LOGINเบลล่าเลือกอยู่นานแต่ทว่าเธอก็ยังไม่สามารถหาคนสวนที่ถูกใจได้เลย อีกทั้งตอนนี้ก็เป็นเวลาใกล้จะมืดแล้วเธอจึงเดินทางกลับคฤหาสน์ก่อน
เซ็ดดริกนั้นทำงานได้ดีเกินกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้ เขาล่วงหน้ามาจัดการเรื่องเกี่ยวกับคนรับใช้ ทั้งเรื่องหาหมอมาตรวจร่างกายและเรื่องการจัดสรรห้องที่เหมาะสม ชายชราผู้นั้นชื่อว่า เซนเดอร์ ร่างกายของเขานั้นมีเพียงอาการขาดน้ำและขาดสารอาหารเท่านั้น ส่วนคนใช้ร่างท้วมชื่อว่ามิเกล น้องสาวของมิเกลนั้นไม่สามารถพูดได้เพราะเธอเป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิด ชื่อว่ามิลัน หลังจากได้ทานอาหารมิเกลและมิลันก็เริ่มงานทันที คนที่ตื่นเต้นกว่าใครนั้นก็น่าจะเป็นท่านแม่ เธอลงมาทำความรู้จักกับคนรับใช้ทั้งสามด้วยท่าทางดีใจ เบลล่ามองภาพเหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่าข้าอยากจะได้คนสวนที่สามารถปกป้องคฤหาสน์ได้ อีกทั้งยังอยากได้อัศวินสักสองคนมาคอยคุ้มกันท่านแม่” “ครับ ข้าจะจัดการหาอัศวินที่เหมาะสมมาให้” “ข้าอยากได้อัศวินที่ไม่ขึ้นตรงกับสังกัดของตระกูลโอเว่นนะคะ ข้าอยากได้อัศวินที่เป็นของข้าจริงๆ หวังว่าเซ็ดดริกจะเข้าใจความคิดของข้า” “ครับ ตามที่ท่านเบลล่าประสงค์” “ท่านจะพักที่นี่ไหมคะ ด้านบนยังมีห้อง…” “ไม่ครับ..บ้านของข้าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พรุ่งนี้ข้าจะมารับท่านไปเลือกชุดและเครื่องประดับสำหรับไปงานนะครับหากว่าเวลาเหลือข้าจะพาท่านไปแอบดูเลดี้คิร่าสักหน่อยเพื่อให้ท่านประเมินเกี่ยวกับงานของเราเบื้องต้น” เบลล่าพยักหน้า เธอทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ป่านนี้ท่านพ่อและแม่รองจะรู้รึยังนะว่าสตรีผู้นั้นเป็นเพียงโสเภณีที่ถูกเธอจ้างไป อ่า..มีความสุขชะมัดเลยแฮะ!! วันรุ่งขึ้นเซ็ดดริกมารับเบลล่าแต่เช้า เพื่อพาเธอไปยังห้องเสื้อของมาดามอิกกี้…ซึ่งเป็นห้องเสื้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ ด้านในมีสตรีมากมายกำลังเลือกชุดอยู่ “ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเรานะครับ เลดี้คิร่าคือสตรีผมสีแดงที่ยืนเลือกชุดอยู่ด้านซ้าย ในห้องเสื้อนี้บุรุษไม่สามารถเข้าไปได้ ข้าส่งท่านเบลล่าได้เพียงเท่านี้นะครับ” เธอพยักหน้าให้เช็ดดริก..มาเริ่มงานก้าวแรกกันเถอะ “ยินดีต้อนรับเข้าสู้ห้องเสื้อของมาดามอิกกี้ค่ะ…ไม่ทราบว่าเลดี้ที่งดงามผู้นี้มีใบนัดไหมคะ” เบลล่าส่งยิ้มให้กับสตรีผิวสีแทนที่ดูท่าทางกระตือรือร้น ก่อนจะยื่นใบนัดให้เธอ “อื้ม…ยินดีต้อนรับค่ะเลดี้เมบิล กรุณานั่งรอมาดามที่โซฟาด้านนั้นสักครู่นะคะ” เบลล่าเดินเข้าไป..ด้านในโซนที่มีใบนัดมีเพียงเธอและเลดี้คิร่าที่กำลังเลือกชุดอยู่ ที่ข้างกายของเลดี้คิร่าไม่มีผู้ติดตามสักคน นั่นหมายความว่าสตรีผู้นี้ไม่ชอบบรรยากาศที่วุ่นวาย อีกทั้งตามข้อมูลที่เธอได้มาสตรีผู้นี้เป็นคนโลกส่วนตัวสูงและไม่ค่อยชอบคุยกับใคร เบลล่าส่งยิ้มให้เลดี้คิร่า “ชุดในมือของเลดี้ช่างงดงามมากเลยค่ะ…เส้นผมสีแดงเช่นนี้ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนออกมาก็ล้วนแล้วแต่งดงามทั้งสิ้น” “ขอบคุณ…แต่ข้ามิได้ถามความเห็นของเลดี้ค่ะ” อืม..กำแพงมันช่างสูงชันซะเหลือเกิน! แต่เบลล่าคนนี้ไม่หวั่นหรอกนะ เพื่อเงินหนึ่งแสนเหรียญทองแล้ว เธอจะปีนข้ามมันไปให้ได้ “ขออภัยที่คำกล่าวของข้าทำให้เลดี้ไม่สบายใจนะคะ…ข้าเพียงเห็นภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของเลดี้แล้วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชม” “ข้าจะบอกอะไรให้นะคะ หยุดตีสนิทข้าเพื่อจะเข้าหาพี่ชายของข้าได้แล้วค่ะ!! ข้าไม่คิดจะยกท่านพี่โคลด์ให้ใครหรอกนะ!” ห๊ะ!! ใครมันจะไปอยากได้พี่ชายของเธอกันเล่า! “อ่า..ข้าคิดว่าเลดี้อาจจะเข้าใจเจตนาของข้าผิด ตระกูลเมบิลของข้าพึ่งจะย้ายมาจากเมืองข้างๆ ข้ายังไม่เคยเห็นหน้าของพี่ชายเลดี้เลย ที่ข้าเข้ามาคุยกับท่านในวันนี้ก็เพียงแค่ข้าอยากจะมีเพื่อนใหม่เท่านั้นเองค่ะ” แววตาของคิร่าที่มองเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะมันดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด…แสดงว่าที่ทำตัวไม่คบใครเป็นเพื่อนเลยเพราะหวงพี่ชายงั้นเหรอเนี่ย! น่ารักชะมัด “เช่นนั้นก็ดี…ว่าแต่เลดี้มาเลือกชุดไปงานอะไรคะ ข้าคิดว่าข้าอาจจะพอแนะนำชุดออกงานของที่นี่ให้เลดี้ได้” คิร่ากล่าวพร้อมทั้งมองหน้าเธอ “ท่านแม่ของข้าได้รับบัตรเชิญไปงานบรรลุนิติภาวะของตระกูลเคาน์เคนเนดี้ค่ะ…ท่านแม่ไม่ค่อยสบายข้าก็เลยต้องไปแทน นี่ถือเป็นการออกงานครั้งแรกของข้าเลยก็ว่าได้ เลดี้พอจะแนะนำการวางตัวให้ข้าได้ไหมคะ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลเคนเนดี้นั้นยิ่งใหญ่และทรงอำนาจมากๆ เลย ข้าที่ไร้ประสบการณ์เช่นนี้กลัวจะทำเรื่องขายหน้า…” ใบหน้าของคิร่านั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ หญิงสาวมองใบหน้าที่งดงามและไร้เดียงสาของเบลล่าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ใบหน้าที่งดงามของสตรีที่นั่งตรงข้ามเธอมันทำให้เธอรู้สึกถูกใจอย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งเลดี้ผู้นี้ยังไม่ได้เข้าหาเธอเพราะท่านพี่ด้วย!! “เลดี้เมบิลหากว่าท่านไม่รังเกียจ ไปที่คฤหาสน์ของข้าได้ไหมคะ ข้าอยากจะเชิญเลดี้ไปดื่มน้ำชาสักครั้ง เผื่อว่าข้าจะได้ช่วยแนะนำการออกงานเล็กๆน้อยๆให้เลดี้ได้” ริมฝีปากบางของเบลล่าหยักยิ้มขึ้นมา “หากเลดี้คิดว่านี่ไม่เป็นการรบกวนข้าก็ยินดีและขอบคุณมากๆเลยค่ะ” หลังจากนั้นสตรีทั้งสองก็ช่วยกันเลือกชุดอย่างสนุกสนาน คิร่าพาเบลล่าไปที่คฤหาสน์เคนเนดี้ ในตอนที่เห็นคฤหาสน์เคนเนดี้ครั้งแรกบอกตามตรงว่าเธอตกใจมากๆ นี่มันคฤหาสน์หรือพระราชวังกันแน่!! ที่นี่มีห้องนอนราวร้อยห้องเห็นจะได้ มีคฤหาสน์สามหลังเชื่อมต่อกัน มันคือความอลังการงานสร้างแบบที่เบลล่าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยให้ตายเถอะ นี่คงจะเป็นเหตุผลที่สตรีในเมืองเข้าหาท่านเคาน์กันอย่างไม่ขาดสาย…เพราะความรวยนี่เอง!! “ยินดีต้อนรับสู้คฤหาสน์เคนเนดี้ค่ะ ข้าคิร่า เคนเนดี้” เบลล่านั้นแสร้งทำท่าตกใจ!! “พระเจ้าช่วย นี่กลายเป็นว่าข้าขอคำปรึกษากับเจ้าของงานอย่างนั้นหรือคะ…นี่จะขายหน้ามากเกินไปแล้ว” คิร่านั้นหัวเราะเบาๆก่อนที่เธอจะเดินนำเบลล่าเข้าไปด้านในสวน “วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การจะดื่มชาในสวนนะคะ…” สวนที่ว่ามันคือสวนกระจก มีดอกไม้ราคาแพงระยับปลูกอยู่เต็มไปหมด ว่าแต่นั่นคือกุหลาบสีดำที่ดอกใหญ่กว่าหน้าเธอไม่ใช่เรอะ!! “ค่ะ…สวนของเลดี้งดงามมากๆ เลยนะคะ มีดอกไม้หลายอย่างที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” “เป็นดอกไม้ที่ท่านพี่ของข้าเป็นคนปลูก ที่นี่เป็นที่เดียว..ที่เวลาเรามาแล้วมันสามารถบรรเทาความคิดถึงที่มีต่อท่านพ่อและท่านแม่ค่ะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของคิร่านั้นเจือปนไปด้วยความเศร้า “บอกข้าทีสิว่าข้าไม่ได้ตาฝาดไป นั่นคิร่าพาเพื่อนมาที่คฤหาสน์งั้นหรือ” เบลล่าหันไปมองที่เสียงของบุรุษที่ดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ก่อนจะหันมาหาคิร่าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โอ้โห้!! หล่อฉิบหาย คราแรกเธอนึกว่าท่านเคาน์ที่เหล่าเลดี้ในเมืองหลวงโหยหานั้นจะมีดีเพียงแค่เงินทองเท่านั้นแต่นี่มันหล่อสุดๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง!! ถึงในใจของเบลล่าจะกรีดร้องมากเท่าไหร่ เธอก็ยังคงรักษาใบหน้าที่ยกยิ้มอย่างไม่รู้สึกอะไรเอาไว้เป็นอย่างดี นี่อาจจะเป็นทดสอบของคิร่าก็ได้…หากว่าเธอนั้นแสดงท่าทางสนอกสนใจท่านเคาน์ เธออาจจะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้คิร่าอีกเลยในชาตินี้… “สวัสดีค่ะท่านเคาน์ ข้าเบลล่า เมบิล ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เธอลุกขึ้นก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพตามมารยาท “ไม่ต้องมากพิธีหรอก..หากว่าเจ้าเป็นเพื่อนของคิร่า เช่นนั้นเจ้าก็นับเป็นน้องสาวของข้าอีกคนด้วย!!” เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านเคาน์อย่างพอดีๆ ไม่ดีใจเกินไปและไม่เมินเฉยเกินไป คิร่านั้นถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเธอมองไม่เห็นท่าทางสนอกสนใจท่านพี่จากใบหน้าของเบลล่าเลย ท่าทางสตรีผู้นี้น่าจะไม่ได้เข้าหาเธอเพราะท่านพี่จริงๆ เช่นนั้นเธอก็สบายใจแล้ว “คืนนี้พี่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับอัศวินในสังกัดเคนเนดี้ หากว่าเบลล่าไม่มีธุระที่ไหนต่ออยู่ร่วมงานเลี้ยงด้วยกันก่อนสิ” เธอมองไปที่คิร่า ซึ่งคิร่านั้นพยักหน้าราวกับต้องการให้เธอตกลง “ค่ะ..ถ้ากลับไม่ดึกมาก ก็น่าจะไม่เป็นไร” ท่านเคาน์ส่งยิ้มก่อนจะยกแก้วน้ำชาขึ้นดื่ม “ว่าแต่คิร่าจัดการเรื่องชุดวันงานเรียบร้อยรึยัง?” “ค่ะ ข้ากับเบลช่วยกันเลือกชุดที่ร้านของมาดามอิกกี้แล้ว เราพบกันโดยบังเอิญที่นั่น” “ดีจังเลยนะ พี่คาดหวังอยากให้เจ้ามีเพื่อนตั้งนานแล้ว ว่าแต่เบลล่าลงเรียนที่ไหนอยู่งั้นหรือ? เผื่อจะให้คิร่าไปเรียนด้วย เพราะที่ผ่านมานางไม่ชอบเข้าสังคมก็เลยไม่ได้ไปเรียนที่อคาเด็มมี่” “ข้าเรียนจบตั้งแต่สองปีที่แล้ว..ตอนนี้ผันตัวมาเป็นอาจารย์สอนแล้วค่ะ” “เคร้ง!!!” ช้อนในมือของคิร่านั้นตกลงบนจาน เธอมองที่เบลล่าอย่างตกใจ “เบลนี่เจ้าอายุเท่าไหร่!!” เพราะจากที่คาดคะเนจากสายตา ไม่ว่าจะมองยังไงนางก็อายุไม่น่าจะเกินสิบเจ็ดปี “อีกสามเดือนจะสิบเจ็ด..” นี่หมายความว่านางเรียนจบตั้งแต่อายุสิบสี่งั้นเรอะ!! นี่มันจะอัจฉริยะเกินไปแล้ว!! “เหลือจะเชื่อ!!” “ตระกูลเมบิลของข้ามิได้ถือว่าร่ำรวย ท่านพ่อของข้าเสียไปตั้งนานแล้ว ท่านแม่ต้องเป็นคนทำงานทั้งหมด ข้าก็เลยตั้งใจเรียนให้จบไวๆ เผื่อจะได้แบ่งเบาภาระของท่านแม่” โคลด์หรี่ตามองใบหน้าที่งดงามของเบลล่า ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้ม นี่มัน…น่าสนใจกว่าที่คิดแฮะ!เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







