Главная / LGBTQ+ / คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง / บทที่ 4 จัดการชีวิต

Share

บทที่ 4 จัดการชีวิต

last update Последнее обновление: 2025-04-25 20:17:51

ชีวิตของวารีไม่เหมือนเดิมอย่างที่บอกจริง ๆ เพราะตั้งแต่มุกดาเข้ามาช่วยงานแม่แวว และมาที่ฟาร์มแทบทุกวัน เรื่องราวในแต่ละวันก็กลับมีสีสันมากขึ้น

         แต่ดูเหมือนวารีจะไม่ชอบสีสันที่ว่าเท่าไหร่นัก อย่างเช่นตอนนี้ที่มุกดากำลังรบเร้าเธอเพื่อขอติดตามไปดูกระชังหอยมุกกลางทะเลด้วย

         “มุกอย่าดื้อ พี่บอกแล้วไงว่ามันต้องลงแพไป ออกไปกลางทะเลโน่น ร้อนก็ร้อน กว่าจะกลับเข้ามาก็เที่ยง มุกทนไม่ไหวหรอก ไปอยู่ที่ร้านกับแม่ดีแล้ว”

         วารีพยายามอธิบายเหตุผลที่เธอไม่อยากให้อีกฝ่ายติดตามไป แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเปล่าประโยชน์

         “มุกไม่กลัวแดด ไม่กลัวร้อน ไม่กลัวเหนื่อย ไม่กลัวหิว อีกอย่างแม่แววก็อนุญาตแล้วด้วย เพราะงั้นพี่วาต้องให้มุกไป”

         “มุก งานพี่มันเยอะ อย่าไปทำให้เหนื่อยกว่าเดิมได้มั้ย ขอร้องล่ะ”

        

เมื่อวารีเอ่ยแบบนั้น มุกดาจึงหยิบแท็บเล็ตประจำตัวของเธอออกมาจากกระเป๋าผ้าที่เธอสะพายติดตัวไว้ตลอด แล้วเปิดหน้าที่เขียนโน้ตเอาไว้

“งานพี่วาวันนี้ ลงแพตรวจหอยมุก คุยกับทีมชาวประมงเรื่องสภาพน้ำและฟ้าฝน จดบันทึกข้อมูลไว้ทุกเช้าในแอป โอเคค่ะมุกรับทราบ งั้นมุกจะช่วยแบ่งเบางานที่ว่าเยอะนี้เองค่ะ ไปกันเถอะ”

พูดจบเธอก็หยิบหมวกสานปีกกว้างขึ้นมาใส่ พร้อมสวมแว่นกันแดดสีดำ แล้วเดินนำไปยังท่าเรือเล็ก ๆ ริมฝั่งที่เป็นสถานที่สำหรับลงแพไปยังกระชังเลี้ยงหอยมุกที่อยู่กลางทะเล

วารีรีบเดินตามไปทันที เมื่อประชิดตัวอีกฝ่าย ก็คว้าแขนมุกดาเอาไว้

“พี่ไม่ให้ไป จะไปทำไม ที่กระชังมีแต่คนงานผู้ชาย แดดก็ร้อน กลับไปอยู่กับแม่ที่ร้าน หรือไม่ก็ไปอยู่ที่บ้าน เตรียมมื้อเที่ยงไว้ให้พี่”

มุกดาแอบแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น สมองของเธอกำลังประมวลผลว่า ที่อีกฝ่ายพูดมาทั้งหมด นั่นแปลว่าเป็นห่วงเธอรึเปล่า

แต่เมื่อนึกถึงคำว่า เป็นห่วง มุกดาก็ส่ายหน้าเบา ๆ คนอย่างพี่วาน่าจะไม่เหลือความรู้สึกนั้นให้เธอแล้ว แต่ถ้าพูดเพราะกลัวไปเกะกะหรือสร้างความรำคาญใจให้ อันนี้ดูจะเป็นไปได้มากกว่า

“อะ ๆ ไม่ไปก็ได้ ถ้าจะห้ามขนาดนี้ งั้นมุกไปอยู่ที่ร้านอาหารช่วยแม่แววแล้วกัน”

มุกดาพูดจบก็เตรียมจะหันหลังกลับ แต่คำพูดจากวารีก็ทำให้เธอต้องหยุดชะงักฝีเท้าอีกครั้ง

“มุก”

“คะ” คนอายุน้อยกว่าหันกลับมา สบสายตาอีกฝ่ายด้วยท่าทีงุนงง

“ทำกับข้าวไว้ให้ด้วย วันนี้อยากกินน้ำพริกกุ้งสดกับไข่เจียวชะอม”

“แหม วันก่อนยังบอกว่าฝีมือมุกไม่อร่อยอยู่เลย” มุกดาอดไม่ได้ที่จะมองบน

“ก็ใช่ ไม่อร่อย พี่กินกันตายต่างหาก”

วารีพูดจบก็เดินจากไป จึงไม่ทันได้ยินเสียงถอนหายใจของมุกดาที่ดังตามมาพร้อมกับเสียงบ่นมุบมิบ

‘คนเรานะ จะขอช่วยคนอื่นเนี่ย แค่พูดด้วยดี ๆ มันจะตายรึไง ไอ้พี่วาบ้า!’

หลังจากแยกย้ายกัน วารีก็ไปทำงานของเธออย่างเช่นทุกวัน แต่ดูเหมือนพักนี้จิตใจของเธอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว และรีบเร่งการทำงานให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

ไม่ทันที่นาฬิกาจะบอกเวลาเที่ยงตรง วารีก็กลับมาถึงบ้านแล้ว และบนโต๊ะกินข้าวในครัวก็มีอาหารที่เธอสั่งเตรียมไว้ให้พร้อม สิ่งที่ไม่มีก็แค่คนที่ควรจะอยู่ที่บ้าน

‘หายไปไหนนะ’

วารีเดินวนทั่วบ้าน ออกไปดูตรงระเบียงไม้หลังบ้านที่ยื่นไปในทะเลก็ไม่เจอใคร เธอจึงเดินไปยังร้านอาหารก็เห็นมุกดากำลังคุยกับชาวบ้านที่นำสัตว์ทะเลที่หาได้มาขายที่ร้าน

วารียืนมองอีกฝ่ายอยู่ไกล ๆ ยังไม่คิดจะเดินเข้าไปในร้าน เห็นท่าทีของมุกดายืนคุยกับชาวประมงสองคนที่เอาปลาและกุ้งมาขาย แววตาของเธอดูมีความสุข บางครั้งทั้งหัวเราะและยิ้มร่า คุยกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ซึ่งมุมนี้วารีเองก็แทบไม่เคยเห็น

และไม่เคยคิดเลยว่าเวลาที่แมวหยิ่งตัวนี้ยิ้มและหัวเราะ มันจะน่ารักได้ขนาดนี้

หลังจากชาวประมงสองคนกลับไปแล้ว วารีถึงได้เดินเข้าไปในร้านด้วยใบหน้าราบเรียบอย่างเช่นทุกครั้ง

“ทำอะไร” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถาม

มุกดาที่กำลังจดอะไรสักอย่างลงในโน้ตในแท็บเล็ตของเธอชะงักปากกาในมือชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้เงยหน้ามองคนถาม เธอเอ่ยตอบทั้งที่มือยังจดข้อมูลบางอย่างยิก ๆ

“มุกไม่แน่ใจว่าเวลามีชาวบ้านเอาสัตว์ทะเลมาขาย พี่วาได้บันทึกข้อมูลอะไรไว้บ้างรึเปล่า ถามแม่แววแล้วแม่ก็ไม่รู้ มุกเลยคิดว่าเราจะต้องมีตารางบันทึกข้อมูลส่วนนี้ไว้ด้วย มันจะได้สอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งเป็นงานที่พี่วาทำอยู่ไงคะ”

วารียืนกอดอก ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปทันที เพราะอยากรอดูว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรอีก เธอมั่นใจว่ามุกดายังพูดไม่จบแน่ ๆ

“เมื่อกี้ชาวบ้านเค้าเอากุ้งกับปลามาขาย มุกก็เลยทำแบบฟอร์มบันทึกข้อมูลไว้ค่ะ พี่ดูนี่”

มุกดาขยับมายืนข้าง ๆ วารี แล้วยื่นหน้าจอแท็บเล็ตให้อีกฝ่ายดู พร้อมกับอธิบายไปพร้อมกัน

“ข้อมูลที่มุกบันทึกไว้ทั้งหมดมีประมาณนี้ค่ะ อันดับแรกเลยคือ ชนิดของสัตว์ทะเล ขนาดและน้ำหนัก วันเดือนปีหรือฤดูกาลที่จับมาขาย ที่เราต้องบันทึกวิธีการจับก็เพื่อดูว่าเป็นวิธียั่งยืนหรือทำลายระบบนิเวศรึเปล่า แล้วก็แหล่งที่จับมา เพื่อดูว่าเป็นพื้นที่คุ้มครองหรือพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการทำลายระบบนิเวศมั้ย”

วารีเหลือบสายตามองคนที่กำลังอธิบายทุกอย่างด้วยเสียงเจื้อยแจ้วแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย แต่มุกดาไม่ได้เห็นท่าทีนั้นและพูดต่อ

“นอกจากนี้ต้องบันทึกชื่อสกุลชาวประมง ทำข้อมูลแยกไว้ด้วย เพื่อที่ต่อไปเราอาจจะได้สร้างเครือข่าย ชาวประมงที่ยั่งยืน และส่งเสริมการรับรู้ในชุมชน นำไปสู่การจัดทำระบบ traceability (ย้อนรอยวัตถุดิบ) ได้อีกด้วย”

มุกดาอธิบายทุกอย่างด้วยความตั้งใจ แววตาของเธอที่พูดเรื่องนี้ดูเปล่งประกาย ราวกับมันเป็นสิ่งที่เธอรักและอยากที่จะทำเป็นอย่างมาก ถึงแม้ตอนนี้เธอจะลาออกจากอาชีพนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแล้วก็ตาม

ตลอดเวลาที่มุกดาอธิบายเรื่องต่าง ๆ หลายครั้งที่วารีแอบเหลือบมองใบหน้าของคนข้างกาย นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้มองใบหน้ามุกดาใกล้ขนาดนี้

ทั้งความตั้งใจ ทั้งน้ำเสียงที่เอ่ยชัดทุกถ้อยคำ มันออกมาจากแววตาของผู้หญิงคนนี้ในแบบที่ไม่สามารถปกปิดได้เลย

“อ้อ แล้วก็พวกราคาซื้อขายเราก็ต้องบันทึกไว้ค่ะพี่วา เพื่อติดตามแนวโน้มตลาด ส่วนช่องหมายเหตุ เราก็เอาไว้บันทึกอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ เช่นว่า สัตว์ที่จับมาได้มีไข่ติดมาด้วย ขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน มาจากแหล่งอนุรักษ์ ทำนองนี้ค่ะ ข้อมูลทั้งหมดที่เราบันทึกมันมีประโยชน์มากเลยนะคะ ทั้งกับชุมชนและงานของพี่ มันเอาไปต่อยอดได้อีกมาก จำเป็นที่จะต้องทำค่ะ”

มุกดาพูดจบก็เอาแท็บเล็ตของเธอกลับคืนมา เธอกอดมันไว้ในอกแล้วหันไปมองหน้าวารี

“มีอะไรสงสัยอยากถามอีกมั้ยคะ คุณเจ้าของฟาร์ม”

“ไม่มีอะไรสงสัย แค่จะบอกว่า สิ่งที่เธอทำน่ะ พี่ก็ทำ พี่บรรทึกข้อมูลทุกอย่างไว้ทุกครั้ง ถึงได้บอกไงว่าเรื่องนี้พี่จัดการเอง”

“อ้าว ก็ไหนแม่แววบอกว่าไม่เคยเห็นพี่บันทึกข้อมูลพวกนี้ไว้”

“ก็พี่เก็บเอกสารทุกอย่างไว้ในห้องทำงาน แล้วห้องนั้นใครก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง แม่ก็ไม่ได้รู้เรื่องงานของพี่นักหรอก คราวหลังอยากรู้อะไรมาถามพี่”

มุกดาเงียบไปครู่หนึ่ง เธอเดินวนไปวนมารอบตัวของวารีเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

“เมื่อกี้พี่บอกว่า เก็บเอกสารทุกอย่างไว้ในห้องทำงานเหรอ”

“อื้ม”

“เอกสารที่ว่านี่คือ พวกแฟ้มเอกสาร กระดาษเยอะ ๆ แล้วก็จดข้อมูลทุกอย่างด้วยมือน่ะเหรอคะ”

“อื้ม ก็ใช่น่ะสิ”

มุกดาถอนหายใจเมื่อรู้แบบนั้น เธอก้าวยาว ๆ ไปหยุดตรงหน้าวารีแล้วเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“เชย สะ บัด! เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเค้าไปไกลแล้วนะคะ ใช้ให้เป็นหน่อยคุณพี่ พวกข้อมูลต่าง ๆ มันมีโปรแกรมสำเร็จสำหรับบันทึกนะคะ”

“แล้วไง? พี่ถนัดแบบนี้”

“แต่มุกขัดใจ พี่ต้องพามุกไปห้องทำงานของพี่ มุกจะไปช่วยดูว่ามีเอกสารส่วนไหนที่เราจะย้ายมาเก็บข้อมูลในแบบของไฟล์งานได้ จะได้โละพวกกองเอกสารทิ้งไปบ้าง”

“ไม่ต้องมายุ่งกับห้องทำงานของพี่ แล้วก็งานทุกอย่างของพี่ ทำแค่ที่สั่งให้ทำก็พอ เลิกพูดมากแล้วกลับบ้านไปกินข้าวเที่ยงได้แล้ว”

มุกดาถอนหายใจใส่หน้าวารีไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะเอ่ยเสียงดัง

“ไม่ค่ะ ถ้าพี่ไม่ยอมให้มุกช่วยจัดการเรื่องงาน ก็เชิญพี่กลับบ้านไปกินข้าว คน เดียว เลย!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   ตอนพิเศษ (2) อยู่ดี ๆ ก็มีลูก

    หลังจากแต่งงานกันมาได้สองปี ตอนนี้ทั้งวารีและมุกดาก็มีความสุขดีตามประสาคู่ชีวิตทั่วไปที่ช่วยกันทำงานและดูแลกิจการ ส่วนเรื่องของการมีลูกนั้น ทั้งคู่ไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะวารีเองก็อายุ39ปีแล้ว ส่วนมุกดาปีนี้ก็33 หากจะใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อให้ได้มาซึ่งการมีลูกก็อาจจะเสี่ยงในหลาย ๆ อย่าง ทั้งคู่เลยไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ใครจะคิดว่าจู่ ๆ ฟ้าจะส่งเด็กน้อยสองคนมาให้ วันนี้วารีและมุกดาพากันมาบริจาคของเล่นและสิ่งของต่าง ๆ ให้กับสถานสงเคราะห์บ้านเด็กกำพร้า ซึ่งทั้งคู่แวะมาที่นี่กันบ่อย บางครั้งก็แวะมาเล่านิทาน ร้องเพลง ทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ และทุกครั้งที่จะกลับ มักจะมีสายตาละห้อยของเด็ก ๆ มองพวกเธอเสมอทำให้มุกดาอดคิดถึงลูกจันทร์น้องสาวของเธอไม่ได้ หากวันนั้นแม่ของเธอไม่รับลูกจันทร์มาเลี้ยง ไม่รู้ว่าตอนนี้ชีวิตของน้องสาวตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง หากมีโอกาส มุกดาก็อยากจะช่วยเหลือเด็กที่นี่ได้มากกว่านี้“ทำหน้าเศร้าอีกแล้วนะคะ”วารีเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เดินอยู่ข้างกันหม่นหมองลงทันทีในตอนที่กำลังจะกลับ“น้องสงสารเด็ก ๆ ที่นี่ค่ะ ใจนึงก็อยากช่วย อีกใจก็รู้ว่าเราคงไม่มีกำล

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   ตอนพิเศษ (1) ดูงานต่างประเทศ

    สนามบินต่างประเทศในเช้าตรู่เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจากนักท่องเที่ยว แต่วารีกลับรู้สึกสงบอย่างประหลาด มือที่กุมมือมุกดาไว้แน่น ๆ คือคำยืนยันว่าการเดินทางไปดูงานต่างประเทศครั้งนี้ เธอไม่ได้เดินทางเพียงคนเดียวอีกต่อไป การเดินทางมาโตเกียวครั้งนี้ คนที่ดูจะตื่นเต้นกว่าคือมุกดา และเป็นฝ่ายจัดกระเป๋าเตรียมทุกอย่างให้วารีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้จะแต่งงานกันมานานแล้ว แต่เรื่องของความรักและการเอาใจใส่กันยังคงเป็นสิ่งที่ทั้งคู่เติมเต็มให้กันเสมอ“พี่วาคะ น้องได้ยินมาว่า ร้านเครื่องประดับในโตเกียวนี่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์ที่เอามุกมาประยุกต์แบบโมเดิร์นเลยนะคะ” มุกดาหันมาพูดอย่างตื่นเต้น ขณะที่ทั้งคู่รอแท็กซี่ที่หน้าโรงแรมวารีพยักหน้า ดวงตาหวานฉ่ำมองคนข้างกาย “เดี๋ยวก็ได้เห็นค่ะ พี่เองก็อยากดูว่าเขาเอาแนวคิดธรรมชาติมาใส่ในเครื่องประดับยังไงบ้าง จะได้กลับไปพัฒนาไลน์ของเราเพิ่ม”ทริปนี้วารีตั้งใจพามุกดามาด้วย เพราะอยากให้เห็นกระบวนการด้านศิลป์และการตลาดจากทั่วโลก ไม่ใช่แค่เรื่องอนุรักษ์หรือการผลิตเพียงอย่างเดียว มุกดาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอได้มาดูนิทรรศการเครื่องประดับหอ

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 30 เจอเจ้าสาวได้ยังไง

    เสียงคลื่นซัดเบา ๆ อยู่ไม่ห่างจากเวทีไม้ไผ่ที่จัดวางกลางลานหญ้าของฟาร์มวารี เส้นไฟดวงเล็กวิบวับถูกขึงข้ามเหนือหัวผู้คน บรรยากาศค่ำคืนโรแมนติกอบอวลด้วยกลิ่นอาหารทะเลสด ๆ และเสียงหัวเราะของผู้ที่มาร่วมงานโต๊ะยาวที่จัดเรียงหน้าฟาร์มเต็มไปด้วยอาหารพื้นบ้านอย่างหอยทอด ข้าวเหนียวปิ้ง ปลาย่าง และของหวานแบบไทย ๆ ที่แม่ ๆ ป้า ๆ แถวนั้นตั้งใจทำมาจากบ้านตัวเอง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ‘วันสำคัญของสองสาวเจ้าของฟาร์ม’“บรรยากาศดีจนฉันอยากแต่งงานอีกรอบเลย” คิรินเอ่ยพลางยกแก้วน้ำมะพร้าวขึ้นจิบ หันไปมองวิวาห์ที่นั่งอยู่ข้างกันแล้วส่งยิ้มหวานวิวาห์หันไปทางเวทีกลาง พูดเสียงเบาเหมือนกำลังคิดตาม “วารีดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยเนอะตอนอยู่กับมุก ไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งคู่จะวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง”“นั่นสิ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่ชื่อมุกดา คนที่เคยทำให้เพื่อนเราร้องไห้จนแทบจะขาดใจตาย ทำให้คนที่เคยเหมือนหินก้อนเบ้อเริ่ม กลายเป็นขนมโมจิได้ เห็นหน้าวารีเมื่อกี้มั้ย เหมือนลูกแมวเลย” คิรินหัวเราะเบา ๆบนเวทีไม้ไผ่ มุกดาในชุดไทยผสมลูกไม้ประยุกต์สีครีมอ่อน ยืนจับมือกับวารีที่อยู่ข้างกัน ทั้งสองคนยิ้มเขินนิด ๆ ขณะท

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 29 แขกพิเศษ

    งานแต่งงานของวารีกับมุกดาในวันนี้ จะเรียกงานแต่งก็อาจจะไม่ถูกซะทีเดียว เพราะบรรยากาศมันเหมือนการรวมพลเลี้ยงคนในหมู่บ้านมากกว่า วารีไม่คิดเลยว่าแม่ของเธอจะเชิญคนทั้งหมู่บ้านขนาดนี้ บรรยากาศในวันนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงเฮฮาและรอยยิ้ม ทำเอาเจ้าสาวทั้งสองคนมีรอยยิ้มสดใส หน้าตาเปล่งปลั่ง มีออร่าตลอดเวลาที่คอยต้อนรับแขกในงาน และความตั้งใจของทั้งวารีและมุกดา ที่อยากให้งานเป็นไปด้วยความเรียบง่าย พิธีวันนี้จึงไม่ได้เคร่งครัดมากนัก มีเพียงการผูกข้อไม้ข้อมือ สวมแหวน และงานเลี้ยงขอบคุณแขกที่มาร่วมงานก็เท่านั้น และสิ่งที่เซอร์ไพรซ์ในงานแต่งวันนี้คือการที่ลูกจันทร์พาใครบางคนมาร่วมงานแต่งของพี่สาวเธอด้วย นั่นก็คือคุณพาขวัญ บุคคลที่ย่างกรายเข้ามาในงานแล้วโดนจับจ้องด้วยสายตาทุกคู่ พาขวัญ อัครเมธากุล เจ้าของมูลนิธิพาขวัญ ผู้ทำประโยชน์ให้กับสังคมมากมาย อีกทั้งยังก่อตั้งมูลนิธิเพื่อให้เงินทุนการศึกษาแก่เด็กยากไร้และเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ ลูกสาวนักการเมืองตำแหน่งใหญ่ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอ ว่ากันว่า เธอไม่ชอบงานสังคม เธอหาตัวจับยาก ไม่ค่อยมีใครได้เห็นเธอไปไหนมา

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 28 สร้อยมุกที่เสกได้

    วารีฟาร์มแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นเสมอมา นับตั้งแต่มุกดาเข้ามาที่นี่เจ้าของฟาร์มที่เคยเอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยทักทายลูกน้อง ใบหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลาก็ดูจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันแต่งงานเข้ามาใกล้มากขึ้น ใกล้จนมันกำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว เสียงคลื่นซัดเบา ๆ เข้าฝั่งในยามค่ำคืน ท้องฟ้าริมทะเลมีเพียงแสงดาวกระพริบระยิบ ระเบียงบ้านไม้ที่ยื่นไปในทะเลของวารีเงียบสงบ ลมโชยอ่อน ๆ พัดผ่านม่านบางในห้องนอน ราวกับจะกระซิบเตือนให้หัวใจของคนทั้งสองจดจำช่วงเวลานี้ไว้ให้แม่นมุกดานั่งอยู่บนเตียงไม้สีอ่อน ห่มผ้าบาง ๆ รอบตัว ขาเปลือยเปล่าห้อยแกว่งเบา ๆ กับอากาศ ขณะที่แสงไฟจากโคมข้างเตียงให้แสงอบอุ่นพอดีเสียงประตูไม้เปิดออก วารีในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มเดินเข้ามาช้า ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาฉายแววอ่อนโยนกว่าทุกคืน“ยังไม่นอนเหรอคะ” คนที่เดินเข้ามาเอ่ยถามแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างกัน“พรุ่งนี้ก็จะแต่งงานแล้ว ใครจะหลับลงกันล่ะ” มุกดาหันมายิ้มตาหยีวารีคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เตรียมเอาของที่สองมือซ่อนไว้ด้านหลังออกมา“พี่มีอะไรจะให้ค่ะ”“หืม?” ม

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 27 ไม่หึงเมียจะหึงใคร

    นับตั้งแต่คุยเรื่องแต่งงาน และได้ข้อสรุปว่า ฤกษ์แต่งงานจะมีขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า ทางด้านมุกดาก็หันมาดูแลตัวเองมากกว่าเดิม เพราะอยากให้ภาพวันนั้นออกมาสวยงามที่สุด จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อให้ออร่าเจ้าสาวเปล่งประกาย แต่ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนไม่ชอบเอาซะเลยที่แฟนตัวเองหันมาดูแลตัวเองจนสวยวันสวยคืนมากขึ้น พักหลังมานี้วารีจึงตามติดมุกดามากกว่าเดิม ถ้าเมื่อก่อนแทบจะสิง ตอนนี้คงต้องเรียกว่า แทบจะกลืนกิน ถึงขนาดที่ว่า คนงานในฟาร์มยังไม่กล้ามองมุกดาตรง ๆ เพราะมักจะเจอกับสายตาดุ ๆ ของวารีอยู่เสมอ ส่วนมุกดานั้นไม่ได้ถือสาอะไรกับท่าทีของแฟนตัวเอง เธอมองว่าวารีเหมือนโกลเด้นตัวโตที่อยากให้เจ้าของสนใจก็เท่านั้นวันนี้แดดในช่วงบ่ายคล้อยกำลังอ่อนแรง เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังแผ่วเบาเหมือนเพลงกล่อม วารีเดินออกจากห้องประชุมในศูนย์การเรียนรู้ของฟาร์ม ด้วยสีหน้าตึงเครียดหลังการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรฯ เสร็จ เธอถอดเสื้อคลุมพาดไหล่ออก เหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวตัวเรียบที่เปียกชื้นจากเหงื่อเล็กน้อย ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเริ่มแผ่ซึมผ่านท่าทางทุกอณูแต่ทันทีที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status