เซียนอวี่ใช้เวลาในการรวบรวมเงินและทองทั้งหมดที่มีจนหัวหมุน เธอเอาของมีค่าในห้องของตัวเองไปขายแลกเงินให้หมด ชิ้นไหนที่พอทำเงินได้ถูกเธอขายทั้งหมด พอขายเสร็จเซียนอวี่ก็เอาเงินไปซ่อนไว้ที่ลับ ตั้งใจว่าจะเอาออกมาวันที่ต้องออกเดินทาง
เธอทำแบบนั้นจนถึงวันที่จดหมายมาถึง พ่อแม่ซ่งเรียกลูก ๆ ในบ้านมานั่งรวมกันที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน ทั้งสองมีสีหน้าเศร้าโศกยามเมื่อมองลูก ๆ มองแล้วน่าสงสารจับใจ เหมือนกับพ่อแม่ที่จะต้องสูญเสียลูกน้อยของตนเอง
เซียนอวี่เองก็จำเป็นต้องเล่นละครไปกับทุกคนด้วย เธอนั่งมองทุกคนด้วยสีหน้างุนงง ก่อนจะฟังเจ้าของบ้านอย่างพ่อซ่งหยิบเอาจดหมายที่อยู่ในมือขึ้นมาอ่าน ก่อนที่สีหน้าของทุกคนจะย่ำแย่พอ ๆ กัน
“หมายความว่าเราต้องส่งตัวแทนในบ้านไปหนึ่งคน ครอบครัวใครครอบครัวมัน จะไปเอาลูกหลานของคนในตระกูลมาก็คงจะไม่ได้ ครอบครัวอื่นเขาก็ต้องส่งลูก ๆ ของเขาไปเหมือนกัน”
“แล้ว...พ่อคิดหรือยังครับว่าจะส่งใครไป” พี่ชายซ่งที่นั่งนิ่งทำหน้าเครียดไม่แพ้ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามขึ้น เขามองมาที่น้องสาวทั้งสองคนอย่างเป็นห่วง ทางเซียนอวี่นั้นได้รับสายตาเศร้า ๆ ส่วนทางหนิงหนิงกลับได้รับสายตาที่ทั้งห่วงทั้งสงสาร
“ยังหรอก จดหมายพึ่งมา แต่ก็มีคิดไว้ในใจแล้ว แต่พ่อขอกลับไปคิดดี ๆ ก่อนก็แล้วกันนะ พวกลูกอย่าพึ่งกังวลไป พ่ออาจจะหาทางออกให้ลูก ๆ ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาได้”
เรื่องจบลงที่ว่าพ่อซ่งบอกจะกลับไปคิดหาทางให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เช้าวันต่อมากลับเรียกทุกคนมารวมตัวกันอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้ามากอดเธอและร้องไห้ขอโทษเธอที่ต้องเลือกส่งเธอออกไป
“พ่อเขาไม่ได้อยากส่งลูกออกไปเลย พวกเราอยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา” แม่ซ่งที่อยู่ข้างหลังรีบเดินเข้ามาจับมือลูกเลี้ยงที่เอาแต่ยืนนิ่งไปทันทีที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ถูกเลือก
ไม่รู้ว่าเพราะตกใจจนพูดอะไรไม่ออกหรือว่าอย่างไร แต่เซียนอวี่นิ่งไปตั้งแต่สามีของเธอบอกว่าจะส่งเจ้าตัวไป อันที่จริงเธอและสามีจะบอกเซียนอวี่เรื่องฐานะที่แท้จริง พร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงเลือกส่งเจ้าตัวไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่พอมาปรึกษากันดี ๆ นิสัยของเซียนอวี่น่าจะไม่ยอมง่าย ๆ ถ้ารู้ว่าตัวเองหาทางรอดได้
เพราะอย่างนั้นเธอและสามีจึงได้ตกลงกันว่าจะปิดบังเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเซียนอวี่เอาไว้ก่อน ให้จัดการเรื่องส่งตัวไปให้เรียบร้อยก่อนค่อยบอกความจริง ป้องกันไม่ให้เซียนอวี่เล่นอะไรตุกติกใส่ทีหลัง
“ส่งหนูไป...สินะคะ” เธอไม่ได้ตกใจ แต่แค่กำลังแสดงละครให้คนพวกนี้เห็นก็เท่านั้น เธอตั้งใจว่าจะทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ
ชีวิตก่อนตอนรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกเลือกให้ไปชนบท เธอโวยวายว่าทำไมไม่ส่งหนิงหนิงไป อีกคนน่าจะเชี่ยวชาญการใช้ชีวิตและเอาตัวรอดในชนบทแบบนั้นมากกว่าเธอหลายเท่า ทำไมถึงเลือกที่จะส่งเธอกลับไป
แน่นอนว่าคำตอบที่ได้มาก็คือหนิงหนิงลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว เธอจะเป็นพี่สาวที่เห็นแก่ตัวอยู่สุขสบายคนเดียวงั้นหรือ น้องพึ่งจะกลับมาอยู่กับครอบครัวได้ไม่กี่เดือน
ตอนนั้นเธออาวะลาดยกใหญ่ แต่สุดท้ายก็โดนส่งตัวไปอยู่ดี แถมเพราะเอาแต่โวยวายและอาละวาด ตอนถูกส่งตัวไปก็เลยไม่ได้ทันหยิบของมีค่าอะไรติดตัวไปมากมายเลยสักชิ้นเดียว จะมีก็แค่ที่ใส่ติดตัวไว้ตอนถูกจับส่งขึ้นรถไปเท่านั้น
“แม่คะ พ่อคะ ส่งหนูไปเถอะค่ะ พี่เขา พี่เขาไม่เคยต้องไปลำบาก หนูลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว เรื่องพวกนั้นสบายมากค่ะ” ซ่งหนิงหนิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รีบเข้าไปจับมือดึงพ่อแม่ซ่งให้หันไปหาตนเองทันที
เด็กสาวพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง คำพูดนี้...ชีวิตก่อนเซียนอวี่เองก็พูดมันออกไป แต่คำตอบที่ได้คือเธอมันเห็นแก่ตัว ไม่คิดสงสารน้อง ทั้งที่น้องลำบาก แต่ตัวเองเลือกที่จะสบายเพียงคนเดียว
“โถ่อาหนิง ลูกแม่...ลูกลำบากมาทั้งชีวิต พ่อกับแม่ผิดต่อลูก จะให้ส่งลูกไปลำบากอีกได้ยังไงกัน แม่-” คุณนายซ่งแสนจะเอ็นดูลูกสาวแท้ ๆ ของตนเอง ช่างเป็นคนที่มีน้ำใจและใจดีเสียเหลือเกิน
“แม่ก็เลยเลือกจะส่งหนูไปแทน ตกลงค่ะ หนูจะไปเอง ต้องเดินทางวันไหนคะ”
คนทั้งห้องหันมามองหน้าเซียนอวี่อย่างตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าซ่งเซียนอวี่จะยอมตกลงง่าย ๆ นี่ไม่ใช่การส่งไปต่างประเทศหรือไปห้างสรรพสินค้าแบบที่เด็กสาวชอบนะ แต่นี่เป็นชนบทที่แทบจะไม่มีความเจริญเลยแม้แต่น้อย
“อะ ซะ เซียนอวี่ ลูก” ทั้งพ่อและแม่ซ่งเห็นเซียนอวี่มีท่าทางไม่เหมือนที่ตนเองคิดก็ไปไม่เป็นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่พ่อซ่งจะเป็นคนที่ตั้งสติได้ก่อนแล้วรีบบอกรายละเอียดให้เด็กสาวได้รู้
เธอรีบรับเอาจดหมายส่งตัวมาอ่านรายละเอียด ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องนอนของตัวเอง เธอไม่เหลือเยื่อใยกับคนในครอบครัวนี้แล้วจริง ๆ ชีวิตก่อน เธอได้ตอบแทนพวกเขาไปหมดแล้ว ให้ไปหมดแล้วจริง ๆ แม้กระทั่งชีวิตของเธอ เธอก็ให้ครอบครัวซ่งไปแล้ว
สาเหตุการตายที่แท้จริงของเธอมาจากร่างกายอ่อนแอ แน่นอนว่าเพราะลำบากด้วยส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือ...คนบ้านซ่งเคยได้ขอให้เธอผ่าตัดเปลี่ยนไตของตนเองให้ซ่งหนิงหนิง
ตอนนั้นเธอคิดว่าถ้าเธอยอมผ่านตัดเปลี่ยนไตให้ซ่งหนิงหนิง ตระกูลซ่งจะรับเธอกลับไป จะช่วยให้เธอไม่ต้องทนความยากลำบาก แต่ไม่เลย...คนพวกนั้นหลอกและให้ความหวังเธอเพียงเท่านั้น
ไม่มีใครสามารถขัดคำสั่งของรัฐบาลได้ แน่นอนว่าคนพวกนั้นรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว แต่ก็เลือกที่จะให้สัญญากับเธอ ให้ความหวังเธอ แต่ก็เป็นเธอเองที่โง่เชื่อคำพูดของคนบ้านนั้นด้วยนั่นแหละ ชาตินี้เธอเลยไม่คิดว่าตัวเองจะติดค้างอะไรคนที่นี่อีก เพราะเธอก็ได้ให้ชีวิตของเธอไปกับซ่งหนิงหนิงแล้ว การได้ไตของเธอไปเปลี่ยนให้ซ่งหนิงหนิง ก็เหมือนการให้ชีวิตใหม่กับอีกคน เพราะแบบนั้นเธอเลยไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด แม้ว่าที่ทำอยู่จะดูเห็นแก่มากตัวก็ตาม
แต่ใครจะยินดีให้ตัวเองลำบากล่ะ ถ้ารู้ว่าทำแล้วตัวเองจะสบาย จะเลือกไม่ทำงั้นหรอ เธอไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนที่เป็นคนดีมีคุณธรรมจนเลือกทิ้งทางรอดให้กับตัวเอง
หลังจากรู้ข่าว เธอเลือกที่จะเก็บตัวเงียบ แสดงละครให้คนพวกนั้นเชื่อว่าเธอกำลังเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมาก มีแค่เวลาอาหารเท่านั้นที่เธอจะลงไปพบหน้าทุกคน
ส่วนทางหนิงหนิงที่สุดแสนจะใจดีก็มาเคาะประตูห้องนอนเธอทุกวัน มาเคาะบ่อยจนเธอเกือบจะเผลอเปิดประตูไปด่าเพราะรำคาญเสียแล้ว ดีที่เก็บอารมณ์เอาไว้ได้ทัน
แต่ไม่เปิดประตูให้ ก็ไม่ได้หมายความว่าหนิงหนิงจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธอ บนโต๊ะอาหารทุกมื้อ ย้ำว่าทุกมื้อ ซ่งหนิงหนิงจะพูดขอร้องพ่อกับแม่ซ่งว่าให้ส่งตนเองไปแทนพี่สาว ย้ำว่าตนเองทนความลำบากมาทั้งชีวิต ส่วนเธอสบายมาทั้งชีวิต จะให้ไปอยู่ในที่แบบนั้นได้ยังไง
มันก็คงจะดีอยู่หรอก ถ้าเธอไม่ได้มองซ่งหนิงหนิงด้วยอคติเหมือนในตอนนี้ ทุกครั้งที่อีกคนขอร้องให้ส่งตนเองไปแทน เธอแทบอยากจะพังโต๊ะทานข้าวให้ไม่มีใครได้กินไปเสีย เวลาอาหารก็เอาแต่พูดแหล่มไม่หยุด ทำเอาความอยากอาหารของเธอลดลงไปเสียหลายส่วน
“พี่คะ พี่! พี่จะออกไปข้างนอกหรอคะ” ทันทีที่เซียนอวี่ออกจากห้อง ซ่งหนิงหนิงก็วิ่งแจ้นเข้ามาทันที เธอร้องเรียกเสียงดังลั่นบ้าน จนแม่ซ่งเดินตามมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ก่อนทั้งสองคนจะแปลกใจที่เห็นเธอแต่งตัวแต่งหน้าจนสวยเตรียมออกจากบ้าน ทั้งที่หลายวันมานี้เอาแต่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ใครเข้าไปเคาะก็ไม่ตอบ จะลงมาก็แค่ตอนกินข้าวเท่านั้น
“นี่ เอ่อ ลูกจะไปไหนหรอเซียนอวี่”
“ไปซื้อของเตรียมไปชนบทค่ะ อีกแค่สองวันก็ต้องไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ทันได้เตรียมของเลยนี่คะ หนูไม่อยากไปแล้วลำบากจนตายหรอกนะคะ”
“ซื้อของ อ๋อ ที่เตรียมของใช่มั้ย มา แม่กับน้องจะไปช่วยลูกด้วยอีกแรง มาเถอะ วันนี้ลูกอยากได้อะไรแม่จะซื้อให้ทั้งหมดเลย”
เธอนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตกลง ยังไงก็ดีกว่าต้องใช้เงินของตัวเองออก ให้คุณนายซ่งไปด้วยก็ดี เธอจะได้หยิบของที่อยากได้ให้หมดทุกอย่างเลย