LOGINอาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำ
เขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิม ไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวัน ทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้าน อาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่ “เจ้า..กินข้าวรึยัง?” เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่ “วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….” เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก “โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…” “ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!” เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ “เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…” “ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ” เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เธอ “อย่าร้องไห้อีกเลย รู้ไหมว่าเวลาเจ้าร้องไห้ ลูกในท้องของเราก็จะร้องไห้ด้วย ไม่ดีเลยใช่ไหม เจ้าควรจะยิ้มให้มากหน่อยสิ!!” “ท่านรู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงท่านขนาดไหน อาเชอร์ชีวิตของข้ามันไม่เหลือใครแล้ว ตอนนี้ข้ามีเพียงท่านและลูกของเราที่กำลังจะเกิดมา! ท่านหายไปเช่นนี้จะให้ข้าทำยังไง…” อาเชอร์วางม้วนกระดาษลงบนมือของโจลี่ “นี่..อะไร?” “คฤหาสน์ไง ข้าจะพาเจ้าย้ายไปพรุ่งนี้ โจลี่ที่ข้าหายไปบ่อยๆ เพราะว่าข้าต้องทำงาน ข้ารู้ดีว่าเจ้าเคยอยู่สุขสบายกว่านี้เจ้าเคยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ อีกทั้งมีคนรับใช้คอยดูแล ข้าบอกตามตรงในตอนแรกข้ารู้สึกละอายใจที่ต้องพาเจ้ามาอยู่บ้านหลังเล็กๆ เช่นนี้ ไหนยังจะลูกในท้องของเราอีก ข้าจึงต้องพยายามหาเงินอย่างหนัก เพื่อมาดูแลเจ้าและลูก…” เธอมองที่ใบหน้าของเขาก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก “ไม่เอาน่า จะโกรธข้าก็ได้แต่ว่าอย่าโกรธนานนัก ไปเถอะ ข้าซื้อเนื้อย่างมาด้วย ไปกินด้วยกัน” อาเชอร์ยกยิ้มพร้อมทั้งอุ้มโจลี่ขึ้นมาจากเตียงเขาพาเธอไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วส่งช่อดอกกุหลาบให้เธอ “ท่านเสียเงินซื้อมาทำไมกัน…” “เห็นอย่างนี้ข้าก็จีบผู้หญิงเป็นนะ เอาเป็นว่าต่อจากนี้ข้าจะเริ่มตามจีบเจ้าเอง!” โจลี่มองที่อาเชอร์พร้อมทั้งส่งยิ้มให้เขา อาเชอร์สารภาพในใจว่าเขาในตอนแรกไม่ได้รักสตรีผู้นี้เลย แต่พอลองใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็พบว่าเธอไม่ใช่คนที่ไม่ดีเพียงแค่เธอเติบโตขึ้นมาท่ามกลางคนที่เอาใจเธอมากเกินไปหน่อย แต่พอเธอท้องความคิดต่างๆ ของโจลี่ก็เปลี่ยนไปเธอนำชุดออกงานและเครื่องประดับของเธอที่ขนมาจากคฤหาสน์เมเบโล่นำไปขาย พอได้เงินมาเธอก็เก็บเอาไว้ในบัญชีของเธอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจะเก็บเงินเอาไว้ให้เด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมา อีกทั้งที่บ้านเขาไม่มีคนรับใช้ จากที่ไม่เคยทำงานใดๆ เลย โจลี่ก็เริ่มทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเอง ถึงตอนนี้เขายังจะพูดว่ารักเธอไม่ได้เต็มปาก แต่เธอก็คู่ควรให้เขาใช้ชีวิตด้วยนับจากนี้เป็นต้นไป.. ……. เบลล่าหยิบต่างหูเพชรขึ้นมาใส่ ในกระจกสะท้อนใบหน้าของสตรีที่แสนจะงดงาม เธอสวมชุดเดรสที่ฟูฟ่องสีเขียวอ่อนผมก็ถูกรวบขึ้นไปด้านบนประดับด้วยดอกไม้ต่างๆ “เบล หากว่าไปช้าเราอาจจะไม่ทันขบวน..” “เสร็จแล้วค่ะ มาแล้ว..” เธอยกกระโปรงขึ้นมาแล้วเดินไปหาเลโอ “อ่า ภรรยาของข้านี่ช่าง งดงาม” เบลล่าหัวเราะเบาๆ เธอเดินควงแขนเลโอลงไปด้านล่างเพื่อไปขึ้นรถม้า วันนี้เป็นพิธีอภิเษกขององค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี ในตอนแรกเธอเองก็ตกใจจนแทบสิ้นสติที่คิร่าจะได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินี เพราะองค์จักรพรรดิองค์ก่อนทรงสละราชสมบัติให้องค์รัชทายาทวัลโด้ คิร่าก็เลยแต่งเข้าพระราชวังในตำแหน่งจักรพรรดินีเลย เราเดินทางมาไม่นานก็ถึงหน้าพระราชวัง มีขบวนแห่ขององค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีบนรถม้า ทั้งสองพระองค์ทรงยิ้มแย้มและโบกมือให้ประชาชนที่มารอรับเสด็จ ให้ตายเถอะ น้ำตาของเธอมันกำลังจะไหลออกมา!! มีความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่ในใจของเธอ การได้เห็นคิร่าเดินทางมาจนถึงฝั่งฝันเช่นนี้มันช่าง รู้สึกดีจริงๆ ตื้นตันและอิ่มเอมในใจ “อย่าร้องนะ การเสียน้ำตาในวันดีๆ เช่นนี้ถือว่าไม่เหมาะสมอยู่บ้าง” เลโอเช็ดน้ำตาที่หางตาของเบลล่า เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาก่อนจะหอมแก้มเขาเบาๆ “ขอบคุณค่ะ” “…ข้าก็อยากจะพาเจ้า ขึ้นรถม้าแห่รอบเมืองบ้าง ในวันแต่งงานของเรา” เบลล่ายกยิ้ม เธอกุมมือของเลโอเอาไว้แน่น คิร่ามองเห็นเธอ นางจึงโบกมือให้เบลล่าด้วยใบหน้าที่ราวกับจะร้องไห้ออกมา คิร่าสวมชุดเจ้าสาวสีขาวที่ปีกลายดอกลิลลี่ป่า แปลว่าความรักที่เป็นนิรันดร์ ท่านแม่บรรจงปักดอกลิลลี่ป่าทุกดอกด้วยความประณีตและพิถีพิถัน จึงออกมาเป็นชุดเจ้าสาวที่งดงามไร้ที่ติ ท่านแม่คงจะแอบดูคิร่าอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่ๆ เลย!! เธออดรู้สึกดีใจแทนท่านแม่ไม่ได้จริงๆ “ท่านทั้งสองคนน่าจะแต่งงานกันบ้างนะครับ” อาเชอร์จูงมือของโจลี่มายืนข้าเบลล่า เขายกเก้าอี้มาให้โจลี่นั่งดูขบวนแต่งงานที่ยิ่งใหญ่งดงาม “นี่เจ้าพาภรรยาที่ใกล้คลอดออกมาได้ยังไงกัน มันอันตราย!!” “วางใจเถอะน่า ข้าเป็นนักบุญนะ ข้าสามารถทำคลอดนางได้โดยที่นางจะไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย…” เบลล่าถึงกับขมวดคิ้วมองอาเชอร์ โจลี่ส่งยิ้มให้เบลล่า นี่คงจะเป็นเจ้านายของอาเชอร์สินะ สตรีที่แบ่งหุ้นเหมืองเพชรให้อาเชอร์ แถมยังมอบคฤหาสน์ให้เธออีก!! “ไม่เป็นไรหรอกค่ะท่านดัชเชส ข้าเป็นคนขอร้องให้อาเชอร์พามาเอง ข้าอยากจะเห็นขบวนแต่งงานของเสด็จพี่วัลโด้…” เมื่อครู่โจลี่เรียกเธอว่าดัชเชสงั้นเรอะ!! “อาเชอร์ หลังจากจบขบวนอภิเษกเจ้าไปหาข้าที่คฤหาสน์โอเว่นด้วย ข้ามีของจะมอบให้เจ้าและภรรยา..” เลโอกล่าวพร้อมทั้งยกมือขึ้นมาโอบไหล่ของเบลล่าเอาไว้อย่างภูมิใจ อาเชอร์ส่งยิ้มให้โจลี่ ก่อนที่เขาจะหัวเราะ ท่านดยุคนี่…คือตัวอย่างของคนที่คลั่งรักมากๆ เลยนะ หลังจากพิธีทั้งหมดจบลงก็เป็นพิธีเลี้ยงฉลอง มีชนชั้นสูงมากมายเข้าร่วมงานเพราะนี่คืองานอภิเษกที่แสนจะยิ่งใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักร มีคำถามมากมายเกี่ยวกับชุดแต่งงานที่สะดุดตาขององค์จักรพรรดินี เบลล่าคิดว่าหลังจากจบงานนี้ท่านแม่จะต้องรับลูกค้าไม่หวาดไม่ไหวแน่ๆ เธอยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เลโอแยกไปคุยเรื่องธุรกิจ ส่วนอาเชอร์ก็พาโจลี่กลับไปแล้ว เสียงเพลงถูกบรรเลงขึ้นมา คนที่เปิดฟอล์อเต้นรำก็คือองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่เหมาะสมและคู่ควร จักรพรรดินีที่งดงามทั้งใบหน้าและกิริยามารยาท จนเบลล่าเองไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือคิร่า นางเดินคุยกับเหล่าราชวงศ์และชนชั้นสูงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม สดใส แสดงว่าการเข้าสังคมของคิร่าพัฒนาขึ้นมามากทีเดียว เอซยกมือขึ้นมาโอบเอวของเบลล่าเอาไว้ “รอบนี้ข้าต้องได้เต้นรำกับเจ้า…” เบลล่ายกยิ้มก่อนที่เธอจะวางมือลงบนมือของเขา “ด้วยความยินดีค่ะ” งานเลี้ยงฉลองจัดขึ้นสามเดือนเต็ม เบลล่าไม่ได้เจอกับคิร่าเลย เธอคิดว่าคิร่าคงจะงานยุ่งมากๆ อีกทั้งวัลโด้ขึ้นชื่อเรื่องความขี้หวง โคลด์บอกว่าองค์จักรพรรดิไม่ยอมให้คิร่าออกมาจากห้องเลย ราวสองอาทิตย์… ฟังดูโหดเกินไปอยู่เหมือนกัน ทว่าหลังจากนั้นก็มีจดหมายแต่งตั้งออกมา อาเชอร์ได้ขึ้นเป็นพระสันตปะปาของวิหารหลวง เรื่องนี้ทำเอาเขาดีใจจนเป็นลมล้มพับไปเลย ส่วนเอซได้เลื่อนขั้นเป็นดยุคเอเซล่า องค์จักรพรรดิมอบเมืองเดเลี่ยนให้เอซปกครอง โคลด์ได้เลื่อนขั้นเป็นมาร์ควิสเคนเนดี้ และได้ขึ้นเป็นหนึ่งในสภาอาวุโสด้วย ส่วนเลโอได้ขึ้นเป็นแกรนด์ดยุคโอเว่น องค์จักรพรรดิมอบกำลังทหารมาให้โอเว่นจำนวนมาก และให้โอเว่นเป็นตระกูลสำหรับฝึกหัดอัศวินและเซอร์ทั้งหลายที่จะเข้าไปรับใช้วังหลวง ส่วนเมบิล มีความดีความชอบใหญ่หลวงที่เป็นแม่สื่อที่ทำให้องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีพบกัน อีกทั้งยังเป็นอาจารย์สอนองค์จักรพรรดินี ราชโองการสั่งเลื่อนขั้นให้เคาน์เตสเบลล่า เมบิล เป็นดัชเชสเบลล่า เมบิล และทางราชวังออกใบรับรองการสอนมารยาทของชนชั้นสูงและราชวงศ์ให้ดัชเชสเมบิล สตรีทั้งหลายที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับชนชั้นสูงจะต้องให้ดัชเชสเมบิลเป็นผู้สอนมารยาทต่างๆ เบลล่ามองราชโองการพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ทรงงานหนักเกินไปรึเปล่าจักรพรรดินี พึ่งได้รับตำแหน่งก็ออกประกาศเลื่อนยศเช่นนี้ชนชั้นสูงผู้อื่นจะไม่พอใจเอาได้! “แม่ดีใจนะ ที่ลูกมีวันนี้..” “อ่า..ข้าเป็นดัชเชสท่านแม่ก็ต้องเป็นดัชเชสด้วยสิคะ…” ฮันน่าส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เอาแล้ว แม่ขอเป็นเจ้าของร้านตัดเสื้อเช่นเดิมดีกว่า ชีวิตที่สูงศักดิ์เช่นนั้นแม่พอแล้วล่ะ!” เบลล่ายกยิ้ม “ว่าแต่เรื่องท่านลุงเจคอปล่ะคะ ลูกคิดว่ายังไงท่านลุงก็ต้องมาสู่ขอท่านแม่จากข้านะ…” “เดี๋ยวเถอะเบล พูดอะไร!!” “ข้ากำลังจะมาคุยเรื่องนี้พอดีเลย!!” เจคอปเดินเข้ามาหาเบลล่า เขายกมือขึ้นมาโอบกอดไหล่ฮันน่า “ยกแม่เจ้าให้ลุงด้วยเถอะ!!” “สินสอดล่ะคะ..ท่านลุงมาสู่ขอปากเปล่าเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน!!” เจคอปหัวเราะ “เบล ลุงเองก็คิดว่าลุงเริ่มเหนื่อยกับการเป็นเจ้าของกิลข้อมูลแล้ว ลุงอยากจะเป็นเพียงสามีของช่างตัดเสื้อก็พอ..” เบลล่ายกยิ้มด้วยความดีใจ ในที่สุดท่านแม่ก็ได้พบเจอความรักดีๆ สักที!! ท่านลุงเจคอปมอบกิลข้อมูลให้เธอดูแล ตอนนี้นอกจากเป็นดัชเชสเมบิล เธอก็เป็นเจ้าของกิลข้อมูลด้วย ในตอนแรกเบลล่าคิดว่าเธอไม่มีทางที่จะทำได้แน่นอน ก็เลยไปปรึกษากับเลโอ กลับกลายเป็นว่าเขายอมเอากิลข้อมูลของเขามารวมกับกิลข้อมูลของเธอ…และเพิ่มจำนวนของสายข่าวให้มากขึ้น ตอนนี้กิลข้อมูลไม่ได้อยู่ในตรอกเล็กๆ อีกแล้ว แต่อยู่ที่ถนนเส้นหลักของเมืองและเป็นตึกใหญ่ขนาดห้าชั้น เราซื้อขายทุกข้อมูลในราชอาณาจักรทั้งถูกและผิดกฎหมาย ซึ่งมันทำเงินให้เธอได้มหาศาลเลยทีเดียว!! โจลี่ให้กำเนิดเด็กชายที่น่ารักน่าชังให้อาเชอร์… และนี่คือเรื่องราวในนิยายที่เธออ่านถึงพอดี เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นนิยายอีกครึ่งเรื่องในส่วนที่เธอไม่เคยอ่านมาก่อน…. จบซีซั่นที่1เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







