ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้อง
ผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน “อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!” “หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…” เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา… ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!! ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนาน เขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ… จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!! …….. “ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?” คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว “ไม่ท้องสิแปลก องค์จักรพรรดิขังนางเอาไว้ในห้องขนาดนั้น!!” โคลด์กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่คิร่าถูกองค์จักรพรรดิบ้านั่นรังแกทุกวันทุกวี่ แต่ทว่าอีกใจเขาก็ยินดีอย่างมากที่จะมีเด็กน้อยน่ารักที่หน้าตาคล้ายคิร่ากำเนิดขึ้นมา เบลล่ายกมือขึ้นมาตีที่โคลด์เบาๆ “ท่านมาร์ควิสกำลังจะมีหลานนะคะ ควรจะยินดีกับจักรพรรดินีสิ!” โคลด์ยกมือขึ้นมาโอบกอดเบลล่าเอาไว้ เขาส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักให้เธอ “ที่จริงข้าอยากมีลูกมากกว่านะ อยากให้มีเด็กที่หน้าตาเหมือนทั้งเจ้าและข้า วิ่งเล่นในคฤหาสน์เคนเนดี้ ลูกคนแรกเอาไว้สืบทอดเคนเนดี้ คนที่สองเอาไว้สืบทอดเมบิล…” “ผลัวะ!!” เลโอตีที่หลังของโคลด์อย่างแรง!! “ลูกคนแรกจะต้องขึ้นเป็นผู้นำตระกูลโอเว่นต่างหาก!! ส่วนเคนเนดี้ เอาไว้ให้องค์ชายพระองค์ที่สองของจักรพรรดินีขึ้นเป็นผู้นำตระกูล…” คิร่าหัวเราะ เธอมองไปที่เบลล่า “เรื่องผู้สืบทอด พวกท่านควรจะไปจัดการกับเบลเองนะคะ ข้าคิดเอาไว้ว่าจะมีลูกคนเดียวก็พอแล้ว การแพ้ท้องนั้นแสนทรมาน ยังไม่รวมถึงการเสี่ยงชีวิตคลอดด้วย เป็นสตรีนั้นหาได้ง่าย แกรนด์ดยุคโอเว่นควรจะเอาใจใส่ดัชเชสให้มากหน่อย…” “คิร่า!! เหตุใดถึงกำชับแกรนด์ดยุคแทนที่จะเป็นพี่ชายของเจ้าล่ะ!!” โคลด์มองคิร่าด้วยความโกรธ เขาโน้มตัวลงไปกอดเบลล่าแทนการระบายอารมณ์ใส่น้องสาว “โคลด์ ปล่อยค่ะเดี๋ยวมีคนมาเห็น..” “ดีซะอีก หากมีคนมาเห็นข้าก็จะแต่งงานกับเจ้าเพื่อเป็นการรับผิดชอบชื่อเสียงของเมบิลเอง” โคลด์ในช่วงนี้ อ้อนเธอหนักกว่าทุกคน อาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกเหงาที่เสียน้องสาวไปให้องค์จักรพรรดิ การอยู่ที่คฤหาสน์เคนเนดี้คนเดียวคงจะทำให้เขาไม่คุ้นชิน “จริงสิ เมื่อวานมีคำขอเข้าเฝ้าจากเมเบโล่ค่ะ จะมีองค์รัชทายาทจากราชอาณาจักรมาเดลีนเดินทางมาที่นี่ เพื่อหาพระชายาที่เป็นชนชั้นสูง เมเบโล่ก็เลยยื่นข้อเสนอให้ทางพระราชวังส่ง เลดี้มาเรีย ที่พึ่งหย่ากับอาร์ชดยุค…” “คิร่าเจ้าวางใจเถิด ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็จะต้องถูกหารือในสภาอาวุโสก่อน ไม่มีตระกูลไหนที่ไม่อยากได้อำนาจ ท่าทางจะมีการแข่งขันของเหล่าสตรีที่ดุเดือดมากทีเดียว” เบลล่ายกยิ้ม “ที่ยิ้มนี่ เพราะว่าดัชเชสเมบิลจะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการสอนมารยาทใช่ไหม?” คิร่ากล่าว พร้อมกับหรี่ตามองเบลล่า “อ่า ถูกจับได้ซะแล้ว!!” เกิดเป็นเสียงหัวเราะขึ้นมาในสวนของพระราชวัง ช่วงนี้เบลล่าต้องเดินทางมาที่พระราชวังบ่อย เพราะคิร่าอยากพบเธอแทบจะตลอดเวลา อารมณ์ของสตรีที่ตั้งครรภ์ก็เป็นเช่นนี้ ขึ้นๆ ลงๆ ตอนนี้กำลังจะสิ้นสุดฤดูหนาวแล้ว อากาศช่วงนี้จึงเย็นสบายเป็นพิเศษ เบลล่ายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอยืนอยู่ที่ระเบียงของกิลข้อมูล ด้านล่างคือร้านขายของและร้านเหล้าที่กำลังเปิดขายกันอย่างสนุกสนาน มีเสียงดนตรีเปิดหมวกที่บรรเลงตามข้างทางดังขึ้นมา โดยรวมแล้วก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เลวเลย..เมืองที่ไม่หลับใหลเช่นนี้ เธอรู้ดีว่าทั้งเลโอและโคลด์อยากจะมีลูกแค่ไหนแต่เบลล่าคิดว่าเธอตอนนี้ยังไม่พร้อม เธออยากจะจัดการเรื่องทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทางก่อน ที่เหมืองเพชรก็กำลังมีปัญหาเพราะหน้าหนาวเราไม่สามารถขุดหาเพชรได้ แต่หลังจากที่หิมะหยุดตกลงมา เครื่องจักรที่เหมืองก็เริ่มทำงานอีกครั้ง “นายหญิงครับ มีคนมาของซื้อข้อมูลของเบลล่า เมบิล…” เบลล่าปรายตามองโดโนแวน เขาคือคนที่มีหน้าที่ต้อนรับลูกค้าที่ด้านล่าง มาซื้อข้อมูลของเธองั้นหรือ? เบลล่าหยิบโพชั่นเปลี่ยนหน้าของอาเชอร์ขึ้นมาดื่ม เธอเปลี่ยนชุดใหม่ ก่อนจะเช็คความเรียบร้อยที่หน้ากระจก ไม่มีสตรีผู้งดงามอีกแล้วมีเพียงชายชราผู้หนึ่ง เบลล่าเดินลงไปด้านล่างก็พบกับชายผิวสองสีผู้หนึ่ง ใบหน้าของเขานั้นให้ความรู้สึกไม่เป็นมิตรเอาซะเลย “สวัสดีครับท่านชาย มิทราบว่าท่านต้องการข้อมูลของใครนะครับ?” เขาวางถุงเงินลงบนโต๊ะ “ดัชเชสเบลล่า เมบิล!” “ทางกิลข้อมูลของเราไม่ได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนครับ แต่เรารับข้อมูลเป็นค่าตอบแทน” “จิ๊! เรื่องมากซะจริง!!” ชายชรายกยิ้ม “หากว่าท่านชายไม่สามารถให้ข้อมูลของตัวเองได้ ข้าก็มิอาจให้ของมูลของดัชเชสได้เช่นกัน..” “เซนเบิร์ค คาเรเทีย หรือเซอร์คาเรเทีย….” ชายชราเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของบุรุษเบื้องหน้า คนขององค์รัชทายาทแห่งราชอาณาจักรมาเดลีน… เหตุใดถึงได้มาสืบค้นข้อมูลของเธอกันนะ? “ข้าจะต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อมูลที่ท่านให้มานั้นเป็นความจริงหรือไม่ พรุ่งนี้เวลานี้ให้ท่านมาพบข้าที่นี่อีกครั้ง” เขาลุกขึ้นเดินออกนอกร้านไปอย่างไม่พอใจ “โดโนแวน ไปสืบเกี่ยวกับกิลข้อมูลอื่นด้วยว่ามีคนที่ชื่อคาเรเทียไปสืบหาข้อมูลของข้าหรือว่าสตรีชนชั้นสูงผู้อื่นอีกหรือไม่…” โดโนแวนก้มหน้าลง ก่อนจะรีบเดินไปทำงานที่นายหญิงของเขาสั่ง เห็นทีจะหลีกหนีเรื่องยุ่งยากพวกนี้ไม่พ้นซะแล้ว ต้องชิงแต่งงานกับใครสักคนเพื่อป้องกันการคัดเลือกจากองค์รัชทายาท ถึงยังไงการป้องกันเอาไว้ก็ดีกว่าการแก้ปัญหา เบลล่าขึ้นไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดหญิงสาวชาวบ้าน มีการว่าจ้างให้สืบหาข้อมูลของอาร์ชดยุคกูเรี่ยนพอดี เธอได้รับรายงานว่าเขาจะพาภรรยาและน้องมาที่ร้านเหล้า ไปแอบดูสักหน่อยดีกว่า.. บรรยากาศในร้านเหล้าก็เป็นเช่นเคย ที่แตกต่างก็คือห้องพักชั้นบนถูกทางการมารื้อถอนไปแล้ว พร้อมกับออกกฎหมายใหม่ ร้านเหล้าต้องเป็นร้านเหล้าที่นั่งดื่มเท่านั้น หากจะทำมากกว่านั้นต้องไปที่โรงแรม แทนที่นั่นจะเป็นการจัดระเบียบร้านเหล้าแต่ไม่เลย เนื่องจากไฟที่มืดสลัวทำให้บางคนก็จัดการหามุมมืดในการทำเรื่องอย่างว่ากัน เสียงเพลงที่ดังทำให้กลบเสียงร้องครางที่แสนจะน่าอายพวกนั้น ในช่วงแรกที่เธอเข้ามาร้านเหล้าก็ตกใจ หลังจากนั้นก็เริ่มชิน เพราะร้านนี้อยู่ใกล้กิลข้อมูล เธอเลยเดินมาดื่มเหล้าที่นี่บ่อยๆ งานในตำแหน่งที่สูงขึ้นก็เหนื่อยมากขึ้น เธอไม่เห็นหน้าเอซมาเกือบเดือนแล้วเนื่องจากเขาจะต้องดูแลเมืองเดเลี่ยนที่อยู่ห่างออกไป…เขาต้องวางแผนผังในเมืองใหม่ทั้งหมด และก็ต้องเริ่มฟื้นฟูบ้านเรือนและชาวเมืองที่พึ่งผ่านศึกและสงครามกันไป องค์จักรพรรดิเป็นเพื่อนสนิทของเอซ เบลล่าคิดว่าพระองค์จะต้องมีเหตุผลในการยกเมืองที่ล่มสลายเช่นนั้นให้เอซดูแล ส่วนเลโอก็ไปๆ มาๆ แต่ช่วงนี้มีเรื่องให้เขาต้องจัดการมากมาย เพราะมีปีศาจและชนเผ่าเมบีล่าตั้งท่าจะทำสงคราม เขาจึงต้องเตรียมกำลังให้พร้อมเพื่อที่จะยกทัพไปทันทีที่มีคำสั่งจากองค์จักรพรรดิ เบลล่ามองแก้วไวน์ในมือด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ในตอนแรกเธอเพียงแค่อยากจะเป็นคนที่ร่ำรวยเท่านั้น ตอนนี้ทรัพย์สินเงินทองในนามของเมบิลก็มากมายจนใช้ชาตินี้ไม่หมด แต่เธอกลับหยุดทำงานไม่ได้..นั่นก็เพราะความรักและความห่วงใย จากประสบการณ์ที่ผ่านมามันบอกเธอได้ดีว่า หากเธออยากจะปกป้องคนที่เธอรัก สิ่งที่ต้องมีในขั้นแรกคืออำนาจ ตอนนี้คิร่าขึ้นเป็นจักรพรรดินีและเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะมีใครมาทำร้ายนางรึเปล่า การนั่งในตำแหน่งเจ้าของกิลข้อมูลนั้นมีประโยชน์มากจริงๆ เพราะเธอจะได้ล่วงรู้ถึงจุดประสงค์ของคนที่มาซื้อข้อมูลได้ก่อนใคร “เคร้ง!” มีคนยกแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับแก้วไวน์ของเธอ เบลล่ายกยิ้มก่อนจะมองไปที่เขา ใบหน้าของเขาหล่อเหลาจนสุดตา เธอมาที่นี่บ่อยแต่ไม่เคยเห็นชายผู้นี้มาก่อน… เขาคงจะเป็นคนต่างถิ่นสินะ ดูจากชุดที่เขาสวมแล้วเขาน่าจะเป็นพ่อค้าที่มาจากเรือสำเภา “ขออภัยสำหรับการเสียมารยาท ข้าเพียงเห็นว่าเลดี้กำลังนั่งเหม่ออยู่ อกหักงั้นหรือครับ?” เบลล่ายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม “….คนรักของข้า ไปมีสตรีอื่น” เธอปรายตาขึ้นไปมองที่ตาของเขาอย่างเย้ายวน “อ่า..ชายผู้นั้นคงจะเป็นคนที่โง่งมพอสมควรเลยสินะครับ ที่เขากล้าที่จะทิ้งเพชรที่แสนล้ำค่าอย่างเลดี้ไป..” “ข้าจะเป็นเพชรหรือเป็นเพียงก้อนหิน มันอยู่ที่ว่าข้าอยู่ในมือของคนที่เห็นประโยชน์ของข้าแค่ไหน?” ชายผู้นั้นยกยิ้มอย่างถูกใจ ดวงตาของเขามันเปล่งประกายออกมาอย่างโจ่งแจ้งเลยว่าเขาอยากได้เธอ “แล้วเลดี้ คิดอยากจะอยู่ในมือของคนที่เห็นท่านเป็นเพชรไหมครับ หากว่าท่านอยู่ในมือของข้า…ข้าจะค่อยๆ เจียระไนท่านเบาๆ ให้เลดี้เป็นเพชรบนยอดของมงกุฎ…” เบลล่ายกยิ้ม “น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจยอมให้ท่านเจียระไนได้ เพราะข้าคือสตรีที่ค่อนข้างจะช่างเลือกมากทีเดียว แต่หากว่าท่านชายเป็นคนที่มีทรัพย์สินมากมายหรือว่าคฤหาสน์ใหญ่โต ข้าจะลองเอาไปพิจารณาดูนะคะ” เขาหัวเราะเบาๆ กับคำกล่าวของเธอ “ข้าเป็นเพียงพ่อค้าจนๆ ที่มากับเรือสำเภาเท่านั้น ว้า! เสียดายจังเลยที่อดได้เจียระไนเพชรเช่นเลดี้” เบลล่าส่งยิ้มให้เขา เธอมองไปที่ประตูก็เห็นอาร์ชดยุคกำลังโอบกอดสตรีออกไปด้านนอกทั้งสองนาง เธอยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มจนหมด ก่อนจะหยิบเหรียญทองในกระเป๋าออกมาห้าเหรียญ เบลล่าใส่เหรียญทองเหล่านั้นในกระเป๋าเสื้อของชายเบื้องหน้า “คิดซะว่ามื้อนี้ข้าเป็นคนเลี้ยงท่านแล้วกันนะคะ ถึงท่านจะไม่ใช่คนร่ำรวยแบบที่ข้าชอบ แต่อย่างน้อยใบหน้าของท่านก็หล่อเหลาถูกใจข้ามากทีเดียว…” เบลล่ากล่าวพร้อมทั้งยกมือขึ้นมาโบกลาเขาแล้วเดินออกไปเบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ