คิร่าเปิดอ่านจดหมายที่เบลล่าส่งมาให้
เธอเงยหน้าขึ้นมองท่านพี่…ก่อนจะส่งจดหมายให้เขาอ่าน “พี่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่เรื่องที่เจ้าและเบลไปพัวพันกับเคาน์ริชแมน แต่เขาเป็นสหายคนสนิทขององค์รัชทายาท ก็อาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก” “ท่านเคาน์ริชแมนมิใช่คนไม่ดีอย่างข่าวลือเลยค่ะ ตรงกันข้ามท่านคือบุรุษรูปงามเกินกว่าที่ข้าจะบรรยายได้” โคลด์เลิกคิ้วมองคิร่า “เคาน์ริชแมนผู้นั้น ดูหล่อเหลากว่าท่านพี่ของเจ้าอีกงั้นหรือ?” คิร่าหัวเราะเบาๆ “ท่านพี่กับท่านเคาน์นั้นต่างกันค่ะ ท่านเคาน์ริชแมนมีใบหน้าที่อ่อนโยน แต่ท่านพี่ของข้านั้นจะออกไปทางขี้โกงมากกว่า!” “คิร่า เจ้าคงจะอยากเรียนวิชามารยาทเพิ่มเติมสินะ?” “หากท่านพี่กล้าเพิ่มวิชาเรียนให้ข้า ข้าจะยุให้เบลไปอยู่กับท่านเคาน์ริชแมน!” “คิร่า เจ้าจะยั่วโมโหพี่เกินไปแล้วนะ!!” คิร่าหัวเราะก่อนที่เธอจะเตรียมลุกขึ้นวิ่ง “เลดี้คิร่าวิ่งไม่ได้นะคะ…” คิร่ามองไปที่ด้านหลังก็พบกับหญิงชราที่ยืนมองเธออยู่ “สวัสดีค่ะ ข้าบารอนเนสเอเลเกอร์ ทางพระราชวังส่งข้ามาสอนเรื่องมารยาทพื้นฐานและกำหนดพิธีการในวันแต่งงาน…” คิร่ายกยิ้ม ก่อนที่เธอจะมองไปที่โคลด์ “บารอนเนสจะสอนนางกี่วัน ข้าจะได้เตรียมที่พักให้เหมาะสม” “ทุกวันนับจากนี้ค่ะ องค์จักรพรรดิมีองค์รัชทายาทเป็นองค์ชายเพียงพระองค์เดียว ตำแหน่งที่เลดี้เคนเนดี้จะอภิเษกเข้าไปนี้ มิใช่เพียงตำแหน่งของชายาองค์รัชทายาทเท่านั้น ในอนาคตอาจจะเลื่อนไปเป็นตำแหน่งจักรพรรดินีด้วยเวลาอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ เลดี้จะต้องเรียนรู้เรื่องข้อปฏิบัติทั้งหมดในวังหลวง…” คิร่าทำได้เพียงยกยิ้ม เบลได้บอกเอาไว้แล้วว่าหลังจากนี้เธอจะต้องเรียนอย่างหนัก ทั้งเรื่องมารยาทและการปกครองพื้นฐาน การเดินบนเส้นทางที่สูงศักดิ์นี้มิใช่เรื่องง่าย แต่หากว่าเธอเดินไปได้ เคนเนดี้จะยิ่งใหญ่และท่านพี่ก็จะทำงานน้อยลงจากเดิม… นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับเธอ.. “ข้าอยากให้นางมีเวลาได้พักบ้าง การเรียนทุกวันนั้นดูจะหนักมากเกินไป” “ท่านเคาน์ควรจะรับรู้ถึงความสามารถของเลดี้ด้วยค่ะ หนึ่งเดือนนี้ข้ายังไม่มั่นใจเลยด้วยซ้ำ ว่าจะสามารถสอนนางออกมาให้เป็นชนชั้นสูงที่ดีได้รึเปล่า!” “บารอนเนสเอเลเกอร์ ท่านกำลังดูหมิ่นเกียรติของเคนเนดี้อยู่รึเปล่า อยากให้ท่านทราบเอาไว้ว่าองค์รัชทายาทเป็นผู้จัดการงานแต่งเอง ทางเคนเนดี้มิได้อยากจะก้าวขาเข้าไปในพระราชวังแห่งนั้นด้วยซ้ำ หากท่านกล่าวสิ่งใดที่เป็นการดูถูกนางอีก ข้าจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอน” คิร่าลุกขึ้นมาจับแขนของโคลด์เอาไว้เพื่อห้ามปรามพี่ชายของเธอ… “ท่านพี่ ข้าไม่เป็นไรค่ะ อย่าได้โกรธเคืองบารอนเนสเลย” โคลด์ถอนหายใจก่อนที่เขาจะเดินออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์ “เราจะเริ่มเรียนเรื่องไหนก่อนคะ?” “ข้าจะเริ่มสอนมารยาทให้เลดี้ก่อนค่ะ วางใจเถิดข้าไม่โกรธเคืองท่านเคาน์ที่กล่าวเช่นนั้นหรอกค่ะ เพราะข้ารู้ดีว่าท่านทั้งสองเติบโตมาโดยที่ไม่มีท่านพ่อท่านแม่คอยอบรม…มาเถอะค่ะ เปิดหนังสือเรียนกันเถิด” มือของคิร่านั้นสั่นเทา..ทว่าใบหน้าของเธอก็ยังคงยกยิ้ม สตรีผู้นี้…ท่าทางจะไม่ได้แก่ตายซะแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางกล่าวถึงท่านพ่อท่านแม่ของเธอ คิร่าคิดว่าเธอจะยอมให้อภัยบารอนเนสไปก่อน แต่หากว่ามีครั้งต่อไปละก็ เธอจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ เช่นนี้อีกแล้ว…. ……. เบลล่านั่งอยู่ที่กิลข้อมูลของท่านลุงเจคอป เธอกำลังอ่านข้อมูลที่ผิดเพี้ยนของโจลี่ พานาร์ด “ท่านลุงหมายความว่า นางหลงรักท่านดยุคโอเว่นงั้นหรือคะ?” “ใช่ พานาร์ดเป็นตระกลูเล็กๆ แต่ได้รับการหนุนหลังจากเมเบโล่ที่เป็นตระกูลมหาอำนาจ ตอนนี้เมเบโล่คงจะกำลังขอสมรสพระราชทานอยู่เป็นแน่” เนื้อเรื่องที่เธออ่านมา มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ… โจลี่นั้นหลงรักอาเชอร์ตั้งแต่แรกเห็น ส่วนดยุคโอเว่นเป็นตัวร้ายที่หลอกลวงโจลี่ให้มาอยู่กับตน เบลล่าถอนหายใจ “เจ้าควรจะรีบหาทางช่วยว่าที่สามีไม่ใช่รึไง?” เธอขมวดคิ้วมองท่านลุงเจคอป “อ่า..นังหนูเบลอย่าดูถูกสายข่าวของข้าสิ….” เบลล่าหัวเราะร่า “โอเว่นที่มากด้วยอำนาจและกำลังทหาร เคนเนดี้ที่ฉลาดเฉลียว ริชแมนที่แสนจะร่ำรวย ให้ตายเถอะ!! ช่างเป็นตัวเลือกที่เลือกได้ยากมากทีเดียว ตระกูลยิ่งใหญ่ทั้งสามตระกูลกำลังหลงรักดรุณีน้อยที่แสนงดงาม” เจคอปยกยิ้มขึ้นมา ทว่าแววตาของเบลล่านั้นตกใจ “เดี๋ยวข้ามานะคะ!!” เธอรีบลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปด้านหลังตลาดอย่างรวดเร็ว!! ให้ตายเถอะสิ่งที่เธอคิดจะต้องเป็นจริงแน่นอน ในที่สุดเธอก็สามารถหาพระเอกของเรื่องเจอ!! “ว่าไงจ๊ะแม่หนู เอาเงินมาให้ข้าอีกสามร้อย โอ๊ย!!!” เบลล่าเดินเข้าไปหายิปซีก่อนที่เธอจะดึงวิกผมของเขาออกมา “ท่านเป็นผู้ชายจริงๆ ด้วยสินะ!! เหตุใดถึงต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงด้วย!!” อาเชอร์มองไปรอบๆ แต่ก็โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใคร เขาจึงรีบฉุดมือของเบลล่าเข้าไปในตรอก “นี่เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าเป็นผู้ชาย!!” “ข้าไม่เพียงรู้ว่าเจ้าเป็นผู้ชาย แต่ยังรู้ด้วยว่าเจ้าเป็นนักบุญที่ชื่อว่าอาเชอร์ใช่ไหม!!” เขามองมาที่ใบหน้างดงามของเบลล่าอย่างตกใจ “เจ้ารู้ได้ไงเนี่ย!!” “อาเชอร์ข้ามีเรื่องที่จะต้องคุยกับเจ้า” เธอยกมือขึ้นมาจับมือของเขาเอาไว้ “โถ่ นึกว่าเรื่องอะไร ข้าเข้าใจดีว่าใบหน้าของข้านั้นหล่อเหลา” “ผลัวะ!!” เบลล่าตีไปที่อกของอาเชอร์อย่างแรง ทำไมมันผิดเพี้ยนไปหมดเลยฟะ!! อาเชอร์ที่เธออ่านมา เขาคือพระเอกที่เป็นภาพบุรุษและให้เกียรติสตรี แต่ทำไมคนที่อยู่ต่อหน้าเธอถึงได้มีสภาพเช่นนี้กันนะ!! เธอคิดอะไรไม่ออกจึงได้พาอาเชอร์มาที่กิลข้อมูล “ข้าไม่คิดจะดูดวง…” เจคอปรีบส่ายหน้าเมื่อเขาเห็นเบลล่าพายิปซีเดินเข้ามา “หึ ความรักกำลังโอบล้อมรอบตัวท่านอยู่ใช่ไหมล่ะ!” เจคอปถึงกับตกใจ แต่คนที่ตกใจกว่าคือเบลล่า ที่ขมวดคิ้วมองเจคอป ความบ้าอะไรนั่น ใช่ท่านแม่ของเธอไหมนะ!! นี่เธอให้ท่านลุงไปคุ้มกันท่านแม่ กลับกลายเป็นว่า เธอได้พ่อใหม่เลยงั้นเรอะ! แต่ท่านลุงเจคอปก็ไม่ได้แย่ และเธอไม่ใช่เด็กน้อยที่เอาแต่ใจขนาดจะไปขัดขวางความรักของท่านแม่ “ข้าไม่ได้พาเขามาให้ดูดวงท่านลุงค่ะ แต่ข้าพาเขามาที่นี่เพื่อยื่นข้อเสนอให้เขา..” อาเชอร์มองเบลล่าก่อนที่เขาจะแสยะยิ้ม “สุดท้ายเจ้าก็จะรับเลี้ยงข้าเอาไว้เป็นชายบำเรออย่างนั้นหรือ ถึงข้าจะคิดว่ามันไม่ค่อยถูกต้องแต่ก็เอาเถอะ เห็นแก่ใบหน้าที่งดงามของเจ้าข้าจะยอมเป็น….” “พูดบ้าอะไรของเจ้า…อาเชอร์หากเจ้าพูดไร้สาระอีกละก็ ข้าจะสั่งให้คนไปทำลายแผงดูดวงของเจ้าซะ!!” “ข้าเพียงแค่พูดเล่นเท่านั้น เหตุใดต้องขู่กันด้วย..” เบลล่ายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ทำไมชีวิตของเธอจะต้องมารับมือกับคนที่ไม่ปกติสักคนก็ไม่รู้!! “เข้าเรื่องเลยนะ ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถมองเห็นอนาคตได้!!” คราวนี้อาเชอร์รู้สึกว่าเขากำลังตกใจจริงๆ เพราะไม่มีใครล่วงรู้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขา แววตาที่เขามองเบลล่าก็เริ่มเปลี่ยนไป “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการเงิน และข้าก็มีสิ่งที่เจ้าต้องการ ข้าจะให้หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของเหมืองเพชรที่เออเกรย์แก่เจ้า เพียง แค่เจ้าตกลงว่าจะทำงานให้ข้าและกิลข้อมูล”เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ