คฤหาสน์เมบิลเป็นคฤหาสน์หลังเล็กๆที่มีสองชั้น สามห้องนอน ส่วนด้านล่างเป็นห้องโถงรับแขกและห้องรับรอง ด้านหลังคือห้องครัวและห้องคนรับใช้ขนาดเล็กสามห้อง
ในใจของเบลล่ารู้สึกถูกใจมากๆ เพราะสถานการณ์เรื่องการเงินของเธอในตอนนี้ยังไม่มั่นคงพอที่จะจ่ายให้กับค่าดูแลคฤหาสน์ที่ใหญ่เกินไป เธอมีเงินเก็บราวสองพันเหรียญทองจากการทำงานนอกสถานที่ เบลล่านั้นคือคนที่ฉลาดเรื่องการเรียนมากๆ เธอจึงรับจ้างสอนหนังสือตั้งแต่ชนชั้นสูงยันชาวบ้านที่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะจ้าง ทำให้มีเงินจำนวนนี้ให้เก็บเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น ส่วนท่านแม่มีเงินเก็บในธนาคารราวห้าหมื่นเหรียญทอง เงินจำนวนนี้คือเงินที่ท่านยายให้ไว้ตั้งแต่สิบหกปีที่แล้ว ท่านแม่ไม่เคยนำมันออกมาใช้เลย และท่านแม่ก็ซุกซ่อนบัญชีนี้เอาไว้ไม่ให้ท่านพ่อรู้เรื่อง ส่วนที่ตัวของท่านแม่มีเงินราวห้าพันเหรียญทอง เราสองแม่ลูกเริ่มชีวิตในบ้านหลังใหม่ด้วยการไปตลาดเพื่อซื้อของมาเลี้ยงฉลองให้แก่ชีวิตใหม่ “ข้าคิดว่าจะไปที่ตลาดค้าทาสค่ะ เราอาจจะต้องการคนงานสองถึงสามคนในการดูแลคฤหาสน์” “แม่คิดว่าเพียงงานดูแลคฤหาสน์ แม่สามารถทำงานทั้งหมดได้…” เบลล่ายื่นมือไปจับมือของท่านแม่เอาไว้ “ข้าบอกแล้วไงคะ ว่าท่านแม่ในตอนนี้คือเคาน์เตสเมบิล..ท่านมิใช่บารอนเนสแลนเดอร์ที่ต้องทำงานหนักเช่นเดิมอีกแล้ว” “หากว่าการที่แม่สบาย มันจะทำให้ลูกลำบาก แม่ไม่มีทางยินยอมหรอกนะเบล” เบลล่าส่ายหน้า “ท่านแม่คะ เป้าหมายของข้าในตอนนี้คือการที่ข้าจะพาท่านแม่กลับไปคืนสู่ยศแกรนด์ดัชเชส ถึงมันอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับการเป็นแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ แต่ข้าจะพาท่านแม่ไปยืนในจุดที่ท่านแม่จะไม่อับอายใครอีกแล้ว ข้าจะพาท่านแม่กลับไปหาท่านปู่ท่านย่า เราจะยืนในเมเบโล่อย่างสมเกียรติ และไม่มีใครมาดูถูกเราได้อีก…” น้ำตารินไหลลงมาจากใบหน้าที่งดงามของฮันน่าเธอยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าของเบลล่า ลูกสาวที่เป็นดุจนางฟ้าตัวน้อยๆ ของเธอ ลูกสาวที่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเธอให้ต่อสู้กับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ในวันนี้เด็กน้อยคนนั้นเติบโตและกางแขนปกป้องเธอได้แล้ว ฮันน่ารู้ดีว่าการที่แกริคยอมหย่าง่ายดายเช่นนั้นมันจะต้องเป็นแผนการของเบลล่าแน่นอน ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณที่ส่งนางฟ้าตัวน้อยมาให้เธอ เบลล่ายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ท่านแม่ “กินเนื้อย่างกันเถอะค่ะ!! ท่านแม่ชอบกินเนื้อย่างมากๆ เช่นนั้นต่อไปนี้ข้าจะซื้อเนื้อย่างให้ท่านแม่ทานทุกวันเลยดีไหมคะ” “ใจคอลูกจะให้แม่คนนี้กินแต่เนื้อย่างรึไง!!…ร่างกายจะดีเราต้องทานผักด้วย อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้ว่าวันนี้เจ้าตั้งใจซื้อผักมาน้อยๆ เพราะเจ้าไม่ชอบทานผักนะ” “เอาน่า..ไหนๆ วันนี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ของเรา ข้าขอไม่กินผักสักวันนะคะท่านแม่” เสียงออดอ้อนของเบลล่ามันทำให้ฮันน่าใจอ่อนลงยวบยาบเลย ในค่ำคืนที่เงียบสงบมีเพียงเสียงหัวเราะของสองแม่ลูกที่ดังออกมาจากคฤหาสน์เมบิลเท่านั้น “นางไปที่ตลาดเพื่อซื้อเนื้อย่างไปฉลองกับเคาน์เตสเมบิลแล้วครับ” เลโอพยักหน้า เขาแทบไม่ได้ลงมือช่วยเรื่องการหย่าของบารอนแลนเดอร์เลยด้วยซ้ำ ที่ทุกอย่างมันสำเร็จก็เพราะแผนการที่เธอวางเอาไว้อย่างดีต่างหาก เบลล่าถือได้ว่านางเป็นคนฉลาดที่จะมีประโยชน์ต่อเขามากๆในวันข้างหน้า การลงทุนมอบคฤหาสน์เมบิลให้เธอไปถือว่าคุ้มค่าสุดๆ ไปเลย หากจะเทียบกับสิ่งที่เขาจะได้จากเธอในอนาคต รอคอยวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วละสิ …… เบลล่าเดินทางมาที่คฤหาสน์โอเว่นตั้งแต่เช้าตรู่ เธอเข้ามานั่งรอเลโอในห้องทำงานของเขา “สวัสดีครับ ข้าชื่อเซ็ดดริก อะ..เอ่อ คิดว่าท่านคงจะรู้อยู่แล้ว” เบลล่าส่งยิ้มให้ชายร่างยักษ์ผิวสีแทนที่ดูน่ากลัว แต่เธอรับรู้ได้เลยว่าจิตใจของเขามันไม่ได้เลวร้ายเช่นหน้าตาที่น่ากลัวของเขา “จำได้สิ ที่บอกว่าอยากทานข้าวกับท่านสักมื้อนั้นข้ามิได้โกหกเลยนะคะ” “..คะ..ครับ!!” เบลล่าหัวเราะเสียงใส ซึ่งเพียงแค่เสียงหัวเราะของเธอมันดันไปตราตรึงในใจของเซ็ดดริกจนหัวใจของเขาเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก เลโอที่เดินเข้ามาได้ยินเสียงหัวเราะของเบลล่าเขามองไปที่เซ็ดดริกก็พบว่าอัศวินข้างกายของเขานั้นกำลังหน้าแดงด้วยความเขินอาย ทว่าพอเบลล่าเห็นท่านดยุคเดินเข้ามาเธอก็รีบลุกขึ้นเพื่อทำความเคารพ “รู้จักกันแล้วสินะ ต่อจากนี้เซ็ดดริกจะเป็นคนปกป้องเจ้าจากการทำภารกิจต่างๆ…งานแรกของเจ้าก็คือเจ้าจะต้องเข้าไปในงานบรรลุนิติภาวะของคฤหาสน์เคนเนดี้ พยายามเข้าถึงตัวของคิร่า เจ้าของงานวันนั้น” “เช่นนั้นเรื่องตัวตนที่แท้จริงของข้า จะให้ข้าปลอมตัวหรือว่า..” “ข้าคิดว่าเจ้าเปิดเผยตัวตนก็ได้นะหากว่าเจ้าสะดวกใจ เพราะงานนี้อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน เจ้าจะต้องทำยังไงก็ได้ให้เลดี้คิร่าแต่งงานกับดยุคแม็คซิมัส” หือ!! มันยากเกินไปไหมสำหรับงานแรก “ค่าตอบแทนงานนี้คือหนึ่งแสนเหรียญทอง…มารับไปได้ทันทีที่เคนเนดี้ตอบรับจดหมายการขอแต่งงานของแม็คซิมัส” อืม..อันที่จริงก็มองดูไม่ค่อยยากเท่าไหร่ เธอทำได้อยู่แล้วแหละน่า!! “ข้าได้จัดการสร้างสถานะของเมบิลขึ้นมานานแล้ว เจ้าแค่บอกเพียงเจ้าคือเลดี้ที่มาจากเมบิลเท่านั้น ทุกคนก็จะไม่สงสัย ส่วนเรื่องบัตรงานเลี้ยงหรือค่าใช้จ่ายเรื่องชุดเครื่องประดับ รถม้า คนรับใช้ รายจ่ายทุกอย่างที่เกี่ยวกับการสร้างตัวตนของเมบิล เจ้าสามารถให้เซ็ดดริกมาเบิกที่พ่อบ้านได้เลย” อ่า..นั่นมันดีสุดๆ เลยไม่ใช่รึไง!! นี่มันเท่ากับรายจ่ายทั้งหมดที่คฤหาสน์เมบิลสามารถมาเก็บที่เขาได้เลย!! เบลล่ารู้สึกว่า เธอได้กลิ่นหอมของเงินหนึ่งแสนเหรียญทองขึ้นมาเลยแฮะ “นี่เป็นบัตรเชิญ…จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในสามวัน ข้อมูลของเลดี้คาร่าจะถูกส่งไปที่เมบิลในวันพรุ่งนี้” “เข้าใจแล้วค่ะ” “มันอาจจะดูง่าย แต่เจ้ามีโอกาสทำความรู้จักกับเลดี้คาร่าเพียงแค่ในงานบรรลุนิติภาวะครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะนางไม่ชอบออกงานสังคมใดๆ อีกทั้งนางยังเป็นสตรีที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก…ข้าคาดหวังกับการทำงานครั้งแรกของเจ้ามากนะเบลล่า ทำให้มันสำเร็จให้คุ้มค่ากับเงินที่ข้ายอมจ่ายให้เจ้าด้วย!” เบลล่ากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะมองไปที่ท่านดยุค “ข้าจะทำให้เต็มที่ให้สมกับที่ท่านดยุคคาดหวังค่ะ!!” “ดี!!..ออกไปได้แล้ว!!” เบลล่าเดินออกมาพร้อมกับเซ็ดดริก “ท่านเซ็ดดริกมีงานอะไรที่ต้องไปทำอีกรึเปล่าคะ?” “ไม่มีแล้วครับ..งานของข้าต่อไปนี้คือตามปกป้องท่าน” “อ่า..ดีเลยข้าตั้งใจว่าจะไปที่ตลาดค้าทาส หากมีท่านไปด้วยก็คงจะดี” “ครับ ข้าจะไปเตรียมรถม้า” เบลล่าส่งยิ้มให้เซ็ดดริกก่อนที่เธอจะเดินตามเขาออกไป “ได้พบกันอีกครั้งแล้วสาวน้อย” เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านแกรนด์ดัชเชส เธอก้มหน้าทำความเคารพก่อนจะเดินไปหาสตรีสูงวัย “ท่านแกรนด์ดัชเชสกำลังทำอะไรอยู่งั้นหรือคะ?” หญิงชรายกยิ้ม “นี่เป็นแป้งสำหรับทำคุกกี้…ข้าตั้งใจจะอบให้ทุกคนในคฤหาสน์เพราะใกล้จะสิ้นปีแล้ว” “อ่า..น่าเสียดายที่ข้ามิใช่คนในคฤหาสน์ก็เลยอดชิมฝีมือของท่านแกรนด์ดัชเชสเลยค่ะ” “เจ้ามาทำงานให้เลโอก็เหมือนเป็นคนในคฤหาสน์นั่นแหละ!!..เดี๋ยวข้าจะฝากเซ็ดดริกไปให้นะ” เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านแกรนด์ดัชเชส “ขอบคุณมากนะคะ ท่าทางมันจะต้องอร่อยมากแน่ๆ เลย” แกรนด์ดัชเชสยกมือขึ้นมาลูบผมของเบลล่าอย่างเอ็นดู “เจ้าช่างเป็นเด็กหญิงที่งดงามเจิดจ้า จนสามารถสะกดสายตาได้เลยทีเดียว ข้าพอจะรู้เรื่องราวของตระกูลแลนเดอร์มาบ้าง ได้แต่ขอบคุณพระเจ้าที่เด็กหญิงงดงามเช่นเจ้าเดินออกมาจากตระกูลที่เลวร้ายเช่นนั้นได้…” “หากว่าท่านแกรนด์ดัชเชสรู้สึกสงสารข้า ท่านก็เพิ่มคุกกี้ให้ข้าสักสองกล่องนะคะ” หญิงชราหัวเราะ เธอนั้นรู้สึกถูกใจเด็กคนนี้จริงๆ “รถม้าพร้อมแล้วครับ” เบลล่าส่งยิ้มพร้อมทั้งโบกมือลาให้แกรนด์ดัชเชส “ทั้งๆที่ท่านแกรนด์ดัชเชสก็ดูอ่อนโยนและใจดีเช่นนั้น เหตุใดท่านดยุคถึงได้ทำตัวน่ากลัวจังคะ?” เซ็ดดริกส่งยิ้มให้เบลล่า “เดิมทีท่านดยุคก็เป็นคนอ่อนโยนครับ แต่สถานการณ์รอบๆ ข้างมันบีบบังคับให้ท่านต้องแข็งแกร่งเพื่อจะได้ปกป้องรอยยิ้มของท่านแกรนด์ดัชเชส ท่านดยุคอาจจะเห็นดวงตาของท่านเบลล่าที่ต้องการปกป้องแม่ของตัวเอง ว่ามันเหมือนกับดวงตาของตนในตอนนั้น ก็เลยยื่นมือเข้าช่วยท่านเบลล่ายังไงล่ะครับ” เบลล่ายกยิ้มจางๆ ในหนังสือที่เธออ่านไม่ได้บรรยายเรื่องของร้ายละเอียดมากนักหรือว่าเธอยังอ่านไม่ถึงก็ไม่รู้เพราะเธอดันอ่านนิยายไม่จบนี่แหละ!! แต่ช่างมันเถอะ เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำงานให้ท่านดยุคแค่พอมีเงินในการซื้อที่ดินบนภูเขาเออร์เกร์เท่านั้น เพราะที่นั่นจะขุดเจอเพชรในอีกสามปีหลังจากนี้ และเธอได้ลักลอบเข้าไปขุดดินในที่แห่งนั้นดู เธอก็พบเพชรจำนวนมากอยู่ในดิน….นั่นหมายความว่าหากเธอซื้อที่ดินตรงนั้นเธอก็จะได้เป็นเจ้าของเหมืองเพชรแทนพระเอก ถึงจะดูเลวร้ายไปหน่อยแต่ว่านี่ก็นิยายดราม่าอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ!! เธอไปสืบราคาที่ดินทั้งหมดจำนวนห้าร้อยไร่ ราคาสามสิบล้านเหรียญ และเธอมีเวลาราวสองปีกับอีกหกเดือนในการเก็บเงินสามสิบล้านเหรียญ หากว่าเธอเป็นเจ้าของที่ดินนั้นและสร้างเหมืองเพชรได้ ชีวิตของเบลล่าก็จะคอมพลีททันที เธอจะร่ำรวยที่สุดในราชอาณาจักรนี้เธอและท่านแม่จะไม่ต้องทำงานและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปทั้งชาติ!!! “กำลังคิดเรื่องอะไรอยู่งั้นหรือครับ?” เบลล่าหัวเราะเบาๆ ให้กับเซ็ดดริก “ข้าเพียงคิดว่าชีวิตของข้ามันกำลังจะต้องดีขึ้นแน่นอนค่ะ” เราใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงตลาดค้าทาส “ท่านเบลล่าอยากได้ทาสแบบไหนครับ?” “อืม..ข้าอยากได้แม่บ้านสักคนสอง ส่วนอีกสองคนอยากได้เป็นคนสวนและพ่อบ้านค่ะ” เซ็ดดริกหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับทาสผู้หญิงสี่คน และทาสผู้ชายสามคน “เชิญท่านเบลล่าเลือกได้เลยครับ” เธอมองไปที่ทาสผู้หญิงสามคนที่ดูท่าทางหวาดกลัว…อาจจะเป็นเพราะใบหน้าของเซ็ดดริกที่ทำให้ทุกคนหวั่นใจ เบลล่าเดินไปที่สตรีร่างท้วมผู้หนึ่ง “เจ้าทำงานบ้านได้รึเปล่า?” “ทำได้ค่ะ…ข้า น้องสาวและท่านลุงถูกขายมาจากคฤหาสน์เทอร์กรีสที่ล่มสลาย พวกเราเคยรับใช้ท่านดยุคมากก่อนเราจะรับใช้เลดี้อย่างสุดความสามารถเลยค่ะ ขอเพียงเลดี้พาท่านลุงคนนั้นไปด้วย ข้าจะทำงานเพิ่มเป็นสองเท่าในส่วนของเขาเอง..” เบลล่ามองไปที่ยังชายชราที่สตรีร่างท้วมชี้มา เธอเดินตรงไปหาชายชราที่นั่งหายใจหอบเหนื่อย ตลาดค้าทาสนั้นดูจะโหดร้ายมากทีเดียว หน้าตาของชายชราผู้นี้นั้นดูราวกับขาดน้ำอย่างรุนแรง “ท่านรู้หนังสือไหมคะ?” “…ครับ ข้าเคยเป็นพ่อบ้านมาก่อน..สามารถอ่านออกและเขียนได้” “อืม เซ็ดดริกพาสามคนนี้ไปจ่ายเงินที่ด้านนั้นเลย เดี๋ยวอีกคนข้าจะเลือกเอง!!” “การซื้อทาสที่ชราไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่นะครับ” “พาพวกเขาไปเถอะน่า..แล้วอย่าลืมหาน้ำและอาหารให้พวกเขาด้วยนะคะ” เซ็ดดริกถอนหายใจ แต่ทว่าเขาก็รีบพาทาสทั้งสามไปจ่ายเงินให้กับนายหน้าทาสเบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ