LOGINเบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่ง
นึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควร เธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้ง เธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้ เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง “นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา” เธอถอนหายใจ “ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…” เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่ “นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!” เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้ “ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…” “ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!” ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ “ตอนที่เจ้าหลับ เลโอมาต่อยข้าโดยที่ไม่ฟังข้าอธิบาย เจ็บมากๆ เลยเบล!” เบลล่าหัวเราะเบาๆ พร้อมทั้งยกมือขึ้นมาจับแก้มของไบรอัน “เจ็บรึเปล่า?” ไบรอันพยักหน้า “ท่านทำข้าเจ็บกว่านี้อีก โดนแค่นี้สมควรแล้วล่ะ!!” ไบรอันหน้ามุ่ย เขาดึงเธอออกจากอ้อมกอดของเลโอ “เบล เจ้ากำลังลำเอียงอยู่นะ เขาทำร้ายข้าแท้ๆ เจ้าก็ยังไปเข้าข้างเขาอีก!” เบลล่าถอนหายใจ “เลโอ ท่านควรจะบอกแผนการของท่านมาได้แล้วค่ะ ในช่วงที่ผ่านมาข้านอนหลับก็เลยปล่อยผ่านไปแต่ตอนนี้ข้าพร้อมจะช่วยท่านแล้ว ท่านก็ควร….” “เบล เจ้าแค่รออยู่เฉยๆ ก็พอ ที่ผ่านมาเจ้าเสี่ยงมากเกินไปแล้ว ให้ข้าได้ทำหน้าที่สามีที่ดีบ้างเถิด…” เธอขมวดคิ้วมองหน้าเลโอ “ก่อนที่เราจะตกลงอยู่ในฐานะคนรักท่านก็รู้ดีว่าข้าเป็นสตรีเช่นไร แล้วท่านจะให้ข้ามารออยู่เฉยๆ เนี่ยนะ!! ท่านก็รู้ว่าข้าทำไม่ได้หรอก!” “เบล ข้าไม่อยากทะเลาะกันเลยได้โปรด เจ้ารู้ไหมว่าการรอคอยให้เจ้าฟื้นขึ้นมามันทรมานแต่ไหน และในครั้งนี้เจ้าหลับไปเป็นเดือน หัวใจของข้ามันไม่อาจจะยอมรับความเสี่ยงได้อีกแล้วเบล พวกเราไม่อาจเสียเจ้าไปได้อีกแล้ว….” ไบรอันยกมือขึ้นมาลูบผมของเบลล่า “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงองค์จักรพรรดินี แต่เรื่องนี้พวกเราจะจัดการเองดีไหม ส่วนเจ้าก็เอาเวลาที่เหลือนี้ไปตามสืบปริศนาที่อาเชอร์ทิ้งเอาไว้ แบบนี้น่าจะดีกว่า ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วนะ” ไบรอันกล่าวพร้อมทั้งพาเบลล่าไปที่เตียง “นอนเถิด อีกไม่นานก็เช้าแล้วเก็บแรงเอาไว้ต่อสู้กับวันพรุ่งนี้ดีกว่า!” เลโอเดินมาล้มตัวนอนข้างเธอ “ที่ข้าทำไปทั้งหมด เพราะว่าเจ้าสำคัญมาก และข้า…รักเจ้า!” เบลล่ากลืนความไม่พอใจลงคอ แววตาของเลโอมันค่อนข้างจะน่าสงสารอยู่บ้าง “เอาเช่นนั้นก็ได้…” เธอหลับตาลงแล้วซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเลโอ เขาโอบกอดเธอแน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหนีจากไป ไบรอันมองภาพเบื้องหน้าพร้อมกับยกยิ้มอย่างมีความสุข นี่แสดงว่าเขาได้เป็นคนรักของเบลแล้วใช่ไหมนะ ในช่วงเช้าไบรอันบอกว่าจะย้ายมาอยู่ที่เมบิลแต่เลโอปฏิเสธเพราะหากไบรอันย้ายมาอยู่ที่นี่แผนที่เขาวางเอาไว้อาจจะมีปัญหาได้ ซึ่งไบรอันงอแงพอสมควรเลย สุดท้ายก็ตกลงกันว่าเบลล่าจะเป็นคนไปหาเขาเอง แค่เขาเขียนจดหมายมาบอกก็พอ.. ทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว เบลล่าเดินไปที่ป่าด้านหลังคฤหาสน์ เธอเดินไปเรื่อยๆ จนพบบ้านหลังเล็กบนเนินเขา เบลล่ายกยิ้มพร้อมทั้งโบกมือให้ท่านแม่ของเธอ “โชคดีที่เช้านี้ฝนหยุดตกแล้ว…” เธอนั่งลงพร้อมทั้งรับน้ำชามาจากมือของท่านแม่ “ท่านเจคอปไปที่ตลาด แม่บอกว่าอยากกินซุปเห็ด…” “ข้า จะไม่รบกวนเวลาของท่านแม่มาก ข้าอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเมเบโล่” รอยยิ้มค่อยๆ จางหายจากใบหน้าของฮันน่า เธอยกมือขึ้นมาจับมือของเบลล่าเอาไว้ “เมเบโล่เดิมทีเป็นตระกูลของแม่มดผู้เก่าแก่ของจักรวรรดิ ที่ได้ยศแกรนด์ดยุคและแกรนด์ดัชเชสมาเพราะการร่ายคำสาปองค์ใส่จักรพรรดิฟาทีเรียสทำให้รัชสมัยของฟาทีเรียสล่มสลายลง ในห้องหนังสือของตระกูลมีหนังสือเกี่ยวกับการร่ายคำสาป การปรุงยา และการสาปแช่งมากมาย แม่เคยแอบเข้าไปอ่านประวัติของผู้นำตระกูล ในหนังสือเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า หากมีมานาที่แข็งแกร่งมากพอ จะสามารถเปลี่ยนอนาคตได้ตามใจ และสามารถย้อนเวลาหรือข้ามเวลาได้ เพียงแต่จะต้องมีสิ่งที่แลกกับพันธสัญญาซาตาน ก็คือหัวใจของผู้ที่มีสายเลือดเดียวกัน” “นี่มัน เลวร้ายกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เยอะเลย” เบลล่าถึงกับยกมือขึ้นมานวดขมับ “มีอีกมากมายเบล เช่นผู้นำตระกูลเลือกที่จะแต่งงานกับสายเลือดเดียวกันเพื่อคงเอาไว้ซึ่งสายเลือดที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่เด่นชัดในสายเลือดของเมเบโล่คือหน้าตายังไงล่ะ หากเป็นสตรีก็จะงดงาม เป็นบุรุษก็จะสง่าผ่าเผย ท่านลุงของแม่แยกไปก่อตั้งตระกูลอาร์ชดยุคกูเรี่ยน เมเบโล่และกูเรี่ยนถึงต้องแต่งงานกัน เพื่อสืบทอดสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์นี้…” เธอส่ายหน้าเบา “มันไม่ใช่สายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย…” ฮันน่ายกมือขึ้นมาลูบหัวเบลล่าเบาๆ “นี่เป็นเหตุผลที่แม่ยอมลำบากที่แลนเดอร์ ดีกว่ากลับไปเมเบโล่ ตอนที่เห็นบารอนแกริคครั้งแรกแม่คิดว่าเขาคือคนที่จะพาแม่ออกไปจากความเจ็บปวดทั้งหมดที่เมเบโล่ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็คือความเจ็บปวดของแม่เช่นกัน ทว่าถึงอยู่ที่แลนเดอร์จะเจ็บปวดแต่แม่มีความหวัง หวังว่าสักวันลูกจะเติบโตขึ้นอย่างงดงาม…แต่การมีชีวิตเช่นนี้มันเกินกว่าที่แม่หวังเอาไว้มากๆ ลูกได้เติบโตขึ้นมาและประสบความสำเร็จ ส่วนแม่ได้พบเจอความรักที่ดีอีกครั้ง…” “ลูก ยังไม่อาจมีความสุขได้ เพราะเมเบโล่ทำร้ายลูกและคนที่ลูกรัก!!” “เบล แม่ไม่ได้ห้ามและแม่จะคอยสนับสนุนในทุกทางที่ลูกเลือก ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการทำลายเมเบโล่ก็ตาม “ ฮันน่าส่งยิ้มที่อ่อนโยนให้เบลล่า “ท่านแม่คิดว่า พวกคาถาการเป็นแม่มดอะไรพวกนั้น คนที่เมเบโล่จะยังใช้มันได้อยู่รึเปล่าคะ” “อ่า เรื่องนี้แม่ไม่อาจให้คำตอบกับเจ้าได้ แต่ตอนที่แม่เติบโตขึ้นมาไม่มีใครสามารถร่ายคำสาปได้แล้วนะ ท่านยายของลุงพยายามอย่างหนักเพื่อหาคนที่มีสายเลือดเมเบโล่และสามารถร่ายคำสาปได้ แต่ก็ไม่มีเลย…” ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจจะวางใจ ให้ตายเถอะ! แม่มดงั้นหรือ? “ลูกอยากไปที่ห้องหนังสือในคฤหาสน์เมเบโล่…” “ไม่ได้เบล! เป็นไปไม่ได้ที่นั่นแม้แต่คนในตระกูลยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเลย ทางที่ดีลูกอย่าไปเหยียบที่เมเบโล่!! มันอันตรายเกินไป ท่านยายไม่ใช่คนที่มีเมตตา…” “เข้าใจแล้วค่ะ…” ที่นั่นจะต้องมีอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับภาพในอนาคตที่เธอเห็นแน่นอน เรื่องจะเข้าไปที่นั่นยังไงเดี๋ยวค่อยคิดอีกที! “เบล!! มาพอดีเลยอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อน!!” ท่านลุงเจคอปมาถึงพอดี เขาถือผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ เต็มมือ..ท่านแม่ท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ท่านลุงเจคอปดูแลท่านแม่เป็นอย่างดี ส่วนที่ร้านตัดเสื้อก็มีช่างที่ท่านแม่สอนงานเอาไว้ ทำงานแทน ชีวิตของท่านแม่ในตอนนี้ มีความสุขอย่างที่เธอตั้งความหวังเอาไว้จริงๆ “ข้ามีนัดกับคิร่าค่ะ ว่าจะเข้าไปทานข้าวเป็นเพื่อนนาง เอาไว้โอกาสหน้านะคะ…” เธอกล่าวร่ำลาท่านแม่และท่านลุงเจคอปก่อนจะเดินกลับมาที่คฤหาสน์ เบลล่าเปลี่ยนชุดเป็นชุดสุภาพสีดำ เธอไม่ได้เข้าไปในกิลข้อมูลนานแล้ว วันนี้ควรจะเข้าไปจัดการอะไรสักหน่อย นิสัยไม่ชอบนั่งรถม้าของเธอนี่ ยังแก้ไม่หายสักที เบลล่าเดินตามถนนมาเรื่อยๆ เมบิลและตลาดไม่ได้ไกลกันมา วันนี้ฝนไม่ตกจึงมีร้านค้าข้างทางมาตั้งแผงขายของกันมากมาย “พี่สาวคนสวยครับ ช่วยข้าซื้อดอกไม้หน่อย!!” เธอส่งยิ้มให้กับเด็กชายตัวน้อยที่ขายดอกกุหลาบสีแดง ราวกับว่าเธอเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาก่อนเลยแฮะ เธอส่งเหรียญทองให้เด็กชายแล้วรับดอกกุหลาบทั้งหมดมาถือเอาไว้ “ดอกกุหลาบที่แสนจะงดงามนี้ เหมาะกับเลดี้มากนะครับ” เบลล่ามองไปยังเจ้าของเสียง ชายที่ปกคลุมไปด้วยความมืดมิด เขามองมาที่เธอราวกับว่าเขาเจอของเล่นที่ถูกใจ เธอส่งยิ้มให้พอเป็นมารยาท แล้วเดินจากไป “การเดินหนีไปโดยไม่ทำความรู้จักข้าเลย อาจจะทำให้เลดี้เสียใจก็ได้นะครับ” อืม..หมอนี่มั่นหน้ามาจากไหนกันนะ! เธอหันไปมองเขาพร้อมทั้งถอนหายใจเบาๆ “ข้ามีสามีแล้วค่ะ!” “อ่า เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะข้าไม่ได้คิดจะจริงจังกับเลดี้อยู่แล้ว เราแค่มาหาความสนุกด้วยกันก็พอ…” เขาส่งยิ้มมาให้เธอ เป็นครั้งแรกที่เธอไม่อาจปั้นหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มได้อีกต่อไป ชายผู้นี้กำลัง…ดูหมิ่นเธออยู่ “เช่นนั้นท่านรวยไหมล่ะคะ? หากว่าท่านมีเงินหรือว่าเป็นขุนนางเราค่อยมาพูดคุยถึงเรื่องผลประโยชน์ พอดีข้าไม่ได้สนใจเรื่องความสนุกสนาน แต่ข้าสนใจเรื่องเงินมากกว่า” เขาดีดนิ้วเสียงดัง ราวกับว่าเขาชอบใจ “ข้าคือดยุคแบรฮาร์ท เมเบโล่ ยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้เลดี้ถ่างขาให้ข้ากระแทกเข้าไปรึเปล่า?” อ่า…ไอ้เวรนี่!!เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







