เยี่ยเฟิงหัวเราะเยาะเสียงเบาหากเขามีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้ในครั้งนี้ ทุกสิ่งที่พวกเขามอบให้เขา เขาจะทวงคืนกลับมาเป็นพันเท่าหมื่นเท่า"พวกเจ้าต้องการอะไรก็มาลงที่ข้า ปล่อยเขาไป"หัวใจของฮ่องเฮาฉู่แทบจะหลั่งเลือดออกมาเยี่ยเฟิงช่างเป็นคนดี เหตุใดคนเหล่านี้จึงต้องทรมานเขาด้วยเขาช่างดีงามและมีศักดิ์ศรีแรงกล้า นางไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า การเป็นบ่าวรับใช้ที่ถูกนายท่านหลันทรมานนั้น เขาจะเจ็บปวดใจเพียงใดเยี่ยเฟิงยิ้มอย่างเศร้าสร้อย "ฮูหยิน ชีวิตต่ำต้อยของเยี่ยเฟิงไม่คู่ควรที่ท่านจะต้องทำเช่นนี้......ขออภัย......เยี่ยเฟิงไร้ความสามารถ ไม่อาจปกป้องท่านได้""ลูกเอ๋ย......""ข้าชินกับการถูกทรมาน ไม่ตายหรอก อย่างมากก็แค่บาดเจ็บเล็กน้อย พักฟื้นไม่กี่วันก็หาย ฮูหยินไม่ต้องเป็นห่วง"เขาพูดอย่างสบายๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลับทำให้ฮองเฮาฉู่เจ็บปวดใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อมองไปยังถังเหล็กเย็นเยือกนั้น เยี่ยเฟิงกวาดสายตาไปยังทุกคนที่อยู่ในที่นั้นทีละคน สุดท้ายก็สะบัดหลุดจากควบคุมของลิงยักษ์ และเดินไปที่ถังเหล็กทีละก้าวหนามแหลมยังคงเปื้อนเลือดสด ไม่รู้ว่าเคยมีคนถูกแทงอย่างโหดเหี้ยมมากี่
"ข้างล่างคือทะเลโลหิต ฮองเฮาฉู่สิ้นใจที่นี่ แม้แต่กระดูกก็ไม่มีใครหาเจอ แม้ฮ่องเต้ฉู่จะสงสัย ก็หาหลักฐานมาโยงถึงเราไม่ได้""ที่นี่วิวเปิดโล่ง ทิวทัศน์ด้านหลังงดงาม เป็นที่ฝังศพชั้นยอด ข้าว่าดีนักแล"นายท่านหลันและนายท่านหมู่ตานผลัดกันพูด ราวกับว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของพวกเขาในถังเหล็ก แม้ว่าเยี่ยเฟิงจะมองไม่เห็น แต่เขาก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา เขาพยายามดิ้นรน แต่หนามเหล็กก็ตรึงเขาไว้แน่น เพียงแค่ขยับเล็กน้อย เขาก็เจ็บจนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ และเลือดสดไหลรินออกมามากขึ้นเรื่อยๆ"หากเจ้ากล้าฆ่านาง แม้ข้าจะตาย วิญญาณของข้าก็จะตามหลอกหลอนเจ้าไปชั่วนิรันดร์ และสาปแช่งเจ้า" เยี่ยเฟิงด่าทอนายท่านหลันจ้องเขม็งเยี่ยเฟิงติดตามเขาตั้งแต่อายุห้าขวบ แม้ก่อนหน้านี้เขาจะต่อต้านและเกลียดชังเขา แต่เขาก็ไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นนี้มาก่อนน้ำเสียงเย็นชานี้ราวกับน้ำแข็งพันปีที่แตกออก และราวกับถูกขับออกมาจากกระดูกของเขาเดิมทีเขายังต้องการเก็บฮองเฮาฉู่ไว้เพื่อทรมานเยี่ยเฟิงให้สาแก่ใจ แต่ยามนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว ฮองเฮาฉู่ต้องตายนายท่านหลันหัวเราะเยาะ "ตัดมือและเท้าของ
"หากข้าจำไม่ผิด ในมหาศึกแห่งเขาหมายวิญญาณครั้งก่อน หัวหน้าเผ่าหมอของพวกเจ้าทำร้ายนายน้อยเราจนบาดเจ็บสาหัส นายท่านหลันคงไม่ลืมหรอกใช่หรือไม่"นายท่านหลันนิ่งเงียบในสงครามครั้งก่อน ดูเหมือนว่าหัวหน้าเผ่าหมอของพวกเขาจะเป็นฝ่ายผิดจริงๆหัวหน้าเผ่าหมอของพวกเขาเพื่อเอาใจหญิงสาวคนหนึ่ง กลับละทิ้งการล้อมสังหารเย่จิ่งหาน และหันไปช่วยเย่จิ่งหานแทน แล้วร่วมมือกันทำร้ายเวินเส้าอี๋ นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินจนบาดเจ็บสาหัสอารมณ์โกรธของผู้อาวุโสอวิ๋นยิ่งทวีคูณ "การมาตามล่าสมบัติที่เขาน้ำเต้าครั้งนี้ กลุ่มอำนาจต่างๆ ได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างชัดเจนแล้วว่า จะแย่งชิงสมบัติหลังจากเข้าไปในปากน้ำเต้าเท่านั้น ก่อนที่จะเข้าไปในปากน้ำเต้า ห้ามใครต่อสู้หรือวางแผนทำร้ายอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัว แต่พวกเจ้าเผ่าหมอกลับหน้าไม่อายเสียจริง ยังไม่ทันเข้าไปในปากน้ำเต้า ก็อยากจะกอบโกยผลประโยชน์ทั้งหมดไปแล้ว"สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทุกอย่างเป็นแผนการของพวกเขา พวกเขาแค่อยากจะดึงพวกเขาไปเป็นตัวสำรองเท่านั้นนายท่านหลันและนายท่านหมู่ตานฟังแล้วก็งงงวย ไม่ค่อยเข้าใจว่าผู้อาวุโสอวิ๋นหมายถึงอะไรผู้อาวุโสอวิ๋นไม่อยากเสียเวลากับเข
เมื่อผู้อาวุโสจวินเห็นเช่นนั้น เขาจึงโบกมือสั่งการทันทีว่า "ช่วยคนที่อยู่ในถังเหล็กออกมาแล้วพาตัวไป""ขอรับ"ชาวเผ่าเทียนเฝินกรูกันเข้าไปนายท่านหมู่ตานหัวเราะเยาะเห็นเขาตายแล้วหรืออย่างไร?เยี่ยเฟิงเป็นคนของเขาแล้ว ใครกล้าแย่งชิงไปจากนาง?"ลุย"นายท่านหมู่ตานโบกมือเช่นกัน เคลื่อนเท้าของตนไปด้านข้าง และใช้ลูกเตะหมุนวนกวาดไปสงครามชุลมุนเริ่มต้นขึ้นกู้ชูหน่วนก็เข้าร่วมสมรภูมิรบด้วย แต่นางเพียงยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ ถังเหล็ก พร้อมตะโกนเสียงดังว่า "ปกป้องคนในถังเหล็ก ปกป้องคนในถังเหล็ก ห้ามปล่อยให้ชาวเผ่าเทียนเฝินแย่งชิงเขาไปได้เด็ดขาด"กลุ่มชาวเผ่าเทียนเฝินที่ยังสงสัยอยู่ก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินคำพูดของกู้ชูหน่วน ก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตนบ่าวรับใช้ในถังเหล็กถูกทรมานอย่างหนัก เพราะรู้ว่ากระดิ่งภินวิญญาณอยู่ที่ใด และรู้ว่าจะเข้าไปในปากน้ำเต้าได้อย่างไรเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดที่ไหลนองพื้น พวกเขากลัวว่าคนในถังเหล็กจะทนการทรมานไม่ไหวและตายในที่นั้น จึงลงมือหนักขึ้นไปอีก พวกเขาต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายพวกนายท่านหลันมีวิทยายุทธสูงส่ง ในขณะที่เหล่าผู้อาวุโสของเผ่าเทียนเฝินก็มีวิทยายุ
เยี่ยเฟิงรู้สึกมึนงงแต่เขายังพอจำเสียงของกู้ชูหน่วนได้ประโยคที่ว่าหากเจ้ากล้าตาย ไม่ว่าจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ทำให้ร่างกายของเขาขยับเล็กน้อย และจิตใจของเขาก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นเขาพยายามลืมตาขึ้น และเห็นกู้ชูหน่วนยัดแก่นผลึกหิมะใส่ตัวเขา และป้อนยาให้เขาสามเม็ดด้วยแก่นผลึกหิมะและยาอีกสามเม็ด ร่างกายของเขาดีขึ้นมาก แต่การเสียเลือดมากเกินไปและบาดแผลจำนวนมาก ยังคงทำให้เขารู้สึกวิงเวียน"ติดแน่นเกินไป ข้าทำได้เพียงดึงเจ้าออกมา เจ้าต้องอดทนหน่อย"ก่อนที่เยี่ยเฟิงจะได้พูดอะไร กู้ชูหน่วนก็ดึงเขาขึ้นมาอย่างแรงเมื่อร่างของเยี่ยเฟิงหลุดออกจากหนามแหลม เลือดก็ไหลทะลักราวกับน้ำจากเขื่อนแตก ดูน่ากลัวมากกู้ชูหน่วนโกรธมากขึ้นเรื่อยๆพวกเผ่าหมอที่น่ารังเกียจเหล่านี้ สักวันนางจะฆ่าพวกเขาด้วยมือของนางเองอาการบาดเจ็บของเยี่ยเฟิงสาหัสเกินไป กู้ชูหน่วนจึงแบกเขาออกไปแม้ว่าร่างกายของนางจะบอบบาง แต่เมื่อแบกเยี่ยเฟิง นางก็เคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็วชาวเผ่าเทียนเฝินตกตะลึงกับวิธีการที่โหดร้ายของชาวเผ่าหมอที่ทรมานคนทั้งเป็นจนตายจากนั้นก็ตกใจว่าชาวเผ่าเทียนเฝินมีศิษย์ที่
"เวินเส้าอี๋?"ชายผู้นั้นไม่ใช่คนที่จะหลอกง่ายๆ"พวกเขามีกี่คน?" กู้ชูหน่วนถาม"เขาคนเดียว"คนเดียว? เช่นนั้นก็ยังดี "เจ้าพาพวกเขาออกไปก่อนเถอะ""นายหญิง แล้วท่านล่ะ""ข้ามีวิธีของข้า ฝูกวง เจ้าจงมองให้ดี หากไม่มีใครตามพวกเจ้าไป พวกเจ้าจงไปที่หุบเขาทางตะวันออก ขอเพียงพวกเจ้าไปถึงหุบเขาทางตะวันออก ก็จะปลอดภัย"เย่จิ่งหานอยู่ในหุบเขาทางตะวันตก นางไม่อาจดึงดูดศัตรูที่แข็งแกร่งไปที่นั่นได้ ไม่ว่าศัตรูที่แข็งแกร่งนั้นจะไม่สำคัญเพียงใดก็ตามในหุบเขาทางตะวันออก มีจุดป้องกันที่องครักษ์ลับของเขาตั้งไว้ น่าจะปลอดภัยกว่า"คุณหนูกู้ ข้าไปล่อเขาออกไปจะดีกว่าหรือไม่ ข้าอายุมากแล้ว ร่างกายก็ใกล้โรยราแล้ว แค่ชีวิตที่ร่อแร่ ไม่คุ้ม......""ข้าไป"เยี่ยเฟิงพยายามลุกขึ้น แต่ทันทีที่เขาขยับ เลือดก็ไหลออกมาอีกฝูกวงคุกเข่าลงด้วยขาข้างเดียว อยากจะขอให้กู้ชูหน่วนพาเขาไปด้วยกู้ชูหน่วนเบ้ปาก "พวกเจ้าอย่าเลย ต่อให้พวกเราสี่คนรวมกัน ก็ยังสู้เขาไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียว ยามนี้ต้องใช้สมอง ไม่ใช่กำลัง หากพวกเจ้ายังเห็นข้าเป็นเพื่อน ก็ทำตามที่ข้าบอก อย่าทำให้ข้าเสียสมาธิ"ฝูกวงขมวดคิ้ว มองไปรอบๆ เขาน้ำเต้
เมื่อคำโกหกถูกเปิดโปง กู้ชูหน่วนไม่ได้รู้สึกอับอายแม้แต่น้อย แต่กลับยิ้มกว้างขึ้น และพูดออกมาอย่างจริงใจทุกคำ"สวรรค์และโลกเป็นพยาน ข้าอยากให้เยี่ยเฟิงมอบแผนที่ให้เจ้าจริงๆ แต่ในมือเขาไม่มีแผนที่ ข้าเลยต้องมาขอโทษเจ้า""หากในมือเขาไม่มีแผนที่ แผนที่ก็ต้องอยู่ในมือเจ้าแน่ๆ""หากแผนที่อยู่ในมือข้า ข้าคงไปตามหาแก้วมังกรเองแล้ว จะต้องมารอเจ้าอยู่ที่นี่ทำไม"ดวงตาที่อ่อนโยนของเวินเส้าอี๋กวาดมองเล็กน้อย แล้วยิ้มเสียงเบา "เย่จิ่งหานล่ะ ไม่ได้มากับเจ้าหรือ?""ที่นี่ทั้งหนาวทั้งเปลี่ยว เขาเป็นท่านอ๋องผูเบอบบาง จะมาที่นี่ได้อย่างไร"เวินเส้าอี๋ไม่ได้พูดอะไร แต่ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อราวกับไม่อยากเสียเวลากับกู้ชูหน่วนอีก เวินเส้าอี๋จึงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า "ให้เจ้าเลือกสองทาง ทางหนึ่งคือตาย อีกทางคือมอบกระดิ่งภินวิญญาณมา""แค่กระดิ่งแตกๆ อันหนึ่ง ถึงเจ้าได้ไป จะเกี่ยวข้องอะไรกับที่นี่ได้" กู้ชูหน่วนแบมือ"บนเขาสวินหลง จู่ๆ ก็มีแสงสีรุ้งปรากฏบนท้องฟ้า แสงนั้นทะลุขึ้นไปบนท้องฟ้า และในแสงนั้นมีเงาของกระดิ่งเลือนราง คนที่ตั้งใจมองสักหน่อยก็จะรู้ว่า นั่นคือแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เกิด
เวินเส้าอี๋นิ่งเงียบ ดวงตาลึกซึ้งคู่นั้นจ้องมองกู้ชูหน่วนอย่างไม่ลดละ ราวกับจะมองทะลุนางทั้งหมดกู้ชูหน่วนปล่อยให้เขาจ้องมอง ภายนอกนางสงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกขนลุกตั้งแต่ต้นจนจบ เวินเส้าอี๋ไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลยกับนาง แต่ไม่รู้ทำไม เมื่อได้สัมผัสกับดวงตาคู่นั้นของเขา นางรู้สึกเหมือนไม่มีที่ให้หลบซ่อน ไม่มีอะไรที่ปิดบังเขาได้ดวงตาคู่นั้นเฉียบคมเหลือเกิน"เช่นนั้นยามนี้พาข้าไปที่ปากน้ำเต้าเถิด" ในที่สุดเวินเส้าอี๋ก็เอ่ยปากกู้ชูหน่วนถามอย่างหยั่งเชิง "แค่เจ้าคนเดียว? เจ้าไม่เรียกคนมาเพิ่มสักหน่อยหรือ?"นางจำได้ว่าในแผนที่บนกระดิ่งภินวิญญาณมีลูกศรสีแดงจำนวนมาก ลูกศรสีแดงเหล่านั้นไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่นางรู้สึกรางๆ ว่าลูกศรสีแดงน่าจะเป็นสถานที่อันตรายอย่างยิ่งหากสามารถดึงดูดเผ่าหมอ เผ่าเทียนเฝิน หรือแม้แต่ชาวเขาตานหุยไปที่นั่นได้ บางทีอาจกำจัดทั้งหมดได้ในคราวเดียว"ข้าคนเดียว""นายน้อย ไม่ใช่ว่าข้าอยากพูดนะ เขาน้ำเต้านี่อันตรายรอบด้าน แม้เจ้าจะมีวิทยายุทธสูงส่ง แต่ก็ไม่แน่ว่าที่นี่จะไม่มีสุดยอดข่ายอาคม สัตว์ร้ายโบราณ หรือแม้แต่กลไกและอาวุธลับต่างๆ เจ้าพาคนไปเพิ่มอีกสักหน่อย
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ