แชร์

บทที่ 672

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
น้ำเสียงของซูจิ่งสิงเริ่มร้อนใจมากขึ้น “ถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องสนใจนางหรอก ร่างกายของเจ้าสำคัญกว่า ปวดท้องแบบนี้เป็นอะไร ลูกเจ็บหรือเจ้าเจ็บ?”

เขานึกเสียใจไม่น้อย

รู้อย่างนี้ไม่น่าตามใจนางเลย ไม่น่าให้นางมาที่แม่น้ำมู่ตัน น่าจะให้นางขึ้นเรือ ไม่น่าให้นางออกมาจากห้วงมิติ

หากนางจะโกรธก็ปล่อยให้นางโกรธไป เขารับได้

“ซูจิ่งสิง” สีหน้าของกู้หว่านเยว่แสดงถึงความเจ็บปวด “ข้ารู้สึกเหมือนจะคลอดบุตร”

“ว่าอย่างไรนะ?” เพิ่งแปดเดือนเอง

ซูจิ่งสิงได้สติทันที กู้หว่านเยว่กำลังจะคลอดก่อนกำหนด อาจเป็นเพราะตกใจกับการกระทำเมื่อครู่ของเถาเอ๋อร์

“ข้าจะอุ้มเจ้าไปหาหมอเดี๋ยวนี้”

ซูจิ่งสิงรีบอุ้มกู้หว่านเยว่ขึ้นมา เวลานี้พวกเขาได้เข้ามาถึงด้านในภูเขาหิมะแล้ว ถ้าลอยตัวออกไปต้องใช้เวลาสองชั่วยาม

สองชั่วยาม....

ซูจิ่งสิงใช้กำลังภายใน จนเกิดเป็นกระแสลมอยู่ใต้ฝ่าเท้า

กู้หว่านเยว่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา หลับตาสนิท หัวคิ้วขมวดมุ่น ทำให้เขายิ่งร้อนใจ

การคลอดบุตรของผู้หญิงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก พลาดนิดเดียวก็อาจนำไปสู่ความตายได้ ต่อให้มีหมอตำแย ก็มักจะมีฉากการสูญเสียของแม่ลูกให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

ซูจิ่งสิงเค
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ร่ำรวย ดีมาก
, เกินไปเป็นหมอภาษาอะไรใกล้คลอดต้องงดเดินทางไกล
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 673

    ปลายนิ้วของซูจิ่งสิงสั่นระริก “หวังว่าท่านป้าจะช่วยนางได้”หมอตำแยลูบท้องของกู้หว่านเยว่อีกครั้ง ไม่ใช่ว่านางไม่เคยทำคลอดก่อนกำหนด อีกทั้งตำแหน่งของทารกในครรภ์ของฮูหยินผู้นี้ยังถูกต้องด้วย ร่างกายของผู้เป็นแม่แข็งแรงมาก คงจะไม่มีปัญหามากนัก“เชิญคุณชายออกไปก่อนเถอะ ตอนคลอด บุรุษอย่างพวกท่านไม่ควรอยู่ในนี้”ไม่ได้หมายถึงกลิ่นคาวเลือดในห้องคลอด แต่ประการที่หนึ่งคือเขาช่วยอะไรไม่ได้รังแต่จะสร้างความวุ่นวาย ประการที่สองเขาเป็นกังวลเกินจนทำให้นางเสียสมาธิ“ข้าช่วยได้”ครั้นเห็นกู้หว่านเยว่หมวดคิ้วมุ่น ซูจิ่งสิงจะกล้าทิ้งนางได้อย่างไร“บุรุษตัวใหญ่โตอย่างท่านจะช่วยอะไรได้ ออกไปเถอะ มีบุตรสาวของข้าคอยช่วยอยู่ในนี้แล้ว”ใบหน้าของหมอตำแยนิ่งสงบ แม้ว่าบุคลิกของซูจิ่งสิงจะดูสูงศักดิ์ แต่ในห้องคลอดเป็นอาณาเขตของหมอตำแย ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับนางแล้ว“ท่านพี่ ท่านออกไปก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงหมดเรี่ยวแรง ที่หมอตำแยพูดก็ไม่ผิดภรรยาออกปากเอง ซูจิ่งสิงไม่คัดค้านแน่นอน ได้แต่บรรจงจูบหลังมือของนางอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะหมุนตัวออกไป“ข้าอยู่ข้างนอก หากมีอะไรก็เรียกข้าได้ทุกเมื่อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 674

    หลังจากเปลี่ยนความคิด ชายชุดดำที่อยู่ด้านหน้าก็ตัดสินใจว่า “ฆ่าคนในบ้านก่อน”ซูจิ่งสิงรักภรรยาของเขามาก คนในบ้านคือจุดอ่อนของเขาตราบใดที่จับคนในบ้านได้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำอะไรซูจิ่งสิงไม่ได้ชายชุดดำหลายสิบคนพุ่งตรงไปยังบ้านหลังนั้น ซูจิ่งสิงรีบชักดาบออกมา ยืนขวางอยู่หน้าประตู หางตาแดงก่ำ “รนหาที่ตายแล้ว!”หมอตำแยและเด็กสาวได้ยินเสียงการต่อสู้จากด้านนอก พวกนางเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่เคยมีประสบการณ์การฆ่าฟันมาก่อน ครั้นได้ยินเข่าก็แทบทรุดในทันที“เกิดอะไรขึ้นข้างนอก มีศัตรูตามล้างแค้นอย่างนั้นหรือ?” หมอตำแยมือเริ่มสั่นเด็กสาวรีบใส่กลอนประตู ก่อนจะกล่าวอย่างหวาดกลัวว่า “มีศัตรูตามล้างแค้นจริง ๆ เจ้าค่ะ ทุกคนถือดาบอยู่ในมือ น่ากลัวมาก”กล่าวจบก็หันไปมองกู้หว่านเยว่อีกครั้ง “แม่หนูน้อย พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ กลุ่มคนข้างนอกน่ากลัวมาก คงไม่ได้จะมาฆ่าพวกเราหรอกนะ?”ดูจากท่าทางของชายชุดดำแล้ว คงฆ่าคนไม่กะพริบตาเด็กสาวไม่ได้จะกลัว จริง ๆ แล้วนางห่วงชีวิตของนางมากกว่า นางไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้กู้หว่านเยว่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับสถานการณ์ที่มีคนตามฆ่าพวกนางเวลานี้ปากม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 675

    คนผู้นี้จริง ๆ เลย ทำไมจู่ ๆ ก็พุ่งออกมาจากทางเล็ก ๆ เช่นนี้“ให้ตายเถอะ คนผู้นี้เสียเลือดมากด้วย”“เกิดอะไรขึ้น?” จงหลี่เปิดม่าน และชะโงกหน้าออกมาดูเส้นผมยาวสีเงิน สวมชุดคลุมพระจันทร์เสี้ยวสีขาวทั้งตัว รูปร่างหน้าตาคล้ายกับเทพบนสรวงสวรรค์นัยน์ตาของเถาเอ๋อร์วูบไหวเล็กน้อย นี่คือองค์ชายแห่งเมืองตงโจว“ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ดูเหมือนจะเป็นจอมลวงโลก นางพุ่งเข้ามาชนม้าของเราเอง เลือดเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องของเราพ่ะย่ะค่ะ”ชิงเยี่ยนลูบศีรษะ พลางเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมเล็กสองซี่คนผู้นี้น่ารังเกียจยิ่งนัก เลือดเต็มตัวเช่นนี้ไม่ยอมอยู่บ้าน ยังจะออกมาลวงโลกผู้อื่นอีก“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย พวกท่านช่วยข้าด้วย....”เถาเอ๋อร์รีบปีนขึ้นไปบนรถม้า น้ำเสียงอ่อนแอมาก นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิงวอนท่าทางนั้นทำให้คนที่เห็นแล้วเจ็บปวดไม่น้อยเวลานี้ตัวนางเต็มไปด้วยเลือด ทั้งยังมีรอยช้ำเลือดอยู่บนคอทันทีที่นางยกมือขึ้น จี้หยกชิ้นหนึ่งก็ร่วงตกออกมาจากแขนเสื้อ“ฝ่าบาท เราไปกันเถอะ”“ช้าก่อน” นัยน์ตาของจงหลี่วูบไหวเล็กน้อย ก่อนจะเบนสายตามาหยุดที่จี้หยกนั้นจี้หยกอันบริสุทธิ์ สามารถมองเห็นลวดลา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 676

    ทุกคนต่างรู้ว่าตงโจวเป็นดินแดนป่าเถื่อน ชาวบ้านต่างไร้อารยธรรม แต่กลับไม่รู้ว่านั้นคือสถานที่แห่งความสุขสันต์อย่างแท้จริงเถาเอ๋อร์กระตุกมุมปาก แทบจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ นางมองไปทางจงหลี่อย่างกระตือรือร้น รอให้เขาประคองนางขึ้นรถม้า ช่วยพันแผลให้นางจงหลี่ที่อยู่บนรถม้ากลับยิ้มเยาะอย่างเยือกเย็น“อย่ามาเรียกข้ามาท่านพี่ น้องสาวของข้าไม่มีเจตนามุ่งร้ายเช่นเจ้า”เถาเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าจะเจอสถานการณ์นี้ จึงตะลึงงัน“แต่จี้หยกชิ้นนี้....”จงหลี่ลูบจี้หยกบนฝ่ามือ “หยกชิ้นนี้เป็นหยกของน้องสาวข้าจริง ๆ แต่เจ้ากลับไม่ใช่น้องสาวของข้า”น้องสาวของเขาเป็นคนที่ฉลาดและเย็นชามาก นัยน์ตาคู่นั้นจะเสแสร้งต่อหน้าอาณาประชาราษฎร์ ไม่ใช่ประจบประแจงเช่นนี้“บอกมา หยกชิ้นนี้ เจ้าไปเอามาจากไหน”จงหลี่จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา นัยน์ตาคมกริบดุจมีดที่เย็นยะเยือก“จี้หยกชิ้นนี้เป็นของข้า ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดสิ่งใด ตอนข้าเกิดมันก็อยู่บนคอของข้า....” เถาเอ๋อร์แถอย่างบ้าคลั่ง นางยอมรับไม่ได้ว่านางเอามาจากจวนสกุลกู้ นางไม่ยอมให้กู้หว่านเยว่ทำชุดแต่งงานนางส่ายหน้า “หยกชิ้นนี้เป็นของข้า เป็นข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 677

    “อื้อ”ซูจิ่นเอ๋อร์พยักหน้าด้วยความเป็นกังวล “ข้าฝันว่าพี่สะใภ้ตกอยู่ในอันตราย พวกเขาอยู่ในสถานที่รกร้างแถวชานเมือง กำลังถูกฝูงหมาป่าที่ดุร้ายรุมโจมตี พี่สะใภ้ใหญ่ปวดท้องมาก....”หมาป่า? ฟู่หลานเหิงตบแผ่นหลังของซูจิ่นเอ๋อร์อย่างอ่อนโยน“พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่ไปล้างแค้นแทนเจ้า ไม่มีทางอยู่ในที่รกร้างแถวชานเมืองแน่นอน มันก็แค่ความฝัน อย่าคิดมาก....”ต่อไปต้องจำไว้ว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจะเรียกว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่ เขายังไม่ค่อยชินเท่าไหร่“ในฝันเหมือนจริงมาก ข้ากลัวว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะตกอยู่ในอันตราย”สีหน้าของซูจิ่นเอ๋อร์ซีดเซียว นางที่มักจะฝันร้ายอยู่หลายครั้ง ร่างกายเริ่มทนไม่ไหว“ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่กับเจ้าตรงนี้ ไว้มีข่าวคราวของพวกเขา ข้าจะบอกเจ้าทันที”ฟู่หลานเหิงยกมือปิดปากและไอกระแอมหลายครั้ง ซูจิ่นเอ๋อร์ขมวดคิ้วมุ่น“ให้สาวใช้อยู่กับข้าก็พอ เจ้ารีบไปพักผ่อนเถอะ เจ้าจะอดนอนไม่ได้”ฟู่หลานเหิงยังอยากอยู่กับนางแต่กลิ่นคาวเลือดได้บาดคอของเขา กลัวว่าจะถูกซูจิ่นเอ๋อร์จับได้ จึงรีบเรียกสาวใช้เข้ามา ส่วนตนก็ออกไป“ข้าอยู่ห้องถัดไป มีอะไรก็เรียกข้าได้ตลอด”ฟู่หลานเหิงกล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 678

    “ไม่ต้องสนใจหรอกว่าไปทำอะไร แค่ปลอดภัยก็พอ”นี่คือเรื่องที่นางหยางเป็นกังวล วันนี้หนังตาของนางกระตุกตลอดเวลา จึงเป็นกังวลว่าเด็กสองคนจะตกอยู่ในอันตราย“จือชิงเด็กคนนี้ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย อยู่ดี ๆ ก็วิ่งเข้าไปล่าสัตว์บนภูเขา”นางหยางกุมขมับ เพราะปวดหัว “แม่หนู ออกแรงอีกหน่อย หัวเด็กจะออกมาแล้ว”ภายในกระท่อมมุงจาก หมอตำแยกดขาทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่ไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ช่วยทำคลอด พลางเร่งกล่าว“ออกแรงอีกนิด เด็กออกมาแล้ว”“กรี๊ด!”กู้หว่านเยว่ต้องกรีดร้องอย่างอดไม่ได้ เจ็บปวดยิ่งนัก ความเจ็บปวดจากการแยกของหัวหน่าว ทำให้นางเหงื่อออกเต็มหน้าดูเหมือนเด็กที่อยู่ในท้องจะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของผู้เป็นมารดา จึงพยายามดันตัวเองออกมา ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน กู้หว่านเยว่ใช้แรงเฮือกสุดท้ายไปหมดแล้ว จนกระทั่งภาพตรงหน้าค่อย ๆ ดับวูบ“แง๊ ๆ!” เด็กทารกส่งเสียงร้องไห้เสียงแจ้วหมอตำแยร้องตะโกนด้วยความดีใจ “เด็กออกมาแล้ว ออกมาแล้ว”“เป็นบุตรชาย” เด็กสาวอุ้มเด็กมาห่อตัวด้วยผ้าฝ้าย ก่อนจะกล่าวอย่างประหลาดใจ “แม้ว่าเด็กคนนี้จะคลอดก่อนกำหนด แต่กลับดูไม่อ่อนแอเลยสักนิด”หมอตำแยชะ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 679

    กู้หว่านเยว่เริ่มกังวล ในขณะเดียวกันก็ได้เตรียมความพร้อมไว้ในใจ หากคนที่เข้ามาคือคนอื่น นางจะพาสองแม่ลูกคู่นี้และลูกน้อยเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้วงมิติในเมื่อพวกนางเสี่ยงชีวิตทำคลอดแล้ว คงจะปล่อยให้ความหวังดีของพวกนางสูญเปล่าแล้วจบลงด้วยการสละชีวิตไม่ได้แน่นอนว่านี่เป็นแค่ความคิดในใจของกู้หว่านเยว่ นางมักจะรู้สึกว่าคนที่อยู่หน้าประตูคือซูจิ่งสิงแน่นอนเขาไม่มีทางปล่อยให้ชายชุดดำเหล่านั้นบุกเข้ามาเขาต้องปกป้องสองแม่ลูกคู่นี้ “หว่านเยว่ เจ้ายังสบายดีหรือไม่?”ซูจิ่งสิงกล่าวถามอย่างร้อนใจ น้ำเสียงยังคงเหนื่อยล้าครั้นได้ยินเสียงของเขา คนในบ้านก็โล่งใจป้องกันไว้ก่อน เด็กสาวมองผ่านช่องประตูก่อน ครั้นเห็นว่าหน้าประตูมีแค่ซูจิ่งสิงผู้เดียว จึงเปิดประตูออกไป“ท่านพี่” กู้หว่านเยว่กระตุกมุมปากนางที่เพิ่งคลอดลูกค่อนข้างอ่อนแอ แต่ไม่ถึงกับไม่มีแรงจะพูดขนาดนั้นเมื่อเห็นซูจิ่งสิง นางก็วางใจ“ไอหยา”ซูจิ่งสิงเอ่ยหนึ่งเสียง เสียงนั้นอ่อนโยนมาก อ่อนโยนคล้ายกับฟองน้ำที่บีบน้ำออกมาจากนั้นก็สาวเท้าสามขุมก้าวมายังข้างเตียง คว้ามือของกู้หว่านเยว่ ในขณะเดียวกันก็กวาดมองไปยังเด็กที่อยู่ในผ้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 680

    ครั้นเหมยจื่อเห็นรอยแผลเป็นของเจียงเฟิ่งก็ถึงกับพูดไม่ออก แม่เหมยจื่ออายุมากและมีประสบการณ์มากกว่า จึงรีบกล่าวว่า “ขอบคุณเจ้ามาก พวกเจ้าค่อย ๆ ขัดนะ”เจียงเฟิ่งลูบศีรษะ ก่อนจะกลั้วหัวเราะและกล่าวว่า “ท่านป้าก็เกรงใจเกินไป ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณที่พวกท่านทำคลอดให้ฮูหยิน ฮูหยินเพิ่งคลอดลูกเสร็จ ต่อไปคงต้องขอรบกวนพวกท่านอีกสองวัน”เขาหยิบเศษเงินถุงหนึ่งออกมา ครั้นเห็นว่ามีจำนวนยี่สิบเหรียญ ทั้งสองคนก็ไม่กล้ารับไว้“ท่านจอมยุทธ หนึ่งถึงสองเหรียญก็มากพอแล้ว”“ที่เหลือ รบกวนท่านนำไปซื้อแม่ไก่สดใหม่สักตัวเถอะ เอาไปตุ๋นซุปให้ฮูหยิน ให้นายท่านและพี่น้องได้กินกัน”เงินก้อนนี้เป็นเงินที่ซูจิ่งสิงให้มา เขาเลยยกให้ทั้งหมดดูออกว่าซูจิ่งสิงซาบซึ้งต่อครอบครัวนี้อย่างจริงใจเหมยจื่ออยากบอกว่าการซื้อแม่ไก่ไปทำอาหารนั้น ไม่ต้องใช้เงินมากขนาดนี้ก็ได้ ครั้นเห็นมารดารับเงินเตรียมจะออกไปซื้อแม่ไก่ ก็รีบปิดปากเงียบ “ข้าจะไปทำอาหารให้พวกเจ้ากิน”นางไม่กล้าอยู่กับชายฉกรรจ์เหล่านี้นานนัก จึงเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องครัวแต่ไม่นาน แม่เหมยจื่อก็ถือแม่ไก่กลับมาหนึ่งตัว ทั้งยังซื้อกับแกมกลับมาอีกบางส่วน จ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1664

    “พี่หญิง บางทีท่านอาจจะรู้สึกว่าข้ารักตัวกลัวตาย แต่ในใจกลับรู้สึกว่าหนานเจียงไม่มีที่ยืนสำหรับพวกเราแล้วบางทีสิ่งที่ข้าทำอาจช่วยทำให้สกุลชวีมีทางรอด”“ทางรอด?”เมื่อชวีอวี้ได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า“สกุลชวีของเราไม่มีทางรอดแล้ว”นางมองไปทางชวีเฟิง“คิดว่าตอนที่เจ้าเพิ่งเข้ามาก็เห็นแล้ว ข้างนอกล้วนเป็นคนของสกุลวู ฮองเฮาอยากให้พวกเราตาย สกุลวูก็อยากให้พวกเราตาย พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ราวกับว่าเคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วชวีเฟิงนึกถึงอะไรบางอย่างกะทันหัน“พี่ชวีหลิงล่ะ?”เขาเป็นคู่หมั้นของพี่หญิง เหตุใดจึงไม่เห็นเขาปรากฏตัว และพี่หญิงก็ไม่ได้พูดถึงเขาเลยจู่ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี“พี่หญิง พี่ชวีหลิงล่ะ?”จนกระทั่งเวลานี้เอง ในที่สุดร่างกายของชวีอวี้ก็สั่นอย่างไม่สามารถควบคุม นางปิดหน้า หยดน้ำตาไหลออกมาจากระหว่างนิ้ว “ตายแล้ว เขาตายแล้ว”“อะไรนะ!”ชวีเฟิงทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ถึงว่าชวีอวี้จะแต่งงานกับวูเมิ่ง ชวีหลิงไม่เคยปรากฏตัวเลย“วูเมิ่งฆ่าเขาหรือ?”ชวีเฟิง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1663

    กู้หว่านเยว่ยกกระเบื้องแผ่นหนึ่งขึ้น แล้วมองเข้าไปในห้อง“เป็นอย่างไรบ้าง?” ชวีเฟิงกล่าวถาม“ในห้องมีแค่คุณหนูใหญ่สกุลชวีคนเดียว ไม่เห็นพ่อแม่เจ้า”หลังจากกู้หว่านเยว่สำรวจดูอย่างละเอียด สายตาไปตกที่ใบหน้าชวีอวี้ หน้าตางดงาม มีเสน่ห์แบบคนต่างแดน นางเป็นหญิงงามจริงๆ ด้วย ไม่แปลกใจเลยที่วูเมิ่งยอมทำทุกอย่างเพื่อแต่งงานกับนางเดี๋ยวก่อน กู้หว่านเยว่เห็นชวีอวี้ล้วงมีดสั้นออกจากแขนเสื้อกะทันหัน“เหมือนว่าพี่หญิงเจ้าจะฆ่าตัวตาย”“อะไรนะ!”ชวีเฟิงไม่สามารถสงบสติอารมณ์แล้ว กระโดดลงจากคานโดยตรง แล้วปีนเข้าไปในห้องผ่านหน้าต่างที่อยู่ด้านหลังการเคลื่อนไหวนี้ทำให้ยามในเรือนรู้ตัวทันที“ใคร?”มียามสองคนมาตรวจดู และเจอเข้ากับกู้หว่านเยว่ที่ตามหลังมาพอดี“โทษที”พลันกู้หว่านเยว่ยกมือขว้างผงพิษออกไป ทำให้ยามสองคนนี้หมดสติโดยตรง“พี่หญิง ท่านกำลังทำอะไร?” ชวีเฟิงมาถึงตรงหน้าชวีอวี้แล้ว เขาแย่งมีดสั้นมาด้วยมือเปล่าโดยไม่สนใจความคม“เจ้า?”ชวีอวี้ตกใจ เนื่องจากชวีเฟิงในเวลานี้กำลังปลอมตัว ดังนั้นชั่วขณะนางจึงจำไม่ได้กระทั่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ในที่สุดก็รู้แล้วว่าคนตรงหน้าก็คือชวีเฟิงน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1662

    “ท่านพ่อกับท่านแม่ล่ะ พวกเขาถูกปล่อยออกมาแล้วหรือ?”“ยังเจ้าค่ะ ทางสกุลวูบอกว่ารอท่านแต่งเข้าไปแล้ว พวกเขาจึงจะปล่อยนายท่านกับฮูหยินออกมา”คนรับใช้พูดพลางกำหมัดแน่นเพื่อบีบให้คุณหนูใหญ่แต่งงานกับคุณชายใหญ่สกุลวู พวกเขาถึงกับจับนายท่านกับฮูหยินไป“วันนี้เป็นวันมงคลของข้า แต่พวกเขายังขังพ่อแม่ของข้าไว้ในคุก และยังไม่ให้พวกเขามาร่วมงานแต่งของข้า นี่มันงานแต่งแบบไหนกัน”รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏที่มุมปากชวีอวี้“คุณหนูใหญ่…”“พอแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ออกไปก่อนเถอะ ข้าอยากอยู่ที่นี่เงียบๆ สักพัก”ชวีอวี้หลับตา ท่าทางดูอ่อนล้ามาก ราวกับไม่อยากเอ่ยปากพูดอีกแม้แต่คำเดียวคนรับใช้มองนางอย่างระมัดระวังแวบหนึ่ง รู้เช่นกันว่าตอนนี้นางไม่สบายใจ ไม่อยากพูดอะไรมากอีก กลัวว่าสภาพจิตใจของชวีอวี้จะยิ่งหดหู่ด้วยเหตุนี้จึงหมุนกายเดินออกไป และปิดประตูห้องอย่างเชื่อฟัง“ที่นี่หรือ?”นอกประตูของสกุลชวีในเวลานี้ กู้หว่านเยว่มองดูคฤหาสน์ที่แขวนผ้าสีแดงและโคมไฟสีแดงเต็มไปหมด มีความสงสัยปรากฏขึ้นในแววตา“ใช่ ที่นี่แหละ”ชวีเฟิงกำหมัดแน่น สีหน้ายิ่งดูน่าเกลียดหลังจากเข้าเมือง ระหว่างทางก็ได้ยินผู้คน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1661

    ชวีเฟิงหัวเราะเยาะ “สกุลวูเชี่ยวชาญแมงป่องพิษ เพราะช่วยฮองเฮาเพาะเลี้ยงราชาแมงป่องพิษ ดังนั้นเฮาฮองจึงให้ความสำคัญมากเดิมทีตระกูลของพวกเขารั้งท้ายสุดในห้าตระกูลใหญ่ แต่ตอนนี้สกุลชวีของเราเข้ามาแทนที่ ได้กระโดดขึ้นไปเป็นผู้นำห้าตระกูลใหญ่และสาเหตุที่ฮองเฮาจะเล่นงานสกุลชวีของเรา ก็เป็นเพราะสกุลวู”ที่แท้คุณหนูใหญ่สกุลชวีที่วูเมิ่งคุณชายใหญ่สกุลวูชอบก็คือชวีอวี้พี่สาวแท้ๆ ของชวีเฟิงแต่ชวีอวี้มีคนในใจนานแล้ว ซึ่งเป็นคนในตระกูลสกุลชวีก็ให้ทั้งสองหมั้นหมายกันนานแล้ว ย่อมไม่มีทางตอบตกลงวูเมิ่ง“วูเมิ่งคนนี้มักจะวนเวียนอยู่ในบ่อนพนันหรือซ่องโสเภณี เขาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของห้องปรุงพิษ จิตใจอำมหิตไร้ความปรานี เชี่ยวชาญการใช้ยาพิษ เพื่อบรรลุเป้าหมายไม่เลือกวิธีการ ครั้งหนึ่งเคยมีคนจากหมู่บ้านหนึ่งล่วงเกินเขา เขาถึงกับวางยาพิษฆ่าคนทั้งหมู่บ้าน หลังจากเกิดเรื่องก็สั่งให้คนปิดเรื่องนี้เพียงแต่ตอนนั้นสกุลชวีของเราพอจะมีอิทธิพลอยู่บ้าง ดังนั้นจึงรู้เรื่องนี้อย่างลับๆคนต่ำช้าที่จิตใจอำมหิตและเห็นชีวิตของคนเป็นผักปลาอย่างเขา อย่าว่าแต่พี่หญิงไม่ชอบเขาเลย สกุลชวีของเราก็ไม่มีทางให้พี่หญิงแต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1660

    กู้หว่านเยว่พยักหน้า เดิมทีนางเองก็ไม่ได้คิดจะอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้อยู่แล้ว แค่อยากเข้าไปพักผ่อน แวะกินอาหารเช้าแล้วค่อยเดินทางต่อก็เท่านั้น ภารกิจก็ต้องทำ ข้าวก็ต้องกิน“ไป เราเข้าไปดูก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ขี่ม้ามาถึงหน้าประตูเมือง จากนั้นก็มองพิจารณาชื่อของเมืองแห่งนี้“เมืองโยวหุน”นางกระตุกมุมปาก ชื่อของเมืองนี้ฟังดูแปลกยิ่งนัก หากไม่รู้คงคิดว่าเป็นเมืองผีในระหว่างนั้นขนตามตัวก็พากันลุกซู กู้หว่านเยว่กลงจากหลังม้า และเดินเข้าไปในเมืองโยวหุนผู้คนที่สัญจรในเมืองแห่งนี้มีจำนวนมากนางในตอนนี้แต่งตัวเป็นคนหนานเจียงแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ดึงดูดสายตาของใครทั้งสองคนเดินมานั่งอยู่หน้าแผงลอยแห่งหนึ่งรอบตัวของพวกนางมีคนหนานเจียงที่กำลังกินอาหารกันอยู่ไม่น้อย กินไปพลางพูดคุยไปพลาง กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟังอยู่ครู่หนึ่งพบว่าไม่มีใครสนใจสงครามระหว่างต้าฉีกับหนานเจียงเลยสักคนชวีเฟิงกล่าวอธิบายเสียงต่ำ “หนานเจียงไม่มีสงครามมาหลายร้อยปีแล้ว และไม่เคยมีศัตรูจากข้างนอกเข้ามายุ่งย่าม ดังนั้นชาวบ้านจึงไร้ความรู้สึกกันนานแล้ว คิดว่าสงครามไม่มีทางมาถึงหนานเจียงได้อย่างแน่นอน ที่นี่จะต้องเป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1659

    นางอยากรู้ว่าราชินีหนานเจียงผู้นี้กำลังจะทำอะไรลับหลังนางกันแน่ ตั้งใจจะใช้ห้องปรุงพิษแห่งนั้นทำสิ่งที่น่าประหลาดใจอะไรอยู่กันแน่พิษ หากใช้มันจริง ๆ ความรุนแรงก็ไม่ต่างกับดินปืนเลยเวลานี้เกาเจี้ยนเพิ่งได้เข้าใจ “ท่านจะปลอมตัวเป็นหนึ่งในคนชุดดำเหล่านั้นอย่างนั้นหรือ?”“ถูกต้อง”กู้หว่านเยว่พยักหน้า นางทำหน้ากากหนังคนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว“ในเมื่อเจ้าและอวิ๋นมู่ร่วมมือกันแล้ว ต่อไปข้าคงฝากฝังเจ้าได้อย่างวางใจ ข้าขอเก็บของสักครู่แล้วจะออกเดินทางทันที”กู้หว่านเยว่ดูรีบร้อนมากเรื่องนี้จะช้าไม่ได้“ขอรับ”เกาเจี้ยนคงพูดอะไรไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ผิดหวังความไว้วางใจของพระมเหสีไปแล้ว แต่นางก็ยังยกกองกำลังแนวหน้าให้เขาดูแลทั้งหมด!กู้หว่านเยว่คว้าป้ายอาญาสิทธิ์ของหกคนนั้น ก่อนจะควบม้ามุ่งหน้าไปกับทิศทางของหนานเจียงพร้อมกับชวีเฟิง“หวังว่าหว่านเยว่จะกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นมู่มองไปยังทิศทางที่กู้หว่านเยว่จากไป แววตาเป็นห่วงยังคงจ้องมองอย่างนั้นอยู่เนิ่นนานเกาเจี้ยนจึงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าเป็นห่วง เมื่อครู่ใยไม่โน้มน้าวกับข้าเล่า เป็นห่วงตอนนี้จะได้อะไรขึ้นมา”อวิ๋นมู่คลี่ยิ้ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1658

    “แบบนี้ไม่ได้นะขอรับ พระมเหสี การเดินทางครั้งนี้อันตรายมาก ก่อนจะออกเดินทาง ข้าสัญญาต่อฝ่าบาทว่าจะต้องปกป้องท่านอย่างดีที่สุดหากเขารู้ว่าข้าให้ท่านเดินทางไปหนานเจียงเพียงลำพัง เขาจะไม่ตัดหัวของข้าเลยหรือ?”เกาเจี้ยนร้อนใจมาก เหตุใดกู้หว่านเยว่ถึงได้มีความคิดที่เหลวไหลและกล้าหาญถึงเพียงนี้ เขายังไม่อยากตายกู้หว่านเยว่ยกมือเท้าคางพลางคลี่ยิ้ม“ไม่ได้จะไปเพียงลำพังเสียหน่อย นี่ ข้าให้ชวีเฟิงไปกับข้าด้วย”“เขา?” เขาเนี่ยนะ?เกาเจี้ยนส่ายหน้าทันที“พระมเหสี ได้โปรดท่านคิดทบทวนดี ๆ เถิด”ทว่าแม้แต่ซูจิ่งสิงก็ยังโน้มน้าวกู้หว่านเยว่ไม่ได้ นับประสาอะไรกับเกาเจี้ยน“เรื่องนี้ว่าไปตามนี้ก่อนแล้วกัน กว่าฟ้าจะสว่างยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วยาม ข้าง่วงแล้ว ขอพักสักหน่อย เจ้าออกไปจุดพลุส่งสัญญาณเถอะ รอให้คนของอวิ๋นมู่มาถึงแล้วค่อยมาปลุกข้า”เมื่อกู้หว่านเยว่กล่าวจบ ก็เข้าไปในกระโจมที่อยู่ถัดไปอื้อ ไม่ใช่ว่านางอยากเปลี่ยนกระโจมหรอก ความจริงคือกลิ่นเท้าในกระโจมของเกาเจี้ยนแรงเกินไปต่างหาก!พรุ่งนี้ต้องหาผงดับกลิ่นเท้ามาให้เขาสักห่อ รักษากลิ่นเท้าของเขาให้หาย“พระมเหสี!”เกาเจี้ยนไล่ตามม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1657

    มิน่าล่ะในระหว่างการสอบสวนเมื่อครู่ นางมองเล่ห์เหลี่ยมที่พวกเขาพยายามจะใช้พิษไม่ต่ำกว่าห้าครั้งนั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ภายใต้ความจนปัญญานางทำได้แค่กดจุดทั่วร่างกายของคนเหล่านี้ไว้ เหลือเพียงปากของพวกเขาที่ยังสามารถพูดได้“ชวีเฟิง เจ้าสมควรตาย”เมื่อคนชุดดำเห็นชวีเฟิงขายความลับของหนานเจียงจนหมดเกลี้ยง ดวงตาก็พลันเบิกกว้างอย่างโกรธเคือง และสบถเป็นภาษาถิ่น“หุบปาก”ครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงโวยวาย ก็ขว้างเข็มเล่มหนึ่งออกไปปักลิ้นของคนผู้นั้นอย่างหมดความอดทน“อ๊าก!”เขาส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาออกมาคนชุดดำคนอื่นเห็นเหตุการณ์นี้ก็ทยอยกันตัวสั่นงันงก รีบปิดปากทันที“เอาละ ตอนนี้เจ้าพูดต่อได้แล้ว” กู้หว่านเยว่หันไปมองชวีเฟิงชวีเฟิงตัวสั่นงันงกนางมารยังไงก็คือนางมารอยู่วันยังค่ำ น่ากลัวเหมือนกับในความทรงจำจริง ๆเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่“ว่ากันว่า ในห้องปรุงพิษมีคนอยู่มากกว่าสามสิบคน ทุกคนอาศัยลวดลายบนแขนมาระบุสถานะ”กู้หว่านเยว่โบกมือไปมาเกาเจี้ยนตั้งสติแล้วรีบเดินขึ้นหน้า ถกแขนเสื้อของคนชุดดำทั้งหกคนขึ้น เผยให้เห็นแขนข้างภายใต้ร่มผ้าเป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ บนแขนของคนชุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1656

    “ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาอยากฆ่าพวกเจ้า ก็แค่บังเอิญโดนข้าจับได้เสียก่อน”“พระมเหสี ข้าเอง”เกาเจี้ยนจะกล้าให้กู้หว่านเยว่ลงมือเองได้อย่างไร เขารีบรุดหน้าเข้าไปคว้าเชือกป่านจากมือของนาง แล้วจับคนชุดดำทั้งห้าคนลากไปมัดเอาไว้ด้วยกัน“จริงสิ ใต้ต้นไม้ใหญ่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ยังมีคนชุดดำที่โดนข้าฟาดสลบอีกหนึ่งคน เจ้าส่งคนไปลากเขามามัดไว้ด้วยกันเถอะ”จะปล่อยให้คนชุดดำมีโอกาสรอดกลับไปรายงานเจ้านายของมันแม้แต่คนเดียวไม่ได้“พระมเหสีโปรดวางใจ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”เกาเจี้ยนรีบพุ่งตัวออกจากค่าย ทันทีที่ออกไป จู่ ๆ หนังตาก็กระตุกมิน่าล่ะกู้หว่านเยว่จึงสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลทหารลาดตระเวนนอกค่ายแห่งนี้พากันล้มลงไปบนพื้นและหลับไปเสียงกรนของทุกคนดังสนั่น และมีน้ำลายไหลยืดจากมุมปาก ทหารลาดตระเวนปกติที่ไหนจะเป็นเช่นนี้? “รีบลุกขึ้นได้แล้ว นอนอะไรกันนักหนา หลับสบายกันขนาดนี้จนไม่รู้ว่าค่ายของตัวเองถูกทำลายไปแล้ว”เกาเจี้ยนเดินขึ้นหน้า ยกเท้าเตะทหารสองนายตรงหน้า“ท่านแม่ทัพ เกิดอะไรขึ้น?”“ข้าหลับได้อย่างไร?”ทหารสองคนมีสีหน้างัวเงีย รีบคุกเข่าขอความเมตตาจากเกาเจี้ยน“ท่านแม่ทัพได้โปรดไว้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status