เลโอยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เป็นไปตามคาดเคาน์เคนเนดี้ส่งคนมาสืบเรื่องของเบลล่าจริงๆ ด้วยสินะ ดีที่เขารอบคอบและเตรียมการเรื่องพวกนี้เอาไว้หมดแล้ว เรื่องประวัติของนางไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง
สายของเขารายงานว่าเคาน์เคนเนดี้สนใจเรื่องเบลล่ามาก….เขาให้เธอไปตีสนิทน้องสาว เหตุใดถึงไปตีสนิทพี่ชายมาด้วยเล่า!! ไม่สบอารมณ์เอาซะเลย!! …….. โคลด์ลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาเบลล่า “ท่านเคาน์ควรจะออกไป….” เขาล้มตัวลงนอนทับเบลล่าพร้อมทั้งหลับตาลง เธอไม่เชื่อ ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาจะเมา มันเป็นไปไม่ได้! ในวันงานเลี้ยงก็เห็นได้ชัดว่าเขาดื่มไวน์แทบจะอาบเขายังไม่มีทีท่าว่าจะเมาเลย เพราะฉะนั้นวันนี้แค่เหล้าขวดเดียวนี่มันไม่มีทางจะทำให้เขาเมาแน่นอน “ท่านเคาน์..ข้ารู้นะคะว่าท่านไม่ได้เมา!!” เสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากโคลด์ “อ่า..แย่จังที่ใช้มุกนี้ไม่ได้!” “หากท่านไม่ได้เมาท่านก็ควรจะลุกขึ้นนะคะ มันหนัก!!” “เช่นนั้นหากว่าข้าเมา ก็หมายความว่าข้าสามารถนอนทับเจ้าได้สินะ ข้าจะจำเอาไว้ใช้ในครั้งหน้านะ!!” “ไม่ได้ค่ะ!!…จะเมาหรือไม่ท่านก็ไม่ควรเข้ามาอยู่ในห้องกับข้าเช่นนี้ มันไม่เหมาะสม!!” “เบล ตั้งแต่เจอหน้ากันเจ้ากล่าวคำว่าไม่เหมาะสมกี่ครั้งแล้ว!! ไม่เหมาะสมยังไง ข้าบอกแล้วไงว่าเจ้าถือเป็นน้องสาวของข้าอีกคน พี่ชายจะกอดน้องสาวแล้วมันไม่เหมาะสมตรงไหน” ก็ทุกตรงเลยไงล่ะ!!! ชายผู้นี้เอาชนะได้ยากเย็นจริงๆ “อื้อ!!” โคลด์เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของเบลล่าจนเธอต้องรีบหันหน้าหนี เพราะกลัวว่าริมฝีปากของเรามันจนชนกัน!! “ลุกขึ้นเถอะค่ะ ท่านกระทำเช่นนี้มันไม่ดีเลย” โคลด์ไม่ได้ตอบ เขาเพียงส่งยิ้มให้เธอเท่านั้น “มีสตรีมากมายต้องการให้ข้าทำเช่นนี้” “แต่ข้าไม่ใช่สตรีพวกนั้น!!” “นั่นแหละ เพราะว่าเจ้าไม่สนใจข้าไง นี่อาจจะเป็นการเรียกร้องความสนใจแบบใหม่” “ข้าสาบานได้เลยว่าไม่เคยเรียกร้องความสนใจอะไรจากท่านเคาน์เลยค่ะ!! ข้าเพียงอยากเป็นเพื่อนกับคิร่าก็เท่านั้น” “เจ้ามีคนรักแล้วงั้นหรือ? ใช่ดยุคโอเว่นรึเปล่า?” เบลล่าชะงักแต่ทว่าเธอก็รีบดึงสีหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว “ข้าไม่มีคนรักหรอกค่ะ กับท่านดยุคโอเว่นข้าเป็นเพียงคนที่เคยสอนหนังสือให้กับว่าที่ภรรยาของท่านดยุคเท่านั้นเอง” “ไม่ยักรู้ว่าท่านดยุคมีคนรักแล้ว” เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็แค่กล่าวไปลอยๆ ให้ตัวเองหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาเท่านั้น “นี่ข้าเผลอพูดความลับออกไปใช่ไหมคะ?” โคลด์พลิกตัวลงมานอนข้างเบลล่า แต่เขายังคงโอบกอดเธออยู่ “ถึงยังไงข้าก็ยังไม่ไว้วางใจเจ้าอยู่ดี เจ้าอาจจะแอบชอบข้าก็ได้…” ให้ตายเถอะ!! ในชีวิตของเธอไม่เคยพบเจอใครหน้ามึนขนาดนี้มาก่อนเลย!! “แล้วท่านเคาน์จะเอายังไงคะ หากท่านไม่สบายใจก็ให้ข้ายุติการสอนคิร่าไปเลยจะดีกว่าไหม..” “ไม่ล่ะ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกข้ามีวิธีพิสูจน์” เบลล่าคิดว่าเธอเห็นรอยยิ้มที่แสนจะอันตรายบนใบหน้าของท่านเคาน์นะ “เพียงแค่เจ้ายอมให้ข้านอนกอดเจ้าในคืนนี้…หากว่าหัวใจของเจ้าไม่เต้นแรงก็จะหมายความว่าเจ้าไม่ได้ชอบข้า” …..นั่นมันวิธีอะไรกันฟะ!!! ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นเธอที่ขาดทุนไม่ใช่รึไง “วิธีนั้นมันได้ผลจริงๆ งั้นหรือคะ สาบานได้ว่าท่านเคาน์ไม่ได้หลอกนอนกอดข้า?” “ข้าทำก็เพื่อความสบายใจระหว่างเรานะ…หลังจากผ่านคืนนี้ไป ข้าก็จะมองเจ้าในฐานะน้องสาวได้อย่างสนิทใจ และเจ้าก็จะมองข้าเป็นพี่ชายไง” เบลล่าถอนหายใจ เธอรู้ทั้งรู้ว่าเขาหลอกกอดเธอ แต่ถ้าการยอมนอน (กอด) กับเขาหนึ่งคืนมันจะแลกมาด้วยความสบายใจของเขาที่มีต่อเธอนับจากไปเธอก็ควรจะยอม “ตกลงค่ะ นอนกอดอย่างเดียวนะคะ หากว่าท่านเคาน์ทำเกินกว่ากอดเมื่อไหร่ ข้าจะออกไปจากคฤหาสน์ทันที” ….ในตอนแรกมันเป็นเขาที่ขู่เธอไม่ใช่รึไง แล้วเหตุใดตอนนี้กลายเป็นเธอมาขู่เขาแทน แล้วปากที่พูดไปแค่นอนกอดในทีแรกนี่!!! น่าโมโหชะมัด!!! เขาอยากจะทำมากกว่านอนกอดนี่นา รู้อย่างนี้บอกว่าทำอย่างอื่นดีกว่า!! โคลด์ถอนหายใจ แต่ได้นอนกอดเธอในวันนี้ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วล่ะ!! เบลล่าหลับตาลง ให้ตายเธอไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่มีหนุ่มหล่อมานอนกอดแล้วจะไม่รู้สึกอะไร!! ท่องไว้เบลล่า ท่องไว้!! เพื่อเงินหนึ่งแสนเหรียญทอง!! เธอต้องทำได้!! เธอทำได้! ทำได้สิวะ! โคลด์ยกยิ้มเมื่อเขาเห็นเบลล่าที่พยายามข่มตาหลับ…เขาก้มลงซบที่ไหล่ของเธอ กลิ่นกายที่หอมหวานและเสียงหัวใจที่กำลังเต้นแรงของเธอมันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงไปด้วย คืนนี้….มันดีชะมัดเลย เบลล่าลืมตาขึ้นมาเธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของท่านเคาน์ เธอลุกขึ้นมาเพื่อล้างหน้าล้างตาลงไปรับประทานอาหาร ในคฤหาสน์กำลังวิ่งวุ่นเพื่อเตรียมงานพิธีบรรลุนิติภาวะให้กับคิร่า มีเวลาอีกสามวัน โชคดีที่วันงานเธอไม่ต้องนอนค้างที่นี่ ไม่งั้นคนที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นอาจารย์สอนคิร่า อาจจะคิดว่าเธอเป็นเมียน้อยของท่านเคาน์ได้ “เบล!! มาทานข้าวเร็ว!!” หลังจากนั้นเธอก็อยู่สอนหนังสือคิร่าอีกสองวันโดยที่ท่านเคาน์ไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธอเลย นั่นมันทำให้เบลล่ารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก และวันนี้เป็นวันที่เธอต้องเก็บเสื้อผ้ากลับคฤหาสน์ “ข้าไม่อยากให้เจ้ากลับเลย!!” เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า “พรุ่งนี้ข้าก็มาที่งาน เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว…” “เจ้าต้องรีบมานะ…เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าข้าไม่ชอบคนเยอะๆ” “วางใจเถอะน่า…พรุ่งนี้เป็นวันของเจ้านะคิร่า เจ้าคือนางเอกในงาน มันไม่ใช่เพียงงานบรรลุนิติภาวะ แต่มันยังเป็นการหาคู่ครองของเจ้าด้วย พรุ่งนี้จะมีบุรุษมากมายมาขอเจ้าเต้นรำ สิ่งที่เจ้าต้องทำก็คือฉีกยิ้มงามๆ ส่งให้บุรุษพวกนั้น…” ใบหน้าของคิร่าขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ “อื้อ!..เอางั้นก็ได้ แต่เจ้าต้องมาไวๆนะ” “ได้เลย ข้าจะรีบมาหาเจ้าก่อน “ “ดีจังเลย เบลดีที่สุดจริงๆ ด้วยสินะ!!” คิร่าโอบกอดเบลล่าด้วยความสุขใจ มีเพื่อนมันดีจริงๆ ด้วยสิน้า~ เบลล่าแวะไปหาท่านแม่ที่ร้านตัดชุด ตอนนี้ด้านในตกแต่งเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงแค่ทาสีบางส่วนเท่านั้น “ตายจริงเบล!!…รีบออกไปก่อน ที่นี่ฝุ่นเยอะ” ท่านแม่จับมือของเธอให้เดินออกมาจากร้าน “เกือบเสร็จแล้วนะคะ ท่านแม่เลือกทำเลได้ดีจริงๆด้วย” “นั่นเรียกว่าความโชคดีต่างหาก..สอนเลดี้เคนเนดี้เสร็จแล้วหรือ?” “ค่ะ ข้าว่าจะไปทำธุระต่อก็เลยแวะมาหาท่านแม่ก่อน” ท่านแม่ส่งยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นมาปัดฝุ่นออกจากชุดของเบลล่า “ไปทำธุระเถอะ..เรื่องของแม่ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก” เบลล่าพยักหน้าก่อนที่เธอจะเดินขึ้นรถม้าไป…มีบางอย่างที่มันกำลังค้างคาในใจของเธอ แลนเดอร์ในตอนนี้เป็นยังไงบ้างนะ เบลล่านั่งรถม้ามาที่คฤหาสน์แลนเดอร์ บ้านที่เธอเติบโตมาตั้งแต่เด็กตอนนี้ติดป้ายว่าขายตัวใหญ่ พร้อมทั้งด้านในยังดูว่างเปล่าและไร้ผู้คน เธอจึงไปดูที่ร้านตัดเสื้อของตระกูลแลนเดอร์ก็พบว่าถูกเปลี่ยนเป็นร้านขายอาหาร พอสอบถามเจ้าของร้านก็บอกว่าซื้อร้านตรงนี้ต่อมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว.. ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนทำเอาแลนเดอร์ล่มสลายขนาดนี้เลยงั้นหรือ? เบลล่าเดินไปที่บ่อนเพื่อจะพบเจอโสเภณีที่เธอจ้างแต่ทว่าก็ไม่พบร่องรอยของเธอเลย “อ่า..เจ้านี่เอง เป็นยังไงความรักเดินทางมาหาเจ้ารึยัง?” เบลล่าถอนหายใจเมื่อเธอพบเจอยิปซีผู้นั้นอีกแล้ว “ไม่มีค่ะ ไม่มีความรักอะไรทั้งนั้น ท่านนี่ทายไม่แม่นเอาซะเลย!” “เป็นไปไม่ได้ ไพ่ของข้าไม่เคยทายผิด!!” เบลล่าส่งเงินให้ยิปซีผู้นั้นสามเหรียญทอง “เช่นนั้นข้าจะเปิดไพ่ท่านหนึ่งใบ หากว่าเป็นเรื่องจริงข้าจะมาจ่ายให้ท่านอีกสามร้อยเหรียญ แต่หากไม่เป็นเรื่องจริงข้าจะมาเก็บเงินกับท่านหนึ่งร้อยเหรียญตกลงไหมคะ” “ได้สิ! เชิญนั่ง” เบลล่านั่งลงที่เก้าอี้ ก่อนจะหยิบไพ่ออกมาหนึ่งใบ ยิปซีผู้นั้นส่งยิ้มให้เบลล่าอีกครั้ง “เนี่ย!! หน้าไพ่ยังบอกถึงเรื่องความรักของเจ้าอยู่เลย เลดี้ผู้งดงามความรักกำลังเดินเข้ามาหาท่าน ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งแต่มาถึงสาม สิ่งที่ท่านหวังเอาไว้ในอนาคตจะสมหวังในไม่ช้า ท่านจะเป็นสตรีที่ร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดินี้” เบลล่ารู้สึกว่าขนของเธอนั้นลุกไปทั่วร่าง “หากว่าทุกอย่างสำเร็จแล้ว อย่าลืมเอาเงินมาให้ข้าอีกสามร้อยเหรียญล่ะ!!” เบลล่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ “หากว่าที่ท่านกล่าวมาไม่เป็นความจริง ข้าจะมาเอาเงินหนึ่งร้อยเหรียญแน่นอน” ยิปซีผู้นั้นไม่ได้กล่าวสิ่งใด เธอเพียงส่งยิ้มให้เบลล่าเท่านั้น เธอมองเบลล่าเดินจากไปจนสุดสายตา “อ่า..ลืมบอกให้นางระวังเรื่องหนึ่ง! ให้ตายสินางจะเป็นอะไรไหมนะ!” …….. วันงานบรรลุนิติภาวะก็มาถึง ท่านแม่และมิเกลปลุกเบลล่าตั้งแต่เช้ามืดเพื่อให้เธอแช่ตัวในน้ำนม พ่อบ้านเซนเดอร์ทำงานได้ดีมาก เขาจำแนกรายรับและรายจ่ายทุกอย่างส่งมาให้เธอ แถมยังจัดการดูแลคนรับใช้ที่เข้ามาเพื่อได้เป็นอย่างดี ธุรกิจร้านตัดเสื้อของท่านแม่ก็จะได้พ่อบ้านคอยช่วยดูแลเรื่องบัญชีต่างๆด้วย ที่จริงเมื่อวานเธอตั้งใจจะแวะไปหาท่านดยุคเพื่อขอบคุณเรื่องร้านของท่านแม่ แต่คิดมาคิดไปการไปหาท่านดยุคตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีเพราะท่านเคาน์อาจจะกำลังจับตาดูเธออยู่ก็ได้ ช่วงนี้เธอควรจะระวังตัวหน่อย เบลล่านั้นนั่งให้มิเกลแต่งหน้าทำผมให้จนเธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังเมื่อย การออกงานมันเสียเวลาขนาดนี้เลยงั้นเรอะ!!ทว่าเบลล่าก็สามารถเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อท่านแม่ส่งกระจกให้เธอมองดูใบหน้าของตัวเอง คำว่างดงามนั้นยังไม่พอที่จะกล่าวออกมา ดวงตาที่กลมโตของเธอนั้นเด่นชัดขึ้นเมื่อมิเกลจัดการแต่งขนตาให้ ยังจะแก้มที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อ และริมฝีปากอวบอิ่มนั้นอีก!! “งดงามมากเลยค่ะ..” มิเกลนั้นมองผลงานตัวเองอย่างภูมิใจ ก่อนจะเริ่มจัดผมของเบลล่าให้เป็นทรง ผมของเธอดูดัดให้เป็นลอนเพื่อเพิ่มความอ่อนหวานให้รับกับใบหน้า ในคราแรกเบลล่าจะใส่ชุดที่ไปเลือกจากร้านมาดามอิกกี้ แต่พอท่านแม่รู้ว่าเธอจะออกงานท่านแม่ก็เริ่มตัดชุดให้เธอเลย เป็นชุดกระโปรงยาวเปิดไหล่อย่างสวยงาม ลวดลายบนชุดนั้นเป็นฝีมือการปักของท่านแม่ทั้งหมด เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบบนลายปักนั้นอย่างตกตะลึง “แม่ไม่ได้นอนสองวันเต็มๆ ก็เพราะอยากให้ลูกสาวของแม่นั้นงดงามกว่าใคร…” “อ่า..มันงดงามจนข้าไม่กล้าที่จะใส่ ข้าอยากจะเก็บชุดนี้ไปใส่กรอบเอาไว้เลยค่ะ!” “ดูพูดเข้าสิ!!..คิดซะว่าไปโปรโมทร้านให้แม่แล้วกัน” “ท่านแม่กล่าวเช่นนี้ข้าค่อยสบายใจหน่อย” เธอสวมชุดที่ท่านแม่เย็บให้ก่อนจะหมุนดูความเรียบร้อยอีกรอบ “เบล วันนี้เจ้าจะต้องขอชายหนุ่มเต้นรำให้ได้นะ!” เซ็ดดริกถึงกับหลุดขำคำที่ฮันน่ากล่าวกับลูกสาวของเธอ “ท่านแม่!!…ข้าต้องถูกขอเต้นรำสิคะถึงจะถูก!!” ท่านแม่หัวเราะก่อนจะส่งเบลล่าขึ้นรถ “ถ้าเจ้าจะเมาก็เลือกขึ้นรถม้าตอนขากลับให้ดีๆ รู้ไหม ขึ้นรถม้าที่มีตราของดยุคหรือว่าท่านเคาน์เท่านั้นนะ!” “ท่านแม่! ข้าไปก่อนแล้วค่ะ!” ฮันน่าโบกมือลาลูกสาวของเธอด้วยรอยยิ้ม “ท่านเซ็ดดริกไม่ไปกับเบลล่าเหรอคะ?” “ไม่ล่ะครับ วันนี้เป็นงานเลี้ยงในตระกูลเคนเนดี้ คนที่จะเข้าไปได้ต้องมีบัตรเชิญเท่านั้น อีกทั้งที่งานไม่อนุญาตให้อัศวินหรือคนรับใช้เข้าไปด้วย” ฮันน่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เช่นนั้นเชิญท่านเซ็ดดริกเข้าไปดื่มชาด้านในก่อนได้เลยค่ะ” เซ็ดดริกยกยิ้มก่อนจะเดินตามฮันน่าเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยหัวใจที่เต้นแรงเบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ