ท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงบ เบลล่าเงยหน้าขึ้นมามองที่ใบหน้าของ ดยุคโอเว่น เธอถอนหายใจก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาส่งให้เขา
“ไม่ค่ะ ต่อให้ท่านจะให้ข้าหนึ่งแสนเหรียญทองข้าก็ไม่คิดจะทำงานร่วมกับท่าน” ในตอนที่กล่าวไปเช่นนั้น หัวใจของเธอมันไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าหากเขายอมจ่ายให้ถึงแสนเหรียญทองจริงๆ เธอจะปฏิเสธเขาได้ไหม เพราะตอนที่พูดออกไปเธอก็แค่พูดให้มันดูเท่ๆ เท่านั้นเอง เลโอหัวเราะ..เขามองไปที่ใบหน้างดงามของเบลล่าก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ไม่สำเร็จงั้นหรือ? คนเช่นเขาไม่มีสิ่งที่อยากได้แล้วเอามาไม่ได้หรอกนะ เธอคิดจะเอาชนะผิดคนแล้วสาวน้อย “หากเงินที่ข้ามีมันไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเจ้าเอาไว้ได้เช่นนั้นข้าจะปล่อยเจ้าไป…” “ขอบคุณค่ะ…..” “แต่ไม่ใช่วันนี้ คืนนี้เจ้าต้องนอนที่นี่กับข้า…ในห้องนี้” คราวนี้เป็นเบลล่าที่กำมือแน่นด้วยความโมโห ชายผู้นี้จะกวนโมโหเธอไปถึงไหนกัน!! เลโอโน้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างอารมณ์ดี เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มแล้วหลับตาลง เบลล่ายังคงยืนอยู่หน้าประตูเช่นนั้น เพราะเธอยังไม่สามารถจะไว้วางใจการกระทำของเขาได้ ผ่านไปสักพักเธอก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเขา เธอจึงลองขยับลูกบิดประตูดู มันล็อก!!! หน้าตาของลูกบิดประตูเช่นนี้เธอไม่คุ้นตาเลย แล้วมันต้องเปิดยังไงกัน!! “หากว่าข้าได้ยินเสียงอะไรที่มันเป็นการรบกวนการนอนของข้าอีก ข้าสัญญาเลยเบลล่าว่าจะลากเจ้ามานอนบนเตียงพร้อมทั้งฉีกเสื้อผ้าของเจ้าออกเป็นชิ้นๆ…” เธอยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปนอนที่โซฟา ก็แค่อดทนให้ถึงตอนเช้าก็พอ อดทนเพียงเท่านั้นเธอก็จะได้กลับบ้าน!! การไม่นอนนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับเบลล่ามาเพราะเธอเคยช่วยท่านแม่เย็บผ้าโต้รุ่งบ่อยๆ…เราสองแม่ลูกได้แต่หวังว่าจะได้ออกไปจากตระกูลแลนเดอร์นี้ไวๆ ก็เลยพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินเอาไว้จ่ายค่าหย่า เธอหวังว่าชีวิตของท่านแม่จะไม่ต้องทำงานหนักเช่นนี้อีก เพราะเธอจะเป็นคนทำงานพวกนั้นเอง ท่านแม่ควรจะได้ใช้ชีวิตในฐานะท่านหญิงที่สูงส่งหากว่าไม่มาเจอท่านพ่อ! เบลล่าถอนหายใจ ถึงแม้เธอจะทนกับการไม่นอนได้ แต่ว่าเธอทนกับอากาศที่หนาวเช่นนี้ไม่ค่อยไหว!! เธอยกมือขึ้นมากระชับเสื้อคลุมตัวบางของตัวเองเอาไว้แน่น ได้แต่ล้มตัวนอนขดบนโซฟา เพราะใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้วอากาศในตอนกลางคืนก็เลยหนาวเย็นมากๆ ไม่ไหว!! เบลล่าคิดว่าตัวเองนั้นสู้อากาศหนาวเช่นนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ในห้องนี้มันควรจะมีผ้าห่มอีกสักผืนสิ เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของท่านดยุคด้วยเสียงที่แผ่วเบา ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าคำที่เขากล่าวออกมาเป็นคำขู่หรือว่าคำเตือนแต่เธอก็ไม่คิดจะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคำกล่าวของเขาหรอกนะ.. เพราะฉะนั้นเธอจึงพยายามกระทำการเรื่องต่างๆด้วยความระมัดระวัง เลโอยกยิ้มเมื่อเขาได้ยินเสียงเดินของเธอ เพราะอากาศยามค่ำคืนมันหนาวมากสินะ เธอคงจะไม่สามารถนอนบนโซฟาโดยไร้ผ้าห่มได้ เขาแสร้งหลับตาต่อไปเพื่อรอคอย..อย่างใจเย็น ในตู้เสื้อผ้าของท่านดยุคนั้นไม่มีผ้าห่มสักผืน แต่โชคดีที่ยังมีผ้าคลุมขนจิ้งจอก เธอดึงมันลงมาจากขอที่แขวนอยู่ น้ำหนักของมันนั้นค่อนข้างจะเยอะพอสมควร “โครม!!” เบลล่าเดินไปชนนาฬิกาที่ตั้งอยู่ด้านหลังจนมันตกลงมา เธอรีบเก็บนาฬิกานั้นขึ้นไปวางบนโต๊ะเช่นเดิม ก่อนจะค่อยๆ มองไปที่เตียง…. เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะตอนนี้ท่านดยุคโอเว่นกำลังนั่งบนเตียงและกอดอกมองเธออยู่ด้วยใบหน้าที่น่ากลัวสุดๆ “ดูเหมือนเจ้านะเมินเฉยต่อคำเตือนของข้า” “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน อากาศในค่ำคืนนี้ช่างหนาวเย็น ข้าไม่อยากจะรบกวนท่านดยุคก็เลยพยายามที่จะหาผ้าห่มด้วยตัวเอง ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ท่านตื่นขึ้นมาเลย” เบลล่าก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด “มานอนบนนี้…” ท่านดยุคโอเว่นตบลงบนที่นอนข้างๆเขา “นั่นมัน!!..ดูจะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่” “ข้าไม่ชอบพูดซ้ำเป็นครั้งที่สาม เบลล่ามานอนบนนี้!!!” ให้ตายเถอะเธอไม่ชอบความรู้สึกที่มองหน้าเขาแล้วราวกับเธอจะถูกฆ่าปิดปากเช่นนี้เลย! เธอเดินเข้าไปหาเขาก่อนจะนั่งลงที่พื้น “ข้าไม่อาจจะทำตัวเสมอท่านดยุคที่สูงส่งได้ ให้ข้านอนบนพื้นนี่น่าจะเหมาะสมกว่า…” เลโอมองที่ใบหน้าหวาดกลัวของเบลล่าด้วยความรู้สึกขบขัน เขาไม่คิดว่าเธอจะหวาดกลัวเขาถึงเพียงนี้ “จะขึ้นมานอนดีๆ หรือจะให้ข้าถอดเสื้อผ้าของเจ้าก่อน?” เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของท่านดยุค แววตาของเขามันไม่ได้บอกว่าเขาล้อเล่นเลยจริงๆ เบลล่าลุกขึ้นก่อนจะนั่งลงที่ขอบเตียง “นอนสิ!” เบลล่าล้มตัวนอนลงเธอพยายามรักษาระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด โชคดีที่เตียงนี้ค่อนข้างจะใหญ่เราก็เลยไม่ต้องทนนอนเบียดกัน “ทำไมถึงเลือกจะวางแผนการหย่าให้พ่อกับแม่ของเจ้า” “ท่านรู้งั้นหรือคะ?” “อย่าดูถูกสายข่าวของโอเว่นสิ…ข้าถามเจ้าก็ตอบแค่นั้น!” แล้วจะตอบได้ยังไงล่ะ ว่าอยากหย่าเพราะท่านจะโยนความผิดว่าเป็นกบฏให้ซีโน่ หากตอบไปเช่นนั้นเขาคงจะฆ่าเธอตอนนี้เลยละมั้ง “ข้าเพียงอยากให้ท่านแม่สบายมากกว่านี้ ตอนนี้มันเหมือนกับว่าท่านแม่ต้องทำงานเลี้ยงทุกคนที่แลนเดอร์ มันหนักหนาเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นท่านแม่ของข้า” เลโอหลับตาลง เรื่องราวของตระกูลแลนเดอร์เขาก็พอรู้มาบ้าง เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าน้องสาวที่ซีโน่พร่ำบอกเขานั้น…จะงดงามถึงเพียงนี้ “แผนการหย่าที่เจ้าวางเอาไว้น่าสนุกดีนะ…ข้าชอบ แต่เจ้าต้องคิดเรื่องราวหลังจากนั้นให้ดี เพราะทรัพย์สินทั้งหมดเป็นนามของแลนเดอร์ หากว่าหย่าสำเร็จเจ้ากับแม่ของจะเดินออกมาโดยที่ไม่มีเงินลงทุนสักเหรียญ” “เรื่องนั้นข้าคิดเอาไว้แล้วค่ะ ขอบคุณท่านดยุคที่เป็นห่วง” เป็นห่วงงั้นหรือ? เธอมองโลกในแง่ดีไปแล้วสาวน้อย “เหตุใดถึงไม่ยอมรับข้อเสนอของข้า ทั้งๆ ที่เจ้าเองก็มีความจำเป็นเรื่องการเงิน” เบลล่าถอนหายใจ “เพราะงานที่ท่านจะสั่งให้ข้าทำล้วนแล้วแต่อันตราย ข้าอยากอยู่กับท่านแม่มากกว่าที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยง” “เจ้าก็แค่แฝงตัวไปสืบข่าวเท่านั้น งานอันตรายข้ามีคนทำให้แล้ว” “แล้วหากว่าข้าถูกจับได้…” “ข้าจะส่งคนไปช่วยเจ้าเอง” “ไม่มีหลักฐานหรือหลักประกันอะไรที่ท่านจะไปช่วยข้านี่คะ หากว่าข้าถูกจับได้จริงๆ ท่านก็แคีแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นก็ได้!” เลโอลุกขึ้นมา ก่อนจะส่งตราประจำตระกูลโอเว่นให้เบลล่า “เท่านี้พอรึเปล่า หลักประกันที่ข้าจะไปช่วยเจ้า…” เบลล่ามองตราประจำตระกูลโอเว่นที่เขากำลังส่งให้ด้วยหัวใจที่ลังเล…หากว่าเธอยื่นมือไปรับตรานี่ ชีวิตของเธอจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล “ข้าจะช่วยเรื่องการหย่าของแม่เจ้าให้เอง….ทันทีที่เจ้าตกลงข้าจะยกคฤหาสน์เมบิลให้เจ้าได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ของนับจากนี้ นั่นถือเป็นค่าสัญญาที่เราตกลงกันเอาไว้” เธอเงยหน้าขึ้นมองที่ใบหน้าของเลโอ มีอะไรให้ลังเลอีกล่ะเบลล่า รีบตกลงไปซะสิ!! …….. เบลล่ามองตราประจำตระกูลโอเว่นในมือด้วยหัวใจที่เต้นแรง สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ต่ออำนาจเงินจนได้ เธอล้มตัวนอนลงบนเตียงก่อนจะหลับตาลง ได้แต่หวังในใจว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี “กรี๊ด!! ท่านจะพาสตรีอื่นเข้ามาในบ้านอีกไม่ได้!! ข้าไม่ยอม!!” เบลล่าที่กำลังจะหลับก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที เสียงแหลมเช่นนั้นไม่ต้องเดาก็รู้ว่านั่นคือท่านแม่รองอย่างแน่นอน แสดงว่าแผนการของเธอคงจะเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ “ฟังก่อนวัลด้า สตรีที่ข้าจะพาเข้ามาเธอคือลูกสาวของท่านเคาน์ เธอรักข้าสุดหัวใจ อีกทั้งบ้านของเธอยังรวยมากๆ เราจะสบายกันแล้ว!” ใบหน้าที่ไม่พอใจของวัลด้าเริ่มจะผ่อนคลายลง “เช่นนั้นท่านจะทำยังไงกับฮันน่า?” “นางขอให้ข้าหย่ามาตั้งนานแล้ว อีกทั้งตอนนี้นางก็เหลือเพียงแค่ตัวเท่านั้น หากว่านางหย่ากับข้าร้านเสื้อผ้านั้นก็ยังอยู่ในมือเราเพราะเดิมทีมันคือทรัพย์สินของแลนเดอร์ ข้าคิดว่าการหย่ากับฮันน่า นั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของวัลด้า “แต่หากว่าท่านหย่ากับฮันน่าแล้วเรื่องที่จะขายเบลล่าให้ท่านเคาน์ริชแมนล่ะ” “โถ่!!..ที่รักเราจะมาห่วงอะไรกับเงินไม่กี่ร้อยเหรียญของค่าตัวเบลล่ากัน ปล่อยนางกับแม่ของนางไปเถิด ตอนนี้เราควรจะเตรียมตัวสบายเพราะทรัพย์สินของเคาน์เคอเบสกันเถอะน่า!!” เบลล่าส่ายหน้าให้กับความคิดของสองผัวเมียนี่จริงๆ ชายผู้นั้นไม่มีเกียรติให้เธอจะเรียกว่าเขาว่าท่านพ่อด้วยซ้ำ ทว่าพอเธอหันไปมองด้านหลังก็พบกับท่านแม่ที่ยังฟังอยู่เช่นกัน เบลล่าจูงมือให้ท่านแม่เดินตามเธอเข้าไปในห้อง “หากว่าท่านแม่เสียใจ….” “ไม่เลยเบล แม่นั้นหมดรักพ่อของเจ้าตั้งแต่ที่เขาพาวัลด้าเข้ามาแล้ว แม่ทนทุกข์มายาวนานถึงสิบหกปี มันถึงเวลาแล้วที่เราจะออกไปจากนรกแห่งนี้สักที” ท่านแม่ยกมือขึ้นมากุมหน้าของเบลล่า ก่อนจะดึงเธอไปกอด…นี่คือเหตุผลเดียวที่ฮันน่าทำงานอย่างหนัก มือของเธอนั้นแข็งกระด้างเพราะการทำงานที่มากเกินพอดี เธอได้แต่หวังว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอจะไม่มีชีวิตที่แสนจะเศร้าเช่นเธอ…เพราะว่าเธอในตอนนั้นบูชาความรักเหนือสิ่งใด มันทำให้เธอต้องทนเจ็บปวดยาวนานหลายสิบปีเช่นนี้ เบลล่าจับมือท่านแม่ตอนนี้เราทั้งสองคนถือเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกมาจากคฤหาสน์แลนเดอร์ ท่านพ่อยินยอมมอบใบหย่าให้อย่างง่ายดายตามแผนการที่เธอวางเอาไว้ เพราะท่านพ่อเป็นคนเห็นแก่เงินมาก เบลล่าจึงจ้างโสเภณีไปปลอมตัวเป็นชนชั้นสูงที่ดูร่ำรวย ให้สตรีผู้นั้นหลอกท่านพ่อโดยวิธีเดียวกันกับที่ท่านพ่อหลอกท่านแม่ แต่มันคงจะแย่หน่อยที่สตรีที่ท่านพ่อตั้งใจหวังทรัพย์สินของเธอไม่ใช่ลูกสาวท่านเคาน์อย่างที่ท่านพ่อคิด ถึงอยากจะเห็นหน้าตอนที่ท่านพ่อและท่านแม่รองรู้ว่าสตรีที่พวกเขาหวังเอาไว้ไม่เป็นอย่างที่หวัง แต่การรีบออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้นก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในมือของท่านแม่คือใบหย่าและอีกใบคือท่านแม่ให้ท่านพ่อเซ็นรับรองว่าท่านแม่มีสิทธิ์ในตัวของเบลล่าเพียงคนเดียวท่านพ่อจะไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในตัวของลูกสาวเลย ท่านแม่นั้นคือสตรีที่เฉลียวฉลาดจริงๆ ที่คิดเผื่อเอาไว้ถึงเรื่องที่มันอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต “แม่พอจะมีเงินเก็บเอาไว้บ้าง น่าจะพอซื้อบ้านหลังเล็กๆ สักหลัง” เบลล่าจูงมือท่านแม่ขึ้นรถม้า “ข้าเตรียมบ้านเอาไว้สำหรับให้เราอยู่หลังจากนี้เอาไว้แล้วค่ะ…นับจากนี้ไปข้าจะเป็นคนทำงาน..ส่วนท่านแม่มีหน้าที่อยู่ที่คฤหาสน์เฉยๆ และไปงานเลี้ยงน้ำชาบ้างในบางครั้ง” ฮันน่ามองหน้าลูกสาวอย่างตกใจ “เบลล่าลูกห้ามไปทำอะไรที่มันไม่ดีเด็ดขาดเลยนะ!!” “วางใจเถอะค่ะท่านแม่ ข้าเพียงทำงานเป็นสายข่าวเท่านั้น นับจากนี้ไปข้าจะไม่ทำให้ท่านแม่ต้องลำบากอีกแล้ว” เบลล่ายกยิ้ม เธอจัดการปัญหาทางบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้เธอก็จะต้องเริ่มทำงานให้ท่านดยุคแล้วละสิ!!เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ