เข้าสู่ระบบ“ท่านพี่จ้างเบลมาสอนหนังสือให้ข้าได้ไหมคะ?”
เบลล่าตกใจจนต้องรีบกล่าวปฏิเสธ “ไม่ได้นะคิร่า ข้ามิกล้าสอนทายาทของเคนเนดี้หรอก!” ท่านเคาน์ยกยิ้ม “เอาสิ..พรุ่งนี้รบกวนเบลล่านำใบสำเร็จการศึกษาและใบอนุญาตสอนหนังสือมาพบข้า ส่วนเรื่องค่าจ้างนั้นไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะจ่ายให้อย่างเหมาะสม” เบลล่าส่งยิ้มอย่างเกรงใจให้ท่านเคาน์ ทว่าในใจของเธอมันกำลังโห่ร้องอย่างยินดี!! นี่มันจะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย!! เธอจะได้ใกล้ชิดกับคิร่าและได้เงินค่าจ้างสอนหนังสืออีกด้วย! เบลล่าเชื่อเหลือเกินว่าท่านเคาน์จะต้องจ่ายในราคาที่เหมาะสมแน่ๆ จมูกของเธอกำลังได้กลิ่นของเงินที่ลอยมาแล้วละสิ “เอาล่ะ..เราไปที่งานเลี้ยงกันเถอะ ป่านนี้ทุกอย่างคงจะเตรียมพร้อมหมดแล้ว” โคลด์ลุกขึ้นก่อนจะส่งมือให้เบลล่า “ยินดีต้อนรับสู่เคนเนดี้อย่างเป็นทางการ” จะจับมือ…ดีไหมนะ!! เมื่อโคลด์เห็นความลังเลให้สายตาของเบลล่า เขาก็หัวเราะ “ข้าบอกแล้วไงว่าเจ้าก็คือน้องสาวของข้าอีกคน ไม่ต้องคิดมากหรอก” เบลล่าส่งยิ้มจางๆให้โคลด์ก่อนจะจับมือของเขา คิร่ายกยิ้มอย่างอารมณ์ดี พวกเราเดินมาทางด้านหลังของคฤหาสน์ เบื้องหน้าของเบลล่าคือสวนที่แสนงดงาม มีเก้าอี้มากมายวางเรียงรายอยู่ พร้อมกับถังของเหล้ารัม ถังไวน์ และถังเบียร์ ที่ข้างๆโต๊ะมีเตาสำหรับย่างวางอยู่ มีอัศวินราวสิบคนส่งยิ้มให้ท่านเคาน์ ทว่าพอพวกเขาเห็นเบลล่าเดินมา บางคนก็หน้าแดงบางคนก็เสียอาการไปเลย “ตามสบายเถอะ! นี่เบลล่าเป็นเพื่อนของคิร่า” เบลล่าส่งยิ้มให้อัศวินทุกคนก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ซึ่งมีอัศวินผู้หนึ่งเดินมาขยับเก้าอี้ให้เธอนั่ง “ขอบคุณค่ะ” “ด้วยความยินดีครับ” “เจ้าพวกนี้นี่นะ!!..ถึงพวกเขาจะเป็นเช่นนี้แต่เจ้าวางใจเถอะ พวกเขาไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก” คิร่ากล่าวพร้อมทั้งยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม “บ้านของเจ้า..ดูอบอุ่นมากเลยนะ ถึงจะมีเพียงเจ้ากับพี่ชายแต่ข้าสัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยได้อย่างชัดเจนเลย” คิร่าส่งแก้วไวน์ให้เบลล่า “ชีวิตมันโหดร้ายมากนะเบล กว่าข้ากับท่านพี่จะลุกขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผยเช่นนี้ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน…ข้าหวังว่าเจ้าเองก็จะยืนอย่างมีเกียรติได้เช่นกัน” เธอไม่ควรจะหวั่นไหวกับคำพูดของคนที่ต้องมาหลอกลวงด้วยซ้ำ แต่ทว่าในใจของเบลล่ามันกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เธอยกไวน์ขึ้นมาดื่ม “ข้าเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น…” วันหนึ่งเธอจะพาท่านแม่ลุกขึ้นยืนอย่างมีเกียรติ และสมศักดิ์ศรี เธอคุยเรื่องทั่วๆ ไปกับคิร่าราวกับคนที่สนิทกันมานาน คิร่านั้นราวกับว่านางพึ่งเปิดใจมีเพื่อนครั้งแรก นางจึงพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ที่อัดแน่นในใจออกมากับเบลล่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาจารย์ที่มาสอนเพื่อเข้าหาพี่ชาย และยังจะสตรีมากมายพวกนั้นอีก!! “คิร่า..พี่ชายเจ้าจำเป็นต้องมีภรรยา เจ้าจะมาห่วงเช่นนี้มันก็ไม่ถูก แล้วยังจะตัวเจ้าล่ะ เจ้าคือสตรีที่งดงามมากนะ มาใช้ชีวิตเพื่อหวงพี่ชายไปวันๆ เช่นนี้มันน่าเสียดายออก..” เบลล่าคิดว่าเธอดื่มไวน์ไปราวสิบแก้วเห็นจะได้ ส่วนคิร่านอนลงที่เก้าอี้ตัวยาวเพราะว่านางไม่สามารถนั่งได้ เนื่องจากอาการมึนหัวที่กำลังโจมตีเข้ามา “เช่นนั้นข้าควรจะทำเช่นไร!!” เบลล่ายกยิ้ม “เรากำลังอยู่ในวัยที่งดงามราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง เจ้าควรจะเปิดใจรับความรักครั้งใหม่ๆ ให้เข้ามาบ้าง..” “ข้าคิดว่าหากข้าจะรักใครสักคน ชายผู้นั้นจะต้องหล่อเหลาและร่ำรวยมากกว่าท่านพี่….” มันจะมีไหมผู้ชายแบบนั้นน่ะ แล้วดยุคแม็คซิมัสหน้าตาเป็นยังไงกันฟะ!! “….มีผู้ชายที่หล่อมากกว่าพี่เจ้าอีกงั้นเรอะ!! เจ้าควรจะลดสเป็คลงมาหน่อยสิ” “พรึบ!!” เบลล่านั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิง เธอหงายหลังลงไปเพราะรู้สึกว่าฤทธิ์ของไวน์ที่ดื่มกำลังทำให้โลกหมุนติ้วๆอยู่ แต่ทว่าการหงายหลังนี่ไม่เจ็บเท่าที่คิดแฮะ!! “เจ้าพูดจริงรึเปล่าที่ไม่มีใครหล่อเท่ากับข้าน่ะ?” พอเบลล่าลืมตาดูดีๆ เธอก็พบกับท่านเคาน์ที่กำลังโอบกอดเธอเอาไว้ เบลล่ารีบหันไปมองคิร่าก็พบว่าเธอเมาจนหลับไปแล้ว “คะ..คือว่า…” “เมาแล้วงั้นเหรอ?” ใช่..จะบอกว่าก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังเมา แต่พอท่านเคาน์มาโอบกอดเธอเช่นนี้อยู่ๆ สติที่มันล่องลอยไปมันก็ลอยกลับเข้าร่างในทันที “ไม่เมาแล้วค่ะ! ไม่เมาแล้ว..ท่านเคาน์ควรจะปล่อยข้าก่อน…” เธอยกยิ้มจางๆ ให้เขา พร้อมทั้งออกแรงดันตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขา “คิร่าไม่เคยดื่มจนเมา นี่เป็นครั้งแรกที่นางเมาเลยก็ว่าได้ ข้าหวังอย่างยิ่งว่าเจ้าจะเป็นเพื่อนที่ดีของนาง…จริงๆ!” เบลล่าคิดว่าเธอไม่ได้หูฝาดแน่นอน เพราะเธอได้ยินน้ำเสียงที่เขาเน้นตรงท้ายประโยค มันราวกับว่าเขากำลังย้ำเตือนให้เธอนั้นระวังตัวเอาไว้.. “ข้าก็ดีใจค่ะที่ได้เป็นเพื่อนกับนาง คิร่าเองก็ถือเป็นเพื่อนคนแรกของข้าเลย..อ่า..นี่ก็ดึกมากแล้วคงจะถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับแล้ว…สายัณห์สวัสดิ์นะคะท่านเคาน์” “โคลด์..เรียกข้าว่าท่านพี่โคลด์” “…ข้าไม่กล้าจะอาจเอื้อมเช่นนั้นหรอกค่ะ…แค่ได้เป็นเพื่อนกับคิร่ามันก็ราวกับว่าข้านั้นฝันไปแล้ว” “…” เขามองเธอเงียบๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับที่ตุ้มหูของเธอ โคลด์ถอดตุ้มหูออกไปอย่างรวดเร็ว “…หวังว่าพรุ่งนี้เจ้าจะยอมใจอ่อนเรียกข้าว่าท่านพี่นะ” เบลล่าไม่ตอบเธอเพียงแต่ส่งยิ้มให้เขาเท่านั้น ก่อนจะลุกขึ้นก้มหน้าทำความเคารพแล้วเดินจากไป อ่า..เธอกำลังเวียนหัวให้ตายเถอะ!! กะว่าจะดื่มพอประมาณแต่กลายเป็นว่าคิร่าชวนเธอดื่มไม่หยุดไม่หย่อน!! เบลล่าพาตัวเองขึ้นมาบนรถม้าอย่างทุลักทุเล ทว่าเมื่อขึ้นมาด้านบนรถม้าเธอก็ต้องตกใจที่เห็นสายตาไม่พอใจของท่านดยุค!! “ท่านดยุคมาอยู่บนรถม้าของข้าได้ยังไงกันคะ?” “กลิ่นเหล้า? เจ้าดื่มมางั้นเหรอ” เบลล่ารีบยกมือขึ้นมาปิดปาก “นะ..นิดหน่อยค่ะ…ดื่มมานิดเดียวเท่านั้น!” เบลล่าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องกลัวท่านดยุคจะด่าเรื่องดื่มเหล้าด้วยก็ไม่รู้!! เลโอเลิกคิ้วมองเบลล่า ก่อนที่เขาจะดึงเธอมานั่งบนตัก..เบลล่ารีบยกมือขึ้นมาดันตัวของเขาออก “นิดเดียวแล้วเหตุใดถึงเมาขนาดนี้?” “ข้าไม่ได้เมาเลยค่ะ..นี่ปกติดีทุกอย่างเลย ข้าไม่ทำให้แผนของท่านดยุคเสียแน่นอน…ท่านควรจะ..ปะ..ปล่อยข้าก่อน!” เลโอยกมือขึ้นมาจับริมฝีปากของเบลล่าก่อนที่เขาจะสอดนิ้วเข้าไปในปากของเธอ…เหตุใดถึงรู้สึกไม่พอใจกันนะ แล้วเหตุใดถึงได้อยากดึงเธอเข้ามากอด เหตุใดจะต้องหงุดหงิดที่มีกลิ่นน้ำหอมของชายอื่นติดตัวเธอมา ให้ตายเขาไม่ชอบตัวเองที่ไร้เหตุผลเช่นนี้เลย “อื้อ!!” เขาใช้นิ้วของเขาเล่นกับลิ้นของเบลล่า…แต่เธอกลับไม่ยอมแพ้ เบลล่าไม่ยอมให้เขาใช้นิ้วเขี่ยลิ้นของเธอ เธอก็เลยขบกัดนิ้วของเขาเอาไว้! เขามองหน้าของเธอ…เราทั้งสองสบตากันเนิ่นนาน…สุดท้ายเป็นเขาที่ยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด “เล่นอะไรคะ!!” เบลล่ารีบลุกขึ้นไปนั่งอีกฝั่งก่อนจะยกมือขึ้นมาเช็ดที่ริมฝีปาก “ก็แค่…ทดสอบว่าเจ้าเมารึเปล่า” “ข้าบอกท่านดยุคไปแล้วว่าข้าไม่ได้เมา!!” “เช่นนั้นก็ดี…วันนี้ทำอะไรมาบ้าง” “ท่านเคาน์ให้ข้าเข้าไปสอนหนังสือให้เลดี้คิร่าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะนำใบจบการศึกษาและใบอนุญาตสอนหนังสือไปยืนยันกับท่านเคาน์เพื่อทำการสอน….” “อื้อ..ดีมาก” เบลล่าพยายามมองไปทางอื่น เพราะว่าหน้าของเธอตอนนี้มันกำลังเห่อร้อน เธอไม่รู้ว่าที่เธอกำลังหน้าแดงนี้มันมาจากฤทธิ์ของไวน์หรือว่ามาจากการกระทำที่ใกล้ชิดจนเกินพอดีของท่านดยุคเมื่อครู่กันแน่!! “ข้าได้ยินว่าเจ้าต้องการอัศวิน…” “ใช่ค่ะ ข้ายังไม่อาจไว้ใจท่านพ่อและพี่ชายได้” “วางใจเถอะ ตอนนี้แลนเดอร์กำลังจะล้มละลาย….” “หมายความว่ายังไงคะ?” “ไว้ทุกอย่างเรียบร้อยดีข้าจะเล่าให้ฟัง เอาเป็นว่าเจ้าวางใจเรื่องความปลอดภัยของแม่เจ้าเถอะ…แล้วก็เรื่องอัศวินข้าจะจัดหาให้เอง” “ข้าบอกไปแล้วนะคะ..ว่าข้าอยากได้อัศวินในนามของเมบิล…” เธอช้อนสายตามองเขาเพื่อดูว่ามันมีความไม่พอใจอยู่ในแววตาของเขารึเปล่า “อืม..เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า” เบลล่าถอนหายใจอย่างโล่งอก “ขอบคุณนะคะ…” “ข้าไม่ได้อยากได้คำกล่าวขอบคุณลอยลมเช่นนั้นหรอกนะ ข้าอยากจะได้อย่างอื่นมากกว่า” “คะ?” ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเบลล่ามันทำให้เลโอรู้สึกสนุกทุกครั้งที่เขาได้มองจริงๆ “ตั้งใจทำงานให้ข้าก็พอ…อีกอย่างเมื่อเจ้าทำงานที่คฤหาสน์เคนเนดี้แล้ว เราจะไม่มาพบกันสักพัก เคาน์เคนเนดี้มิใช่คนโง่ เขาจะต้องตามสืบเรื่องของเจ้าแน่นอน ขาดเหลืออะไรก็บอกผ่านไปทางเซ็ดดริก” เบลล่าพยักหน้า อย่างเข้าใจ รถม้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์เมบิลพอดี “สายันห์สวัสดิ์ค่ะท่านดยุค ข้าจะตั้งใจทำงานให้ท่านเป็นอย่างดีเลยค่ะ อย่าลืมเตรียมเงินหนึ่งแสนเหรียญเอาไว้ให้ข้าด้วยนะคะ!” เลโอยกมือขึ้นมาลูบหัวเบลล่าเบาๆ “รู้แล้ว..ไปเถอะ” เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินลงจากรถม้า…เบลล่าเดินเข้าคฤหาสน์พร้อมทั้งสูดดมกลิ่นน้ำค้างยามค่ำคืน ขอให้พรุ่งนี้แล้ววันต่อๆ ไปเป็นวันที่ดีด้วยเถอะนะเบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







