พ่อบ้านของคฤหาสน์โอเว่นนั้นได้จัดเตรียมชุดออกงานให้ท่านดยุคได้เลือก
“วันนี้ท่านดยุคจะต้องขอสตรีเต้นรำให้ได้นะครับ!” เลโอถอนหายใจ “เหตุใดจะต้องขอสตรีเต้นรำด้วยล่ะอับบาส ในเมื่อสุดท้ายก็ต้องจบที่เตียงอยู่ดี” “มันคนละเรื่องกันครับท่านดยุค การเต้นรำในชนชั้นสูงนั้นหมายถึงการบอกว่าท่านสนใจหรือว่าชอบสตรีผู้นั้น การขอนางเต้นรำต่อหน้าผู้คนมากมายหมายความว่าท่านรู้สึกดีกับนางจริงๆ ตำแหน่งดัชเชสแห่งโอเว่นยังต้องการสตรีที่จะมารับช่วงต่อจากท่านหญิงนะครับ” เลโอถอนหายใจ “พวกสตรี…จะรู้สึกดีมากเลยงั้นหรือ หากว่ามีคนขอเต้นรำ” “ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานของชีวิตของข้า บอกได้เลยครับว่าไม่มีสตรีใดที่ไม่ประทับใจแน่นอน บวกกับภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของท่านดยุคด้วยแล้ว รับรองเลยว่ายามที่เต้นรำท่ามกลางเสียงเพลงที่แว่วหวาน สตรีผู้นั้นจะต้องตกหลุมรักท่านดยุคแน่ๆ” พ่อบ้านกล่าวพร้อมทั้งติดกระดุมเสื้อให้เลโอ เขาเลี้ยงท่านดยุคมาตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้เด็กน้อยได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่สักที!! เหลือเพียงตำแหน่งดัชเชสเท่านั้นที่ไม่มีสตรีใดมาท้าชิงแม้แต่คนเดียว อาจจะเป็นเพราะกลิ่นอายที่น่ากลัวของท่านดยุคก็ได้.. แต่ถึงท่านดยุคจะดูน่ากลัวแต่ลึกๆ แล้วอับบาสสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่อยู่ด้านในใจของท่านดยุค เขาได้แต่หวังว่าจะมีสตรีสักคนที่สามารถดึงเอาความอ่อนโยนของท่านดยุคออกมาได้ อับบาสสวมเสื้อคลุมชั้นนอกให้เลโอก่อนจะส่งยิ้มให้เขา “อย่าลืมนะครับ วันนี้ท่านดยุคจะต้องขอสตรีเต้นรำให้ได้!” เลโอทำได้เพียงถอนหายใจให้พ่อบ้านก่อนจะเดินขึ้นรถม้า..ที่จริงแล้วเขามิได้อยากมาร่วมงานวันนี้เลย เพียงแต่ว่าเขาอยากจะเห็นหน้าของเบลล่า เพราะเขาไม่ได้พบเจอเธอหลายวันแล้ว เขาก็แค่มาดูเฉยๆ ว่าเธอทำงานให้เขาไปถึงไหนแล้ว เท่านั้นเอง ……. เบลล่าใช้เวลาไม่นานก็มาถึงคฤหาสน์เคนเนดี้ เธอจอดรถม้าทางด้านหลังเพราะด้านหน้าคฤหาสน์ตอนนี้มีรถม้าจำนวนมากกำลังทยอยส่งพวกชนชั้นสูงทั้งหลาย เบลล่าก็เลยเดินเข้ามาทางประตูด้านหลังแทน “ท่านอาจารย์..เหตุใดถึงเข้ามาด้านหลังล่ะคะ?” เจนเดินนำผ้ามาเก็บที่ด้านหลังคฤหาสน์พอดี เธอจึงเดินพาเบลล่าไปหาคิร่า “ข้าเห็นด้านหน้าคนเยอะมากก็เลยเข้ามาทางด้านหลังแทน คิร่าเป็นยังไงบ้าง!!” เจนถอนหายใจ “พอเห็นคนเยอะๆ คุณหนูก็ตัวสั่นไปหมดเลยค่ะ ตอนนี้ได้แต่เรียกหาท่านอาจารย์” “เรียกชื่อข้าก็พอ…ไม่ต้องเรียกท่านอาจารย์หรอก ข้าไม่ชินน่ะ” เจนยกยิ้มให้เบลล่า “วันนี้ท่านเบลล่างดงามมากเลยนะคะ จะต้องมีคนมาขอท่านเต้นรำเยอะแน่ๆ เลย” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก…” เราเดินมาหยุดหน้าห้องของคิร่าพอดี เธอเคาะประตูก่อนจะเดินเข้าไป “เบลมาแล้วเหรอ!!” คิร่าในวันนี้ดูงดงามและแปลกตาไปกว่าทุกวัน ผมสีแดงของเธอเข้ากับชุดสีแดงเข้มที่ไปเลือกด้วยกันมากๆ ใบหน้าของเธอแต่งแต้มเพียงเบาๆ ทว่าเพียงแค่นั้นก็สามารถดึงเอาเสน่ห์ของคิร่าออกมาได้ดีเยี่ยม “เป็นอะไรไป..งานจะเริ่มแล้วนะคิร่า” “ไม่รู้สิ อยู่ๆ มือของข้ามันก็สั่นไปหมด ยิ่งข้าเห็นคนจำนวนมากก็ยิ่งรู้สึกกลัว ข้ากลัวว่าพวกเขาจะเดินเข้ามาหาข้าแล้วถามถึงท่านพี่อีก กลัวว่าพวกเขาจะ….” เบลล่าดึงคิร่ามากอดเบาๆ “คิร่า ข้าบอกแล้วไงว่าให้เจ้าตัดปัญหาพวกนี้ทิ้งไป วันนี้เป็นวันของเจ้านะ หากว่ามีคนมาหาเจ้าแล้วถามถึงท่านเคาน์เหตุใดต้องเก็บมาใส่ใจเล่า หากเจ้าไม่ชอบคำพูดของคนพวกนั้นก็แค่ด่ากลับไป ใครจะกล้าทำอะไรเจ้า” “นั่นมันก็..ใช่” “อีกอย่างหากพวกเขาเข้ามาหาพี่ชายของเจ้าจริงๆ นั่นมันก็น่าดีใจไม่ใช่เหรอเพราะว่าพี่ของเจ้าหล่อเหลาและเก่งมากยังไงล่ะ!!” รอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของคิร่า “วันนี้เป็นวันที่ทุกคนต้องจดจำเรื่องราวของเจ้านะ เพราะเป็นพิธีบรรลุนิติภาวะของว่าที่เคาน์เตส ลองตัดเรื่องที่เจ้ากังวลออกไปก่อน แล้วอย่าลืมว่าวันนี้เจ้าจะต้องเต้นรำเปิดงานกับท่านเคาน์ หลังจากนั้นมือที่งดงามคู่นี้ของเจ้าก็จะต้องตอบรับการของเต้นรำของบรรดาชายหนุ่มที่มาขอเจ้าเต้นรำ มากังวลเรื่องที่ว่าจะมีชายหนุ่มคนไหนที่ถูกใจเจ้าดีกว่า!!” “อื้อ!! ข้ารักเบลที่สุดเลย!!” เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า “ว่าแต่ชุดที่เจ้าสวมในวันนี้ช่างงดงาม…นี่ไม่ใช่ชุดที่เราไปเลือกที่ร้านของมาดามอิกกี้นี่นา” “นี่เป็นชุดที่ท่านแม่ของข้าเป็นคนทำ ท่านแม่จะเปิดร้านตัดเสื้อจึงให้ข้าช่วยใส่มาวันนี้เผื่อจะมีคนสนใจร้านตัดเสื้อของท่านแม่บ้าง” “สวยมากๆ เลย งานปักที่งดงามเช่นนี้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ท่าทางข้าจะต้องเป็นลูกค้าประจำร้านท่านแม่เจ้าแน่เลย!!” เสียงหัวเราะดังออกมาจากในห้องของคิร่า…โคลด์ที่ยืนอยู่หน้าประตูยกยิ้มอย่างพึงพอใจ เขากำลังเป็นห่วงอาการของคิร่าอยู่พอดี แต่ทว่าได้เบลมาคลี่คลายสถานการณ์เช่นนี้ก็ถือว่าดีไม่น้อย คิร่านั้นยึดติดกับเขามากเกินพอดี เพราะเธอเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็กก็เลยเหลือเพียงเขาคนเดียวในครอบครัว เธอไม่ได้กลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งเขาไป แต่เธอกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวต่างหาก การเข้าสังคมของคิร่าก็เลยมีปัญหามาโดยตลอด เขาที่เป็นพี่ชายรู้สึกห่วงตั้งแต่เริ่มประกาศจัดงานบรรลุนิติภาวะให้นาง แต่พอเป็นเช่นนี้เขาก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาเยอะเลย โคลด์เคาะประตู “ได้เวลาแล้ว!!..ลงไปด้านล่างกันเถอะสาวๆ” คิร่าลุกขึ้นมาเปิดประตูก่อนจะส่งยิ้มให้พี่ชายของเธอ โคลด์ส่งแขนให้น้องสาวของเขาควงลงไปด้านล่าง เขาส่งยิ้มให้คิร่าอย่างอ่อนโยน เบลล่าเดินออกมาจากห้องพร้อมยกยิ้มให้คิร่า.. โคลด์ที่เหลือบไปมองเบลล่าถึงกับชะงัก…เธอในวันนี้งดงามราวกับไม่มีอยู่จริง…ใบหน้าอ่อนหวานในยามปกติ ในวันนี้มันเป็นการงดงามเย้ายวนจนทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ “ท่านพี่มองเบลเกินไปแล้วค่ะ..หลังจากเต้นรำกับข้าแล้วอย่าลืมไปขอเบลเต้นรำด้วยนะคะ” คิร่ากระซิบกับพี่ชายของเธอ “เจ้าไม่กลัว..พี่จะจีบเบลรึไง” คิร่าหัวเราะเบาๆ “หากว่าท่านพี่จีบเบลติดข้าก็ดีใจด้วยนะคะ กับคนนี้ดูท่าทางว่าท่านพี่จะไม่อยู่ในสายตาของนางเลย…” “เช่นนั้นเจ้าก็ควรจะช่วยพี่สิ” โคลด์และคิร่ามองตากันก่อนที่ทั้งสองคนจะยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์…คิร่านั้นเดินลงมาด้านล่างก่อนจะเริ่มต้นทำพิธีกับนักบวช เบลล่าเลือกจะตามลงมาทีหลังเพราะเธอไม่ต้องการที่จะโดดเด่นเกินกว่าคิร่าซึ่งเป็นเจ้าของงาน แต่ถึงเธอจะลงมาช้าสายตาของบุรุษมากมายในงานก็ต่างจับจ้องที่เธออยู่ดี เบลล่าจึงเลือกจะหลบออกไปยังโซนอาหาร เธอหยิบไวน์ขึ้นมาดื่ม “อย่าดื่มมากนัก เดี๋ยวจะเมาอีก..” “แค่ก!!..แค่ก!!” เบลล่าตกใจจนสำลัก พอหันหลังไปก็พบกับท่านดยุคโอเว่นที่กำลังยื่นมือมาแย่งแก้วไวน์ในมือของเธอไปดื่ม “ท่านดยุค!!” “อย่าตกใจจนเกินเหตุน่า..คิดซะว่าข้าเป็นแขกทั่วๆ ไปที่มาจีบเจ้าแล้วกัน!” เบลล่ามองเขาอย่างตกตะลึง… “วางใจเคาน์เคนเนดี้ไม่รู้หรอกน่าว่าเจ้ากับข้ารู้จักกัน” “เขารู้ค่ะเพราะข้าเคยบอกกับเขาว่าข้ารู้จักท่าน!!” เลโอแสยะยิ้ม “แล้วเจ้าบอกไปว่าเป็นอะไรกับข้าล่ะ คนรักงั้นหรือ?” “ไม่ใช่ค่ะ!!..ข้าบอกเขาไปว่าข้าเคยเป็นคนสอนหนังสือว่าที่ภรรยาของท่าน” “….” เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะเธอสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในสายตาของเขา “เหตุใดไม่บอกว่าเป็นคนรัก…” “แล้วข้าจะกล้าพูดเช่นนั้นได้ยังไง!!..ใครจะไปกล้ากล่าวอ้างว่าท่านคือคนรัก หากข้าพูดไปเช่นนั้นท่านเคาน์คงจะเชื่อข้าหรอก!” ก็แล้วทำไมหมอนั่นต้องไม่เชื่อด้วยล่ะ!! เลโอมองหน้าของเบลล่าเงียบๆ “ยินดีต้อนรับท่านดยุคโอเว่นสู่คฤหาสน์เคนเนดี้ครับ เป็นเกียรติมากที่ท่านตอบรับคำเชิญมา” เบลล่าตกใจจนแทบสิ้นสติเพราะเธอไม่รู้ว่าท่านเคาน์เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่!! ให้ตายเถอะเขาจะได้ยินที่เธอคุยกับท่านดยุครึเปล่า!! “ครับ..” ท่านดยุคตอบกลับไปเพียงแค่คำเดียวก่อนที่เขาจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม แล้วก็เกิดเป็นความเงียบปกคลุมเราทั้งสามคน อืม..อึดอัดชะมัด!! “คิร่าเป็นยังไงบ้างคะ จริงสิข้าควรจะไปดูนางหน่อย!!” เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านดยุคและท่านเคาน์แต่ทว่าท่านดยุคกลับยื่นมือมาฉุดแขนของเธอเอาไว้ “เจ้ารับปากว่าจะเต้นรำกับข้า..ตอนนี้ก็ใกล้จะเปิดฟอล์อแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าอยู่กับข้าจะดีกว่า” เธอไปรับปากตอนไหน!!! โคลด์มองที่หน้าของดยุคโอเว่นด้วยสายตาที่ไม่พอใจ เบลล่าทำได้เพียงส่งยิ้มแห้งๆ ส่งให้ท่านเคาน์เท่านั้น “เพลงเริ่มบรรเลงแล้วครับ เคาน์เคนเนดี้ต้องเต้นรำเปิดฟอล์อกับน้องสาวไม่ใช่รึไง ท่านควรจะรีบไป…นะครับ” เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่โคลด์ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ…แต่ทว่าเขาก็ไม่อยากจะปล่อยเบลเอาไว้กับคนอันตรายเช่นดยุคโอเว่น “เบลหากว่าเจ้าไม่อยากเต้นรำกับท่านดยุคก็เพียงแค่กล่าวออกไป…” “ไม่เป็นไรค่ะ ข้ารับปากกับท่านดยุคไปแล้วจะเสียมารยาทไม่ได้ ท่านเคาน์ไปหาคิร่าเถอะค่ะ นางน่าจะกำลังรอท่านอยู่” โคลด์ถอนหายใจก่อนจะเดินไปหาคิร่า “เมื่อครู่เขาเรียกเจ้าว่าเบล?” เลโอกล่าวพร้อมกับจับจูงมือของเบลล่าไปรอที่ฟอล์อเต้นรำ “อ่า..ท่านเคาน์น่าจะเรียกตามคิร่าค่ะ” เลโอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “เช่นนั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าเบลบ้าง!” จะเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะโอ๊ย.. “ค่ะ..เอาตามที่ท่านดยุคสะดวกเลย” “เจ้าควรจะกลับบ้านพร้อมข้าทันทีที่การเต้นรำรอบนี้จบลง…” …..จะกลับ…ได้ยังไงกันเธอพึ่งจะมาถึง!! “ข้าต้องอยู่กับคิร่าก่อนค่ะ จะกลับเลยได้ยังไงกันคะ?”เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ