อย่างที่เธอบอก หลังจากมาถึงที่หมู่บ้าน ทุกคนก็จะได้ทำงานทันที ไม่มีข้อยกเว้นให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น หลาย ๆ คนไม่ทันระวังตัว พวกเขาคิดว่าชาวบ้านจะให้ปรับตัวก่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์
ให้คนสิบยี่สิบคนมาอยู่เฉย ๆ เป็นอาทิตย์ แล้วใครจะเป็นคนออกเงินค่าข้าวค่าน้ำให้กันล่ะ หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าให้ไปเอาอาหารที่บ้านของตนเองก็จริง แต่นั่นก็เป็นส่วนแบ่งจากการทำงานของทุกคนตลอดอาทิตย์ต่างหาก
พูดตามตรง หัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ยิ่งภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านนั้นยิ่งแล้วใหญ่เลย ของหลาย ๆ อย่างที่ดีหน่อยก็ถูกยายแก่นั่นยึดเอาไปกินเองในครอบครัว ชาติที่แล้วเธอเจออะไรแบบนี้มาไม่รู้ตั้งกี่เท่าไหร่ บางอาทิตย์ต้องทนกินแต่แป้งย่างโง่ ๆ เพราะของที่ดีหน่อยถูกริบเอาไปก่อนจะมาถึงพวกเธอจะรู้ตัวเสียอีก
“วันนี้มีการเก็บข้าวโพดและเข้าไปหาของในป่า ทุกคนต้องแบ่งกันว่าจะทำหน้าที่ไหน แต่ต้องบอกก่อนว่าเข้าป่ามีความเสี่ยงที่จะเจอสัตว์ป่า ค่อนข้างอันตราย” ป้าฮุ่ยเข้ามาที่บ้านพักของเหล่าเยาวชนตั้งแต่เช้าตรู่
หลายคนได้ยินว่าอาจจะเจอสัตว์ป่าที่อันตรายก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที ทุกคนพร้อมใจกันแยกไปฝั่งที่จะไปทำไร่ทำสวนทันที จะมีก็แต่เซียนอวี่ที่ยังอยู่ในกลุ่มหาของป่ากับชาวบ้าน
“พี่จะเข้าป่าหรอคะ มันอันตรายนะคะพี่ มาเก็บข้าวโพดด้วยกันเถอะนะคะ” ซ่งหนิงหนิงแม้จะเคยลำบากมาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ถึงขนาดต้องเข้าป่าหาของกินมาก่อน แถมเธอยังเคยเห็นอดีตเพื่อนบ้านถูกสัตว์ป่าทำร้ายจนตายมาก่อน เพราะอย่างนั้นทันทีที่ป้าฮุ่ยบอกให้เลือก เธอจึงไม่ลังเลเลยที่จะมายืนข้างฝั่งทำงานในไร่
เซียนอวี่หันไปมองหนิงหนิงที่เหมือนจะหวังดีกับเธอด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ เธอเพียงแค่ส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเปิดปากพูดคำที่สามารถเรียกความน่าเอ็นดูจากคนในหมู่บ้านออกไปเมื่อได้โอกาส
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันว่าจะลองเข้าไปหาของในป่ากับทุกคนดู ยังไงเราก็ลงงานในไร่อย่างเดียวไปตลอดไม่ได้ เข้าป่าอาจจะได้เนื้อสัตว์มากินบ้าง ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็ยังมีโอกาส”
เยาวชนหลายคนอดซึ้งใจในคำพูดของเซียนอวี่ไม่ได้ การลงงานในไร่จะได้ค่าตอบแทนเป็นเหล่าธัญพืชทั้งหลายที่เก็บเกี่ยวได้ในไร่ ดังนั้นถ้าพวกเขาไม่ยอมไปหาเนื้อสัตว์เอง พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะได้ลิ้มรสชาติของเนื้อเลย
“แต่เราก็ไปซื้อมากินได้นี่คะ ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากด้วยล่ะคะ” เธอไม่มีทางยอมให้พี่สาวไปในป่ากับพวกชาวบ้านแน่ ๆ ถ้าเกิดว่าได้เข้าป่ากับคนอื่น ๆ พี่ก็จะสนิทสนมกับชาวบ้านมากกว่าเธอ เธอไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่
“อะไรกัน ก็แค่เข้าป่าหาของ เธอนั่นแหละที่กำลังทำให้ยุ่งยาก ทุกคนกำลังเสียเวลาเพราะเธออยู่ ไป ไปกันได้แล้ว มัวแต่พูดพร่ำอะไรเสียเวลา” ชาวบ้านที่ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ รู้สึกไม่ชอบใจในคำพูดของเด็กสาวนัก
การที่พวกเขาเข้าป่าหาของกินเป็นการกระทำที่ยุ่งยากก็จริง แต่มันก็เพื่อปากท้องไม่ใช่หรือ เด็กนั่นพูดออกมาง่าย ๆ ว่าเอาเงินไปซื้อกิน มันก็ใช่อยู่ แต่เงินน่ะ ชาวบ้านอย่างพวกเธอไม่ได้หาง่าย ๆ เสียหน่อย
“ขอโทษแทนหนิงหนิงด้วยนะคะ เธอพึ่งถูกรับตัวกลับมาอยู่บ้านได้ไม่ถึงเดือน คงยังตั้งสติไม่ได้ ถูกรับตัวกลับมาแล้วก็ถูกพรากจากมาอีก ฉันต้องขอโทษแทนเธอจริง ๆ ค่ะที่พูดจาไม่น่าฟัง”
“ไม่เป็นไรหรอก เด็กคนนั้นเคยลำบากมาก่อน เห็นว่าทำงานหนักเลยทีเดียว ถ้าจะคิดว่าเงินที่พ่อแม่ให้ติดตัวมามันจะอยู่ได้ตลอดไปมันก็ไม่แปลก คงเพราะไม่เคยจัดการเงินด้วยตัวเอง คิดว่ามีเงินเท่านั้นแล้วจะอยู่ได้อย่างสุขสบายล่ะสิท่า”
“ฮึ ฉันล่ะไม่ถูกใจเอาเสียเลย ไปเถอะ รีบเดินต่อได้แล้ว วันนี้เราจะเข้าไปลึกหน่อยก็แล้วกัน ส่วนเรื่องสัตว์ป่าอะไรนั่นน่ะเซียนอวี่ จริง ๆ แล้วมันแทบจะไม่มีเลยต่างหาก ที่บอกไปแบบนั้นเพราะมันแค่มีโอกาสเจอเท่านั้น แต่พวกเราเข้าป่านี้มาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ก็ไม่เคยเห็นใครเจอสัตว์ป่าดุร้ายสักตัว มากสุดก็คงหมูป่ากระมัง”
“จริงหรอคะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลย” ดีอยู่แล้ว เพราะเธอจำได้ว่าชาติก่อนมีคนไปเจอหมูป่าหลงเข้ามาตัวใหญ่เชียว แต่เพราะว่าเหล่าเยาวชนไม่มีใครเข้าไปในป่ากับคนอื่น ๆ เลยแม้แต่คนเดียว เนื้อหมูป่าที่ล่ามาได้จึงไม่มีชาวบ้านคนไหนยินดีแบ่งปันให้กลุ่มเด็กหน้าใหม่ในหมู่บ้านแม้แต่ชิ้นเดียว
เซียนอวี่สะพายตะกร้าเดินตามชาวบ้าน เธอใส่หมวกปีกกว้างแล้วใช้ผ้าปิดหน้าป้องกันกิ่งไม้ขีดข่วนใบหน้าจนเกิดรอยแผล เสื้อผ้าก็ใส่อย่างมิดชิดจนมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรมาทำให้ร่างกายของเธอเกิดแผลหรือรอยขีดข่วนได้
ในป่าก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เซียนอวี่เก็บผักที่พอจะจำได้ว่าสามารถกินได้มาใส่ตะกร้าเล็ก ๆ น้อย ๆ เธอเข้าป่าไม่ได้ต้องการหาอาหารไปเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของคนในบ้านพัก แต่เธอมาเพื่อตีสนิทและเอาหน้ากับคนในหมู่บ้าน ยิ่งกลุ่มสตรีในหมู่บ้านเธอยิ่งต้องเอาใจและเอามาอยู่ฝั่งตัวเองให้ได้ ไม่อย่างนั้นในอนาคตอาจจะมีปัญหาได้
แน่นอนว่าของดี ๆ ที่เก็บได้ เซียนอวี่ตั้งใจจะซ่อนเอาไว้กินเองคนเดียว อย่าคิดว่าเธอจะโง่แบ่งคนอื่นกินเหมือนที่ปากพูด เยาวชนที่มาด้วยกันก็ไม่ใช่ว่าจะดี ใครพลาดก็พร้อมจะเหยียบซ้ำกันทั้งนั้น เธอเองก็เคยโดนหลายคนกระทำมาไม่น้อย
เธอจำได้เลยตอนที่ไปผ่าตัดเปลี่ยนไตตามคำขอของพ่อกับแม่ เธอต้องกลับมาพักร่างกายที่บ้านพัก เพื่อน ๆ ที่อยู่ด้วยกันไม่มีใครเหลียวแลเธอสักคน แต่เธอก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไร เพราะยังไงเรื่องที่เธอป่วยมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเพื่อนที่จะต้องมาดูแลเธอ
เธอไม่โกรธ แต่เหตุการณ์นั้นก็ทำให้เธอเข้าใจได้ทันทีว่าควรวางตัวเองและรักษาระยะห่างของความสัมพันธ์กับทุกคนยังไง เอาเป็นว่าเธอตั้งใจจะอยู่อย่างสันโดษ รอวันที่มีโอกาสได้โยกย้าย เธอจะไม่ลังเลเลยที่จะย้ายออกจากที่นั่น
“นั่นเสียงอะไรน่ะ” ระหว่างที่เดินหาผักป่ากันอยู่ จู่ ๆ ชาวบ้านที่เดินนำหน้าเป็นหัวขบวนก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างตกใจ ชาวบ้านคนอื่น ๆ เองก็มีสีหน้าแตกตื่นไม่แพ้กัน หากคนที่เข้าออกป่าหาของกินมาตั้งแต่ยังเด็กคงจะรู้ดี ว่าเสียงแบบนี้หมายถึงอะไร
เซียนอวี่เม้มปากข่มความกลัว แม้จะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เธอก็ยังอดที่จะกลัวไม่ได้ ถึงชาติก่อนจะไม่มีคนบาดเจ็บ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ขนาดซ่งหนิงหนิงยังถูกส่งมาหมู่บ้านเดียวกับเธอเลย เห็นกันชัด ๆ แล้วว่าสวรรค์ไม่ได้รักเธอมากขนาดนั้น! ไม่รู้ว่าให้เธอย้อนกลับมาเพราะยังไม่สาแก่ใจกับสิ่งที่เธอโดน หรือเพราะสงสารในความโง่ของเธอกันแน่
ไม่นานทุกคนก็ได้เห็นว่าเจ้าตัวที่ส่งเสียงมันคืออะไร หมูป่าตัวใหญ่ดูน่ากลัวยืนอยู่ไม่ไกล เขี้ยวของมันใหญ่จนน่ากลัว แถมดวงตายังแดงก่ำ ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา ด้านหลังของมันมีไม้เสียบอยู่ น่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้มันอาละวาดจนเข้ามาในเขตมนุษย์อย่างแน่นอน
“พวกเราค่อย ๆ ถอยออกมา ขยับช้า ๆ อย่าส่งเสียงดัง ใครใกล้ต้นไม้ให้รีบปีนต้นไม้สูงให้เร็วเลย” หัวหน้ากลุ่มรีบเอ่ยปากบอก เธอเป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางคล่องแคล่วแข็งแรง
เซียนอวี่ไม่คิดจะแสดงความสามารถหรือเอาหน้าอะไรทั้งนั้น เธออยากเอาหน้าก็จริง แต่เธอรักชีวิตตัวเองมากกว่า! ใครจะไปสู้กับหมูตัวนั้นก็ไป เธอไม่ยอมไปแน่นอน
เมื่อเห็นมนุษย์เริ่มขยับ เจ้าหมูที่เดิมทีอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่แล้วก็เริ่มวิ่งไล่พวกมนุษย์หน้าหงุดหงิดทันที เซียนอวี่วิ่งหน้าตั้งหนีหมูป่าอย่างไม่คิดชีวิต ตอนนี้กิ่งไม้จะข่วนเธอ เธอก็ไม่รู้สึกตัวแล้วด้วยซ้ำ
กรี้ดดดดดดดดด
เด็กสาวจากเมืองหลวงกรีดร้องออกมาอย่างไม่คิดเขินอาย ตอนนี้หมูป่าตัวนั้นมันวิ่งเข้ามาไล่เธอไม่หยุด เซียนอวี่นึกเสียใจที่เอาตัวเองมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้น แต่เธอก็เลือกเสนอหน้ามา เธอนี่มันโง่แล้วอวดเก่งดีจริง ๆ
“ช่วยด้วย กรี้ดดดดด”
ปัก!
อี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ขอบคุณค่ะ” เซียนอวี่ขอบคุณคนตัวโตที่ถือวิสาสะแย่งของไปถือแล้วเดินมาส่งตัวเองถึงบ้านพัก อันที่จริงเธอก็ขอบคุณมาก ๆ นั่นแหละ ถ้าไม่ติดว่าเจ้าคนตัวโตนี่เอาแต่แซะนั่นแวะนี่เธอไม่หยุดตลอดทาง ว่าเธอขาสั้นบ้างล่ะ ตัวเตี้ยบ้างล่ะ“ไม่เป็นไร ของนี่ถ้ายกไม่ไหวก็ลากเข้าไปในห้องนะ” เขาไม่อยากเข้าไปในบ้านพักของสตรี อย่างไรบ้านหลังนี้ก็มีแต่ผู้หญิง ถ้าให้ผู้ชายตัวโตอย่างเขาเข้าไป คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่“อื้ม ว่าแต่...นายชื่ออะไรหรอ เจอกันหลายรอบแล้ว ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย อ้อ ฉันชื่อซ่งเซียนอวี่ เรียกว่าเซียนอวี่ก็ได้” เธอได้อีกคนช่วยไว้ตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เขากลับไม่เคยถามชื่อหรือแนะนำตัวกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว“หมิงหาน เหยาหมิงหาน เธอเรียกว่าหมิงหานก็ได้ ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวมีคนมา-” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ซ่งหนิงหนิงก็โผล่เข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงร้องตะโกนจนทุกคนต้องหันไปมองเธอ“พี่หมิงหาน! เอ้ะ พี่เซียนอวี่ พี่รู้จักพี่หมิงหานด้วยหรอคะ” ซ่งหนิงหนิงเดินสะพายตะกร้าที่เต็มไปด้วยผักเข้ามาพร้อมกับคนอื่น ๆ ระหว่างกำลังจะกลับเข้าบ้านพัก เธอกลับเห็นคนคุ้นตาเข้าเสียก่อ
เช้าวันนี้เซียนอวี่เตรียมตัวลงไร่กับคนอื่น ๆ หลังจากที่เธอเลือกจะเข้าป่าหาของมาให้คนในบ้านพักกินมาหลายวัน ตอนนี้ก็เริ่มมีคนไม่พอใจ หาว่าเธออู้งานกินแรงเพื่อนคนอื่น ๆ เธอเลยเปลี่ยนใจไม่เข้าป่าเหมือนทุกวัน“พี่คะ งานในไร่หนักมาก พี่ไม่เคยหยิบจับอะไรมาก่อน แบบนี้จะทำได้หรอคะ กลับไปเข้าป่าหาผักดีกว่ามั้ยคะ” ซ่งหนิงหนิงพยายามเป็นอย่างมากที่จะเข้ามาคุยกับเซียนอวี่ แต่ก็มักจะถูกเซียนอวี่เมินเฉยราวกับอากาศไปเสียทุกทีวันนี้ซ่งหนิงหนิงเองก็ถูกซ่งเซียนอวี่เมินอีกเช่นเคย ท่าทางจองหองถือตัวนั้นทำให้หลาย ๆ คนไม่พอใจ บวกกับหลายวันที่ผ่านมาเซียนอวี่มักจะแยกตัวออกไปทำงานเข้าป่ากับเหล่าชาวบ้าน แถมห้องพักก็พักเป็นห้องเดี่ยวไม่มีเพื่อน ซ่งหนิงหนิงเลยสนิทกับคนอื่น ๆ มากกว่า“อะไรกัน เซียนอวี่ก็เป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงแท้ ๆ ทำไมถึงได้ทำตัวสูงส่งนักล่ะ เธอควรจะขอบใจและซึ้งใจหนิงหนิงเข้าไว้สิ ตัวเองไปแย่งวาสนาคนอื่นมาแท้ ๆ ตอนนี้ยังจะมาจองหองใส่คนเขาอีก”ปกติแล้วเซียนอวี่จะนิ่งเฉยกับคนอื่น ๆ ในบ้านพัก แต่ครั้งนี้เธอเลือกจะไม่ปล่อยผ่านไปเหมือนเช่นเคย ขาเรียวยาวที่กำลังเตรียมตัวจะก้าวลงไปในไร่และเริ่มงานหยุ
ลูกธนูแหลมคมแล่นผ่านหน้าเซียนอวี่ไปยังด้านหลัง ก่อนจะปักเข้าที่เจ้าหมูป่าตัวอ้วนที่กำลังวิ่งไล่เด็กสาวอยู่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงร้องด้านหลังจะดังขึ้นดังกว่าปกติ หลังจากนั้นก็เงียบไปแต่ขาของเซียนอวี่ก็ยังคงวิ่งอยู่ เธอวิ่งเข้าไปหาคนที่ยิงธนูเฉียดหน้าเธอไปอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะเข้าไปหลบด้านหลังของชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับตัวเองทันทีหมูป่าถูกลูกธนูเมื่อสักครู่ปัดลงกลางหัว ทำให้ตอนนี้มันล้มตัวนอนอยู่กับพื้น ไม่รู้ว่าสิ้นใจตายแล้วหรือยัง แต่เรื่องนั้นเซียนอวี่ไม่ได้สนใจ ขอแค่มันไม่วิ่งไล่เธอเหมือนเมื่อครู่ก็พอ เธอกลัวจนฉี่แทบจะราดต่อหน้าทุกคนเสียแล้ว โชคดีที่กลั้นเอาไว้ทัน เธอบอกแล้วว่าสวรรค์เล่นตลกกับเธอ ขนาดมีคนตั้งเยอะตั้งแยะ ไอ้หมูบ้านั่นยังเลือกจะวิ่งไล่เธอเลย“มันตายแล้ว” เสียงเข้มดังขึ้นบนหัว เซียนอวี่ได้แต่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองช้า ๆ ก่อนจะเห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้เป็นใคร เธอเม้มปากกลั้นน้ำตามที่จวนจะไหลออกมาเต็มแก่เอาไว้ ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนช้า ๆยังไม่ทันที่เธอจะยืนขึ้นเองได้เสร็จ คนตรงหน้าก็จับต้นแขนของเธอแล้วดึงขึ้นเสียก่อน ร่างกายของเธอไม่สามาร
อย่างที่เธอบอก หลังจากมาถึงที่หมู่บ้าน ทุกคนก็จะได้ทำงานทันที ไม่มีข้อยกเว้นให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น หลาย ๆ คนไม่ทันระวังตัว พวกเขาคิดว่าชาวบ้านจะให้ปรับตัวก่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ให้คนสิบยี่สิบคนมาอยู่เฉย ๆ เป็นอาทิตย์ แล้วใครจะเป็นคนออกเงินค่าข้าวค่าน้ำให้กันล่ะ หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าให้ไปเอาอาหารที่บ้านของตนเองก็จริง แต่นั่นก็เป็นส่วนแบ่งจากการทำงานของทุกคนตลอดอาทิตย์ต่างหากพูดตามตรง หัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ยิ่งภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านนั้นยิ่งแล้วใหญ่เลย ของหลาย ๆ อย่างที่ดีหน่อยก็ถูกยายแก่นั่นยึดเอาไปกินเองในครอบครัว ชาติที่แล้วเธอเจออะไรแบบนี้มาไม่รู้ตั้งกี่เท่าไหร่ บางอาทิตย์ต้องทนกินแต่แป้งย่างโง่ ๆ เพราะของที่ดีหน่อยถูกริบเอาไปก่อนจะมาถึงพวกเธอจะรู้ตัวเสียอีก“วันนี้มีการเก็บข้าวโพดและเข้าไปหาของในป่า ทุกคนต้องแบ่งกันว่าจะทำหน้าที่ไหน แต่ต้องบอกก่อนว่าเข้าป่ามีความเสี่ยงที่จะเจอสัตว์ป่า ค่อนข้างอันตราย” ป้าฮุ่ยเข้ามาที่บ้านพักของเหล่าเยาวชนตั้งแต่เช้าตรู่หลายคนได้ยินว่าอาจจะเจอสัตว์ป่าที่อันตรายก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที ทุกคนพร้อมใจกัน
ทันทีที่รถหยุดลง เซียนอวี่ก็รีบก้าวลงจากรถทันที เธอไม่มีท่าทางอิดออดหรือเหนื่อยอ่อนเหมือนคนอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย ขนาดผู้คุมยังอดแปลกใจไม่ได้ แต่ผู้คนเยอะแยะมากมาย ไม่มีใครมาสนใจเซียนอวี่มากขนาดนั้น ทุกคนยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเอง คนที่สนใจเซียนอวี่ก็มีแต่ซ่งหนิงหนิงเท่านั้นตั้งแต่ขึ้นรถ ซ่งหนิงหนิงเอาแต่นั่งร้องไห้ เธออยากจะรู้จริง ๆ ว่าร้องไห้ทำไม ร้องไห้เพราะถูกแยกกับครอบครัวที่พึ่งเจอกัน หรือร้องไห้เพราะตัวเองถูกกระชากลงจากสวรรค์ ก็แหม...คนไม่ชอบขี้หน้ากัน จะให้ไปมองในแง่ดีก็ออกจะประหลาดไปสักหน่อย“เอาล่ะ ต่อจากนี้ทุกคนจะต้องมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ร่วมกัน ขาดเหลืออะไรก็มาติดต่อที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านได้ เรื่องหน้าที่ของทุกคนเดี๋ยวจะมีคนไปแจกแจงอีกที ตอนนี้ทุกคนเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ”เซียนอวี่ยืนฟังนิ่ง ๆ เหมือนคนรับชะตากรรมตัวเองได้ เมื่อจบคำของหัวหน้าหมู่บ้าน เธอรีบเดินตรงไปยังบ้านพักที่ถูกสร้างเอาไว้สำหรับเยาวชนทันที แม้ว่าจะยังไม่มีใครบอกว่าหลังไหนก็ตามแต่คนอื่น ๆ ก็แค่แปลกใจ พวกเขาไม่ได้สงสัยอะไรมาก รู้ไม่รู้แล้วอย่างไร สุดท้ายเด็ก ๆ พวกนี้ก็ต้องมาอยู่ที่นี่อีกนาน บางคนอ
หลังจากซื้อของวันนั้น ในที่สุดเวลาก็ผ่านมาจนถึงวันที่ทุกครอบครัวต้องร่ำไห้ หลายครอบครัวออกมาส่งลูกหลานของตัวเองไปต่างที่ต่างทาง แต่ก็มีหลายครอบครัวที่มีท่าทางเมินเฉยแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือคนบ้านซ่ง หลังจากซื้อของจนพอใจ แถมยังไปขอเอาเงินจากคุณนายซ่งมาได้หลายพันหยวน เซียนอวี่ก็รีบขนย้ายของออกไปจากบ้านทันที ไม่ใช่เธอย้ายตัวเองออก แต่เป็นการย้ายเพียงแค่ของที่ต้องการจะเอาไปเพราะหลังจากที่เธอย้ายของมีค่าทั้งหลายออกไปฝากไว้ที่ไปรษณีย์ จดหมายจากทางการก็ส่งตรงมาที่บ้านซ่งในทันที หัวข้อคือการส่งตัวทายาทในบ้านให้ไปเป็นเยาวชนที่ชนบทห่างไกลแต่บ้านซ่งได้ส่งรายชื่อไปแล้วว่าจะให้ใครไป พวกเขาได้แต่แปลกใจว่าทำไมถึงมีจดหมายส่งมาซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะได้อ่านจดหมายแนบอีกฉบับที่แนบมาด้านหลังเนื้อความในจดหมายแนบนั้นมีอยู่ว่า ทางการรับรู้เรื่องการรับเลี้ยงซ่งเซียนอวี่ของตระกูลซ่งแล้ว ท่านผู้น้ำต้องการให้ทุกครอบครัวส่งทายาทของตนเองไป ดังนั้นครอบครัวซ่งจำเป็นต้องส่งทายาทที่แท้จริงของตนเองไป ไม่ใช่เด็กที่รับมาเลี้ยงตามที่ส่งรายชื่อมามือไม้ของสามพ่อแม่ลูกอ่อนไปหมด ส่วนคนที่ถึงกับล้มพับไปกับพื้นก็จะเ