เข้าสู่ระบบเบลล่ามองไปที่หน้าของท่านเคาน์ รอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์มันดันออกมาจากใบหน้าที่งดงามของเขา! เธอคิดว่าท่านเคาน์เป็นคนที่นิสัยไม่ตรงกับหน้าตาเอาซะเลย
ในคราแรกที่พบกันเธอไปเรียกเขาว่าเทวดาได้ยังไง!! “เจ้าไม่อยากรู้งั้นหรือว่า ริมฝีปากของข้าหากมันจุมพิตกับปากของเจ้ามันจะเป็นเช่นไร แล้วข้าจะทำยังไงต่อ…” “เหตุใดข้าถึงต้องอยากรู้เรื่องราวพวกนั้น….” “อ่า..เจ้าไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าข้าอยากรู้” เอซหลับตาลงก่อนจะก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากกับเบลล่า เธอพยายามหันหน้าหนีแต่ทว่าก็ไม่เป็นผลเพราะเอซไม่ยอมให้เธอได้มีโอกาสทำเช่นนั้น เขาจับหน้าของเธอเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอได้ปฏิเสธจุมพิตของเขา เธอยกมือขึ้นมาทุบที่อกของเขาเพื่อให้เขาปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระ “อื้อ!!” เอซสอดลิ้นเข้าในปากของเธอก่อนจะเริ่มปลุกเร้าเบลล่าเบาๆ เพราะบนโซฟามันคับแคบเกินกว่าที่เธอจะดิ้นหนี เธอในตอนนี้ราวกับไร้ทางเลือก “ท่านไม่ควรจะทำเช่นนี้!!” เธอรีบกล่าวกับทันทีที่เขาปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระ “ข้ามิได้ทำเช่นนี้กับสตรีไปทั่ว…ถึงข้าจะมีภรรยามากมายแต่ข้าก็มิได้อยากครอบครองใคร มากเท่าอยากครอบครองเจ้ามาก่อน” เธอมองใบหน้าที่ดูจริงจังของเขาด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย…ความเงียบเข้าปกคลุมเราทั้งสองคน “ท่านว่าจ้างให้ข้า เข้ามาทำให้เคาน์เตสหย่า…การกระทำเช่นนี้ไม่ว่ามองทางใดก็ดูไม่เหมาะสม ข้ามิอาจทำใจมีอะไรกับชายที่มีภรรยาอยู่แล้ว…” “ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่านางมิใช่ภรรยาของข้า เจ้าก็รู้ว่าเรื่องราวในอดีตเป็นเช่นไร แล้วเหตุใดถึงยังบอกว่านางเป็นภรรยาของข้าอีก!!” เบลล่าดันตัวของท่านเคาน์ให้ลุกขึ้น…เธอมองใบหน้าที่ดูน่าสงสารของเขาด้วยหัวใจที่กำลังหวั่นไหว เธอรู้ดีว่าเรื่องในอดีตเขาถือว่าเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด… “ข้า..ขอโทษค่ะ ข้ามิได้ตั้งใจจะกล่าวคำที่สะเทือนใจของท่าน” เอซยกมือขึ้นมากุมหน้าของเบลล่าเอาไว้ “ทำไมถึงปฏิเสธข้า…ในครั้งแรกที่เราพบกันเจ้าเรียกข้าว่าเทวดาด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดถึงไม่ยอมเป็นนางฟ้าของข้าเล่า” “นั่นมันตอนที่ข้ายังไม่รู้จักท่าน…” เอซหอมแก้มเธอเบาๆ เขาจูบที่ตาและหน้าผากของเธอ “ข้าเพียงอยากสัมผัสเจ้าให้มากกว่านี้…” “…..หากว่าข้ายอมให้ท่านสัมผัส เรื่องราวระหว่างเราก็จะเปลี่ยนไป” “เจ้าคือภรรยาของข้าอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?” “นั่นเป็นเพียงแค่บทบาทที่ท่านว่าจ้างให้ข้าแสดง….” “เช่นนั้นเจ้าก็มาเป็นภรรยาของข้าจริงๆ สิ แบบไม่ต้องแสดง” เขายกมือของเบลล่าขึ้นมาจับที่หัวใจของเขา “หัวใจของเรามันต่างก็กำลังเต้นแรง…ร่างกายของเรามันกำลังต้องการกันและกัน..” อ่า…ให้ตายเถอะ เธอกำลังถูกใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาหลอกลวงอยู่! เอซยกยิ้มจางๆ เพราะเขาเห็นความหวั่นไหวในแววตาของเบลล่า “เบล เจ้าลังเลอะไร?” “เพราะว่าท่านคือคนที่น่ากลัว…” “ข้าอ่อนโยนถึงเพียงนี้เจ้ายังคิดว่าข้าน่ากลัวอีกหรือ?” เธอยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของเอซเอาไว้ “รอยยิ้มของท่านมันไปไม่ถึงดวงตา ท่านไม่เคยยิ้มโดยที่ท่านมีความสุขจริงๆ สักครั้งเดียว….” รอยยิ้ม…ค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้าที่หล่อเหลาของเอซ เขาจับข้อมือของเบลล่าขึ้นมาจูบ “คงจะมีแต่เจ้าที่สังเกตเห็น…ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้นแต่รู้ตัวอีกทีก็ต้องคอยยิ้มให้ท่านพี่มาซาอยู่ตลอด….” เธอยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของเขาอีกครั้ง “ใบหน้าที่งดงามของท่านไม่เหมาะกับเรื่องเศร้าๆ พวกนี้ อย่าเอ่ยถึงมันเลยค่ะ” “เช่นนั้น..ใบหน้าของข้ามันเหมาะที่จะทำอะไรล่ะ?” เขาช้อนตัวเธอขึ้นมาก่อนจะตรงไปที่ห้องน้ำ “ข้าจำได้ว่ายังไม่ได้อนุญาตให้ท่านแตะต้องตัวข้าเลย….” เอซไม่ได้กล่าวคำใด เขาเพียงส่งยิ้มให้เบลล่าเท่านั้น รอยยิ้มที่แสนจะงดงาม รอยยิ้มแรกที่มันออกมาจากความสุขของเขาจริงๆ เอซเปิดน้ำใส่อ่างก่อนที่เขาจะเดินมาหาเบลล่า เราทั้งสองสบตากันในขณะที่เขายื่นมือมาถอดชุดให้เธอ “ไม่คิดจะถอดเสื้อให้ข้าบ้างรึไง?” “ท่านเหมาะที่จะใส่มันไว้มากกว่าค่ะ….” เอซยกยิ้มอีกครั้ง เขาถอดชุดตัวเองออกอย่างรวดเร็วแล้วพาเธอลงไปนั่งในอ่าง เขายกฟองน้ำขึ้นมาถูหลังให้เบลล่า “เจ้างดงาม…ไปเสียทุกส่วน” “นี่ถือเป็นข้อมูลลับของเมบิลนะคะ ท่านเคาน์ห้ามนำไปขายให้ใคร…” เอซหัวเราะ… “นอกจากข้าจะไม่ขายให้ใครแล้ว ข้าจะสั่งฆ่าทุกคนที่รู้เรื่องนี้ด้วย ดีไหม?” เบลล่ายกยิ้ม “โหดร้ายเกินไปแล้ว…” เขาดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอด ในเธอลุกขึ้นมานั่งบนตักของเขา “ข้าพึ่งเคยอาบน้ำกับสตรีอื่นครั้งแรก ไม่รู้ว่าจะต้องอาบนานแค่ไหนถึงจะสามารถพาเจ้าไปที่เตียงได้สักที?” เบลล่าหัวเราะเบาๆ “สตรีล้วนแล้วแต่อาบน้ำนาน เพราะต้องใช้น้ำมันต่างๆ มาทาผิว ข้าก็เช่นกัน…” “เจ้าก็รู้ว่าข้ามิใช่คนที่มีความอดทน หากว่าเจ้าต้องอาบน้ำนาน เช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้ คงจะต้องทำไปด้วยอาบน้ำไปด้วยแล้ว….” “ใครจะอนุญาตให้ท่านทำอย่างอื่นนอกเหนือจากอาบน้ำ?” “….ข้าอนุญาตตัวเองได้” น่ารักชะมัดเลยโว้ย! เบลล่ากำลังกรีดร้องในใจแต่ทว่าเธอก็ยังคงต้องทำท่าทางราวกับไม่สนใจท่านเคาน์ ใครจะสามารถต้านทานใบหน้าเช่นนั้นได้ ให้ตาย!!! เอซพรมจูบตั้งแต่ไหลของเธอจนมาถึงซอกคอ “นอกจากงดงาม เจ้ายังหวานล้ำอีกด้วย….” ใบหน้าของเธอมันกำลังเห่อร้อนด้วยความเขินอาย เราทั้งคู่ต่างเปลือยเปล่าท่านเคาน์กอดเธอเอาไว้แน่น เขายกมือขึ้นมาเกาะกุมที่หน้าอกของเธอ แล้วออกแรงบีบมันเบาๆ เบลล่าหลับตาลง…เธอในตอนนี้ต่อให้กล่าวปฏิเสธไปก็ดูจะไร้ความหมาย เพราะท่านเคาน์ดูท่าทางจะไม่ปล่อยเธอไป…อีกทั้งใจของเธอก็กำลังสั่นไหวกับทุกคำพูด การกระทำ และใบหน้าของเขาเป็นอย่างมาก เธอไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยจริงๆ ว่าจะเป็นพวกหลงรูปลักษณ์ภายนอก!! แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งแววตาและคำพูดของเขามันราวกับว่าเขากำลังสะกดจิตของเธออยู่ ความรู้สึกเช่นนี้เองสินะที่เรียกกันความลุ่มหลง… เช่นนั้นวันนี้เธอจะลองปล่อยทุกความรู้สึกไปกับเขาดู เธออยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะมีความสามารถทำให้เธอจมดิ่งไปกับความลุ่มหลงของเขาได้ขนาดไหน… “เบล..เหตุใดถึงได้คิดถึงเรื่องอื่นในขณะที่ข้าสัมผัสเจ้าอยู่?” เอซจับเบลล่าให้หันมามองหน้าเขา ใบหน้าที่งดงามของเธอในตอนนี้มันแดงซ่าน…ผิวกายที่ขาวเนียนของเธอตรงเนินอกก็ขึ้นแบบสีแดงตามรอยนิ้วมือของเขา เธอยกมือขึ้นมาโอบคอเขาเอาไว้ “ข้าเพียงคิด ว่าท่านจะทำให้ข้าลุ่มหลงท่านไปถึงไหน…” เอซยกยิ้ม เขาจับตัวตนของเขาให้มันแนบไปกับส่วนล่างของเธอก่อนจะยกมือขึ้นมาขยับสะโพกของเธอช้าๆ “ผิดแล้วเบล เป็นข้าต่างหากที่กำลังลุ่มหลงเจ้าอย่างหนัก…” “อ๊ะ!!..อื้อ!!” แก่นกายของเขามันเสียดสีไปกับตุ่มไตของเธอจนทำเอาเบลล่าไม่สามารถเก็บกักเสียงเอาไว้ได้… “เจ้ารู้รึเปล่าว่าเพียงแค่ข้าพบหน้าเจ้าที่งานบรรลุนิติภาวะของเลดี้เคนเนดี้ ข้านั่งรอที่จะเต้นรำกับเจ้า นานแค่ไหน…” เธอมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเขาที่มันกำลังสั่นไหว “ข้าเห็นเจ้าเดินไปที่สวนจึงรีบตามไป…เพื่อจะทำความรู้จักกับเจ้า แล้ววันที่ข้าแต่งงานเจ้ารู้ไหมว่าข้ารู้สึกเช่นไรเมื่อหันไปด้านหลังแล้วเจอเจ้า…” เอซใช้นิ้วของเขาวนเบาๆ ที่ติ่งเสียวของเธอ… “ข้ายกเลิกงานแต่งในวันนั้น เพราะสตรีที่มาทำลายงานแต่งคือสตรีที่ข้าหลงรักตั้งแต่แรกพบ….” เกินไปแล้วนี่มันเกินไปแล้ว!!! ให้ตาย! ตอนนี้เธอควรจะรู้สึกเช่นไร ท่านเคาน์สารภาพรักกับเธอเนี่ยนะ!! แล้วในแววตาที่มองมาที่เธอมันก็กำลังยืนยันว่าเขามิได้โกหก เขารู้สึกพึงพอใจกับสีหน้าตอนนี้ของเบลล่ามากๆ มันงดงามเย้ายวนและอ่อนไหว เธอมองมาที่เขาอย่างตกใจเล็กน้อย เขากดที่ส่วนของปลายหัวหยักลงเพื่อจะให้มันเข้าไปด้านในของเธอ… “อื้อ!!!” มันเข้ามาแล้ว!! เธอสัมผัสได้ถึงแก่นกายของเขาที่มันมุดเข้ามาช้าๆ เบลล่าหายใจเหนื่อยหอบเธอก้มมองที่ด้านล่างก็ต้องตกใจกับขนาด…ที่มันเกินพอดีของเขา!! “อ่า!! เข้าไปแล้ว….” เธอกอดคอของเขาเอาไว้แน่น มือของเอซกำลังกดสะโพกของเธอให้นั่งลงไปช้าๆ “..มะ..ไม่ไหว…” เธอรู้สึกแน่นในท้องไปหมด ทว่าตัวตนของเขาก็ยังเข้ามาไม่สุดเสียที “เบลอย่ารัดแน่นขนาดนั้น เจ้าต้องรู้จักผ่อนคลาย…” เขาดึงเธอเข้าไปจูบเพื่อปลอบประโลม เอซไม่ได้มากไปด้วยประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำเลย “เก่งมากเลย…ข้าเข้าไปอยู่ในตัวเจ้าได้แล้วเบล..ถือว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วนะ…” เขาโอบกอดเธอเอาไว้แน่นโดยที่ยังไม่ได้เริ่มขยับ เอซกดแช่เอาไว้อย่างนั้นเพื่อรอให้เธอเริ่มจะชินกับแก่นกายของเขา “อยากลองขยับเองไหม?” เบลล่าส่ายหน้า “ขะ..ข้าทำไม่เป็น” “นั่นไม่ได้เป็นปัญหาเลยเบล ข้าเองก็ไร้ประสบการณ์ แต่เราจะมาเรียนรู้ไปด้วยกันดีไหม?” ท่านเคาน์ถือเป็นคนที่หลอกลวงเก่งมากๆ คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เขาแสร้งทำเป็นว่ามีทางเลือกให้เธอ แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีเลย เธอบดเอวช้าๆ ตามที่เขาแนะนำ…นี่มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง… พอเธออยู่ด้านบนเช่นนี้มันราวกับว่าตัวตนของเขาเข้าไปได้ลึกมากๆ เอซยกมือขึ้นมากดหน้าท้องของเบลล่าเอาไว้ “ดูสิ…มันเข้าไปจนถึงตรงนี้เลย…ลองเร่งจังหวะดูสิเบล” เธอทำตามที่เขาสอนอย่างตั้งใจ ราวกับว่าเธอนั้นคือลูกศิษย์ที่ดี… เอซยกยิ้ม…นี่สินะคือความสุขที่เขามิเคยพอเจอมาก่อน เขาอุ้มเธอพามาที่เตียงขนาดเล็ก เธอและเขาโอบกอดกันราวกับว่าเราคือหนึ่งเดียวกัน… อากาศที่เหน็บหนาวด้านนอกมิอาจทำอะไรเขาและเธอได้เลย เราต่างก็เป็นไออุ่นให้กันและกัน เขาสัมผัสเธอนับครั้งไม่ถ้วนราวกับว่าเธอคืออาหารรสเลิศที่ทานเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม “ท่านเคาน์…อื้อ!!” “เอซ…เจ้าควรจะเรียกชื่อข้าที่รัก” “ช้าลงหน่อยค่ะ….” เธอลืมตาขึ้นมามองใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา…เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าของเขาเอาไว้ “ให้ข้าสัมผัสเจ้าเถิด…เพราะข้ากำลังหวาดกลัว ข้ากลัวว่าที่ข้าได้สัมผัสเจ้าเช่นนี้จะเป็นเพียงความฝัน กลัวว่าพรุ่งนี้ข้าลืมตาขึ้นมาเจ้าก็จะทำเย็นชากับข้าเช่นเดิม…” อ่า..คำหวานเหล่านี้มันคืออะไรกัน…นี่เขาตั้งใจจะให้เธอจมดิ่งลงไปในหลุมพรางที่เขาขุดเอาไว้ไม่ให้เธอมีโอกาสได้ขึ้นมาอีกเลยรึไง? “อื้อ!!” เขายกขาของเธอขึ้นมาช้าๆ เพื่อให้เขาสามารถเข้าไปได้ลึกอีกหน่อย… “โกรธไปเถิดเบล จะโกรธหรือจะไม่พอใจข้าก็ได้ แต่ให้ข้าได้สัมผัสเจ้ามากกว่านี้ ให้ข้าได้รับรู้ว่าเจ้าคือเรื่องจริง มิใช่เป็นเพียงความเพ้อฝันของข้า…” เขากล่าวมาเช่นนี้แล้ว เธอยังจะสามารถทำเช่นไรได้อีก….เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







