสวยไม่แพ้กับด้านนอกเลย ดูสะอาดตากว้างขวางเป็นระเบียบ“มากันแล้วเหรอลูก” น้ำเสียงดีใจของคุณแม่เอ่ยขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นยืนจากโซฟาหนังอย่างดีตัวที่ท่านนั่งอยู่ คุณพ่อก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเช่นกัน ท่านกำลังอ่านหนังสือท่าทางสบายใจ เงยหน้ามองมาที่ฉันกับพี่อิท“มาย...นี่คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่เอง ส่วนนี่น้องมาย...ลูกสะใภ้คุณพ่อกับคุณแม่ครับ” แนะนำแบบนี้ฉันก็เขินแย่น่ะสิ...พี่อิทนะพี่อิท!“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทั้งสองท่านตามมารยาทด้วยรอยยิ้มเขินๆ ตอนนี้ฉันตื่นเต้นมาก เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยเข้าบ้านผู้ชายมาก่อน ครั้งนี้คือครั้งแรก ตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบไปหมด“สวัสดีลูก...มาๆนั่งลงก่อน” คุ
ตอนที่ 26 เปิดตัว @มหาวิทยาลัย“พี่อิทมารับแล้ว กูไปก่อนนะ” นานแล้วที่อิทธิพลทำหน้าที่เป็นคนขับรถไปรับไปส่งมัทนา ถึงแม้ว่าเขาจะงานเยอะหรือยุ่งมากแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังคงทำหน้าที่ดูแลเธอเหมือนเดิมเสมอ“บ๊ายบาย...ป่ะพวกเราแยกย้าย” ทุกคนแยกย้ายกันกลับ มัทนาเองก็เช่นกัน เธอเดินเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย จากนั้นเขาจึงค่อยๆเคลื่อนรถออกไป“พี่ยังทำงานไม่เสร็จเลย ไปนั่งรอพี่ที่บริษัทก่อนนะ” วันนี้เธอเลิกเรียนเร็วแต่เขาก็ยังคงยืนยันว่าจะขับรถมารับให้ได้ เธอก็เลยตามใจ...ไม่คิดว่าเขาจะต้องกลับไปทำงานต่ออีก“อ้าวแล้วทำไมไม่บอกมายล่ะคะ ที่จริงมายกลับเองก็ได้ เสียเวลาพี่ขับรถมารับเปล่าๆ” รู้สึกเกรงใจจังเลย...“พี่จะเอาเมียไปโชว์ ไอ้พนักงานพวกนั้นสักหน่อย มันจะได้รู้ว่าคนไหนตัวจริง คนไหนตัวปลอม” นี่คือประเด็นสำคัญที่เขาต้องการ ปล่อยให้พนักงานพวกนั้นเข้าใจผิดมานานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้แก้ข่าว ว่าจะพาเธอไปเปิดตัวเลยทีเดียว“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว” สำหรับเธอใครจะคิดยังไงก็ช่าง...“พี่อยากพามายไปเปิดตัวด้วย ไปกับพี่นะครับ” เมียของเขาทั้งสวยทั้งหุ่นดี ใครจะไม่อยากอวด ถึงเธอไม่ต้องการเขาก็อยากพา
ตอนที่ 25 แหวนวงนี้เป็นของมาย หลังจากรับประทานอาหารกันอิ่มแล้ว ทุกๆคนจึงขอตัวกลับ ส่วนคนที่ยังไม่อยากกลับก็ต้องกลับเช่นกัน“มาย...พรุ่งนี้ให้พี่มารับกลับนะ” ยังคงร่ำลากันไม่เลิก!...ทุกคนที่กำลังรออยู่มองแรง“ค่ะ” ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอไฟเขียวให้แล้ว มัทนาจึงยอมให้พี่อิทมารับมาส่งเธอได้ เหมือนคู่รักคนอื่นๆที่เขาทำกัน“ถึงแล้วเดี๋ยวพี่ไลน์หา...” ที่จริงยังไม่อยากกลับเลยด้วยซ้ำ อยากจะขอนอนค้างสักคืนแต่ติดอยู่ตรงที่ไม่กล้า!“ห่างๆกันบ้างก็ได้ อีกแค่คืนเดียวคงไม่ถึงกับลงแดงหรอกมั้ง” รุจยืนรออยู่นานสองนาน เริ่มเหม็นความรัก..."พรุ่งนี้ มายจะกลับกี่โมง ไลน์ไปบอกพี่นะ พี่จะได้กะเวลามารับถูก""เย็นๆดีมั้ยคะ ทานข้าวเย็นที่นี่กันก่อน เดี๋ยวมายบอกให้แม่ทำกับข้าวเผื่อพี่ด้วย" พอกันทั้งสองคน...รุจคิดในใจ“ไปๆเรากลับกันเลยดีกว่า ไม่ต้องไปรอมันแล้ว” ท่าจะร่ำลากันอีกยาว...“อย่าเพิ่งไป...เดี๋ยวกูไปส่ง” รุจ รัน และมด พากันเดินไปที่รถ แต่อิทธิพลก็ดันเรียกเอาไว้ซะก่อน ยังไม่ยอมให้กลับ“เดี๋ยวกูให้รันไปส่งก็ได้”“กูบอกให้รอก็รอดิ อีกแป๊บนึงมึงจะตายหรือไง” ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะไปส่ง แต่อิ