แชร์

กล่องปริศนา

ผู้เขียน: Teddy's
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-12 19:43:46

เช้าวันนี้เซียนอวี่เตรียมตัวลงไร่กับคนอื่น ๆ หลังจากที่เธอเลือกจะเข้าป่าหาของมาให้คนในบ้านพักกินมาหลายวัน ตอนนี้ก็เริ่มมีคนไม่พอใจ หาว่าเธออู้งานกินแรงเพื่อนคนอื่น ๆ เธอเลยเปลี่ยนใจไม่เข้าป่าเหมือนทุกวัน

“พี่คะ งานในไร่หนักมาก พี่ไม่เคยหยิบจับอะไรมาก่อน แบบนี้จะทำได้หรอคะ กลับไปเข้าป่าหาผักดีกว่ามั้ยคะ” ซ่งหนิงหนิงพยายามเป็นอย่างมากที่จะเข้ามาคุยกับเซียนอวี่ แต่ก็มักจะถูกเซียนอวี่เมินเฉยราวกับอากาศไปเสียทุกที

วันนี้ซ่งหนิงหนิงเองก็ถูกซ่งเซียนอวี่เมินอีกเช่นเคย ท่าทางจองหองถือตัวนั้นทำให้หลาย ๆ คนไม่พอใจ บวกกับหลายวันที่ผ่านมาเซียนอวี่มักจะแยกตัวออกไปทำงานเข้าป่ากับเหล่าชาวบ้าน แถมห้องพักก็พักเป็นห้องเดี่ยวไม่มีเพื่อน ซ่งหนิงหนิงเลยสนิทกับคนอื่น ๆ มากกว่า

“อะไรกัน เซียนอวี่ก็เป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงแท้ ๆ ทำไมถึงได้ทำตัวสูงส่งนักล่ะ เธอควรจะขอบใจและซึ้งใจหนิงหนิงเข้าไว้สิ ตัวเองไปแย่งวาสนาคนอื่นมาแท้ ๆ ตอนนี้ยังจะมาจองหองใส่คนเขาอีก”

ปกติแล้วเซียนอวี่จะนิ่งเฉยกับคนอื่น ๆ ในบ้านพัก แต่ครั้งนี้เธอเลือกจะไม่ปล่อยผ่านไปเหมือนเช่นเคย ขาเรียวยาวที่กำลังเตรียมตัวจะก้าวลงไปในไร่และเริ่มงานหยุดลงกะทันหัน ก่อนจะหันไปมองหน้าคนที่พูดประโยคเมื่อครู่ออกมา

“แล้วเธอล่ะ เคยมีวาสนาได้ใช้ชีวิตหรูหราแบบฉันหรือเปล่า ไม่ต้องพูดเรื่องแย่งวาสนาคนอื่นหรืออะไรนะ เพราะตอนนั้นฉันพึ่งลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ เด็กเล็กพึ่งคลอดคงไม่มีความคิดจะไปวางแผนเข้าตระกูลใหญ่หรอก ถูกมั้ย”

“พ พี่คะ อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง พี่อย่าโกรธเลยนะคะ” ซ่งหนิงหนิงเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดี เธอรีบเอาตัวเข้ามาบังเพื่อนที่ออกหน้าแทนตัวเอง ก่อนจะเอ่ยปากขอร้องเซียนอวี่เสียงดังจนชาวบ้านอยู่รอบ ๆ หันมามองยิ่งกว่าเดิม

“โกรธงั้นหรอ เธอบอกไม่ให้ฉันโกรธงั้นหรอ ทำไมไม่บอกให้เพื่อนตัวเองมาขอโทษที่พูดไม่ดีใส่ฉันบ้างล่ะ เรื่องที่ยัยนั่นพูดก็คงจะออกมาจากปากเธอ ถูกมั้ย มันธุระกงการอะไรที่เธอต้องเอาเรื่องในบ้านไปพูดให้คนอื่นฟังงั้นหรอซ่งหนิงหนิง คนที่ควรจะขอโทษอีกคนก็คือเธอนั่นแหละ เธอมีสิทธิ์อะไรเอาเรื่องของฉันไปพูดให้คนอื่นฟังกัน เราสนิทกันขนาดนั้นเลยหรือไง”

“นี่! หนิงหนิงต่างหากที่ควรจะโกรธเธอ เธอเอาทุกอย่างของหนิงหนิงไปแล้วยังไม่สำนึกอีก ที่ผ่านมาหนิงหนิงต้องไปทนลำบากอยู่กับครอบครัวปลอม ๆ เธอหัดขอบคุณหนิงหนิงบ้าง แต่นี่อะไร ไม่ขอบคุณแล้วยังจะมาต่อว่าคนเขาอีก เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ เลย หมามันยังรู้จักบุญคุณคนที่ให้ข้างให้น้ำ แต่เธอนี่มันยังไง ไม่สำนึกแล้วยังเนรคุณอีก ตระกูลซ่งช่างไร้บุญไร้วาสนานัก หลงเลี้ยงงูพิษอย่างเธอมาเป็นสิบ ๆ ปี”

“หึ เลี้ยงไม่เชื่องงั้นหรอ แล้วการที่ส่งฉันมาเป็นเยาวชนแทนลูกสาวตัวจริงนี่ยังไม่นับเป็นการตอบแทนบุญคุณงั้นหรอ ตอบมาสิซ่งหนิงหนิง เธอจะบอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่องที่พ่อกับแม่ตั้งใจปิดบังเรื่องตัวตนของฉัน แล้วส่งชื่อฉันมาเป็นเยาวชนแทนเธอที่ควรจะต้องมาเป็นตัวแทนของบ้านซ่ง เธอพูดสิ” เธอไม่คิดจะเก็บเรื่องเน่า ๆ พวกนี้เอาไว้คนเดียวหรอก ถ้าเธอต้องเน่า ก็ให้มันเน่ากันไปให้หมดทั้งกลุ่มนี่แหละ เธอไม่ได้เสียอะไรอยู่แล้ว มันไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีทางหลุดพ้นเสียหน่อย ถ้าไม่จำเป็นเธอก็คงไม่อยากจะใช้วิธีนั้น แต่ถ้ามันน่ารำคาญมาก เธอก็ไม่รังเกียจเช่นกัน

“ฉะ ฉัน ฉันไม่รู้เรื่องนั้นเลยค่ะ พี่ ฉันพูดจริง ๆ นะคะ ฉันไม่รู้จริง ๆ” เธอจะกล้าพูดได้ยังไงว่าตัวเองรู้ ถ้าเธอยอมรับสารภาพว่ารู้เรื่องที่พ่อกับแม่วางแผนเอาไว้ เธอก็ถูกคนอื่นประณามน่ะสิว่าตั้งใจใช้คนอื่นเป็นโล่กำบังให้ตัวเอง เธอจะไม่ยอมเด็ดขาด หลายวันมานี้เธอทำงานหนักเพื่อเอาใจคนรอบตัว กว่าคนพวกนี้จะยอมออกหน้าให้เธอขนาดนี้ เธอต้องเหนื่อยมาเท่าไหร่

“จ้า ไม่รู้ก็ไม่รู้ ฉันขี้เกียจซักไซ้เอาความอะไรกับเธอแล้ว ตอนนี้เป็นเวลางาน พวกเธอไม่ควรจะมาพูดมากปากอยู่ไม่สุขใส่ฉัน เพราะคนอื่น ๆ เขารอทำงานอยู่ เข้าใจมั้ย ไม่ทำงานก็ไม่ต้องกินข้าวน่ะ ถอยไปได้แล้ว ฉันจะรีบไปทำงาน”

ตั้งแต่ต้นจนจบ ชาวบ้านไม่สอดปากเข้ามาแทรกอย่างที่เธอคิดเอาไว้เลย แสดงว่าการแสดงของซ่งหนิงหนิงในหลายวันที่ผ่านมายังไม่ได้ผลกับชาวบ้านมากนัก ก็แน่ล่ะ ชาวบ้านกลุ่มที่มีปากมีเสียงมากที่สุดถูกเธอดึงตัวเอาไว้หมดแล้ว

คิดว่าคนที่ลงงานในไร่จะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่พวกผู้ชายที่มีแรงมาก ส่วนพวกผู้หญิงที่มาช่วยทำงานในไร่ก็น้อยมาก หากไม่ใช่ว่าจำเป็นจริง ๆ พวกเธอจะอยากลงไร่มาทำงานของผู้ชายหรือ ซ่งหนิงหนิงเดินหมากพลาดไปหนึ่งจุด ตรงที่เลือกประจบเอาใจคนผิดตั้งแต่ต้น

เธอเคยอยู่หมู่บ้านนี้จนตายมาแล้วครั้งหนึ่ง บอกเลยว่าการเอาใจเหล่าป้า ๆ ที่ค่อนข้างว่างงานนั้นคือสิ่งที่สมควรทำมากที่สุด ยิ่งคนพวกนั้นเอ็นดูมากเท่าไหร่ เวลามีเรื่องในหมู่บ้านเราก็จะยิ่งมีพรรคพวกเยอะขึ้นเท่านั้น

เซียนอวี่ใส่ชุดรัดกุม ก่อนจะเดินเข้าไปในไร่อย่างสบาย ๆ เธอไม่มีท่าทางหวาดกลัวหรือท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนที่คนอื่น ๆ คิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย ดูจะชำนาญมากด้วยซ้ำไป

เซียนอวี่ไม่สนใจ เธอรีบทำงานในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้กลับไปพักก่อนเวลา แต่ไม่ว่าเธอจะรีบแค่ไหน สุดท้ายเธอก็ยังเสร็จไม่ทันเวลาที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้อยู่ดี อย่างไรร่างกายในอดีตกับในตอนนี้ก็ต่างกัน แต่อย่างน้อยก็ยังเสร็จก่อนเยาวชนคนอื่น ๆ เป็นชั่วโมงอยู่ดี

“งานในส่วนของหนูเสร็จแล้ว หนูขอกลับไปพักก่อนได้มั้ยคะหัวหน้าหมู่บ้าน” เซียนอวี่เข้าไปขอกับหัวหน้าหมู่บ้านโดยตรง เธอชี้ไปตรงที่ในส่วนที่เธอรับผิดชอบให้หัวหน้าหมู่บ้านเห็นว่างานของเธอเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว

“หืม งานเรียบร้อยมากเลยนะเนี่ย งั้นก็ไปพักเถอะ ตรงนี้เหลือแต่งานของคนอื่นแล้ว โอ้จริงด้วย เมื่อวานเห็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เอาจดหมายมาส่ง คนอื่น ๆ ได้จดหมายจากทางบ้านแล้ว แต่ของแม่หนูซ่งเหมือนจะเป็นของชิ้นใหญ่ เจ้าหน้าที่บอกให้หนูไปติดต่อเอาของเองในเมืองนู่นน่ะ เดี๋ยวถ้าว่าแล้วมาเอาจดหมายแนะนำตัวจากลุงที่บ้านนะ”

ดวงตาของเซียนอวี่ลุกวาว พัสดุของเธอมาส่งเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก แม้ว่าเธอจะต้องไปเอาของเองก็เถอะ แต่ในสมัยนี้สามารถส่งของชิ้นใหญ่ผ่านไปรษณีย์ได้มันก็ดีมาก ๆ แล้ว

“ขอบคุณค่ะหัวหน้าหมู่บ้าน งั้นเดี๋ยวตอนเย็นที่ไปทำอาหาร หนูจะแวะไปเอาจดหมายนะคะ” เซียนอวี่ทำตัวนอบน้อมต่อหัวหน้าหมู่บ้าน ชายชราคนนี้ชอบเอาหน้า ทั้งยังชอบให้คนเคารพตนเอง ทั้งที่ตัวเองเป็นแค่หัวหน้าหมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบท แต่ก็อย่างว่า สามารถวางอำนาจได้แค่ในหมู่บ้าน ก็คงจะภาคภูมิใจมากพอสมควรเลยนั่นแหละ

บ่ายวันนั้นเซียนอวี่ไปนอนพักเอาแรง ก่อนจะตื่นมาในตอนบ่ายแก่ ๆ เพื่อไปทำอาหารพร้อมกับทุกคน วันนี้อาหารค่อนข้างแห้งแล้ง เพราะแม้แต่ผักป่าที่กินกันทุกวันก็ยังไม่มีให้เห็น แต่ละคนมีสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เพราะเป็นพวกเขาเองที่กดดันให้เซียนอวี่เลิกเข้าป่าหาผักหาหญ้า

“พรุ่งนี้ฉันจะเข้าป่ากับชาวบ้าน” เด็กสาวข้างกายซ่งหนิงหนิงที่มีปากเสียงกับเธอเมื่อเช้าเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด กะอีกแค่หาผักป่า ทำไมเธอจะทำไม่ได้ เธอจะทำให้ดูเองว่าเธอเก่งว่ายัยคนอวดดีนั่นหลายเท่า

“งั้นฉันจะเข้าไปด้วย มีใครจะไปด้วยกันอีกมั้ย” ซ่งหนิงหนิงเห็นเพื่อนไปก็เอ่ยปากอาสาไปด้วยอีกคน

เซียนอวี่ยิ้มไม่พูดอะไร เธอตักอาหารเข้าปากเงียบ ๆ ก่อนจะลุกไปเก็บล้างจานชามของตัวเองแล้วเข้าห้องไป แน่นอนว่าที่รีบเข้าห้องไม่ใช่เพราะไม่อยากอยู่ตรงนั้น แต่เธอรีบกลับเข้าห้องมากินเนื้อแห้งที่ซ่อนเอาไว้ต่างหาก

เนื้อตากแห้งทั้งแข็งทั้งเหนียวถูกเธอเอาไปแช่ในน้ำอุ่นจนนิ่ม ก่อนจะค่อย ๆ ตักกินทีละคำอย่างมีความสุข ปล่อยให้พวกหน้าโง่นั้นกินแป้งแข็ง ๆ จืด ๆ ไป

ส่วนจดหมายแนะนำตัวจากหัวหน้าหมู่บ้านเธอก็ได้รับมาเรียบร้อย พรุ่งนี้เธอตั้งใจจะทำงานให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วเข้าเมือง แต่ถ้าไม่ทันจริง ๆ ก็คงต้องไปวันถัดไปที่เป็นวันหยุดแทน

แน่นอนว่าสุดท้ายเซียนอวี่ก็เลือกจะไปวันหยุด เธอทำงานเสร็จเร็วก็จริง แต่กว่าจะเดินทางเข้าเมืองก็ใช้เวลาค่อนข้างมาก แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงไม่เพียงพอที่เธอจะเดินทางไปทำธุระในเมืองได้ครบทุกอย่างที่ตั้งใจ

ในเช้าวันหยุดเธอตั้งใจตื่นมาอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวตั้งแต่เช้าเพื่อรอขึ้นรถเข้าเมืองกับชาวบ้าน เซียนอวี่ยิ้มทักทายเหล่าลุงป้าน้าอาอย่างเป็นมิตร ระหว่างนั่งอยู่บนรถก็คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กับเหล่าป้า ๆ ไปแก้เบื่อ

ส่วนเรื่องที่คุยกันก็เรื่องชาวบ้านนั่นแหละ เอาง่าย ๆ คือเธอได้รับการยอมรับจากผู้หญิงในหมู่บ้านให้ร่วมวงนินทาคนอื่นแล้ว แม้ว่าเธอจะรู้เรื่องของคนในหมู่บ้านมาพอสมควร แต่พอเข้ามาอยู่ในวงสนทนานี้ ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเธอรู้เรื่องรอบ ๆ ตัวน้อยมาก บ้านนั้นตีลูก บ้านนี้รังแกสะใภ้ เธอไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลยสักนิด ขนาดผ่านมาแล้วชีวิตหนึ่ง

เซียนอวี่นั่งเออออไปกับคนอื่น ๆ ก่อนจะขอแยกตัวไปเอาของของตัวเองเมื่อรถแล่นมาถึงที่หมาย เธอโบกมือลาเหล่าป้า ๆ ก่อนจะรีบเดินไปยังสำนักงานไปรษณีย์ประจำเมืองทันที

“มารับของค่ะ ชื่อซ่งเซียนอวี่ ส่งมาจากเมืองหลวง” เธอยื่นบัตรประจำตัวให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก่อนจะได้รับบัตรคืนพร้อมกล่องขนาดใหญ่สองสามกล่อง

ขนาดกล่องนั้นค่อนข้างใหญ่ เธอเม้มปากแน่นทันทีที่เห็นกล่องเหล่านี้ ในตอนแรกเธอดีใจที่ของมาถึง แต่เธอก็ลืมเรื่องสำคัญไปเช่นกัน ว่าของเยอะแยะขนาดนี้ เธอจะขนกลับไปได้ยังไง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องขึ้นรถกลับไปพร้อมชาวบ้านเลย กล่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีที่พอให้เธอแน่ ๆ อย่าบอกนะว่าเธอต้องเดินกลับ

“ขนอะไรมาเยอะแยะขนาดนั้น แล้วนี่จะเอากลับไหวหรอ”

ในขณะที่เซียนอวี่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับพัสดุชิ้นใหญ่ของตัวเอง เสียงกวนประสาทแสนจะคุ้นหูก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าคนที่เดินเข้ามาหาตนนั้นเป็นคน

“นาย”

“อะไรกัน นี่ไม่เคยคิดจะถามชื่อกันเลยหรือไง ฮึ” อีกคนทำหน้าบึ้ง ก่อนจะเดินมาเบียดหญิงสาวให้หลีกทาง แล้วตัวเองก็ไปยกกล่องของคนอื่นโดยพลการ

“นะ นี่ นั่นของฉันนะ จะเอาไปไหนน่ะ”

“...แล้วเธอถือไหวหรือไง”

เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ เซียนอวี่ก็ยอมปิดปากแล้วเดินตามเงียบ ๆ เธอจะยกไหวได้ยังไง สุดท้ายเลยได้แต่เดินตามคนตัวโตต้อย ๆ ไปทั้งอย่างนั้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   สองคนนั้น

    “ขอบคุณค่ะ” เซียนอวี่ขอบคุณคนตัวโตที่ถือวิสาสะแย่งของไปถือแล้วเดินมาส่งตัวเองถึงบ้านพัก อันที่จริงเธอก็ขอบคุณมาก ๆ นั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าเจ้าคนตัวโตนี่เอาแต่แซะนั่นแวะนี่เธอไม่หยุดตลอดทาง ว่าเธอขาสั้นบ้างล่ะ ตัวเตี้ยบ้างล่ะ“ไม่เป็นไร ของนี่ถ้ายกไม่ไหวก็ลากเข้าไปในห้องนะ” เขาไม่อยากเข้าไปในบ้านพักของสตรี อย่างไรบ้านหลังนี้ก็มีแต่ผู้หญิง ถ้าให้ผู้ชายตัวโตอย่างเขาเข้าไป คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่“อื้ม ว่าแต่...นายชื่ออะไรหรอ เจอกันหลายรอบแล้ว ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย อ้อ ฉันชื่อซ่งเซียนอวี่ เรียกว่าเซียนอวี่ก็ได้” เธอได้อีกคนช่วยไว้ตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เขากลับไม่เคยถามชื่อหรือแนะนำตัวกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว“หมิงหาน เหยาหมิงหาน เธอเรียกว่าหมิงหานก็ได้ ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวมีคนมา-” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ซ่งหนิงหนิงก็โผล่เข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงร้องตะโกนจนทุกคนต้องหันไปมองเธอ“พี่หมิงหาน! เอ้ะ พี่เซียนอวี่ พี่รู้จักพี่หมิงหานด้วยหรอคะ” ซ่งหนิงหนิงเดินสะพายตะกร้าที่เต็มไปด้วยผักเข้ามาพร้อมกับคนอื่น ๆ ระหว่างกำลังจะกลับเข้าบ้านพัก เธอกลับเห็นคนคุ้นตาเข้าเสียก่อ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   กล่องปริศนา

    เช้าวันนี้เซียนอวี่เตรียมตัวลงไร่กับคนอื่น ๆ หลังจากที่เธอเลือกจะเข้าป่าหาของมาให้คนในบ้านพักกินมาหลายวัน ตอนนี้ก็เริ่มมีคนไม่พอใจ หาว่าเธออู้งานกินแรงเพื่อนคนอื่น ๆ เธอเลยเปลี่ยนใจไม่เข้าป่าเหมือนทุกวัน“พี่คะ งานในไร่หนักมาก พี่ไม่เคยหยิบจับอะไรมาก่อน แบบนี้จะทำได้หรอคะ กลับไปเข้าป่าหาผักดีกว่ามั้ยคะ” ซ่งหนิงหนิงพยายามเป็นอย่างมากที่จะเข้ามาคุยกับเซียนอวี่ แต่ก็มักจะถูกเซียนอวี่เมินเฉยราวกับอากาศไปเสียทุกทีวันนี้ซ่งหนิงหนิงเองก็ถูกซ่งเซียนอวี่เมินอีกเช่นเคย ท่าทางจองหองถือตัวนั้นทำให้หลาย ๆ คนไม่พอใจ บวกกับหลายวันที่ผ่านมาเซียนอวี่มักจะแยกตัวออกไปทำงานเข้าป่ากับเหล่าชาวบ้าน แถมห้องพักก็พักเป็นห้องเดี่ยวไม่มีเพื่อน ซ่งหนิงหนิงเลยสนิทกับคนอื่น ๆ มากกว่า“อะไรกัน เซียนอวี่ก็เป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงแท้ ๆ ทำไมถึงได้ทำตัวสูงส่งนักล่ะ เธอควรจะขอบใจและซึ้งใจหนิงหนิงเข้าไว้สิ ตัวเองไปแย่งวาสนาคนอื่นมาแท้ ๆ ตอนนี้ยังจะมาจองหองใส่คนเขาอีก”ปกติแล้วเซียนอวี่จะนิ่งเฉยกับคนอื่น ๆ ในบ้านพัก แต่ครั้งนี้เธอเลือกจะไม่ปล่อยผ่านไปเหมือนเช่นเคย ขาเรียวยาวที่กำลังเตรียมตัวจะก้าวลงไปในไร่และเริ่มงานหยุ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   เปล่านะคะ

    ลูกธนูแหลมคมแล่นผ่านหน้าเซียนอวี่ไปยังด้านหลัง ก่อนจะปักเข้าที่เจ้าหมูป่าตัวอ้วนที่กำลังวิ่งไล่เด็กสาวอยู่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงร้องด้านหลังจะดังขึ้นดังกว่าปกติ หลังจากนั้นก็เงียบไปแต่ขาของเซียนอวี่ก็ยังคงวิ่งอยู่ เธอวิ่งเข้าไปหาคนที่ยิงธนูเฉียดหน้าเธอไปอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะเข้าไปหลบด้านหลังของชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับตัวเองทันทีหมูป่าถูกลูกธนูเมื่อสักครู่ปัดลงกลางหัว ทำให้ตอนนี้มันล้มตัวนอนอยู่กับพื้น ไม่รู้ว่าสิ้นใจตายแล้วหรือยัง แต่เรื่องนั้นเซียนอวี่ไม่ได้สนใจ ขอแค่มันไม่วิ่งไล่เธอเหมือนเมื่อครู่ก็พอ เธอกลัวจนฉี่แทบจะราดต่อหน้าทุกคนเสียแล้ว โชคดีที่กลั้นเอาไว้ทัน เธอบอกแล้วว่าสวรรค์เล่นตลกกับเธอ ขนาดมีคนตั้งเยอะตั้งแยะ ไอ้หมูบ้านั่นยังเลือกจะวิ่งไล่เธอเลย“มันตายแล้ว” เสียงเข้มดังขึ้นบนหัว เซียนอวี่ได้แต่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองช้า ๆ ก่อนจะเห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้เป็นใคร เธอเม้มปากกลั้นน้ำตามที่จวนจะไหลออกมาเต็มแก่เอาไว้ ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนช้า ๆยังไม่ทันที่เธอจะยืนขึ้นเองได้เสร็จ คนตรงหน้าก็จับต้นแขนของเธอแล้วดึงขึ้นเสียก่อน ร่างกายของเธอไม่สามาร

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   การเอาหน้าเป็นเรื่องสำคัญนะคะ

    อย่างที่เธอบอก หลังจากมาถึงที่หมู่บ้าน ทุกคนก็จะได้ทำงานทันที ไม่มีข้อยกเว้นให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น หลาย ๆ คนไม่ทันระวังตัว พวกเขาคิดว่าชาวบ้านจะให้ปรับตัวก่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ให้คนสิบยี่สิบคนมาอยู่เฉย ๆ เป็นอาทิตย์ แล้วใครจะเป็นคนออกเงินค่าข้าวค่าน้ำให้กันล่ะ หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าให้ไปเอาอาหารที่บ้านของตนเองก็จริง แต่นั่นก็เป็นส่วนแบ่งจากการทำงานของทุกคนตลอดอาทิตย์ต่างหากพูดตามตรง หัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ยิ่งภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านนั้นยิ่งแล้วใหญ่เลย ของหลาย ๆ อย่างที่ดีหน่อยก็ถูกยายแก่นั่นยึดเอาไปกินเองในครอบครัว ชาติที่แล้วเธอเจออะไรแบบนี้มาไม่รู้ตั้งกี่เท่าไหร่ บางอาทิตย์ต้องทนกินแต่แป้งย่างโง่ ๆ เพราะของที่ดีหน่อยถูกริบเอาไปก่อนจะมาถึงพวกเธอจะรู้ตัวเสียอีก“วันนี้มีการเก็บข้าวโพดและเข้าไปหาของในป่า ทุกคนต้องแบ่งกันว่าจะทำหน้าที่ไหน แต่ต้องบอกก่อนว่าเข้าป่ามีความเสี่ยงที่จะเจอสัตว์ป่า ค่อนข้างอันตราย” ป้าฮุ่ยเข้ามาที่บ้านพักของเหล่าเยาวชนตั้งแต่เช้าตรู่หลายคนได้ยินว่าอาจจะเจอสัตว์ป่าที่อันตรายก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที ทุกคนพร้อมใจกัน

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   อะไรใหม่ ๆ

    ทันทีที่รถหยุดลง เซียนอวี่ก็รีบก้าวลงจากรถทันที เธอไม่มีท่าทางอิดออดหรือเหนื่อยอ่อนเหมือนคนอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย ขนาดผู้คุมยังอดแปลกใจไม่ได้ แต่ผู้คนเยอะแยะมากมาย ไม่มีใครมาสนใจเซียนอวี่มากขนาดนั้น ทุกคนยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเอง คนที่สนใจเซียนอวี่ก็มีแต่ซ่งหนิงหนิงเท่านั้นตั้งแต่ขึ้นรถ ซ่งหนิงหนิงเอาแต่นั่งร้องไห้ เธออยากจะรู้จริง ๆ ว่าร้องไห้ทำไม ร้องไห้เพราะถูกแยกกับครอบครัวที่พึ่งเจอกัน หรือร้องไห้เพราะตัวเองถูกกระชากลงจากสวรรค์ ก็แหม...คนไม่ชอบขี้หน้ากัน จะให้ไปมองในแง่ดีก็ออกจะประหลาดไปสักหน่อย“เอาล่ะ ต่อจากนี้ทุกคนจะต้องมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ร่วมกัน ขาดเหลืออะไรก็มาติดต่อที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านได้ เรื่องหน้าที่ของทุกคนเดี๋ยวจะมีคนไปแจกแจงอีกที ตอนนี้ทุกคนเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ”เซียนอวี่ยืนฟังนิ่ง ๆ เหมือนคนรับชะตากรรมตัวเองได้ เมื่อจบคำของหัวหน้าหมู่บ้าน เธอรีบเดินตรงไปยังบ้านพักที่ถูกสร้างเอาไว้สำหรับเยาวชนทันที แม้ว่าจะยังไม่มีใครบอกว่าหลังไหนก็ตามแต่คนอื่น ๆ ก็แค่แปลกใจ พวกเขาไม่ได้สงสัยอะไรมาก รู้ไม่รู้แล้วอย่างไร สุดท้ายเด็ก ๆ พวกนี้ก็ต้องมาอยู่ที่นี่อีกนาน บางคนอ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   ของขวัญไงคะ

    หลังจากซื้อของวันนั้น ในที่สุดเวลาก็ผ่านมาจนถึงวันที่ทุกครอบครัวต้องร่ำไห้ หลายครอบครัวออกมาส่งลูกหลานของตัวเองไปต่างที่ต่างทาง แต่ก็มีหลายครอบครัวที่มีท่าทางเมินเฉยแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือคนบ้านซ่ง หลังจากซื้อของจนพอใจ แถมยังไปขอเอาเงินจากคุณนายซ่งมาได้หลายพันหยวน เซียนอวี่ก็รีบขนย้ายของออกไปจากบ้านทันที ไม่ใช่เธอย้ายตัวเองออก แต่เป็นการย้ายเพียงแค่ของที่ต้องการจะเอาไปเพราะหลังจากที่เธอย้ายของมีค่าทั้งหลายออกไปฝากไว้ที่ไปรษณีย์ จดหมายจากทางการก็ส่งตรงมาที่บ้านซ่งในทันที หัวข้อคือการส่งตัวทายาทในบ้านให้ไปเป็นเยาวชนที่ชนบทห่างไกลแต่บ้านซ่งได้ส่งรายชื่อไปแล้วว่าจะให้ใครไป พวกเขาได้แต่แปลกใจว่าทำไมถึงมีจดหมายส่งมาซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะได้อ่านจดหมายแนบอีกฉบับที่แนบมาด้านหลังเนื้อความในจดหมายแนบนั้นมีอยู่ว่า ทางการรับรู้เรื่องการรับเลี้ยงซ่งเซียนอวี่ของตระกูลซ่งแล้ว ท่านผู้น้ำต้องการให้ทุกครอบครัวส่งทายาทของตนเองไป ดังนั้นครอบครัวซ่งจำเป็นต้องส่งทายาทที่แท้จริงของตนเองไป ไม่ใช่เด็กที่รับมาเลี้ยงตามที่ส่งรายชื่อมามือไม้ของสามพ่อแม่ลูกอ่อนไปหมด ส่วนคนที่ถึงกับล้มพับไปกับพื้นก็จะเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status