เบลล่ายกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม…คำกล่าวของอาเชอร์มันทำให้เธอคิดหนัก… เขาต้องการให้เธอมอบตำแหน่งพระคาดินันให้เขา เหตุใดการเป็นคนร่ำรวยถึงได้ลำบากลำบนขนาดนี้… เธอต้องอยู่ที่คฤหาสน์ริชแมนอีกวัน กับคิร่าก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องเป็นห่วง ร้านตัดเสื้อของท่านแม่ได้ท่านลุงเจคอปมาคอยช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน ก็เลยทำให้ตอนนี้มีลูกค้าที่เป็นทั้งชาวบ้านและชนชั้นสูงมากมายมาใช้บริการ ส่วนเลโอตอนนี้อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างเรื่องสมรสพระราชทาน…หากทางพระราชวังประกาศออกมาจริงๆ เขาจะทำยังไงกันนะ ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าของโจลี่แต่ในนิยายก็บรรยายเอาไว้ว่างดงามมากทีเดียว ยังจะเนื้อเรื่องที่เลโอต้องหลงรักโจลี่อีกถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องบางอย่างจะไม่ตรงกับในนิยาย แต่เธอจะวางใจในตัวของเลโอได้รึเปล่า… เบลล่ายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ… เรื่องของอาเชอร์คงจะต้องรอให้คิร่าขึ้นเป็นพระชายาก่อน ถึงจะสามารถเข้าไปในวิหารได้ เท่ากับในตอนนี้เธอควรจะหาทางให้เคาน์เตสยอมหย่าให้เร็วที่สุด เพื่อที่เธอจะได้ไปทำงานอย่างอื่นที่ค้างเอาไว้ ที่ด้านนอกหิมะกำลังโปรยปรายลงมา เป็นหิมะแรกที่พัดพาเอาความลำบากใจมาให้เบลล่าด้วย… วันนี้ท่านเคาน์ไม่ได้มาหาเธอ เขาบอกเธอแล้วว่าเขาจะไปจัดการเกี่ยวกับงานของเอเซล่า พรุ่งนี้เธอต้องไปที่คฤหาสน์โอเว่นพอดี จะได้คุยกับเลโอให้รู้เรื่องไปเลย …… “เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนั้น?” เบลล่ายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ เพราะทันทีที่เธอมาที่คฤหาสน์โอเว่น ราชโองการเรื่องสมรสพระราชทานก็ประกาศออกมาทันที “เลโอท่านจะให้ข้าทำหน้ายังไง ในเมื่อท่านกำลังจะแต่งงาน!!” “ใครจะไปแต่ง ข้าไม่ยอมแต่งงานเพียงเพราะคำสั่งขององค์จักรพรรดิหรอกนะ!!” “ราชโองการมิใช่สิ่งที่จะยกเลิกได้…” “เบลที่รัก มิต้องเป็นกังวล” เลโอลุกขึ้นมาโอบกอดเบลล่าเอาไว้ “ข้ากำลังดีใจนะ ที่เห็นท่าทางโมโหของเจ้า…มันราวกับว่าเจ้ากำลังป่าวประกาศว่าข้าเป็นของเจ้า” “มันใช่เวลามาล้อเล่นไหมเลโอ…บอกข้าทีว่าท่านจะทำยังไง?” “อ่า..เรื่องนั้นยังบอกไม่ได้ แต่เจ้าเชื่อใจข้าหน่อยเถิด…” “ท่านไม่เคยเห็นหน้าของเลดี้พานาร์ดด้วยซ้ำ ท่านอาจจะตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกพบก็ได้” เลโอหัวเราะ นี่มันน่ารักชะมัดเลยแฮะ!! เธอกำลังหึงเขาอยู่ใช่ไหมเนี่ย!! “ที่รัก..ต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะเชื่อใจข้า ต้องพาเจ้าเข้าไปในห้องแล้วให้ข้าพร่ำบอกว่าข้ารักเจ้าแค่ไหนตอนที่เรากอดกันอยู่บนเตียง หรือจะให้ข้าบอกเจ้าด้วยร่างกายของข้าดีล่ะ” “เลโอ ท่านรักษาความลับได้รึเปล่า?” ใบหน้าและแววตาของเบลล่านั้นเปลี่ยนไปจนเลโอถึงกับชะงัก..แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ได้ปล่อยมือที่กอดเธอออก เบลล่าตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้เลโอฟัง เพราะเธอรู้สึกว่ารอบตัวของเธอในตอนนี้มันมีแต่ปัญหาเต็มไปหมด เธอในตอนนี้ต้องการใครสักคนเพื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเธอ.. ใครสักคนที่เธอสามารถพูดคุยและปรึกษาปัญหากับเขาได้ทุกเรื่อง และใครคนนั้นก็คือเลโอที่เขาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงที่สุด… หลังจากเลโอได้ฟังเรื่องทั้งหมดเขาก็ไม่ได้พูดอะไร…เลโออุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก “เบล เจ้าแบกเรื่องพวกนี้เอาไว้คนเดียว มาตลอดเลยงั้นหรือ?” เลโอนั้นพอจะเข้าใจที่เบลล่ากังวลเกี่ยวกับการสมรสพระราชทานในครั้งนี้ เธอไม่ได้กังวลเพียงแค่เรื่องของเขา แต่เธอกังวลไปถึงเรื่องรอบๆ ตัวเขา อีกทั้งเลดี้พานาร์ดเป็นนางเอกของเรื่อง นั่นหมายถึงว่าคนทั่วๆ ไปก็จะต้องให้ความสนใจกับสตรีผู้นี้ เบลล่ากำลังกลัวว่าจะเสียเขาไป..เพราะตามเนื้อเรื่องแล้วมันเป็นเช่นนั้น เลโอในตอนนี้ทำได้เพียงกอดปลอบเธอเอาไว้เพราะเขารู้แล้วว่าเธอกำลังหวาดกลัวขนาดไหน “ข้ารู้สึกดีมากนะ ที่เจ้าบอกกล่าวเรื่องทั้งหมดกับข้า…” “ท่านไม่คิดว่าข้าโกหกหรือคะ เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะเชื่อได้โดยง่าย” “ต่อให้เจ้าบอกว่าเจ้าไปปราบมังกรมาข้าก็เชื่อ เพราะเจ้าคือสตรีที่ข้ารักยังไงล่ะ ทุกคำที่เจ้ากล่าวมานั้นมันสำคัญสำหรับข้าเสมอ..เพราะฉะนั้นตอนนี้ข้าควรจะไปซัดหน้าเคาน์ริชแมนสักที!!” เบลล่ายกยิ้ม เธอยกมือขึ้นมากอดเลโอเอาไว้แน่น คิดถูกจริงๆ ที่บอกเขา!! “เอาล่ะทีนี้ เจ้าจะแก้ปัญหาตรงไหนก่อน?” เธอเอาคางเกยไว้ที่ไหลของเขา “ข้าคิดว่าจะทำให้เคาน์เตสหย่ากับท่านเคาน์ก่อนค่ะ..” “อืม ตอนนี้เจ้าได้กิลข้อมูลมาอยู่ในมือแล้วนี่ อีกไม่นานน่าจะพบเหตุและผลที่เคาน์เตสริชแมนต้องทำเรื่องเลวทรามเช่นนั้น ข้าได้ยินมาว่าบารอนเนสเอเลเกอร์เป็นคนเข้าไปสอนเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับพระราชวังให้เลดี้เคนเนดี้ ข่าววงในคือเคาน์เตสริชแมนเป็นคนส่งบารอนเนสไป…” “เหตุใดนางถึงต้องการทำลายเคนเนดี้?” “นั่นนะสิ…เรื่องนี้เห็นทีจะต้องเรียกเคาน์เคนเนดี้มาคุยซะแล้ว” เบลล่าเงยหน้าขึ้นมองหน้าของเลโอ “ท่านจะช่วยข้างั้นหรือคะ?” “…ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว เจ้าคือว่าที่ภรรยาของข้านะ” เธอยกยิ้มพร้อมกับหอมแก้มเลโอเบาๆ เลโอดีที่สุดเลย!! “ท่านดยุคเรียกข้ามา….” พอเบลล่าหันไปมองตามเสียก็ต้องตกใจ เพราะโคลด์กำลังเดินเข้ามา ในแววตาของเขาก็ตกใจเช่นกันที่เห็นเธอนั่งอยู่บนตัวของดยุคโอเว่น “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมาไวขนาดนี้..นั่งสิเคาน์เคนเนดี้” เบลล่าทำท่าจะลุกขึ้น แต่เลโอรีบจับเอวของเธอเอาไว้ “นั่งตรงนี้!” โคลด์ทำได้เพียงถอนหายใจ เพราะที่เขามาวันนี้ก็เพื่อจะคุยเรื่องเคาน์เตสริชแมน ท่านดยุคกำลังยื่นมือมาช่วยเขา จะเสียมารยาทไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ชอบใจใบหน้าที่ดูสะใจของท่านดยุคตอนนี้เลย ให้ตาย!! “เลโอ ปล่อยก่อนค่ะ!” เบลล่านั้นกล่าวเสียงแข็งนั่นทำให้เลโอยอมปล่อยมือจากเธอ เซ็ดดริกเดินเข้ามาพร้อมกระดาษในมือ “นี่เป็นข้อมูลทั้งหมดของเคาน์เตสริชแมนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันครับ…และด้านล่างเป็นข้อมูลลับเฉพาะที่ท่านเจคอปฝากมาครับ” เบลล่ายกกระดาษพวกนั้นขึ้นมาอ่าน แมรี่ มิลาด้า บุตรีคนเดียวของตระกลูแมรี่ สตรีผู้นี้วัยเด็กถูกบังคับให้เรียนอย่างหนักเพราะมีสัญญาหมั้นหมายกับริชแมนตั้งแต่เด็ก มิลาด้าจึงต้องพยายามเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เธอเติบโตขึ้นมาท่ามกลางแรงกดดันมหาศาลจากคนในตระกูล มีข่าวลือว่ามิลาด้ามิใช่ลูกสาวของมาร์ควิสแมรี่ แต่เธอคือลูกติดในท้องของมาเช่อเนสที่ถูกบังคับให้แต่งงาน… ชีวิตของมิลาด้าถึงได้ลำบากมาก หากไม่ติดว่าเธอนั้นมีสัญญาหมั้นหมายกับริชแมน เธอน่าจะถูกขับไล่ออกจากแมรี่ไปแล้ว… มาเช่อเนสเสียชีวิตลงตอนที่มิลาด้าอายุเพียงสิบขวบ คำสุดท้ายที่มาเช่อเนสพูดกับมิลาด้าคือเธอบอกกล่าวว่าพ่อที่แท้จริงของมิลาด้าคือใคร…ซึ่งเรื่องนั้นไม่มีใครรู้นอกจากมิลาด้า เพราะมาเช่อเนสกระซิบที่หูของเธอเพียงคนเดียว… เลโอยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม…จิ๊กซอว์ทั้งหมดได้ถูกต่อขึ้นมาแล้ว “ข้าคิดว่าเคาน์เคนเนดี้ฉลาดพอที่จะรู้ว่าพ่อแท้ๆ ของเคาน์เตสริชแมนคือใคร…” โคลด์กำมือแน่น เขาเงียบจนเบลล่านั้นเริ่มเป็นห่วง “สตรีผู้นั้นมิใช่คนที่คุยรู้เรื่อง จะปล่อยให้ท่านเคาน์ไปจัดการคนเดียวดูจะหนักหนาไปบ้าง” โคลด์ส่งยิ้มให้เบลล่า “แค่เจ้ากับท่านดยุคยื่นมือเข้ามาช่วยสืบหาข้อมูลเหล่านี้ ข้าก็ขอบคุณมากแล้ว นี่เป็นเรื่องภายในของเคนเนดี้ ให้ข้าเป็นคนจัดการเองเถิด” เบลล่าขมวดคิ้ว เธอมองที่โคลด์อย่างเจ็บปวด “ไว้วันจันทร์พบกันนะ คิร่าเองก็รอพบเจ้าอยู่” เธอพยักหน้าและส่งยิ้มให้โคลด์ เลโอดึงเบลล่ามากอดอีกครั้ง หลังจากที่โคลด์เดินออกไป “….เชื่อมั่นในตัวเขาหน่อยเถิด พวกเราถือเป็นคนนอก ปล่อยให้พี่น้องเขาจัดการกันเองเถอะ” “ก็เพราะว่าเป็นพี่สาว…ข้าคิดว่าท่านเคาน์จะต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ เลยค่ะ” “เคาน์เคนเนดี้รักน้องสาวมาก เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องน้องสาว ถึงแม้จะทำร้ายเคาน์เตสริชแมนก็ตาม บางทีเจ้าอาจจะไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ เพราะเคาน์เตสริชแมนอาจจะยอมถอยออกไปเอง…” “ท่านคิดว่าท่านเคาน์จะโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” เท่าที่เธออยู่กับท่านเคาน์เคนเนดี้มา เขาเป็นคนอ่อนโยนมากๆ คนหนึ่ง (ยกเว้นตอนอยู่บนเตียง) เขาจะกระทำเรื่องราวที่โหดร้ายขนาดนั้นเลยหรือ? เลโอขมวดคิ้ว เขาขบกัดที่ไหล่ของเบลล่าเบาๆ “เจ้าจะบอกว่าเขาเป็นคนอ่อนโยนมากงั้นสิ!!” อ่า..ฟังจากน้ำเสียง ดูท่าทางว่าสิงโตน้อยผู้นี้จะโกรธเธอเสียแล้ว “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” เบลล่ายกมือขึ้นมากุมหน้าของเลโอเอาไว้ “หากจะนับที่ความอ่อนโยนแล้วละก็ ท่านเลโอถือเป็นคนที่อ่อนโยนที่สุดต่างหาก!!”
เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ