เข้าสู่ระบบหลังจากส่งคิร่ากลับห้องนอนเรียบร้อยแล้วโคลด์ก็กลับมาที่ห้องทำงานอีกครั้ง เขาใช้นิ้วเคาะโต๊ะอย่างใช้ความคิด..เบลล่า เมบิล?
โคลด์ก้มมองตุ้มหูทับทิมสีแดงในมืออย่างอารมณ์ดี ใบหน้าที่แสนจะงดงามนั่นดึงดูดความสนใจของเขาได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก และไม่ว่าเธอจะเข้ามาที่เคนเนดี้ด้วยเหตุผลใด เขาก็จะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของคิร่าก่อนเป็นอันดับแรก “กัสส่งคนไปตามสืบเรื่องของเบลล่ามาอย่างละเอียด…ข้าต้องการรู้ถึงเรื่องราวตั้งแต่นางยังเด็กจนถึงตอนนี้เลย…แล้วก็นี่..ตุ้มหูทับทิมเช่นนี้ตั้งแต่เกิดมาข้าเห็นสตรีเพียงคนเดียวที่สวมทับทิมออกงาน นั่นก็คือแกรนด์ดัชเชสโอเว่น ตามสืบเรื่องความสัมพันธ์ของนางกับดยุคโอเว่นมาด้วย” “ครับท่านเคาน์” กัสออกไปอย่างรวดเร็ว…โคลด์ยกยิ้มก่อนจะมองไปที่ด้านนอกหน้าต่าง ไม่ว่าเธอจะมาแผนไหน เขาจะเป็นคนกักขังเธอเอาไว้ที่เคนเนดี้เอง วางใจเถอะเบลล่า ในเมื่อเจ้ากล้าที่จะเข้าถ้ำเสือแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ …… เบลล่ายกยิ้มให้กับท่านเคาน์ที่กำลังมองหน้าเธอ “อืม..เอกสารเรียบร้อยแล้ว เช่นนี้เจ้าลงมือสอนคิร่าได้เลย” “ข้าคิดว่าจะมาสอนนางวันพรุ่งนี้ค่ะ วันนี้ขออยากจะกลับไปเตรียมตัวก่อน…” “อืม..เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า…ว่าแต่เจ้าทานข้าวรึยัง?” “เรียบร้อยแล้วค่ะ หากว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะคะ” เบลล่าก้มหน้าลงเพื่ออำลาท่านเคาน์ “เรื่องค่าจ้างล่ะ? เจ้าไม่คุยเรื่องค่าจ้างไม่กลัวข้าจะกดราคารึไง?” เบลล่าหัวเราะ “ข้าคิดว่าท่านเคาน์คงจะไม่ทำเรื่องเช่นนั้นหรอกค่ะ…อีกอย่างข้าเป็นเพียงคนที่ว่างงาน เพียงแค่ท่านยอมให้ข้ามาสอนหนังสือข้าก็ขอบคุณท่านเคาน์มากแล้วค่ะ” “อันที่จริง…ข้าคิดว่ามันมีปัญหาอยู่บ้าง เพราะว่าคิร่านั้นเริ่มเรียนช้ากว่าคนปกติ ข้าก็เลยอยากให้นางเรียนมากขึ้นกว่าที่เจ้าสอนคนอื่น หากว่าไม่เป็นการรบกวนเจ้า ข้าก็อยากให้เจ้าย้ายมาอยู่ที่นี่เลย….” ห๊ะ! จะให้มาอยู่ที่นี่งั้นเรอะ! จะให้มาอยู่ทำไมก่อน! หรือว่าท่านเคาน์ไม่เชื่อใจเธอ…เขาอาจจะอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่เพื่อจะได้คอยจับตาดู หากว่าเธอปฏิเสธเขาก็อาจจะเกิดความสงสัยในตัวเธอมากขึ้น…รึเปล่า แต่หากว่าเธอมาอยู่ที่นี่มันก็ไม่สะดวกในหลายๆ อย่าง เธอพึ่งจะได้คฤหาสน์เมบิลมา ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังจัดการไม่เรียบร้อย ไหนยังจะท่านแม่อีก โคลด์มองท่าทางคิดมากของเบลล่า…ตามที่เขาได้รับรายงานคือเธอมีแม่เพียงคนเดียว…นี่มันมากไปรึเปล่านะที่จะให้เธอมากอยู่ที่นี่ คำขอของเขามันมากเกินไปรึเปล่า? “ข้าไม่ได้จะให้เจ้ามาอยู่ที่นี่ทุกวันสักหน่อย แค่วัน จันทร์ อังคาร พุธ ส่วนวันอื่นเจ้าก็หยุดไป เพราะคิร่าต้องการ การปรับตัว ข้าเลยคิดว่าจะให้นางเรียนแค่สามวันก็พอ” “อ่า..หากว่าเป็นเช่นนั้นข้าก็ไม่มีปัญหาค่ะ ขอบคุณท่านเคาน์ที่เมตตา” “อืม..เช่นนั้นเจ้าก็ควรมาค้างที่นี่วันพรุ่งนี้เลยเป็นไง” ต้องรีบ…ขนาดนี้เลยเรอะ! “ค่ะ..ได้ค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะนำของใช้บางส่วนติดมาด้วย” “ไม่ต้อง…ของใช้ของเจ้าเราก็ต้องไปซื้อใหม่สิ…เจ้าไม่ได้ไปไหนแล้วใช่ไหม เช่นนั้นเราควรจะไปเลือกของใช้ต่างๆ ของเจ้าด้วยกัน” โคลด์ลุกขึ้นก่อนจะส่งยิ้มให้เบลล่า “ไปเถอะ..ชวนคิร่าไปด้วยกันนางต้องดีใจมากแน่ๆ” เขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เบลล่ายืนมองแผ่นหลังของเขาอย่างเหนื่อยใจ เหตุใดเขาถึงชอบคิดเองเออเองนักนะ!! ทุกสายตาจับจ้องมาที่ใบหน้าของเบลล่าอย่างสนใจ…อาจจะเป็นเพราะไม่มีสตรีใดที่เดินเคียงข้างสองพี่น้องตระกูลเคนเนดี้มานานแล้ว เบลล่าจึงได้เป็นจุดสนใจโดยไม่ต้องคาดเดา “พรุ่งนี้เจ้าอาจจะได้ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์” คิร่ากล่าวติดตลกกับเบลล่า “ข้าไม่อยากจะขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เลยด้วยซ้ำ!! เราควรจะรีบซื้อของแล้วรีบกลับกันเถอะ!” “ได้ที่ไหนกัน ของใช้ของเจ้าก็ต้องเลือกให้ดีหน่อย!!” “ไม่เอาคิร่า ข้าเกรงใจ อีกอย่างข้าไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าเป็นแขก แต่ข้าเปรียบเสมือนคนงานคนหนึ่งเลยก็ว่าได้เจ้ากำลังทำให้ข้าลำบากใจ!!” “คนงานอะไร!! เจ้าเป็นเพื่อนข้านะ เป็นเพื่อนคนแรกของข้าด้วย วันพรุ่งนี้ข้าจะไปนอนห้องเจ้า เราจะคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ส่วนอีกวันเจ้าก็จะต้องมานอนห้องข้า เราจะเล่นไพ่กันจนถึงเช้าเลยเป็นไง!” เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเบลล่านั้นรู้สึกชา คิร่านั้นย้ำทุกครั้งว่าเธอคือเพื่อนคนแรก…เธอคิดไม่ออกเลยจริงๆ หากว่าคิร่ารู้ว่าที่เธอมาตีสนิทด้วยเพราะเงินหนึ่งแสนเหรียญทอง ความรู้สึกของคิร่าจะเป็นยังไง…จะแตกสลายแค่ไหนกัน “เบลผ้าห่มลายนี้สวยมากๆเลย เจ้าชอบรึเปล่า?” “อื้อ..เอาอันนี้แหละ สวยดี” คิร่ายกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ส่วนท่านเคาน์ก็เดินตามหลังพวกเราพร้อมทั้งเป็นคนคอยจ่ายเงินให้ “เดี๋ยวก่อนคิร่า” เบลล่าดึงผ้าห่มมาจากมือของคิร่า เพราะเธอคิดว่าเธอเห็นเลขศูนย์ที่มันมากเกินไป พอมาพลิกราคาดูเบลล่าก็รีบวางผ้าห่มผืนนั้นไว้ที่เดิมทันที “ทำไมล่ะเบล ไม่สวยงั้นเหรอ?” “คิร่า ผ้าห่มบ้าบออะไรราคาห้าพันเหรียญทอง นั่นมันเงินเก็บทั้งชีวิตของข้าเลยนะ!!..ไม่เอาผืนนี้ ไปดูที่ราคาถูกกว่านี้หน่อยเถอะ” คิร่าหันมองที่หน้าโคลด์ก่อนที่ทั้งสองคนจะหัวเราะ “เบล..ข้าบอกแล้วไงเจ้าคือเพื่อนข้า สำหรับเจ้าข้าจ่ายให้ได้สบายๆ อยู่แล้ว” “แต่ข้ารับมาแล้วข้าไม่สบายใจ..หากเจ้าจะซื้อผ้าห่มราคาห้าพันเหรียญให้ข้า เจ้าเอาเงินมาให้ข้าดีกว่า ข้าจะนอนห่มเหรียญทองแทนห่มผ้าเอง!” คิร่าหัวเราะเสียงดัง เบลนี่เป็นน่ารักจริงๆ เธอหันมองหน้าพี่ชายก่อนจะขยิบตาให้เขาแล้วพาเบลล่าเดินไปที่อื่น พอเบลล่าเดินจากไปโคลด์ก็ส่งผ้าห่มผืนนั้นให้พนักงานขาย “…เป็นเลดี้ที่งดงามมากเลยนะคะ ท่านเคาน์เลือกสตรีได้ดีจริงๆ” โคลด์มองที่เบลล่าก่อนจะยกยิ้มออกมา “อื้ม..งดงามมากจริงๆด้วยสิ” หลังจากที่พวกเราไปเลือกซื้อของหลายๆอย่าง กว่าคิร่าจะปล่อยให้เธอกลับก็เป็นเวลาค่ำมืด เบลล่ามาถึงที่เมบิลก็พบท่านแม่ที่กำลังเลือกดูผ้าไหมอยู่ “ผ้าไหมมากมายนี้คืออะไรคะท่านแม่” “เบล ตลอดระยะเวลาที่แม่อยู่ที่นี่มันรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปจากชีวิตของแม่ เมื่อวานพอแม่ได้ลองตัดเสื้อดูอีกครั้งแม่มีความสุขมากเลยเบล กลายเป็นว่างานที่ร้านตัดเสื้อมันไม่ใช่งาน แต่มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตแม่…” เบลล่ายกยิ้ม “ท่านแม่ก็เลยจะเปิดร้านตัดเสื้ออีกครั้งงั้นหรือคะ?” ท่านแม่พยักหน้า “แม่ไปดูทำเลกับเซ็ดดริกมาแล้ว วางเงินมัดจำไปแล้วด้วย เจ้าของที่ใจดีมากๆเลยเขาคิดค่าเช่าเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญเท่านั้น” เบลล่าเลิกคิ้วมองหน้าท่านแม่ “ร้านตั้งอยู่แถวไหนคะท่านแม่” “ทำเลดีมากเลยนะ อยู่ที่หน้าโรงละครพอดีเลย ตรงข้ามกับหอนาฬิกา” มันไม่มีทางที่ร้านตรงนั้นค่าเช่าจะหลักร้อยเหรียญ แค่ร้านขายเนื้อย่างเล็กๆ ที่เธอชอบกินค่าเช่ายังแปดพันเหรียญเลย! นี่ร้านตัดเสื้อตึกสี่ชั้น ค่าที่มันควรจะเป็นหลักหมื่นเหรียญสิ!! “เซ็ดดริกเป็นคนพาไปดูงั้นเหรอคะ?” “ใช่แล้ว เขาบอกว่าเขารู้จักกับเจ้าของตึกพอดี ก็เลยเช่าได้ในราคาพิเศษ” เบลล่ายกยิ้มให้ท่านแม่อีกครั้ง อย่างไม่ต้องเดาเลยว่าเจ้าของตึกนั้นคือใคร เอาไว้เธอต้องหาโอกาสไปขอบคุณท่านดยุคเรื่องนี้ก้แล้วกัน หลังจากนั้นเธอก็คุยกับท่านแม่เรื่องการไปทำงานที่คฤหาสน์เคนเนดี้ ท่านแม่ได้แต่ยินดีกับเธอเพราะการได้สอนหนังสือชนชั้นสูงเช่นตระกลูเคาน์นั้นถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งของเบลล่าเลย ถือว่าลูกสาวของเธอได้รับการยอมรับจากชนชั้นสูงบ้างแล้ว เบลล่าเดินขึ้นมาเก็บกระเป๋าสำหรับอยู่ที่คฤหาสน์เคนเนดี้ เรื่องราวมันเลยเถิดมาขนาดนี้ได้ยังไงกัน เธอแค่จะไปตีสนิทคิร่า กลับกลายมาเป็นได้ไปอยู่บ้านเค้าเฉย! แต่นั่นก็นับว่าคือเรื่องที่ดีแล้วกัน เพียงแต่เธอต้องระวังตัวมากขึ้นอีกหน่อย เพราะตามที่ท่านดยุคกล่าวว่าท่านเคาน์เป็นคนฉลาดมาก ด้วยสายตาที่เขามองมาที่เธอ เบลล่าต้องยอมรับเลยว่าชายผู้นี้ฉลาดมากจริงๆ ……. เบลล่ากำลังเดินตามคิร่าขึ้นไปชั้นบนเพื่อเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ “ห้องนี้เลยเบล ด้านซ้ายคือห้องของข้า ส่วนด้านขวาคือห้องท่านพี่” ..คือจะมานอนห้องติดกันเพื่อ!! “ข้าคิดว่า…” “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นแหละ! รีบเอาของไปเก็บสิ ท่านพี่บอกว่าถ้าข้าสามารถทำแบบฝึกหัดของท่านพี่ได้คะแนนเกินครึ่ง ท่านพี่จะพาเราสองคนไปเที่ยวงานเทศกาลด้วยล่ะ น่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยใช่ไหมเบล!!” เธอที่ขายของตามงานเทศกาลมากว่าสิบหกปี บอกเลยว่ามันไม่น่าตื่นเต้นสักนิด!! “อ่า..เช่นนั้นข้าจะตั้งใจสอนเจ้าเอง…ไปรอข้าที่ห้องหนังสือได้เลย” พอเปิดประตูเข้ามาในห้องเบลล่าก็ต้องตกใจอีกครั้ง ห้องนี้มันใหญ่กว่าห้องนอนเธอสิบเท่าได้มั้ง ทำไมคนรวยจะต้องสร้างห้องนอนใหญ่ๆ เอาไว้ด้วยนะ สุดท้ายก็นอนคนเดียวอยู่ดีไม่ใช่รึไง!! เธอนำกระเป๋าเสื้อผ้าไปวางก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ แต่เบลล่าก็ต้องชะงักเพราะในตู้เสื้อผ้ามีชุดแขวนอยู่เต็มจนแน่นตู้… นี่อาจจะเป็นเสื้อผ้าของคิร่าสินะ ตู้ของนางคงจะเต็มจนล้นเลยเอามาเก็บที่ห้องนี้… เบลล่าถอนหายใจก่อนที่เธอจะวางเสื้อผ้าของเธอลงบนเก้าอี้และพับมันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังจากจัดการเรื่องในห้องตัวเองเสร็จเธอก็เดินไปหาคิร่า ก่อนจะเริ่มสอนวิชาการปกครองก่อน “ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเราต้องเรียนเรื่องพวกนี้ด้วย ชีวิตของสตรีก็มีเพียงแค่แต่งตัวสวยๆ แล้วก็ดูแลคฤหาสน์ไม่ใช่รึไง?” เบลล่ายกยิ้ม “นั่นก็มีส่วนที่ถูก แต่เราทุกคนต่างก็แต่งงาน เรามิได้ต้องปกครองตระกูลทางตรงก็จริง แต่สามีของเราต้องปกครอง หากภรรยามิสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดได้ สามีก็อาจจะต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงลำพัง คิร่า..การเป็นสตรีนั้นมิได้ต้องมีแต่ใบหน้าที่งดงามอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้เอาไว้ค้ำจุนสามีด้วย” คิร่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เจ้าสอนรู้เรื่องกว่าอาจารย์ที่ผ่านมาอีก..เอาล่ะข้าพร้อมแล้ว เจนไปเรียกท่านพี่มาให้หน่อย!!” สาวใช้ก้มหน้าให้คิร่าก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ใช้เวลาไม่นานนักท่านเคาน์ก็เดินเข้ามา “พร้อมแล้วงั้นหรือคิร่า…อย่าลืมว่าหากเจ้าได้คะแนนไม่ถึงครึ่งนอกจากเจ้าจะไม่ได้ไปงานเทศกาลแล้ว อาจารย์ของเจ้าอาจจะถูกหักเงินเดือนด้วยนะ” “อ๊ะ!!..ท่านพี่ไม่ได้บอกนี่นาว่าจะหักเงินเดือนของเบลด้วย!!” เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า “ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องทำได้” คิร่ามองที่เบลล่าอย่างอึ้งๆ ก่อนที่เธอจะหายใจเข้าลึกๆ “ข้าพร้อมแล้วค่ะ!!” ท่านเคาน์ส่งกระดาษให้คิร่า เธอรับมาก่อนจะตั้งใจเขียนลงไป “ห้องเป็นไงบ้าง ถูกใจรึเปล่า?” “ข้าจะคุยเรื่องนี้กับท่านเคาน์อยู่พอดี ห้องที่ท่านให้ข้าพักนั้นมันดีมากเกินไปค่ะ…” “เอาเป็นว่าถูกใจก็แล้วกันนะ..คิร่าเป็นคนเลือกให้เจ้านอนห้องนั้นเอง นางดีใจมากเลยนะที่จะมีเพื่อนมาค้างที่คฤหาสน์” ท่านเคาน์นี่พอเถียงสู้เธอไม่ได้ก็ยกคิร่ามาอ้างตลอด! คิร่าส่งกระดาษให้พี่ชาย ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ โคลด์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะส่งให้เบลล่าตรวจ เธอรับกระดาษมาพร้อมกับลงมือตรวจคำตอบ นั่นทำให้เบลล่ารู้ได้ทันทีเลยว่า เธอเจองานหินเข้าให้แล้ว… “ได้สี่เต็มสิบ..คิร่านี่มันไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำนะ” โคลด์กล่าวกับคิร่าพร้อมกับหัวเราะ เบลล่าถอนหายใจก่อนจะส่งยิ้มให้คิร่า “ที่ผ่านมาคิร่าเคยทำแบบทดสอบได้กี่คะแนนคะ?” “ไม่เกินสอง…” คิร่าตอบพร้อมกับก้มหน้าลง “อ่า..เช่นนั้นวันนี้ได้สี่คะแนนก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว วิชานี้เจ้าได้คะแนนไม่เยอะ แต่วิชาต่อไปเจ้าอาจจะได้คะแนนเต็มก็ได้ ท่านเคาน์เองก็อย่าพึ่งด่วนตัดสินนางเช่นนั้นสิคะ” โคลด์เลิกคิ้วมองเบลล่า “อื้ม..ไม่ตัดสินก็ไม่ตัดสิน แต่เรื่องไปงานเทศกาลคำไหนคำนั้น ไม่ได้คะแนนถึงครึ่งพี่ก็ไม่พาไปหรอกนะ!” คิร่าถอนหายใจ ก่อนจะทำหน้าเศร้า “ไม่เป็นไรนะคิร่า…ข้าได้ยินว่างานเทศกาลรอบนี้จัดทั้งหมดห้าวัน เอาไว้พรุ่งนี้ท่านเคาน์ค่อยมาทดสอบนางใหม่ได้ไหมคะ?” คิร่ามองที่พี่ชายอย่างมีความหวังก่อนที่เธอจะหันไปกอดเบลล่า “เบลดีที่สุดเลย!! เช่นนั้นคืนนี้เรามาเล่นไพ่กันดีกว่า!” เบลล่ามองไพ่ในมือ…ก่อนจะมองไปรอบๆ ตอนนี้ในห้องเธอราวกับงานเทศกาลก็ว่าได้ มีคิร่าที่กำลังจั่วไพ่และท่านเคาน์ที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ ตามมาด้วยคนรับใช้อีกราวห้าคนที่นั่งลงเป็นวงกลมเพราะถูกคิร่าบังคับให้เล่นไพ่ ซึ่งทุกคนก็มีสีหน้าไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ คือง่วงนอน เพราะว่าตอนนี้เป็นเวลาราวตีหนึ่งแล้ว “ข้าชนะอีกแล้ว!!! เย้!!” คิร่ากล่าวพร้อมกับตบมืออย่างอารมณ์ดี “จบตาแล้วเช่นนั้นพวกเราคงจะต้องขอตัว…” “ใครให้พวกเจ้ากลับไปกัน!!..นั่งลงเล่นกับข้าอีกตาก่อน!!” “แต่เมื่อตาที่แล้วคุณหนูก็บอกว่าให้พวกเราเล่นอีกตาเดียวนะคะ” “คิร่า พอแล้วน่า ทุกคนง่วงกันหมดแล้ว พรุ่งนี้เราค่อยมาเล่นกันใหม่ก็ได้นี่…” ทุกคนหันมองหน้าท่านเคาน์ด้วยสีหน้าเดียวกัน นั่นก็คือ.. พรุ่งนี้ยังจะต้องเล่นอีกเรอะ! “ก็ได้!!” คิร่าลุกขึ้นก่อนจะเดินไปกอดเบลล่า “ฝันดีนะเบลที่รักของข้า!!” เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า ก่อนจะโบกมืออำลา ทุกคนเริ่มทยอยออกไป เหลือเพียงสาวใช้คนหนึ่งที่กำลังเก็บไพ่และแก้วต่างๆ ออกไปจากห้องของเธอ… เบลล่าล้มตัวนอนลงบนเตียง…วันแรกก็เล่นผ่านไปแบบยากเย็นเลยทีเดียว ท่านเคาน์นั้นตามใจคิร่ามากจริงๆ ส่วนคิร่าก็มีมุมที่งอแงเป็นเด็กๆ อยู่เหมือนกัน นั่นอาจจะเป็นเพราะเธอเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กละมั้ง ก็เลยยังติดนิสัยงอแงอยู่ “นอนแล้วเหรอ?” เบลล่าลืมตาขึ้นมาก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนออกไปแล้วทำไมท่านเคาน์ยังไม่ออกไปอีก!!เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







