ตอนที่ 4
ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและดำ รายล้อมไปด้วยกระจกโปร่งใส เนื่องจากเวลานี้ยังไม่ค่อยมีลูกค้ามารับประทานอาหาร ทำให้เจ้าของร้านมีเวลาพักยืนคุยกับแบบฝันบริเวณหลังเคาน์เตอร์
“กลางคืนกว่าจะเลิกงาน แล้วยังมาทำงานที่ร้านของพี่อีก เหนื่อยแย่เลย”
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ฝันก็ต้องทำ” ไม่ว่างานจะยากลำบากแค่ไหนขอแค่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเม็ดเงิน เธอก็ยินดีพร้อมทำทุกอย่าง เพราะเธอต้องช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของที่บ้าน และยังต้องส่งเสียค่าเล่าเรียนของตัวเองอีก เธอหวังแค่ได้มีโอกาสกลับไปเรียนอีกครั้ง เธอเลยต้องพยายามทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ
“พี่ล่ะสงสารเธอจริง ๆ” เธอลูบหัวรุ่นน้องด้วยความเอ็นดูบ่นอดสงสารไม่ได้ แบบฝันเป็นรุ่นน้องในคณะของเธอ เธอมักจะเห็นเด็กคนนี้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ พยายามทำงานเก็บเงินส่งตัวเองเรียนกับส่งงานให้ทางบ้านตลอด เธอหน้าตาจะดูอิดโรยด้วยความเหนื่อยล้า แต่เธอก็ไม่เคยเห็นแบบฝันบ่นท้อแท้ในชีวิตสักครั้ง ถ้าเธอมีเงินมากพอเธอก็อยากจะช่วยน้องสาวคนนี้ ติดตรงร้านนี้ยังไม่คืนทุนนี่สิ ได้แต่หวังว่าแบบฝันจะได้กลับไปเรียนต่อให้จบในเร็ววัน
ไม่นานเสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น หญิงสาวในชุดเดรสลายดอกไม้สูงเหนือเข่า ปล่อยผมดัดลอนสลวยมาพร้อมกับชายหล่อร่างสูง เดินเข้ามาด้านในร้าน
“พี่คณิณทานอะไรดีคะ” รินลดาคู่ดูตัวที่คุณแม่หาให้เอ่ยถามขณะพลิกรายการอาหารอ่านไปมาด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกของพวกเขาทั้งสอง หญิงสาวเงยหน้ารอคำตอบจากคนตรงข้าม
“แล้วแต่เลย” เขาตอบเสียงเรียบไม่ใส่ใจมากนักก่อนจะคว้าโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงมาเลื่อนหาอะไรดูฆ่าเวลา
“รินได้ยินจากคุณแม่พี่คณิณ ว่าพี่คณิณชอบทานสเต๊ก ร้านนี้มีสเต๊กน่าอร่อยทั้งนั้นเลย” เธอพยายามชวนคุยขณะที่สายตายังคงเลื่อนอ่านรายการอาหาร
“ขนมหวานก็น่าทานดีนะคะ”
“รินสั่งเลยครับ พี่ตามใจรินเลย” สาวสวยส่งยิ้มหวานหยดให้เมื่อได้ยินคำตอบน่าฟังของเขา ถึงแม้จะดูเป็นคนพูดน้อยแต่จากที่เธอประเมินเขาดูเป็นคนเอาใจเก่งคนหนึ่ง
“น่ารักจังค่ะ” เธอโน้มหน้าเข้าไปใกล้แล้วส่งยิ้มอย่างอวดอ้อน ก่อนจะหันไปเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร
เมื่อเห็นลูกค้าเรียก แบบฝันจึงเดินมารับออเดอร์
ตาคมเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าพนักงานสาวที่คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน ยิ่งเธอเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าเคยพบผู้หญิงคนนี้จริง ๆ ถึงแม้จะไม่ได้เกล้าผมรวบตึงและแต่งหน้าก็ตาม
“เธอ...” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นเบาเหมือนคุยกับตัวเองจางหายในอากาศ
“รับอะไรดีคะ” แบบฝันยิ้มสดใสรับออเดอร์อาหาร รินลดาจึงสั่งอาหารตามที่เจ้าตัวอยากกิน จนเสียงของสาวผมลอนสิ้นสุด
“รอสักครู่นะคะ” เธอว่าแล้วหันหลังเดินกลับไปยังห้องครัว
ตลอดระยะเวลาร่วมโต๊ะกับรินลดา คณิณไม่ได้สนใจคำพูดของผู้หญิงตรงหน้าคนนี้เลยสักนิด เพราะสายตาคมของเขาจับจ้องไปยังพนักงานสาว พลางคิดสงสัยว่าเป็นคนเดียวกับพนักงานที่โดนชายตัณหากลับลวนลามในบาร์เมื่อคืนหรือเปล่า
“พี่คณิณคะ” เสียงเรียกของรินลดาทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ความคิด
“ครับ?”
“พี่คณิณจะว่าอะไรไหมคะ ถ้ารินจะชวนพี่ไป-”
“ขอโทษนะ พอดีพี่มีประชุมต่อ” ยังไม่ทันพูดจบคณิณก็รีบตัดบททันที จนหญิงสาวหน้าเสียเล็กน้อย แต่ก็พยายามปั้นหน้ายิ้มต่อ
“งั้นถ้าเป็นช่วงสุดสัปดาห์ล่ะคะ”
“ช่วงนั้นก็ไม่ได้ครับ” จิตใจของหญิงสาวเริ่มห่อเหี่ยวเมื่อได้ยินประโยคปฏิเสธเธอกลาย ๆ แต่เธอเลือกที่จะทิ้งความรู้สึกกังวลใจไว้ข้างหลัง
“แล้วช่วงไหนที่พี่คณิณพอจะมีเวลาว่างบ้างเหรอคะ”
“น่าจะไม่มีเลยครับ พี่ขอโทษด้วยนะ เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปส่ง” เขาบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวนั่งร้องไห้ในร้านเงียบ ๆ ด้วยความอับอาย นี่เธอโดนปฏิเสธทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกหลังกินข้าวเนี่ยนะ ใจร้ายกันเกินไปแล้ว ก่อนจะสะบัดก้นเดินออกจากร้านไปทั้งน้ำตา
ตอนที่ 52ตลอดทั้งวันคณิณไม่ได้กลับไปไหน เขาคอยช่วยยกของและจัดอาหารให้กับเด็กและทุกคน รวมถึงยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลาย ๆ อย่างด้วยท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าใสกลายเป็นม่วงเข้ม เหล่าดาวระยิบระยับเรียงรายเหนือลานกิจกรรม เสียงหัวเราะและการพูดคุยค่อย ๆ เบาลง เมื่อเด็ก ๆ เริ่มทยอยกลับหลังเสร็จกิจกรรมตลอดวันแบบฝันเดินเข้าไปหาคณิณที่ยังนั่งอยู่ใต้แสงไฟสนามเล็ก ๆ เขากำลังคุยเล่นกับเด็ก ๆ ที่ยังไม่กลับบ้าน“น้ำค่ะ” เธอยื่นแก้วน้ำเปล่าส่งให้“ขอบคุณครับ” เขายิ้มดีใจที่เธอยังใส่ใจเขาอยู่“คุณกลับได้แล้วนะคะ มืดกว่านี้จะขับรถกลับลำบาก”“พี่ฝัน นี่ก็ค่ำแล้ว ให้คุณเขาพักกับพวกเราดีกว่าไหมคะ” น้อยหน่ารีบพูด“นั่นสิพี่ แถวนี้ขับรถยากจะตาย กลับตอนนี้มีแต่อันตราย” มาวินเสริมพลางมองหน้าขอความเห็นใจกับเธอแบบฝันมองบรรยากาศโดยรอบก็พบว่าตอนนี้ฟ้ามืด แล้วทางเข้าหมู่บ้านก็ทางโค้งค่อนข้างเยอะ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตรกว่าจะเข้าสู่ถนนใหญ่ที่ไฟเริ่มเยอะ“แล้วจะให้เขาพักที่ไหน ห้องพักเต็มหมดแล้ว” เธอว่า“พักกับพี่ฝันไงคะ เดี๋ยวน้อยหน่าย้ายไปนอนกับเจนเอง มีนัดปาร์ตี้บอร์ดเกมกันน่ะค่ะ”“ถ้าเธอไม่สะดวก ฉันไปหาโรงแรม
ตอนที่ 51ณ ห้องประชุมขนาดกลางของคณะ โต๊ะยาวถูกดันต่อกันเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่กลางห้อง รอบ ๆ มีแบบฝันและรุ่นน้องกำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์สื่อการสอน และเกมที่จะใช้ในค่าย พวกเขาตกลงกันว่าจะไปจัดค่ายสอนภาษาอังกฤษให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ทุกคนขะมักเขม้นกับงานในมือ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ“การ์ดคำศัพท์เราเตรียมกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” แบบฝันถามขณะเดินตรวจสอบความเรียบร้อย“ใช่ครับ วินกับเพื่อนช่วยกันเช็กดูเรียบร้อยแล้ว” เสียงมาวินดังขึ้นจากอีกฝั่ง เขาชูถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่บรรจุการ์ดคำศัพท์ไว้หลายชุด“ได้แยกคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ไหม”“แยกแล้วครับ แถมใส่ซองกันน้ำ เผื่อเจอสภาพอากาศไม่ดีด้วย”“โอเค ดีมากเลย”นอกจากจะเตรียมพวกการ์ดคำศัพท์และรูปภาพประกอบแล้ว พวกเขายังช่วยกันเตรียมเกมภาษาอังกฤษอย่างบิงโกคำศัพท์ และเกมจับคู่กับภาพด้วย“เราไปออกค่ายตั้ง 2 วัน พี่ได้บอกแฟนหรือยังคะ” น้อยหน่ารุ่นน้องกระซิบถาม“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” เธอแก้มแดงแล้วทำเป็นเสียงเข้มใส่“คนจีบก็ได้ค่ะ” คนอายุน้อยกว่าทำหน้าล้อเลียน “แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นเขาตั้งหลายวันแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาถอดใจไปแล้วนะ”“ก็เร
ตอนที่ 50คณิณยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ตำแหน่งเดิมที่เขามักจะมารอเธอ เขามองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า พยายามหาจังหวะให้ตัวเองกล้าที่จะเดินเข้าไปหาแบบฝันที่เพิ่งเดินออกจากห้องเรียนพร้อมเพื่อน ๆเมื่อสายตาของเธอสบกับเขา ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่เธอพยายามรักษาสีหน้าสงบไว้ เธอบอกลาเพื่อนและเดินตรงมาหาเขา“มาที่นี่ทำไมคะ”คณิณยิ้มเล็กน้อย ยื่นถุงกระดาษที่ใส่กล่องเบนโตะไว้ในมือ“ฉันทำข้าวกล่องมาให้เธอ”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาฉงนปนประหลาดใจ“คุณทำเองเหรอคะ”“ใช่” คณิณตอบเสียงเบา พยายามปั้นยิ้มให้ดูมั่นใจ แต่แล้วแบบฝันก็สังเกตเห็นปลาสเตอร์สีเนื้อที่พันรอบนิ้วชี้ข้างซ้ายของเขา เธอเลิกคิ้วด้วยความกังวล“นิ้วคุณไปโดนอะไรมาคะ” เธอถามพลางเอื้อมมือมาจับมือเขาดูเบา ๆ เพื่อดูให้ชัด ๆแม้จะรู้สึกดีใจที่อีกคนเป็นห่วง แต่เขาก็รีบชักมือกลับอย่างเขิน ๆ“ไม่มีอะไรหรอก แค่อุบัติเหตุตอนทำอาหารนิดหน่อย”“อุบัติเหตุนิดหน่อย?” แบบฝันขมวดคิ้วจ้องมองเขาไม่วางตา“ฉันไม่ชินกับอุปกรณ์ในครัวน่ะ เลยมีผิดพลาดบ้าง” คณิณหัวเราะแห้ง ๆ พลางหลบสายตา “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีเลือดตกลงไปในอาหารแน่นอน”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เธ
ตอนที่ 49หลังจากที่เขาไปหาเธอที่มหาวิทยาลัย ซึ่งก็มีนกบ้างไม่นกบ้าง เพราะบางช่วงที่เขาไปเธอไม่มีเรียนในช่วงนั้น เขาจึงตัดสินใจแอบขอตารางเรียนของเธอจากรุ่นน้องกลุ่มเดียวกับเธอ เพราะถ้าต้องขอจากเธอโดยตรง เธอน่าจะไม่ให้แน่นอนวันนี้แบบฝันมีเรียนช่วงเช้า เขาเลยว่าจะทำข้าวกล่องไปฝากเธอช่วงพักกลางวัน เลยกะว่าจะแค่แวะเอาข้าวกล่องไปฝากแล้วรีบกลับ เพราะตอนบ่ายเขามีประชุม แม้จะได้เห็นหน้าเธอแค่ไม่กี่นาทีก็น่าจะพอเยียวยาหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาได้คณิณยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องครัว เขาสวมผ้ากันชนเปื้อนสีเข้มที่เพิ่งแกะจากห่อ เพราะปกติเขาไม่เคยทำอาหารทานเอง เลยเพิ่งจะไปซื้อผ้ากันเปื้อนสด ๆ ร้อน ๆ มาไว้ที่คอนโด เขาเปิดตำราอาหารที่เพิ่งลงทุนเดินเข้าร้านหนังสือในรอบหลายปีวางบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร พร้อมเปิดไอแพดดูคลิปประกอบ แต่ถึงจะมีตัวช่วยมากมายแต่เขาก็ยังดูเงอะงะในทุกขั้นตอน“เริ่มจากหุงข้าว... ง่าย ๆ” เขาพึมพำให้กำลังใจตัวเองเขาตวงข้าวญี่ปุ่นใส่หม้อหุงข้าวแล้วเดินไปล้างข้าว แต่เผลอเปิดน้ำแรงเกินไปจนข้าวกระเด็นออกจากหม้อไปกว่าครึ่ง“ให้มันได้อย่างนี้สิ” เขาพึมพำพลางกวาดข้าวที่หกกลับมาใส่ในหม้ออย่างทุ
ตอนที่ 48วันต่อมา คณิณกลับมายังมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้มาตัวเปล่า เขานำดอกไม้ช่อโตพร้อมจดหมายที่เขาเขียนความรู้สึกของตัวเองมาตลอดทั้งคืน ตรงมายังคณะที่แบบฝันเรียนเขานั่งรอเธอที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นและเงียบสงบเช่นเคย ดวงตาคมเข้มจ้องไปยังอาคารเรียน รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของนักศึกษาทยอยออกจากคลาสเริ่มเบาบางลง เขาก็เห็นร่างเล็กของแบบฝันเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นสองสามคนคณิณรีบลุกขึ้นทันที ก้าวตรงไปหาเธอด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อแบบฝันเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขา ดวงตาของเธอก็ฉายแววตกใจชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา“คุณมาทำอะไรที่นี่อีกคะ” เสียงของเธอเรียบเฉย ราวกับไม่อยากให้ใครบริเวณนี้สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ“ฉันมาหาเธอ มาง้อเธอไง” คณิณพูดตรงไปตรงมา เพราะจากประสบการณ์สอนให้เขาต้องกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง เขายื่นช่อดอกไม้ช่อโตให้เธอ แต่เธอกลับไม่ยื่นมือออกมารับ“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว” แบบฝันตอบ น้ำเสียงชัดเจนเช่นกันเมื่อคนตรงหน้าดูจะใจแข็งกับเขา เขาจึงหันไปสบตากับนักศึกษาสาวที่เดินออกมาพร้อมกับแบบฝัน ที่กำลังยืนมองดูพวกเขาจากด้
ตอนที่ 47แบบฝันพาคณิณมาหยุดที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ จุดที่ค่อนข้างเงียบสงบของมหาวิทยาลัย ใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลมพัดอ่อน ๆ เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาทางเขา“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ” น้ำเสียงของเธอนิ่งเรียบ แฝงไปด้วยความระมัดระวังคณิณยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอราวกับพยายามกลั่นกรองคำพูดที่อัดแน่นภายในใจ“แบบฝัน...” เขาเอ่ยชื่อเธอเบา ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฉันแค่อยากขอโทษเธอ ขอโทษที่รู้ตัวช้า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเพิ่งรู้ว่าใครคือคนที่ฉันรัก”แบบฝันชะงัก เธอกะพริบตา พยายามจับความหมายในคำพูดนั้น“คุณหมายความว่าอย่างไง” เธอถาม น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจคณิณก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างของเขากำแน่นอยู่ข้างตัว ราวกับพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี “ฉันหมายความว่า... ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกดีกับฉัน ที่จริงแล้วฉันก็รู้สึกดีกับเธอเหมือนกัน แต่ฉันมันขี้ขลาด ไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ เพราะฉันยังลังเล สับสนกับความรู้สึกที่มีต่อแพรวา”แบบฝันนิ่งไป ใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย แต่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า“ฉันมันโง่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือคนที่ฉันอยากใช้ชีวิตด้วยใน