บทที่ 14 อยากรู้อนาคตให้อ่านหนังสือ (พิมพ์)
หยางซีซีเอนหลังพิงหัวเตียงไม้เก่าๆ ความคิดของเธอวนเวียนอยู่กับคำพูดของหยางซีซีคนนั้น...น้องสาวที่ถูกทิ้งให้อยู่ในเงาของการใช้แรงงานอย่างทารุณของบ้านป้าและลุง
"น้องสาวถูกรังแกอยู่ที่ปักกิ่งอย่างนั้นหรือ..."
หยางซีซีพึมพำเบาๆ ดวงตาของเธอหรี่ลงราวกับกำลังมองทะลุผ่านกาลเวลาและระยะทางไปยังอีกฟากหนึ่งของประเทศความทรงจำเกี่ยวกับน้องสาวของร่างนี้ผุดขึ้นมาในหัว เธอจำได้ว่าลุงป้าที่ส่งเธอมาทำงานใช้แรงงานแทนลูกลูกของตัวเองเป็นคนอย่างไร คนแบบนี้ย่อมไม่มีทางปฏิบัติต่อน้องสาวของร่างนี้ด้วยความเมตตาแน่ๆ และการที่วิญญาณของหยางซีซีคนนั้นต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของน้องสาวต้องเลวร้ายมาก
"แต่จะทำยังไงดีล่ะ..."
หยางซีซีครุ่นคิดหนัก ปักกิ่งอยู่ไกลจากที่นี่มากแค่ไหนกันแน่ เธอเองก็ไม่เคยไปมาก่อน ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะพาดหัวมีคำว่า
"ปักกิ่ง"
เธออ่านคำนี้ออกมาเบาๆ ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอสามารถที่จะเห็นอนาคตของคนและสิ่งของได้เพียงแค่สัมผัส หยางซีซีมองดูหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ซึ่งเป็นถูกส่งมาจากปักกิ่ง ดังนั้นเธอจึงเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา หยางซีซีจ้องมองหนังสือพิมพ์ในมือสีหน้าและแววตาของเธอนิ่งสงบ เธอรู้ดีว่าในมือของเธอนั้นคือกุญแจไขไปสู่อนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น ด้วยพลังของหัตถ์เทวะที่สืบทอดมาจากอาจารย์ เธอสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ เพียงแค่สัมผัสสิ่งของชิ้นนั้น
"ว่ากันว่าอยากรู้อนาคตให้อ่านหนังสือ" หยางซีซีอยากรู้อนาคตเช่นกันดังนั้นเธอจึงได้ หยิบ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ขึ้นมาเธอจะ ‘ดู’ อนาคตของประเทศนี้ผ่านหนังสือพิมพ์เล่มนี้นั้นเอง เธอจะใช้พลังของตนเองเพื่อดูอนาคตของประเทศจีนผ่านหนังสือพิมพ์เล่มนี้
เธอค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสหน้าหนังสือพิมพ์ จากนั้นพลังของฝ่ามือหัตถ์เทวะก็ถูกท่าเทไปที่ปลายนิ้วเรียว ที่กำลังลูบไล้ปัดผ่าน ไปตามตัวอักษรแต่ละตัวราวกับกำลังปลุกให้ตัวหนังสือเหล่านั้นมีชีวิตชีวาขึ้นมา ทันใดนั้นเอง ภาพและตัวอักษรต่างๆ เริ่มเบลอและเคลื่อนไหวราวกับภาพยนตร์ฉายสโลว์โมชั่น ตัวอักษรเหล่านี้ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป วันเวลาไล่ขึ้นไปเรื่อยๆจาก วันที่ 19 ธันวาคม ปี 1975 ที่เป็นวันที่ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ กลายเป็น
วันที่ 19 มกราคม ปี 1976….
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1976
วันที 19 มีนาคม 1976…..
วัน เดือน ปี ที่อยู่ในหนังสือพิมพ์ไหลผ่านตาของหยางซีซีอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเหตุการณ์ที่พาดหัวข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่นกัน สายตาของหยางซีซีกวาดผ่านเรื่องราวและข้อความอย่างรวดเร็วเช่นกันเธอไม่พลาดสักข้อความที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้ลง ความเร็วของการไหลของหน้าหนังสือพิมพ์นั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเดือน กันยายน ปี 1976 ข่าวใหญ่ที่พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ทำให้หยางซีซีจำเป็นต้องหยุดอ่านทันที สิ่งที่เธอมองเห็นในพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 9 เดือนข้างหน้านั้นก็คือ ...
“การอสัญกรรมของท่านผู้นำของประเทศ”
หยางซีซีรีบหยุดและเข้าไปดู รายละเอียดของข่าวที่พาดหัวข่าวทันที ทันใดนั้นภาพเหตุการณ์ต่างๆ ก็พรั่งพรูเข้ามาผ่านสายตาของเธออย่างรวดเร็ว เห็นภาพผู้นำประเทศนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ใบหน้าซีดเซียวและเต็มไปด้วยท่อต่างๆ รายล้อม ภาพเหล่านี้ชัดเจนราวกับภาพยนตร์ที่ฉายอยู่ตรงหน้า บนท้องถนนเธอเห็นฝูงชนมหาศาลกำลังเดินขบวนไปตามท้องถนน พร้อมกับป้ายประท้วง พวกเขาตะโกนเรียกร้องเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน เสียงโห่ร้องดังกึกก้องไปทั่วเมือง ทำให้เธอรู้สึกถึงความร้ายแรงและความวุ่นวายของประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอเห็นเหตุการณ์ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินที่เป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและน่าเศร้าของจีน เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากการประท้วงของนักศึกษาและประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยและการปฏิรูปต่างๆ ประชาชนและทหารปะทะกันจนเกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมาย
หยางซีซีมองจ้องที่ข่าวนี้ด้วยความตกใจ ผู้นำประเทศถึงแก่อสัญกรรมนั้นจึงได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศอย่างมากมาย จากนั้นภาพการพาดหัวข่าวก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็เริ่มดูเหตุการณ์อื่นๆ ต่อทันที เหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นทั้ง น้ำท่วม ภัยพิบัติ ภัยแล้ง การปล้นฆ่า การเสียชีวิตของบุคคลนั้น บุคคลนี้ การสังหารคนที่คอรัปชั่นประเทศมีให้เห็นบ่อยมาก การทะลายแก๊งต่างๆ การค้าขายสินค้าแปลกใหม่เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ ภาพวันเดือนยังคงไหล ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอเห็นตัวหนังสือพาดหัวข่าวขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าชัดเจนราวกับถูกขีดเขียนด้วยแสงไฟนีออน
"จีนก้าวสู่ยุคทองของเทคโนโลยี"
"เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด"
"โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยครอบคลุมทั่วประเทศ"
คำเหล่านี้กระแทกเข้าใส่สายตาอันคมกริบของเธอทันที หยางซีซีรู้สึกถึงความตื่นเต้นและหวาดหวั่นผสมปนกันไป เธอเห็นภาพของประเทศจีนที่กำลังก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผุดขึ้นมากมาย เมืองใหญ่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกิดขึ้นทั่วประเทศ แต่ภาพยังไม่จบเพียงเท่านั้น ยิ่งภาพเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ หยางซีซีก็ยิ่งตระหนักถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของประเทศจีน เธอเห็นภาพของผู้คนที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการศึกษาที่ทันสมัย และมีโอกาสทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น การเข้ามาของบริษัทระดับโลกมากมาย ซึ่งบริษัทเหล่านั้นมาพร้อมการลงทุน เธอเห็นพื้นที่ว่างเปล่าหลายแห่งถูกพัฒนาเป็นย่านธุรกิจที่ทันสมัย อาคารสูงระฟ้าผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และถนนหนทางก็ขยายกว้างขึ้น
ความรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจผสมปนกันอยู่ในใจของเธอ หากเธอสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้ เธอจะสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวได้อย่างมหาศาล
และภาพสุดท้ายที่เธอเห็นก่อนที่จะยกมือออกจากหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น คือภาพของประเทศจีนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจนติดอันดับโลกนั้นคือ ซึ่งนั้นคือในอีก 40 ปีข้างหน้านั้นเองเมื่อภาพในหัวเริ่มเลือนรางลง หยางซีซีก็ค่อยๆ ดึงสติกลับมา เธอวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ การได้เห็นอนาคตของประเทศชาติที่กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้เธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและกังวลใจในเวลาเดียวกัน
"ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง"
หยางซีซีพูดกับตัวเองเบาๆ ตอนนี้เธอได้รู้แน่แล้วว่าประเทศจะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในไม่ช้านี้และเธอจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือเงิน เงิน และต้องเป็นเงินจำนวนมากด้วย เพราะว่าเท่าที่เธอเห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น มีหลายพื้นที่จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและราคาของพื้นที่ก็จะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มจากพื้นที่ที่ทางการจะทำการเวณคืน นั้นคือหากว่าเธอต้องการเงินจำนวนมากและรวดเร็วเธอจำเป็นจะต้องเป็นเจ้าของพื้นเหล่านั้น หยางซีซีเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างพลางคิดถึงอนาคตที่เธอเพิ่งได้เห็นไป สายตาของเธอจับจ้องไปยังพื้นที่ว่างเปล่าใกล้ๆ กับหมู่บ้านที่เธออาศัยอยู่ เธอนึกถึงภาพตึกสูงระฟ้า โรงงาน และถนนหนทางที่คึกคักผุดขึ้นมาทดแทนพื้นที่ว่างเปล่าเหล่านั้น
"ฉันต้องการเงินจำนวนมาก ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง แต่จะทำอะไรดีนะถึงจะได้เงินเร็วและเยอะด้วย"
หยางซีซีครุ่นคิดหนัก การจะซื้อที่ดินจำนวนมากในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล และที่สำคัญคือข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองในอนาคตยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ เท่าที่เธอจำได้จากหนังสือพิมพ์เมื่อสักครู่การซื้อขายในตอนนี้ยังไม่เริ่มขึ้น ซึ่งอาจจะถือว่าเป็นโอกาสที่ดีให้เธอได้หาเงินอีกสักพักหนึ่ง แต่ว่า …ทำอย่างไรถึงจะหาเงินก้อนใหญ่ได้นะ และหากได้เงินก้อนใหญ่มาเธอจะไปที่ปักกิ่งจัดการเรื่องน้องสาวและดูลู่ทางในการจับจองพื้นที่แถวนั้นก่อนใครเลย…
หยางซีซีเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยจับจ้องไปยังแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลๆ เป็นประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว เธอเห็นภาพของครอบครัวที่กำลังยุ่งอยู่กับการเก็บเกี่ยวผลไม้ เหล่าพ่อแม่พี่น้องต่างช่วยกันเก็บองุ่นและสตอเบอร์รี่อย่างขะมักเขม้น
"อ้อ สตอเบอร์รี่กับองุ่นเก็บได้แล้วนี่นา"
หยางซีซีพึมพำเบาๆ รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้า แต่แล้วความคิดก็เปลี่ยนไปเมื่อนึกถึงปัญหาเรื่องเงินที่กำลังเผชิญอยู่ เธอหันกลับมามองมือของตัวเอง ฝ่ามือเรียวบางที่ซ่อนพลังอันยิ่งใหญ่เอาไว้
"ถ้าอยากได้เงินก้อนโตเร็วๆ คงต้องพึ่งพาพลังของหัตถ์เทวะแล้วล่ะนะ"
หยางซีซีกระซิบกับตัวเองอย่างมั่นใจ ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น
****เงิน เงิน เงิน ต้องการเงิน น้องก็ต้องไปช่วยเงินก็ต้องหาฮองเฮามีงานหนักรออยู่ 5555 ****