แชร์

บทที่ 5 "โฮ่ง.."

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-09 23:38:58

ใช่แล้ว นางไม่ติดโรค แต่เพื่อไม่ให้นางต้องไปรับแขกหรือถูกขาย นางต้องทำตัวคล้ายติดโรคจากเจ้าคนชั่ว แต่ไม่ให้นางกินสิ่งใดนอกจากกิ่งไม้เพื่อให้นางผอมแห้งเช่นเขา มันไม่มากไปหน่อยหรือ!! หลี่เฟิ่งเซียนทั้งโมโหทั้งก่นด่าเขาในใจ เพราะไม่กล้าส่งเสียงด่าเขาตามหลัง

จากนั้นผ่านไปอีกหลายวัน หลี่เฟิ่งเซียนหิวจนนับวันเวลาไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าผ่านไปแล้วห้าวันหรือสิบวัน เพราะนางหิวจนขยับไม่ไหว น่าจะมีฝนตกด้านนอก เพราะมีน้ำไหลลงมาในคุกใต้ดิน

กระทั่งที่นอนแห้งๆ นางก็ไม่มีแล้ว สิ่งปฏิกูลที่นางและนักโทษก่อนหน้านี้ถ่ายไว้ตรงมุมห้อง ยามนี้ลอยไปทั่วทุกมุม นางต้องอาศัยยืนหลับบนบันไดขั้นแรก เกาะประตูเหล็กเอาไว้ทั้งคืน

แต่เรื่องพวกนี้แม้ในใจนางจะรังเกียจ นางยังคงอดทนได้ กลัวก็เพียงแต่ขบวนทัพจะเดินทางออกจากเมืองนี้แล้ว เจ้าคนชั่วไม่ได้ทำตามสัญญา หนีไปตั้งนานแล้ว ทิ้งนางให้เน่าตายในคุกสกปรกคนเดียว ยิ่งคิดนางยิ่งกลัว ในหัวของนางคล้ายจะได้ยินเสียงหัวเราะแหบแห้งของเจ้าคนชั่วลอยมาไกลๆ พร้อมกับคำถากถางที่บอกว่านางโง่

คืนต่อมาเจ้าคนชั่วก็มาหานางในที่สุด แต่ในมือของเขาว่างเปล่า ไม่มีทั้งอาหารและน้ำ เขาไม่มีกุญแจเปิดเข้ามาในคุกด้วยซ้ำ ทำเพียงยืนคุยกับนางจากอีกฝั่งของประตูท่ามกลางความมืด เขาเปียกชุ่มไปทั้งตัว เขาถอดเสื้อบีบน้ำจากเสื้อตัวนั้นให้นางดื่ม ถึงนางจะรังเกียจและไม่อยากดื่มเพียงใด แต่ด้วยความหิวจนแทบจะขยับไม่ไหว ได้แต่กล้ำกลืนความอัปยศ ยอมดื่มน้ำจากเสื้อสกปรกตัวนั้น

"ท่านอดทนหน่อยนะ ข้าส่งข่าวออกไปแล้ว เพียงแต่ กองทัพเดินทางไปจากหมู่บ้านนี้แล้ว ข่าวอาจจะช้าหน่อย" เขาปลอบใจนาง ยกมือกำลังจะลูบหัวนาง

"อย่าเอามือสกปรกของเจ้ามาถูกตัวข้า เจ้าคนสารเลว! เจ้าบอกว่าอีกสองวันจะหาอะไรมาให้ข้ากิน นี่ผ่านมากี่วันแล้ว ข้าหิวจนจะตายอยู่แล้ว เจ้ากลับมีแค่น้ำสกปรกจากเสื้อตัวนั้น นี่เจ้าคิดจะทิ้งข้าสินะ!"

หลี่เฟิ่งเซียนพอได้ดื่มน้ำไปเล็กน้อยก็มีแรงขึ้นมาบ้าง นางกลับใช้แรงทั้งหมดจับไปที่คอกับไหล่ของเขา ทั้งทุบตีทั้งหยิกไปบนหนังที่แทบจะติดกระดูก ด่าเขาเสียๆ หายๆ แต่คนชั่วนั่นกลับไม่พูดสิ่งใด ปล่อยให้นางระบายความโกรธ

"ท่านรออีกหน่อย ไม่ต้องกลัวนะ" เขาพูด

เขาดึงเสื้อเปียกเก่าๆ ของเขากลับไปสวม ถอนหายใจด้วยความเวทนา อยากอยู่เป็นเพื่อนนางให้นานอีกเล็กน้อย แต่ก็กลัวใครมาเห็นเข้า เขาจึงรีบหันหลังวิ่งหนีกลับขึ้นไป

"เจ้าคนสารเลว เจ้าคนชั่ว ข้าไม่เชื่อเจ้าอีกแล้ว!!!" นางยังคงโกรธเคือง

"ข้าเกลียดเจ้า!!!" ยังคงด่าเขาตามหลัง

คืนต่อมาเขากลับมาท่ามกลางความมืดอีกครั้ง เอาน้ำและกิ่งไม้ที่มีใบไม้สดติดมาด้วย เขาไม่ได้พูดสิ่งใดแล้วรีบกลับออกไป ด้วยความโกรธและโมโหหิว ประกอบกับมืดมากทำให้หลี่เฟิ่งเซียนมองไม่เห็นสภาพของเขา ทั้งไม่ได้ใส่ใจที่จะสังเกตเขา นางโกรธที่ตัวเองได้กินแต่ใบไม้ ถูกขังอยู่ในคุกที่เต็มไปด้วยอาจม ทั้งเหม็นทั้งสกปรก ไม่มีแม้แต่ที่นอน ต้องยืนนอนอย่างทรมาน

จนกระทั่งคืนหนึ่ง เมื่อแสงจากช่องบนกำแพงดับลง หลี่เฟิ่งเซียนคล้ายจะได้ยินเสียงหัวเราะของชายฉกรรจ์หลายคน นางพยายามฟังว่าเกิดอะไรขึ้นข้างบน หรือจะเป็นนางคิดไปเอง มีเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ เสียงตะโกนบางอย่าง

"รีบเดินสิเจ้าหมา" เสียงใครบางคนพูด

แล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะร่วนของอีกหลายคน เสียงพวกนั้นเข้ามาใกล้นางขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมีแสงรำไรมาจากอีกด้านของประตูที่นางเกาะอยู่ หลี่เฟิ่งเซียนหรี่ตามองออกไปให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้คิดไปเอง

"อ้าว เห่าหน่อยสิ"

"โฮ่ง.."

พลั่ก! เสียงบางอย่างถูกถีบอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงกระทบกับกำแพงหิน

"เอาให้ดังหน่อย อยากจะไปหื่นตัวเมียในคุกใต้ดินไม่ใช่หรือ" เสียงเย็นชาหนึ่งพูดขึ้น

"โฮ่งๆ โฮ่งๆ บรูววว" เสียงเห่าที่พยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวด

ตอนนี้ในใจของหลี่เฟิ่งเซียนคล้ายจะคาดการณ์ออกว่ากำลังเกิดสิ่งใดขึ้น นางกำลูกกรงประตูไว้แน่น ในใจลุกเป็นไฟเพราะความโมโห

เมื่อแสงคบเพลิงสาดส่องเข้ามาถึงสายตาของนาง เงาคนที่กำลังคลานเป็นสุนัขก็ตามมา ก่อนที่ร่างของเจ้าคนชั่วจะค่อยๆ ปรากฏ เขาเดินสี่ขา และต้องพยายามเห่าหอน

“โฮ่ง โฮ่ง” เพื่อให้ชายอีกหลายคนพึงพอใจ บนคอของเขายังมีเชือกผูกไว้โยงไปที่มือของชายอีกคนคล้ายกับสายจูงสุนัข

เจ้าคนชั่วมองมาที่หลี่เฟิ่งเซียน เห็นว่านางมองตอบด้วยสายตาเช่นใด เขากลับก้มหน้าลงและเห่าหอนต่อไป ค่อยๆ คลานเข้ามาใกล้ประตู ทั้งที่ดูก็รู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส บนตัวของเขานางไม่เห็น แต่บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยช้ำ ตาข้างหนึ่งบวม ผมของเขาคล้ายว่าจะติดกันเป็นก้อนคล้ายคนที่ถูกทุบหัวจนเลือดออก จนเลือดแข็งและจับตัวเป็นก้อน

ชายคนที่จับสายจูงเดินเข้ามาเปิดประตู

"เอาเถิด ถือว่าข้าพึงพอใจ ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าพลอดรักสักครั้ง"

หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆ ถอยลงไปเหยียบน้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล ชายคนที่ถือสายจูงถีบเจ้าคนชั่วให้ล้มลงมาในน้ำสกปรกด้วยกันกับนาง ก่อนจะปิดประตูใส่กลอนไว้ ปล่อยให้ทั้งสองคนได้พูดคุยกันระยะหนึ่งตามประสาผัวเมียสุนัข

ทันทีที่ประตูปิดลง เจ้าคนชั่วรีบลุกขึ้น ดึงนางขึ้นไปยืนอยู่บนบันไดขั้นแรกเช่นเดิม ถึงวันนี้น้ำจะลดลงไปมากแล้ว แต่รองเท้าของหลี่เฟิ่งเซียนก็สกปรกไปหมด ส่วนเจ้าคนชั่วเปียกไปจนถึงหัวเข่า เขากลับไม่ใส่ใจ

"วันนี้ข้ามีซาลาเปาไส้ผักจี้มาให้ท่านด้วย มือของข้าสกปรก ท่านคลำหยิบเองได้หรือไม่ อยู่ในอกเสื้อของข้านี่เอง" ในน้ำเสียงของเขายังเต็มไปด้วยความยินดีส่วนหนึ่ง

แต่หลี่เฟิ่งเซียนโกรธจนตัวสั่น เมื่อครู่นางเห็นแล้ว หน้าตาของเขาบวมช้ำจากการถูกซ้อมถูกตี แผลที่มือก็คล้ายจะขยายกว้างขึ้น นางนึกสงสัยมาตลอดว่าเจ้าคนชั่วใช้วิธีเช่นใดถึงได้ลงมาในคุกใต้ดินครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่เขาก็เป็นนักโทษถูกจับมาเช่นเดียวกับนาง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

    “ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้าหลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจแต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 21 คืนเข้าหอ

    เขาจึงยังไม่ได้พูดคุยกับนางให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่คาดเดา เพราะเขาถามอ๋องเยียนก็แล้ว ท่านหมอก็ถามแล้ว แม้แต่แม่ทัพหลี่เขาก็พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา"ตาของเจ้างดงามมากจริงๆ ราวกับเก็บดวงดาวยามค่ำคืนไว้ทั้งท้องฟ้า" พูดแล้วนางก็ล้มใส่ตัวเขา หลับไปทั้งเช่นนั้น‘ความฝันที่เป็นได้เพียงความฝัน ห้ามคิดฝันเกินตัว มันต้องมีบางสิ่งทำให้ท่านแม่ทัพตัดสินใจเช่นนี้ นางต้องทำความผิดใดจนท่านแม่ทัพโกรธ จนต้องลงโทษนางให้แต่งกับคนอัปลักษณ์ใกล้ตายเช่นเขา’ ลู่มู่เฉินตักเตือนตัวเองเขามั่นใจว่างานแต่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนางชอบเขา หรือเพราะดันมีคนรู้เข้าว่าเขาชอบนาง เขารู้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น นางจึงถูกบังคับให้แต่งกับเขาเขารู้ว่านางพูดชมเขาโดยไม่มีสิ่งใดลึกซึ้ง เพราะนางเป็นคนเช่นนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ เพียงแต่..ทุกครั้งที่นางพูดเช่นนี้ ในอกของเขายังคงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินลู่มู่เฉินแอบยิ้มน้อยๆ งานแต่งนี้อาจต้องจบลงสักวัน เขาย่อมรู้ดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานแต่งของเขากับนาง หากนางยังตื่นอยู่ เขาก็จะปั้น

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 20 งานแต่ง

    แม่ทัพหลี่หันหน้าแบบประหลาดมากมามองลูกสาว เขากะพริบตาไล่ความงุนงง สังเกตอาการของลูกสาวที่หน้าแดงกระวนกระวายทำสิ่งใดไม่ถูก จู่ๆเขาก็เข้าใจทุกอย่าง‘ข้าว่าแล้วเชียว เท่าที่จำได้ ไอ้หนุ่มนั่นเป็นคนเดียวที่ทำให้ลูกข้าเงียบได้ใช่หรือไม่ แต่มันดูแลลูกข้าได้แน่หรือ ถึงอย่างไรนางก็ดูจะชอบมันเข้าแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เลย’ แม่ทัพหลี่คิด ยิ่งคิดยิ่งตกใจ นี่เขาไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ สุดท้ายเขาไม่พูดสิ่งใดแต่เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องโถงทันทีปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนและอ๋องเยียนมองตามอย่างงุนงง ก่อนที่นางจะคิดบางอย่างได้และตะโกนออกไป“ท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขานะ!!” แล้วนางก็วิ่งตามแม่ทัพออกไป อ๋องเยียนค่อยๆพ่นลมออกมา รู้สึกโล่งอกที่คนถูกฆ่าไม่ใช่เขาลู่มู่เฉินกำลังช่วยเตรียมยาให้ทหารนายหนึ่ง ขาของเขาขาด ไม่ได้ทำแผลให้สะอาดแต่ต้น ยามนี้จึงทั้งบวมและเป็นหนอง“ลู่มู่เฉิน!!” แม่ทัพหลี่ตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ไหล “หยุดนะท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด!” หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งตามหลังแม่ทัพหลี่มาติดๆ ตะโกนอย่างร้อนรนลู่มู่เฉินไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางคงก่อเรื่องอีกแล้ว เขาถอนหายใจ ยื่นห่อยาให้ทหารอย่างใจเย็น ก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

    หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบายนางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนคิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยาก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 18 รู้ตัวว่าชอบเขา

    “แล้ว..เกิดอะไรขึ้น” แม่ทัพหลี่เบาเสียงลง กลัวจะทำให้ลูกสาวเสียงดังมากขึ้น“...ข้าก็ไม่รู้ เขาคงไม่อยากให้ข้าไปยุ่งกับเขา” นางตอบเบาลง“เหลวไหล ใครจะไม่อยากยุ่งกับลูกพ่อ” แม่ทัพหลี่รีบเอาใจ“มาๆ กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อไปถามให้ ถ้าเขาไม่ยอมพูด พ่อจะบังคับให้เขาพูดให้ได้” เขาหยิบอาหารใส่ถ้วยให้นาง เอาอกเอาใจลูกสาวเต็มที่“ไม่ต้อง ข้า..ข้าจะ ไปถามด้วยตัวเอง”หลี่เฟิ่งเซียนพอจะนึกบางอย่างได้ นางพาลู่มู่เฉินมาที่นี่ อ้างว่ามารักษาตัว แต่ไม่เคยถามว่าเขาอยากอยู่หรือไม่ ท่านพ่อของนางเป็นถึงแม่ทัพ หากเขาไม่เอ่ยปาก ผู้ใดจะกล้าออกไปจากที่นี่ บางทีลู่มู่เฉินอาจไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาอาจรู้สึกไม่ต่างจากถูกคุมขังในกรงสุนัข เขาอาจอยากกลับไปหาครอบครัวสุดท้ายหลี่เฟิ่งเซียนตัดสินใจจะถามให้กระจ่าง นางตามหาเขาจนพบเขาอยู่ที่ห้องเก็บยา“ลู่มู่เฉิน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนมาถึงก็ถามตรงๆ“..อืม” เขาหันมามองนางครู่หนึ่ง และหันไปยุ่งกับการตวงยาต่อไป“เจ้าอยากกลับบ้านของเจ้าหรือไม่”“ใครบ้างจะไม่อยากกลับบ้าน”เขาตอบตามจริง แต่นางรู้สึกบางอย่างในอกหนักอึ้ง“เจ้ามีบ้านหรือไม่ มีพ่อแม่ ภรรยา...หรือคนที่รอใ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 17 สั่นระริก

    ค่ำวันนั้นนางไปหามู่เฉินคนชั่วของนาง แต่ท่านหมอบอกว่าเขาไม่อยู่ออกไปอาบน้ำ หลี่เฟิ่งเซียนไปรอเขาที่ห้องของเขาอยู่นานเขาก็ยังไม่กลับ นางจึงบุกไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เขาก็ไม่อยู่ที่นั่น หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางกลัวว่าเขาจะออกไปข้างนอกค่ายแล้วเกิดถูกจับตัวไปขายอีกครั้งหลี่เฟิ่งเซียนวิ่งกลับไปที่ห้องของนางเพื่อหยิบกระบี่ไปช่วยเขา แต่กลับพบเขากำลังนั่งปลอบใจยู่ยี่ที่ร้องไห้อยู่ นางมองเขากำลังใช้มืออีกข้างตบหลังยู่ยี่เบาๆ อย่างปลอบโยน จู่ๆ นางก็เกิดไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนพวกเขา ในใจของนางมีบางอย่างหนักอึ้งจนนางเองก็อธิบายไม่ได้หลี่เฟิ่งเซียนหอบกล่องใส่เข็มไปนั่งเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่ริมน้ำ เพราะนางไม่กล้าเข้าห้องของตัวเอง สายลมเย็นส่งเสียงหวีดเป็นบางครั้ง เสียงน้ำไหลกระทบก้อนหิน แม้จะหนวกหู แต่ช่วยให้นางสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงจี้ดๆ ที่ได้ยินในหูตั้งแต่เห็นสองคนนั้นนั่งด้วยกันยิ่งมืดดวงดาวยิ่งแจ่มชัด แต่จู่ๆ กลับมีแสงไฟใกล้นางมาทุกที หลี่เฟิ่งเซียนกลัวว่าจะมีคนร้ายมาแอบจับตัวนางไปอีก จึงรีบหลบหลังพุ่มไม้ แอบก่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักระวัง มืดแล้วยังไม่ระวังตัว ถูกจับไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status