แชร์

บทที่ 4 เคี้ยวกิ่งไม้

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-09 23:38:09

"นายท่าน ได้โปรด ข้าเป็นหมอ ข้าพอจะมีความรู้ บนตัวของท่านและของหมอหญิงก่อนหน้า มีกลิ่นยาจางๆ ข้างบนคงกำลังเกิดโรคเกี่ยวกับสตรีบางอย่าง ข้าเดินท่องไปมาหลายที่ ข้าพอจะรู้วิธี ให้ข้าได้ช่วย ขอเพียงให้ข้าได้ออกไป โรคของข้าไม่ติดต่อหากไม่ถูกเนื้อต้องตัว ท่านไม่ต้องกลัว โรคที่พวกท่านเจอ หากไม่ใช้รากเหล่งเอี๊ยงในขนาดที่พอดีผสมกับตัวยาอื่นๆ มันจะลามไปที่ผู้อื่นด้วย" เจ้าคนชั่วอยากออกไปให้ได้ ไม่สนศักดิ์ศรีของตัวเองแล้ว

หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกสมเพชยิ่ง จึงเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แต่ผู้มาใหม่ก็ไม่สนใจ สะบัดเสื้อรีบเดินออกไป เจ้าคนชั่วกลับรีบไปเก็บแป้งแข็งสองแผ่นนั้น เอามาเช็ดเสื้อสกปรกของตัวเอง หลี่เฟิ่งเซียนมองเห็นทางหางตาว่ามันยัดแผ่นแป้งเข้าปาก นางจึงหันมาส่งสายตารังเกียจเต็มที่ไปยังเจ้าคนชั่ว

แต่เขากลับเดินมาใกล้ ยื่นแผ่นแป้งแข็งให้นางแผ่นหนึ่ง ดูแล้วคล้ายว่าจะเป็นแผ่นที่เปื้อนน้ำสกปรกเล็กน้อย ส่วนแผ่นที่เขาเพิ่งกัดไป ไม่มีส่วนใดที่ไม่เปื้อนน้ำสกปรกเลย นางได้แต่เบะหน้า ไม่ยอมอ้าปากกิน

"ท่านต้องรักษาชีวิตไว้ กองทัพกำลังจะเดินทางผ่านมาทางนี้ พวกมันถึงได้ไม่กล้าฆ่าคนส่งเดช ข้าจะหาทางออกไป และส่งข่าวให้กองทัพ ถึงตอนนั้นก็มีคนมาช่วยท่านแน่นอน"

เขายืนแผ่นแป้งสกปรกให้นางกินอีกครั้ง คราวนี้หันด้านที่ไม่สกปรกให้ หลี่เฟิ่งเซียนจึงอ้าปากกัดมาคำหนึ่ง ยังต้องอาศัยเขาช่วยดึงกว่าแผ่นแป้งกว่าจะขาดจากกัน นางเคี้ยวไปน้ำตาไหลไป

ชั่วชีวิตของนาง ไม่เคยต้องกินแผ่นแป้งแข็ง ซาลาเปาไส้ผักนางยังไม่กิน นางได้กินแต่อาหารดีๆ ท่านพ่อของนางมักจะเอาใจนางเสมอ แค่ครั้งนี้ไม่ยอมให้นางไปด้วย นางกลับดื้อดึงจนต้องมาลงเอยที่นี่ ต้องมากินแผ่นแป้งที่เคี้ยวแทบไม่ได้ นางยังโง่ เดินทางไม่เป็น หลงทางจนกระทั่งล่วงหน้ากองทัพแล้วก็ยังไม่รู้ตัว ได้แต่เจ็บใจตัวเอง

"ข้าว่าแล้วเชียว เหตุใดข้ารีบเดินทางตั้งหลายวันก็ยังไม่ถึงขบวนกองทัพใหญ่ ข้าเดินทางอ้อมจนอ้อมไปล่วงหน้า จนป่านนี้กองทัพเพิ่งจะตามมาถึง" ตอนนี้นางพอจะพูดได้บ้างแล้วไม่เจ็บคอมากเท่าช่วงแรก

นางต่อว่าตัวเองทั้งที่ยังอมแผ่นแป้งในปาก เสียงจึงฟังอู้อี้ไม่ชัด มีน้ำตาไหลเต็มสองแก้ม จะว่าเป็นภาพที่น่าขบขันแต่ก็ยังน่าสงสารมากด้วย

"พอข้าออกไปแล้ว ท่านอยู่คนเดียว มันอาจจะมืด ท่านอาจจะกลัว แต่ท่านต้องอดทนไว้ เข้าใจหรือไม่" คนชั่วพูด แต่หลี่เฟิ่งเซียนไม่อยากสนใจ

คืนนั้นทั้งสองได้แผ่นแป้งแข็งรองท้อง หลังจากที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่ถูกจับตัวมา พวกเขาจึงไม่หิวมาก ยังพอนอนหลับไปได้

หลี่เฟิ่งเซียนลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมีเสียงดังมาจากทางเข้าคุกใต้ดิน เห็นว่าบนช่องหน้าต่างเริ่มมีแสงสว่างส่องเข้ามาแล้วบ้าง บางทีอาจจะผ่านไปอีกคืนแล้ว

ผู้มาคือชายผู้ที่มีท่าทางคล้ายหัวหน้าคนนั้น มันเข้ามาได้ก็ไม่พูดพร่ำ ในมือถือกระบี่ก็ฟาดทั้งฝักกระบี่ลงไปบนตัวของเจ้าคนชั่ว จนเขาสะดุ้งตื่นตกใจ หลี่เฟิ่งเซียนคาดว่าคงจะเจ็บไม่น้อย

"รีบลุก แล้วตามข้ามา" พูดเสร็จก็หันหลังเดินออกไปทันที

เจ้าคนชั่วตะเกียกตะกายลุกขึ้น รีบวิ่งมากอดหลี่เฟิ่งเซียน นางทั้งตกใจทั้งรังเกียจ

"ข้าต้องไปก่อนนะเมียรัก" เจ้าคนชั่วพูดเช่นนั้นแต่มือกลับแกะเชือกมัดมือให้กับนาง เสร็จแล้วก็รีบวิ่งตามหัวหน้าผู้นั้นออกไป

หลี่เฟิ่งเซียนต้องอยู่ในคุกใต้ดินเพียงลำพัง ยังดีที่นางไม่ต้องทนเจ็บเพราะมือถูกมัดไพล่หลังอีก นางลุกขึ้นเดินสำรวจไปรอบๆ คุกใต้ดิน ถึงที่นี่จะคล้ายคุกใต้ดินของจวนแม่ทัพ แต่ดูแล้วทั้งสกปรกและคุณภาพก็แย่กว่ามาก กำแพงก็ดูจะหนาไม่เท่า ดูจากช่องแสงเข้ามาก็น่าจะอยู่ลึกไม่เท่าไหร่

หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มฝึกร่างกาย ถึงนางจะเป็นหญิงแต่อย่างไรก็เป็นลูกของแม่ทัพ ท่านพ่อย่อมต้องเคยสอนให้บ้าง โชคร้ายที่นางไม่รักดีจึงไม่ได้ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ แต่กับโจรไม่กี่คนนางก็ยังพอรับมือไหว นางคิดเข้าข้างตัวเอง

อยู่เช่นนั้นคนเดียว นางก็ลุกขึ้นมาฝึกร่างกายไม่นั่งเฉยๆ ฝึกเพลงหมัดมวย ร่ายรำวรยุทธตามที่เคยร่ำเรียน พอหิวก็หยิบก้อนแป้งแข็งมากัดหนึ่งคำ นางเก็บก้อนแป้งแข็งเอาไว้ตามคำของเจ้าคนชั่ว เขาบอกให้นางไม่ต้องกินจนหมด เขาจะพยายามหาอาหารดีๆ มาให้นาง นางต้องอดทนรอ

ผ่านไปสองสามวัน แผ่นแป้งนั้นหมดไปนานแล้ว เรี่ยวแรงจะฝึกหมัดมวยก็แทบไม่มี เจ้าคนชั่วก็ยังไม่กลับมา หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มคิดว่าตัวเองอาจถูกหลอกแล้ว คนเลวนั่นก็ไม่ได้รู้จักนาง เหตุใดจะต้องช่วยนาง ตัวมันหนีไปได้แล้วก็คงจะหนีไปไกลแล้ว จะต้องเสี่ยงชีวิตกลับมาในคุกใต้ดินอีกเพื่ออันใด นางโกรธแค้นที่ตัวเองโง่เง่า

จนกระทั่งคืนนั้น เจ้าคนชั่วก็กลับเข้ามาในคุกใต้ดิน พร้อมกับหมั่นโถวนุ่มๆ และแผ่นแป้งแข็ง เขายังเอาน้ำสะอาดมาให้นางด้วย เขาบอกนางว่าให้รักษาชีวิตไว้ อีกสองสามวันเขาจะลงมาอีกครั้ง แล้วเขาก็รีบกลับไป ปล่อยให้นางอยู่คนเดียวอีกครั้ง นางยังไม่ทันด่าเขาเลย

สองวันต่อมา เขาก็ลงมาอีกตามสัญญา ครั้งนี้ไม่มีสิ่งใด มีเพียงน้ำและกิ่งไม้แห้ง หลี่เฟิ่งเซียนโกรธจนตัวสั่น คนเลวนี่! จะให้นางเคี้ยวกิ่งไม้หรือ!!!! นางยังไม่ทันอ้าปากด่า เขาก็รีบติดบางอย่างบนแก้มของนาง และรีบวิ่งออกไปจากคุกใต้ดิน ถึงนางจะอยากด่าเขา แต่นางก็รู้สึกอุ่นใจเล็กๆ ที่เขาไม่ได้ทิ้งนางแล้วแอบหนีไป

หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือลูบคลำบริเวณแก้ม คล้ายว่าจะเป็นยางไม้บางชนิดที่ติดกับก้อนดินเหนียว มันตะปุ่มตะป่ำและขรุขระ หากมองในบริเวณที่มีแสงสว่างกว่านี้มันอาจจะคล้ายกับตุ่มหนองใสและแผลถลอกบนหลังมือของเจ้าคนชั่ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

    “ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้าหลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจแต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 21 คืนเข้าหอ

    เขาจึงยังไม่ได้พูดคุยกับนางให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่คาดเดา เพราะเขาถามอ๋องเยียนก็แล้ว ท่านหมอก็ถามแล้ว แม้แต่แม่ทัพหลี่เขาก็พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา"ตาของเจ้างดงามมากจริงๆ ราวกับเก็บดวงดาวยามค่ำคืนไว้ทั้งท้องฟ้า" พูดแล้วนางก็ล้มใส่ตัวเขา หลับไปทั้งเช่นนั้น‘ความฝันที่เป็นได้เพียงความฝัน ห้ามคิดฝันเกินตัว มันต้องมีบางสิ่งทำให้ท่านแม่ทัพตัดสินใจเช่นนี้ นางต้องทำความผิดใดจนท่านแม่ทัพโกรธ จนต้องลงโทษนางให้แต่งกับคนอัปลักษณ์ใกล้ตายเช่นเขา’ ลู่มู่เฉินตักเตือนตัวเองเขามั่นใจว่างานแต่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนางชอบเขา หรือเพราะดันมีคนรู้เข้าว่าเขาชอบนาง เขารู้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น นางจึงถูกบังคับให้แต่งกับเขาเขารู้ว่านางพูดชมเขาโดยไม่มีสิ่งใดลึกซึ้ง เพราะนางเป็นคนเช่นนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ เพียงแต่..ทุกครั้งที่นางพูดเช่นนี้ ในอกของเขายังคงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินลู่มู่เฉินแอบยิ้มน้อยๆ งานแต่งนี้อาจต้องจบลงสักวัน เขาย่อมรู้ดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานแต่งของเขากับนาง หากนางยังตื่นอยู่ เขาก็จะปั้น

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 20 งานแต่ง

    แม่ทัพหลี่หันหน้าแบบประหลาดมากมามองลูกสาว เขากะพริบตาไล่ความงุนงง สังเกตอาการของลูกสาวที่หน้าแดงกระวนกระวายทำสิ่งใดไม่ถูก จู่ๆเขาก็เข้าใจทุกอย่าง‘ข้าว่าแล้วเชียว เท่าที่จำได้ ไอ้หนุ่มนั่นเป็นคนเดียวที่ทำให้ลูกข้าเงียบได้ใช่หรือไม่ แต่มันดูแลลูกข้าได้แน่หรือ ถึงอย่างไรนางก็ดูจะชอบมันเข้าแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เลย’ แม่ทัพหลี่คิด ยิ่งคิดยิ่งตกใจ นี่เขาไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ สุดท้ายเขาไม่พูดสิ่งใดแต่เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องโถงทันทีปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนและอ๋องเยียนมองตามอย่างงุนงง ก่อนที่นางจะคิดบางอย่างได้และตะโกนออกไป“ท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขานะ!!” แล้วนางก็วิ่งตามแม่ทัพออกไป อ๋องเยียนค่อยๆพ่นลมออกมา รู้สึกโล่งอกที่คนถูกฆ่าไม่ใช่เขาลู่มู่เฉินกำลังช่วยเตรียมยาให้ทหารนายหนึ่ง ขาของเขาขาด ไม่ได้ทำแผลให้สะอาดแต่ต้น ยามนี้จึงทั้งบวมและเป็นหนอง“ลู่มู่เฉิน!!” แม่ทัพหลี่ตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ไหล “หยุดนะท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด!” หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งตามหลังแม่ทัพหลี่มาติดๆ ตะโกนอย่างร้อนรนลู่มู่เฉินไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางคงก่อเรื่องอีกแล้ว เขาถอนหายใจ ยื่นห่อยาให้ทหารอย่างใจเย็น ก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

    หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบายนางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนคิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยาก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 18 รู้ตัวว่าชอบเขา

    “แล้ว..เกิดอะไรขึ้น” แม่ทัพหลี่เบาเสียงลง กลัวจะทำให้ลูกสาวเสียงดังมากขึ้น“...ข้าก็ไม่รู้ เขาคงไม่อยากให้ข้าไปยุ่งกับเขา” นางตอบเบาลง“เหลวไหล ใครจะไม่อยากยุ่งกับลูกพ่อ” แม่ทัพหลี่รีบเอาใจ“มาๆ กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อไปถามให้ ถ้าเขาไม่ยอมพูด พ่อจะบังคับให้เขาพูดให้ได้” เขาหยิบอาหารใส่ถ้วยให้นาง เอาอกเอาใจลูกสาวเต็มที่“ไม่ต้อง ข้า..ข้าจะ ไปถามด้วยตัวเอง”หลี่เฟิ่งเซียนพอจะนึกบางอย่างได้ นางพาลู่มู่เฉินมาที่นี่ อ้างว่ามารักษาตัว แต่ไม่เคยถามว่าเขาอยากอยู่หรือไม่ ท่านพ่อของนางเป็นถึงแม่ทัพ หากเขาไม่เอ่ยปาก ผู้ใดจะกล้าออกไปจากที่นี่ บางทีลู่มู่เฉินอาจไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาอาจรู้สึกไม่ต่างจากถูกคุมขังในกรงสุนัข เขาอาจอยากกลับไปหาครอบครัวสุดท้ายหลี่เฟิ่งเซียนตัดสินใจจะถามให้กระจ่าง นางตามหาเขาจนพบเขาอยู่ที่ห้องเก็บยา“ลู่มู่เฉิน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนมาถึงก็ถามตรงๆ“..อืม” เขาหันมามองนางครู่หนึ่ง และหันไปยุ่งกับการตวงยาต่อไป“เจ้าอยากกลับบ้านของเจ้าหรือไม่”“ใครบ้างจะไม่อยากกลับบ้าน”เขาตอบตามจริง แต่นางรู้สึกบางอย่างในอกหนักอึ้ง“เจ้ามีบ้านหรือไม่ มีพ่อแม่ ภรรยา...หรือคนที่รอใ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 17 สั่นระริก

    ค่ำวันนั้นนางไปหามู่เฉินคนชั่วของนาง แต่ท่านหมอบอกว่าเขาไม่อยู่ออกไปอาบน้ำ หลี่เฟิ่งเซียนไปรอเขาที่ห้องของเขาอยู่นานเขาก็ยังไม่กลับ นางจึงบุกไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เขาก็ไม่อยู่ที่นั่น หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางกลัวว่าเขาจะออกไปข้างนอกค่ายแล้วเกิดถูกจับตัวไปขายอีกครั้งหลี่เฟิ่งเซียนวิ่งกลับไปที่ห้องของนางเพื่อหยิบกระบี่ไปช่วยเขา แต่กลับพบเขากำลังนั่งปลอบใจยู่ยี่ที่ร้องไห้อยู่ นางมองเขากำลังใช้มืออีกข้างตบหลังยู่ยี่เบาๆ อย่างปลอบโยน จู่ๆ นางก็เกิดไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนพวกเขา ในใจของนางมีบางอย่างหนักอึ้งจนนางเองก็อธิบายไม่ได้หลี่เฟิ่งเซียนหอบกล่องใส่เข็มไปนั่งเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่ริมน้ำ เพราะนางไม่กล้าเข้าห้องของตัวเอง สายลมเย็นส่งเสียงหวีดเป็นบางครั้ง เสียงน้ำไหลกระทบก้อนหิน แม้จะหนวกหู แต่ช่วยให้นางสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงจี้ดๆ ที่ได้ยินในหูตั้งแต่เห็นสองคนนั้นนั่งด้วยกันยิ่งมืดดวงดาวยิ่งแจ่มชัด แต่จู่ๆ กลับมีแสงไฟใกล้นางมาทุกที หลี่เฟิ่งเซียนกลัวว่าจะมีคนร้ายมาแอบจับตัวนางไปอีก จึงรีบหลบหลังพุ่มไม้ แอบก่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักระวัง มืดแล้วยังไม่ระวังตัว ถูกจับไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status