Home / รักโบราณ / ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม / ตอนที่ 7 ไม่ละทิ้งความสามารถเดิม

Share

ตอนที่ 7 ไม่ละทิ้งความสามารถเดิม

last update Last Updated: 2025-04-23 09:41:05

ควันที่ลอยโขมงขึ้นมาเหนือหลังคาเรือนในยามเช้า บ่งบอกว่าเจ้าของเรือนหลังนั้นได้ตื่นนอน และเริ่มที่จะหุงหาอาหารในเช้าวันใหม่แล้ว ร่างอวบอิ่มของสตรีวัยสี่สิบปลายๆ กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ด้านหน้าเตาไฟ ซุนฉีหันไปมองร่างเล็กของหลานสาวที่ถึงแม้จะได้ไปศึกษาที่สำนักศึกษาแล้ว แต่ทว่านางยังคงไม่ละทิ้งหน้าที่ที่นางเคยทำตลอดมา ใบหน้าเล็กเปื้อนแป้งที่ข้างแก้มเรียกรอยยิ้มจากผู้เป็นยายได้ไม่ยากนัก

“ดูซิ… หน้าตามอมแมมหมดแล้วเหมยเอ๋อร์…” บอกพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าของนางขึ้นมาเช็ดใบหน้าให้หลานสาวอย่างทะนุถนอม

“ท่านยาย วันนี้มื้อกลางวันหลานอยากกินหมูราดน้ำแดงเช่นเดียวกับเมื่อวานเจ้าค่ะ ก่อนไปสำนักศึกษาท่านยายช่วยทำให้หลานสักนิดได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ได้สิเหมยเอ๋อร์... หมูราดน้ำแดงนั้นทำไม่ยาก ถ้าเช่นนั้นเจ้าปั้นแป้งกับยัดไส้ซาลาเปารอยายก่อนเถิด ประเดี๋ยวยายจะรีบไปทำมื้อเช้า กับหมูราดน้ำแดงสำหรับมื้อกลางวันให้เจ้า”

“เจ้าค่ะ”

ชิงเหมยยิ้มออกมาครั้นท่านยายยินดีที่จะทำอาหารที่นางอยากกินให้ด้วยความเต็มใจ นางรักท่านยายซุนฉีเหลือเกิน และรู้สึกว่านางนั้นยังมีโชคอยู่บ้างที่ได้มาเกิดใหม่ในชาติภพนี้ เพราะนอกจากไม่มีข้าศึกมารุกรานแล้ว ยังมีท่านยายที่รักและเอ็นดูนางคอยเอาใจใส่นางอยู่ร่ำไป

หลังจากปั้นแป้งและยัดไส้ซาลาเปาเสร็จเรียบร้อย ซุนฉีจึงไล่หลานสาวให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อมากินมื้อเช้าแล้วค่อยไปสำนักศึกษา ชิงเหมยจึงกลับเข้าไปในเรือน นางอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง ไม่ถึงหนึ่งก้านธูปร่างเล็กที่สวมใส่อาภรณ์ของศิษย์หญิงสำนักศึกษาหวุนซีก็เยื้องย่างออกมาจากเรือนนอน ซุนฉีส่งเสี่ยหนา[1]ให้แก่หลานสาว ชิงเหมยรับมาถือเอาไว้คนละข้างกับกระเป๋าตำราของนาง

“ข้าลาเจ้าค่ะท่านยาย ขอให้วันนี้ท่านยายขายดีเป็นเทน้ำเทท่านะเจ้าคะ”

“เฮอๆๆ ไปเถิดเหมยเอ๋อร์ ประเดี๋ยวจะสายเอา” ซุนฉีหัวเราะให้กับคำอวยพรของหลานสาวก่อนที่จะบอกให้นางรีบไปสำนักศึกษา เพราะเดินย่อมช้ากว่าการนั่งเกี้ยวหรือรถม้าไปอยู่แล้ว

ชิงเหมยจึงคำนับลาแล้วเดินออกจากประตูเรือนไป ซุนฉีจึงได้หันกลับมาสนใจตนเอง นางเข้าไปในเรือนอาบน้ำแต่งตัวและนำซาลาเปาที่หลานช่วยปั้นไปยังร้านของนางในตลาด วันนี้คงจะเป็นวันดีอีกเช่นเคย หากขายหมดวันนี้นางจะได้ทำมื้อเย็นอร่อยๆ ให้หลานสาวได้กิน เพราะอยู่ในวัยเจริญเติบโตต้องกินให้มากๆ หน่อย

สำนักศึกษาหวุนซี

เสียงท่องบทกวีดังขึ้นไปทั้งเรือนหลันฮวา ศิษย์หญิงทั้งหลายต่างตั้งใจศึกษาในสิ่งที่ท่านอาจารย์พร่ำสอน ชิงเหมยรู้สึกสนุกสนานไปกับการท่องบทกวีในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะนางนั้นได้อ่านล่วงหน้ามาบ้างแล้ว จึงทำให้จดจำได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าท่านอาจารย์ลู่อวิ๋นจะให้พวกนางท่องบทใด ชิงเหมยก็สามารถท่องออกมาโดยที่ไม่มองตำรา แม้นสหายร่วมห้องจะไม่ทันได้สังเกต แต่ทุกการกระทำของศิษย์ทุกคนล้วนอยู่ในสายตาของผู้เป็นอาจารย์

“เอาล่ะ… วันนี้พอเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้อาจารย์จะให้พวกเจ้าเตรียมบทกวีมาท่องกันคนละหนึ่งบทโดยที่ไม่ต้องเปิดตำรา” อาจารย์ลู่อวิ๋นกล่าวออกมาหลังจากที่บรรดาลูกศิษย์ท่องบทกวีและแปลความหมายของบทกวีนั้นจบ

"เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ศิษย์คารวะลาท่านอาจารย์เจ้าค่ะ"

ศิษย์หญิงทุกคนตอบรับพลางลุกขึ้นคำนับลาท่านอาจารย์ลู่อวิ๋นอย่างพร้อมเพรียงกัน เขาพยักหน้าก่อนที่จะเดินออกจากเรือนหลันฮวาไป

เสียงพูดคุยดังของเด็กๆ ดังขึ้นทันทีที่อาจารย์พ้นจากเรือนไป บ้างก็คุยถึงการอ่านบทกวีในวันพรุ่งนี้ บ้างก็คุยกันถึงเรื่องที่เรือนของตน บ้างก็คุยเรื่องอาหารมื้อกลางวันของวันนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มของชิงเหมยที่กำลังถามไถ่กันถึงเรื่องอาหารที่ห่อมา เด็กหญิงทั้งสามชื่นชอบในการกินเป็นที่สุดเพราะอยู่ในวัยเจริญเติบโต ยิ่งหลูซินเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเหลา นางยิ่งมีอาหารมาแบ่งปันสหายให้ได้กินแทบจะไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน

“วันนี้พวกเจ้าห่อสิ่งใดมากินมื้อกลางวันกันรึ” ซูฉีเอ่ยถามออกมาในขณะที่เก็บตำรา

“เมื่อเช้าข้าบอกให้ท่านยายทำหมูตุ๋นน้ำแดงมาให้ เห็นว่าพวกเจ้าสองคนชื่นชอบหมูตุ๋นน้ำแดงที่ท่านยายข้าทำนี่”

ชิงเหมยตอบพลางยักคิ้วให้สหาย ทั้งซูฉีและหลูซินพากันยิ้มกว้างออกมา เพราะฝีมือการทำของท่านยายของชิงเหมยนั้นเลิศรสไม่แพ้ฝีมือของพ่อครัวร้านเหลาหรือพวกโรงเตี๊ยมดังๆ เลย

“แล้วพวกเจ้าล่ะ” ชิงเหมยถามออกมาบ้าง

“วันนี้ท่านพ่อข้าทำไก่สับหน่อไม้ฉีกมาให้ กับปลาทอดกรอบ” บุตรสาวเจ้าของร้านเหลาตอบด้วยน้ำเสียงที่สดใส ยามที่พูดคุยถึงเรื่องอาหารนั้นคือยามที่นางมีความสุขที่สุด นางชอบกิน

“แม่เล็กข้าห่อไก่ตุ๋นกับขนมกุ้ยฮวาเกามาให้” ซูฉีเป็นฝ่ายตอบชิงเหมยบ้าง เด็กทั้งสามพากันยิ้มออกมาครั้นได้รู้ว่าแต่ละคนห่ออาหารอันใดมากินในมื้อกลางวัน

“ถ้าเช่นนั้นพวกเรารีบไปหาที่นั่งกินกันเถิด จะได้งีบหลับสักนิด เมื่อคืนท่านแม่ให้ข้าฝึกเย็บปักกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปยามห้ายแล้ว”

ซูฉีเอ่ยออกมา นางเกิดในตระกูลขุนนางแม้นจะเป็นบุตรีที่เกิดจากอนุภรรยา แต่ทว่านางก็ต้องฝึกฝนและเรียนรู้งานของเรือนหลังเพื่ออนาคตในภายภาคหน้า เพราะเป็นลูกอนุจึงต้องพยายามมากกว่าลูกของภรรยาเอกนางจึงถูกมารดากดดันอยู่ไม่น้อย

ชิงเหมยมองหน้าสหายใหม่ด้วยความรู้สึกเห็นใจ หากนางได้อยู่ในตระกูลของท่านพ่อของนาง ชีวิตนางก็คงจะต้องอยู่ในกฏในระเบียบเช่นกัน อาจจะถูกกลั่นแกล้งรังแกยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ฝ่ายนั้นไม่ยอมรับในตัวนาง เพราะถ้าหากเป็นชิงเหมยคนก่อนคงจะสู้รบตบมือกับพวกจิ้งจอกพวกนั้นไม่ไหวอาจจะจากไปก่อนที่นางจะได้มาเกิดใหม่ในร่างนี้เสียด้วยซ้ำ

เด็กทั้งสามพากันไปนั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ ต่างคนต่างนำอาหารของตนออกมาจากเสี่ยหนาที่เตรียมมา อาหารสามสี่อย่างถูกวางตรงหน้า ชิงเหมย ซูฉีและหลูซินพากันลงมือกินอย่างเงียบๆ หลังจากที่อิ่มแล้วพวกนางก็พากันนำเสี่ยหนาไปล้างแล้วกลับมานอนงีบเพื่อพักสายตา ชิงเหมยนอนคิดว่านางกำลังอยากจะฝึกฝนเพลงดาบที่เคยใช้ปกป้องตนเองและผู้คนที่รักในชาติภพก่อน

นางไม่อยากละทิ้งความสามารถเดิมที่นางเคยมี กว่านางจะแข็งแกร่งจนไปสู้รบกับพวกศัตรูของบ้านเมืองได้นางก็ต้องฝึกฝนอยู่หลายปี แล้วเหตุใดนางจะต้องละทิ้งมันไปพร้อมกับอดีตชาติของนางด้วย ในเมื่อสวรรค์ให้ความทรงจำของนางติดตัวมาในชาติภพนี้ อาจจะมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ หรือไม่แน่ว่านางจะต้องได้ใช้ความสามารถในการฟันดาบหรือศิลปะการต่อสู้ในชาติภพนี้ด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 7 - 1 ไม่ละทิ้งความสามารถเดิม

    หลังจากเลิกเรียนศิษย์ทั้งหลายก็แยกย้ายกันกลับเรือนของตนเฉกเช่นทุกวัน ชิงเหมยกลับไปพร้อมกับหลูซินเพราะนางจะต้องแวะไปช่วยท่านยายที่ตลาด ครั้นไปถึงตลาดแล้วท่านยายของนางกลับบอกให้นางกลับเรือนไปก่อน เด็กหญิงจึงยินยอมที่จะทำตามความต้องการของท่านยายแต่โดยดี จะได้อาศัยช่วงยามที่ท่านยายยังอยู่ตลาด ฝึกฝนเพลงดาบของนางอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ด้วย“เหมยเอ๋อร์… กำลังจะกลับเรือนหรือ” ในระหว่างทางขณะที่นางกำลังเยื้องย่างกลับเรือน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าร้านค้าข้างทางก็เอ่ยทักทายนาง“เจ้าค่ะท่านน้า… วันนี้ขายดีหรือไม่เจ้าคะ” ชิงเหมยหันไปตอบพลางทักทายด้วยใบหน้าที่สดใสสมวัย“ก็พอขายได้… อะนี่เอาไปกินสิ กว่าท่านยายของเจ้าจะกลับเรือนก็อีกตั้งหนึ่งชั่วยาม” ห่อมันเผาถูกส่งมาให้ ชิงเหมยคำนับ“ขอบน้ำใจท่านน้ายิ่งนักเจ้าค่ะ อันที่จริงท่านยายก็เอาซาลาเปามาให้ข้าเช่นกัน” เด็กหญิงกล่าวออกมายิ้มๆ“เจ้าน่ะ… อยู่ในวัยกำลังโต ต้องกินให้มากๆ หน่อย จะได้แข็งแรง” เสวียอี๋บอกชิงเหมยด้วยน้ำเสียงเอ็นดูนางเห็นเด็กหญิงมาตั้งแต่เด็ก ชิงเหมยนั้นขยันเป็นเด็กดีและเชื่อฟังท่านยายของนางเป็นอย่างดี เสวียอี๋ยังนึกเสียดายที่เด็กหญิงไม่ได้เติบ

    Last Updated : 2025-04-23
  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 8 ไม่ทำตนให้เด่นกว่าผู้ใด

    กลิ่นหอมของอาหารลอยมาจากในโรงครัวในยามโหย่วแทนที่กลิ่นของควันไฟ ชิงเหมยเดินเข้าไปดูท่านยายของนางที่กำลังทำอาหารจนส่งกลิ่นหอมออกมาเรียกน้ำย่อยในกระเพาะของนาง ยามที่นางกลับมาจากสำนักศึกษา นางก็ได้กินแค่เพียงซาลาเปากับมันเผาเท่านั้น จึงทำให้ยามนี้รู้สึกหิวอยู่ไม่น้อย“ท่านยาย… มีอันใดให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะ” เสียงเล็กเอ่ยถามซุนฉีออกมา“อืม… เจ้าช่วยยกอาหารพวกนี้ออกไปวางที่โต๊ะรอยายก่อนก็แล้วกัน เหลืออีกหนึ่งอย่างก็จะเสร็จแล้ว” ซุนฉีหันไปตอบหลานสาว ชิงเหมยมองกับข้าวในจานก็ถึงกับกลืนน้ำลาย ท่านยายของนางมีฝีมือการทำอาหารไม่แพ้ผู้ใด หากเปิดร้านเหลาแทนการเปิดร้านขนมนางก็คิดว่าคงจะขายดีไม่แพ้กันสองยายหลานนั่งกินมื้อเย็นท่ามกลางแสงของโคมไฟที่รายล้อมรอบบริเวณโต๊ะที่พวกนางใช้นั่งกินอาหารร่วมกัน ชิงเหมยกินข้าวไปถึงสองชาม ซุนฉียิ้มออกมาด้วยความพอใจที่หลานสาวเป็นเด็กที่ชอบกิน แต่ถึงแม้ว่าชิงเหมยจะกินมากถึงเพียงใด ร่างกายของนางก็ไม่อ้วนท้วมเสียที ที่เขาว่ากันว่าเด็กวัยนี้เป็นเด็กกำลังโตคงจะไม่เกินจริง“เหมยเอ๋อร์…เจ้าไปสำนักศึกษาวันนี้มีเรื่องอันใดมาเล่าให้ยายฟังหรือไม่”คำถามเช่นเดียวกับทุกวันตั้งแ

    Last Updated : 2025-04-23
  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 8 - 1 ไม่ทำตนให้เด่นกว่าผู้ใด

    “ไม่มีผู้ใดที่จะเก่งตั้งแต่เริ่มต้น ผู้ใดกันเล่าที่จะจดจำบทกวีเหล่านี้ได้ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ อาจารย์เชื่อว่าพวกเจ้าที่นั่งอยู่ที่นี่เกินกว่าครึ่งนั้นมิอาจจดจำบทกวีที่อาจารย์สั่งให้ไปท่องจำได้หมดทุกบท อาจารย์พูดถูกหรือไม่” อาจารย์ลู่อวิ๋นกล่าวสั่งสอนศิษย์ที่กำลังหัวเราะให้สหายร่วมห้องออกมาให้ได้คิด“พวกศิษย์ขออภัยเจ้าค่ะ” ผู้ที่หัวเราะกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ชิงเหมย ซูฉี และหลูซินไม่ได้หัวเราะกับสหายร่วมห้อง พวกนางจึงนั่งเงียบๆ“เอาล่ะ ชีโยว วันนี้อาจารย์ถือว่าเจ้าทำได้ดีแล้วล่ะ นั่งลงได้" อาจารย์ลู่อวิ๋นหันไปบอกลูกศิษย์ที่ยังคงยืนอยู่“เจ้าค่ะท่านอาจารย์” ชีโยวศิษย์คนแรกของเรือนเหมยฮวาตอบพลางคำนับท่านอาจารย์แล้วนั่งลงและก็เป็นดังเช่นที่อาจารย์ลู่อวิ๋นได้กล่าวเอาไว้ เพราะมีทั้งผู้ที่สามารถท่องบทกวีออกมาได้จนจบบท และมีทั้งผู้ที่ท่องออกมาได้เพียงแค่ครึ่งๆ กลางๆ เขาไม่ได้คาดหวังกับศิษย์ใหม่เหล่านี้มากนัก เพราะเพิ่งจะเข้ามาสำนักศึกษาได้ไม่นาน บางคนก็มีพื้นฐาน บางคนก็เพิ่งจะเคยได้ศึกษาเกี่ยวกับบทกวี แต่ทว่าเขากลับรู้สึกคาดหวังกับชิงเหมยเพราะจากที่สังเกตดูนางเมื่อวาน นางนั้นท่องได้เป

    Last Updated : 2025-04-23
  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 9 ไม่ตอบโต้ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอ

    สองปีต่อมาร่างเล็กสูงโปร่งของเด็กหญิงวัยสิบสองปีกำลังเยื้องย่างไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่สำนักศึกษาหวุนซีเฉกเช่นทุกเช้า ความงดงามของนางเริ่มเปล่งประกายออกมาให้ผู้อื่นได้เห็น ถึงแม้นางจะเป็นเพียงหลานสาวแม่ค้าขายขนมในตลาด ที่มีฐานะเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา แต่ทว่าเด็กหญิงในวันนี้กลับกลายเป็นบัณฑิตอายุน้อยที่มีชื่อเสียงของสำนักศึกษาหวุนซี เพียงสองปีที่นางเข้าไปที่สำนักศึกษา ความรู้ความสามารถที่นางได้พยายามซ่อนเร้นปิดบังเอาไว้ กลับเปล่งประกายออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้“ชิงเหมย กำลังจะไปสำนักศึกษาหรอกหรือ"“เจ้าค่ะท่านน้า” เด็กหญิงหันไปตอบสตรีสูงวัยกว่าด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“น้าได้ยินว่าเจ้าทดสอบได้ลำดับที่หนึ่งในศิษย์ที่เป็นหญิงมาตลอดสองปีเลยรึ” เสวียอี๋เอ่ยถามเด็กหญิงที่นางเอ็นดูด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น“มิใช่ความจริงหรอกเจ้าค่ะท่านน้า ที่สำนักศึกษายังมีคนที่เก่งกว่าข้าหลายคน ข้าเพิ่งจะทดสอบได้ลำดับที่หนึ่งเมื่อปีที่แล้วนี่เองเจ้าค่ะ เข้าไปปีแรกข้ายังไม่รู้เท่าใดนัก แต่พอได้อ่านตำรา ฝึกทำแบบทดสอบที่คิดว่าท่านอาจารย์จะทดสอบ ลำดับคะแนนของข้าก็ขยับขึ้นมาเป็นลำดับหนึ่งเจ้าค่ะ”นางใช้ความพยายามอย่างหนักต

    Last Updated : 2025-04-24
  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 9 - 1 ไม่ตอบโต้ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอ

    ในขณะที่ชิงเหมยและกลุ่มสหายของนางกำลังเดินผ่านศิษย์อีกกลุ่มที่รวมไปด้วยบุตรีของขุนนางในเมืองถิงฮวา เสียงของหนึ่งในพวกนางก็ดังขึ้นมา วาจาของนางถากถางดูถูกชิงเหมยอย่างไม่ปิดบัง“ท่านอาจารย์ก็เอ็นดูคนไม่ลืมหูลืมตา”“หึ!! พวกเจ้าคงจะลืมไปแล้วล่ะสิ ว่าที่สำนักศึกษาหวุนซีเขาไม่แบ่งแยกชนชั้นหรือภูมิหลังกัน ที่เข้ามาสำนักศึกษานี้ได้เป็นเพราะใช้ความรู้ความสามารถ มิใช่เพราะเกิดในตระกูลขุนนาง หรือผู้สูงศักดิ์ที่เอาแต่พูดจาดูถูกผู้อื่น พวกเจ้าต้องเติบโตมาเช่นไรกันถึงได้พูดจาว่าร้ายสหายร่วมสำนักศึกษาเช่นนี้ หากพวกเจ้ามีดีนัก สูงส่งนัก ก็ไปอยู่ที่สำนักศึกษาอื่นเสียสิ ข้าได้ฟังแล้วรำคาญยิ่งนัก!!!”หลูซินตะโกนออกมาทันที นางเป็นเด็กที่มีความอดทนต่ำ ครั้นได้ยินกับหูว่าผู้ใดนินทาว่าร้ายสหายสนิทก็กักเก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ไม่อยู่จนต้องปลดปล่อยออกมา“ชิส์…. พวกเจ้าก็คงจะเหมือนกัน มิเช่นนั้นคงคบหากันมิได้หรอก ซูฉี... เจ้าก็นะเป็นถึงบุตรีของขุนนางแต่กลับเลือกไปเกลือกกลั้วเข้ากลุ่มกับพวกนาง แต่อย่างว่าแหละนะ ท่านแม่ของเจ้าก็เป็นหญิงสาวชาวบ้านที่ท่านพ่อของเจ้ารับไปเป็นอนุภรรยานี่ มิได้เป็นบุตรีของขุนนางมาตั้ง

    Last Updated : 2025-04-24
  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 10 จะมีผู้ใดรู้จักเราเท่าตัวเรา

    ​ถึงแม้ว่าจะเป็นถึงบุตรีของเหล่าขุนนาง แต่ก็มิอาจรอดพ้นกฎการลงโทษของสำนักศึกษาหวุนซีไปได้ กวงชีเยว่ และสหายสนิททั้งสองของนางจึงถูกท่านอาจารย์หวุนเรียกมาสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นเพราะพวกอี้โหรวยอมรับสารภาพ ว่าได้ยินเรื่องราวของชิงเหมยมาจากกลุ่มของกวงชีเยว่ จึงทำให้พวกนางนำเรื่องราวที่ได้ยินไปตัดสินว่า ชิงเหมยเกิดจากหญิงคณิกาจึงถูกผู้เป็นบิดาไม่ยอมรับ“ตวนเจียฉี เจ้ารู้เรื่องของแม่นางซุน แม่ของชิงเหมยมาจากผู้ใดกันรึ” ท่านอาจารย์หวุนถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่ากลับให้ความรู้สึกเยือกเย็นต่อจิตใจคนฟังยิ่งนัก“ค่ะ…คือว่า” ตวนเจียฉีหันไปมองกวงชีเยว่พลางตอบท่านอาจารย์หวุนด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก“ศิษย์ได้ยินพวกบ่าวในจวนพูดคุยกันเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ก็รู้ว่าชิงเหมยในยามนี้นั้นกำลังเป็นที่รู้จักในฐานะศิษย์ที่มีความรู้ความสามารถที่สุดของสำนักศึกษาหวุนซี ผู้คนเลยให้ความสนใจและอยากจะรู้ความเป็นมาของนางกันทั่วทั้งเมือง” กวงชีเยว่รีบตอบออกมา เพราะหากปล่อยให้ตวนเจียฉีสารภาพคงพาดพิงมาหานางเป็นแน่ และคงจะบอกเล่าถึงเรื่องที่นางแสดงออกชัดเจนว่านางรังเกียจชิงเหมย“แล้วเจ้าก็เลยนำเรื่องที่ได้ยินม

    Last Updated : 2025-04-24
  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 10 - 1 จะมีผู้ใดรู้จักเราดีเท่าตัวเรา

    “ศิษย์ทั้งสามนี้ ดูพวกนางรักใคร่กันดีนะขอรับ” อาจารย์หยวนซู่กล่าวขึ้นมาครั้นได้มองเห็นศิษย์หญิงทั้งสามสวมกอดกันกลม“มิตรภาพที่จริงใจอย่างแท้จริงนั้นหายาก ข้าเชื่อ... ถึงแม้นว่าพวกนางจะยังเด็ก แต่ก็ฉลาดพอที่จะรู้จักแยกแยะว่าผู้ใดคือมิตรแท้ ผู้ใดคือมิตรไม่แท้” อาจารย์ลู่อวิ๋นแสดงความคิดเห็นออกมา“แต่ที่ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยก็คือคุณหนูรองสกุลกวง เหตุใดนางถึงได้เป็นเด็กเช่นนั้นไปได้ ทั้งที่ตนเองนั้นสูงศักดิ์กว่าผู้ใดแท้ๆ กลับคิดทำลายสหายร่วมสำนักจากการใช้ลมปากของคน แผนการลึกล้ำเช่นนี้มันดูจะเกินวัยของนางที่จะคิดได้ด้วยตัวเองหรือไม่เจ้าคะ” อาจารย์เซียงหลินนึกสงสัย“ผู้ใหญ่ทั้งนั้นแหละที่อยู่เบื้องหลังของเด็กเหล่านี้ เด็กก็เปรียบเสมือนกับผ้าขาวที่ผู้ใหญ่จะแต่งแต้มสีใดลงไปก็ได้”อาจารย์หวุนกล่าวออกมา เขาเชื่อว่านิสัยของเด็กแต่ละคนนั้นล้วนแล้วแต่ได้รับการซึมซับมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัว และที่กวงชีเยว่เป็นเช่นนี้ก็คงจะเรียนรู้มาจากผู้เป็นมารดาอย่างไม่ต้องสงสัย“พวกเราเป็นอาจารย์ ก็คงต้องช่วยอบรมสั่งสอนพวกนางต่อไป พวกเจ้าก็คอยสอดส่องดูแลพวกนาง อย่าละเลยต่อผู้ใดล่ะ เด็กพวกนี้อยู่ในวัยกำลังเติบโ

    Last Updated : 2025-04-24
  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 11 พี่ชายแปลกหน้าช่วยสอนยิงธนู

    ลานกว้างหลังหมู่บ้านซานฉี หญ้าที่เคยขึ้นรกสูงยาวเท่าขาถูกถางให้เตียนเป็นวงกว้าง หญ้าแห้งถูกนำมาทำเป็นหุ่น ชิงเหมยเพิ่งจะได้พบกับลานแห่งนี้หลังจากเดินออกกำลังในยามว่าง วันนี้สำนักศึกษาปิดนางจึงมีโอกาสมาถากถางเตรียมสถานที่เพื่อใช้ฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวของตน เพราะพื้นที่ในเรือนที่นางและท่านยายอาศัยอยู่นั้นค่อนข้างคับแคบ ทำให้นางไม่อาจเก็บซ่อนอาวุธลับของนางจากท่านยายได้ นางจึงต้องมองหาสถานที่ลับเผื่อเอาไว้“พี่หญิงชิงเหมยเจ้าคะ ท่านถางหญ้าตรงนี้มานานเกือบหนึ่งก้านธูปแล้ว ท่านไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยบ้างหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กของน้องสาวข้างเรือนที่อ้อนขอติดตามมาด้วยดังขึ้น“เหนื่อยสิ แต่ก็ถือเสียว่าได้ออกกำลัง” ชิงเหมยหันไปตอบเด็กหญิงที่นั่งกินขนมที่นางห่อมาอยู่อย่างเอร็ดอร่อย“ข้าขอช่วยท่านก็ไม่ยอม มิเช่นนั้นคงจะเสร็จไปนานแล้ว” ขนมหมดปากก็บ่นออกมา ชิงเหมยยิ้มเพียงเล็กน้อย มองเด็กหญิงด้วยแววตาเอ็นดู นางบอกแล้วว่าไม่ต้องตามมาแต่ทว่าหลิ่วหริ่งก็ไม่ยอมฟัง“เสร็จแล้ว… พี่ก็บอกเจ้าแล้วว่าไม่ต้องตามมา เพราะที่พี่กำลังทำนั้นหาใช่เรื่องสนุกสนานไม่”“ก็ถ้าท่านให้ข้าช่วยข้าก็จะได้สนุกสนาน แต่นี่ท่านให้ข้าเ

    Last Updated : 2025-04-24

Latest chapter

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 25 - 1 ผู้ที่เคยกลั่นแกล้งชิงเหมยในอดีต

    “ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ข้ามิทันได้ระวัง จึงชนพี่สาวเข้า” ชิงเหมยพยายามกล่าวขออภัยออกมาอย่างใจเย็น เพราะดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจเข้ามาหาเรื่องนาง“คิดว่าแค่พูดแล้วข้าจะหายเจ็บเช่นนั้นหรือ คุกเข่าขออภัยต่อข้าประเดี๋ยวนี้” ชิวมู่หรงที่แอบมองอยู่ภายในเกี้ยวถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความชอบใจ ผู้คนเริ่มเข้ามามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“ถนนก็ตั้งกว้าง เหตุใดพวกเจ้าถึงต้องเดินมาทางที่นางเดินด้วย เช่นนี้มิใช่ว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันหรอกรึ”หนึ่งในชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเริ่มแสดงความเห็นของตนออกมา เพราะดูชิงเหมยไม่แสดงกิริยาไม่น่ามองต่ออีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งนางก็ได้กล่าวขออภัยต่อสาวรับใช้สกุลชิวแล้ว“นั่นสิ ปกติพวกเจ้าเดินไม่เคยห่างเกี้ยวของคุณหนูของพวกเจ้า เหตุใดวันนี้ถึงได้เดินออกมาห่างไกลจากเกี้ยวของนางนักล่ะ” ชาวบ้านอีกคนหนึ่งที่รู้จักนิสัยของคุณหนูและสองสาวใช้ตระกูลชิวดีได้กล่าวออกมาสองสาวรับใช้เริ่มหน้าเสียที่พวกชาวบ้านไม่เข้าข้างตน ครั้นมองไปยังเด็กสาววัยแรกแย้มที่มีรูปหน้าและความงดงามราวกับบุปผา นางก็มิได้แสดงท่าทีโอนอ่อนต่อนางทั้งสองเลย อีกทั้งสายตาที่นางจ้องมองมายังราวกับกำลั

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 25 ผู้ที่เคยกลั่นแกล้งชิงเหมยในอดีต

    วันต่อมาวันนี้ชิงเหมยออกไปช่วยท่านยายของนางขายขนมที่ตลาด เพราะวันนี้เป็นวันที่ลูกค้าแวะเวียนมาจับจ่ายใช้สอยกันมากกว่าทุกๆ วัน เด็กสาววัยแรกแย้มต่างเป็นที่หมายตาของบรรดาหนุ่มๆ นางเปรียบดังบุปผางามแห่งหมู่บ้านซานฉี ถึงแม้จะเป็นเพียงหลานสาวแม่ค้า แต่ทว่าคุณชายทั้งหลายต่างก็พากันหมายตานางกันอยู่ไม่น้อย ยากก็ตรงที่ท่านยายของนางมิได้หวังในทรัพย์สินเงินทอง นางหวังเพียงแค่หลานสาวได้พบกับคนที่นางรักและรักนางเท่านั้น“เถ้าแก่เนี้ย หลานสาวของท่านช่างงดงามยิ่งนัก นางมีคู่หมายหรือยังขอรับ” มิใช่เพียงแค่มีรูปโฉมที่งดงาม ทว่าชิงเหมยนั้นกลับโด่งดังในเรื่องของความเฉลียวฉลาดและความขยันหมั่นเพียรอีกด้วย“นางก็เหมือนกับข้ายามสาวๆ นั่นแหละ ว่าแต่…วันนี้จะซื้อขนมอันใดดีล่ะ”ซุนฉีหันไปมองหลานสาวที่กำลังนั่งปั้นซาลาเปาอยู่ในสุดของร้าน ก่อนที่จะหันไปถามไถ่ลูกค้าที่เป็นชายหนุ่มที่แสดงท่าทีว่าสนใจหลานสาวของนางมากกว่าขนมเสียอีก เพราะเหตุนี้นางถึงรู้สึกยินดียิ่งกว่าหากวันใดชิงเหมยมิได้มาช่วยนางขายขนมในตลาด“ขอเป็นซาลาเปาสามลูกก็แล้วกัน”ลูกค้าหนุ่มรู้ตัวว่ากำลังเสียมารยาทจึงบอกความต้องการของตนต่อเถ้าแก่เนี้ยที่ย

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 24 แค่ช่วยถางหญ้า

    สองหนุ่มสาวช่วยกันถางพงหญ้าจนราบเตียน แต่ก็ใช้เวลานานอยู่ไม่น้อย และอีกไม่หนึ่งก้านธูปชิงเหมยก็ต้องกลับเรือนแล้ว เพราะนางต้องกลับไปหุงข้าวและทำกับข้าวรอท่านยายของนางกลับมาจากตลาด ยามนี้นางมีฝีมือในการทำอาหารดีขึ้นแล้ว แม้จะรสชาติไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับที่ท่านยายทำให้กินก็ตาม“วันนี้ลำบากท่านแล้วเจ้าค่ะ” ชิงเหมยส่งน้ำให้ชายหนุ่มที่วันนี้มีน้ำใจมาช่วยนางถางหญ้าจนเตียน“ไม่ลำบากเลย ถือว่าได้ออกกำลัง” เขาบอกพลางรับน้ำจากนางมาดื่ม“วันนี้ท่านพี่จะกลับเมืองถิงฮวาเลยหรือไม่เจ้าคะ” นางเอ่ยถามเขาออกมา“ไม่หรอก วันนี้พี่กับลูกน้องอีกสองคนจะพักกันที่โรงเตี๊ยมในหมู่บ้านนี่แหละ"“แล้วท่านพี่ชางจะกลับเมืองถิงฮวาวันใดหรือเจ้าคะ”“อีกสองวันน่ะ พี่ว่าจะสืบหาเบาะแสของพวกพ่อค้าทาสเสียหน่อย”แม้เรื่องนี้จะเป็นความลับ แต่สำหรับชิงเหมยแล้วไม่มีเหตุผลอันใดที่เขาจะต้องปิดบังนาง หากนางคือสตรีนิรนามที่เคยขัดขวางพวกพ่อค้าทาสเมื่อปีก่อนจริง“ข้าว่า…เห็นทีข้าต้องขอตัวกลับเรือนก่อนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” ชิงเหมยบอกเขายามที่นางมองแสงจากพระอาทิตย์ที่ต่ำลงไปทุกที“อ่อ… เจ้าอยากจะนั่งม้าไปกับพี่หรือไม่”“ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ข้าเกรงว

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 24 แค่ช่วยถางหญ้า

    หลังจากวันนั้นเพียงไม่กี่วัน หัวหน้ามือปราบหนุ่มก็กลับมาเยือนหมู่บ้านซานฉีอีกครา วันนี้เขามีลูกน้องติดตามมาเพียงแค่สองคนเท่านั้น เพราะไม่อยากให้กลายเป็นที่สะดุดตา และการมาของเขาก็เพียงเพราะต้องการตรวจตราความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้านซานฉี และแวะเวียนมาหาสตรีที่เขาหมายปองก็เท่านั้น“แม่นางชิงเหมยคงจะอยู่ที่ร้านขายขนมในตลาด ท่านหัวหน้าจะแวะไปแนะนำตัวกับท่านยายของนางเลยหรือไม่ขอรับ”จิ้นซู่กล่าวพลางเอ่ยถามออกมายิ้มๆ ยามปฏิบัติหน้าที่เขามักจะเรียกคุณชายรองของตนว่าท่านหัวหน้า ทว่าหากอยู่กันตามลำพัง เขาก็จะเรียกว่าคุณชายรองเช่นเดิม“ที่แท้ท่่านหัวหน้าก็มีสตรีที่หมายปองอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้หรือขอรับ”ฉางจี้ ลูกน้องในสำนักมือปราบที่ติดตามหัวหน้ามือปราบมาในวันนี้ด้วยเอ่ยถามออกมาด้วยความตื่นเต้น เพราะตั้งแต่เขาได้พบกับท่านหัวหน้ามา ไม่เคยมีสักคราที่ท่านหัวหน้าจะชายตาแลมองสตรีใด“อืม… แต่มิใช่แค่เรื่องนั้น ที่ข้ามาวันนี้เพราะอยากตรวจตราความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้านซานฉีด้วย พวกเจ้าก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของพวกพ่อค้าทาสนั้นยังมิถูกจับได้ ข้าจึงอยากให้พวกเจ้าช่วยกันไปตรวจตราดูรอบๆ หม

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 23 - 1 สองปีที่ผ่านมา

    นั่นเป็นเพราะชิงเหมยได้รับความช่วยเหลือจากหลิ่วหริ่ง ยามใดที่นางออกจากเรือนไป หลิ่วหริ่งก็จะเข้ามาอยู่ภายในเรือนและท่องบทกวี ให้พวกที่แอบฟ้งอยู่ด้านนอกได้ยินแทนตัวนาง ถึงแม้นการทำเช่นนี้จะเป็นเรื่องที่ดุเหมือนจะยุ่งยาก แต่ชิงเหมยกลับรู้สึกสนุกและเหมือนว่านางได้ออกกำลัง คนพวกนี้นั้นช่วยให้ชีวิตของนางในแต่ละวันนั้นไม่น่าเบื่อ“ข้าว่าพวกเราจ้างคนในหมู่บ้านให้คอยจับตาดูนางแล้วส่งข่าวให้พวกเรารู้จะดีกว่า พวกเราเสียเวลากับนางมานานเกินไปแล้ว ข้าเบื่อเต็มทีที่ต้องคอยจับตาดูเด็กเช่นนาง”“จะดีรึ หากท่านใต้เท้ารู้เข้ามีหวังพวกเรานี่แหละที่จะถูกจัดการเสียก่อน”“นางก็เป็นเพียงแค่เด็ก หากนางจะไปเยือนเมืองถิงฮวา เจ้าคิดว่านางจะรอจนป่านนี้งั้นรึ”ครั้นต่างคนต่างเห็นด้วยกับอีกฝ่าย ทั้งสองจึงได้จ้างให้พวกชาวบ้านที่เห็นแก่เงิน ให้คอยจับตาดูชิงเหมยแทนพวกตน หากคราใดที่เด็กหญิงออกจากหมู่บ้านซานฉีค่อยส่งสารให้พวกตนได้รับทราบ ชาวบ้านผู้นั้นเห็นว่าเป็นงานที่ได้เงินง่ายๆ จึงยินยอมที่จะเป็นผู้ที่คอยจับตาดูชิงเหมยแทน แม้จะรู้สึกประหลาดใจว่าเพราะเหตุใดถึงได้เกรงว่าชิงเหมยจะออกจากหมู่บ้าน แต่เขาก็ไม่สนใจเพราะหน้าท

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 23 สองปีที่ผ่านมา

    หลังจากนั่งพูดคุยกันถึงเรื่องที่เยว่อู๋ชางไปจับกุมพวกพ่อค้าทาสมา สองหนุ่มสาวก็ได้ถามไถ่เรื่องราวที่ผ่านมาของกันและกัน เพราะคราแรกที่ได้กลับมาพบกันนั้น เขากับนางไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันมากนัก และที่เยว่อู๋ชางเดินทางมาหาชิงเหมยที่หมู่บ้านซานฉีในยามนี้ มิได้มีเพียงแค่ความสงสัยในตัวของเด็กสาว แต่ทว่าเขามาหานางด้วยความคะนึงหาและห่วงใยนางด้วยเช่นกัน“อืม… พี่ว่าจะถามเจ้า เรื่องคนของลุงเจ้าน่ะ เขาเรียกคนเหล่านั้นกลับไปหรือยัง” เพราะก่อนเขาเข้าเมืองหลวง เขารู้ว่าลุงของชิงเหมยส่งลูกน้องให้มาคอยจับตาดูนางเอาไว้“กลับไปตั้งแต่สามเดือนแรกแล้วเจ้าค่ะ” ชิงเหมยยิ้มออกมาพลางเล่าไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนสองปีก่อนชิงเหมยครั้นได้รับสารจากพี่ชายจากเมืองถิงฮวาที่ส่งมาบอกนาง ว่าท่านลุงของนางส่งคนให้มาคอยติดตามนาง เพื่อตัดความรำคาญใจเพราะผ่านมานานหลายเดือน ลูกน้องของท่านลุงทั้งสองก็ยังคงคอยติดตามนางอยู่ลับๆ อยู่มาวันหนึ่งชิงเหมยจึงแสร้งออกจากเรือนไปที่ลานกว้างท้ายหมู่บ้านซานฉี ทุกย่างก้าวของนางมีคนของผู้เป็นลุงคอยแอบติดตามนางไป แต่แล้วคนเหล่านั้นก็ต้องคลาดสายตาจากนาง เพราะนางแอบหนีกลับเรือนโดย

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 22 - 2 เลือกที่จะปิดบัง

    ชิงเหมยได้ฟังเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง เพราะแถบชายแดนของเมืองถิงฮวาที่อยู่ติดกับชายแดนของเมืองถิงซานั้นอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านซานฉียิ่งนัก นางจึงมิอาจเดินทางไปให้ความช่วยเหลือสตรีและเด็กที่ถูกพาไปขายยังแถบนั้นได้“ข้ารู้เจ้าค่ะ ว่าแคว้นเจียงโจวนั้นเลิกทาสมาตั้งแต่ข้าอายุเพียงสิบสองปีแล้ว” ชิงเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ซึ่งความตื่นตระหนก“ครานี้พี่พลาดเองที่มิอาจจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้ แต่ก็ยังดีที่ได้ช่วยเหลือสตรีนับสิบเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่พวกมันจะทำการซื้อขายกัน”เขาเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ชิงเหมยฟังพลางสังเกตสีหน้าของนาง ชิงเหมยรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินเช่นนั้น ทว่านางกลับปกปิดสีหน้าเอาไว้ได้อย่างมิดชิดจนเยว่อู๋ชางเองก็มิอาจมองเห็นความผิดปกติได้“ข้าว่า…ผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นขุนนางในเมืองถิงฮวาของเราเป็นแน่เจ้าค่ะ"ชิงเหมยกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ แต่ทว่านางกลับไม่ยอมบอกความจริงเรื่องที่นางคอยขัดขวางการทำงานของพวกพ่อค้าทาสที่เข้ามาซื้อขายทาสลับๆ ในหมู่บ้านซานฉีและหมู่บ้านใกล้เคียง นางยังไม่พร้อมที่จะบอกความจริงนี้ให้เขารู้“เหตุใดเจ้าถึงได้ดูมั่นใจนักล่ะ”“ข้าเคยได้ยินพวกพ่อค

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 22 - 1 เลือกที่จะปิดบัง

    “ท่านยายเจ้าคะ หลานขอไปหลังร้านสักครู่นะเจ้าคะ” ชิงเหมยบอกท่านยายของนางที่กำลังพูดคุยกับลูกค้าตรงหน้า จนไม่ทันได้สังเกตว่าลูกค้าหนุ่มผู้นั้นแอบส่งสารลับให้แก่หลานสาว“อืม… ไปเถิดเหมยเอ๋อร์ เสร็จแล้วรีบกลับมาล่ะ”ซุนฉีบอกหลานสาวก่อนที่จะหันไปสนใจลูกค้าตรงหน้าต่อ ชิงเหมยได้โอกาสจึงรีบเดินไปหลังร้านแล้วแกะกระดาษที่ถูกพับมาจนเหลือแผ่นเล็ก นางคลี่ออกดูก็พบว่าเป็นลายมือของพี่ชาง นางจดจำลายมือของเขาได้ดี‘ชิงเอ๋อร์… พี่รอเจ้าอยู่ที่ลานกว้างหลังหมู่บ้านที่เราพบเจอกันคราแรก ได้โปรดออกมาพบพี่สักนิดเถิด… พี่ชางของเจ้า’ดวงหน้างามแดงระเรื่อทันทีที่อ่านเนื้อความในสารนี้จบ ไม่รู้ว่าหลายวันที่ผ่านมานี้เขาหายไปที่ใดมา นางรู้ว่าเขามีหน้าที่จะต้องทำ เพียงแค่นางไม่รู้ว่างานที่เขากำลังกระทำอยู่นั้นอันตรายหรือไม่เท่านั้นเอง ชิงเหมยคิดหาทางที่จะออกไปพบกับเยว่อู๋ชางโดยที่จำเป็นต้องโป้ปดท่านยายของนางอีกครา นั่งคิดแผนการเพียงกะพริบตาเดียวนางก็คิดได้“ท่านยายเจ้าคะ หลานขออนุญาตกลับเรือนก่อนนะเจ้าคะ รูัสึกว่าท้องไส้ยามนี้ไม่ค่อยจะดีเลย” ชิงเหมยเดินมากระซิบบอกท่านยายของนางที่กำลังขายขนมให้แก่ลูกค้า ที่ยามนี้บางต

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 22 เลือกที่จะปิดบัง

    การเข้าจับกุมกลุ่มพ่อค้าทาสของหน่วยมือปราบในครานี้ถือว่าล้มเหลว เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังและพวกหัวหน้าสามารถหลบหนีไปได้ทั้งหมด พวกที่จับมาได้ก็เป็นเพียงแค่พวกที่รับจ้างขนสินค้าให้เท่านั้น แต่การเข้าจับกุมในครานี้ก็พอจะได้รู้เบาะแสว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังยามนี้เขาได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขวา ซึ่งถูกลูกธนูของมือปราบหนุ่มเฉียดไปในระหว่างที่กำลังหลบหนี“แล้วเราจะเอาเช่นไรกับเรื่องนี้ดีขอรับ”“หน้าที่ต่อจากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลต้าถิงเสีย เพราะเรามิอาจเข้าไปก้าวก่ายได้”เยว่อู๋ชางกล่าวออกมาก่อนที่เขาจะขึ้นไปนั่งบนหลังม้า จิ้นซู่เองก็รีบไปขึ้นม้าของตนเช่นกัน เพราะดูเหมือนว่าคุณชายรองต้องการจะไปที่ใดสักที่“พวกเจ้าที่เหลือ…กลับไปพักผ่อนกันที่สำนักก่อนเถิด”“แล้วท่านหัวหน้าจะไปที่ใดหรือขอรับ” เสียงของลูกน้องเอ่ยถามขึ้น“ข้ามีเรื่องสงสัย จึงอยากจะไปเยือนหมู่บ้านซานฉีเสียหน่อย” เพราะเรื่องที่พวกหัวหน้ากลุ่มค้าทาสคุยกัน ทำให้เขานึกสงสัยในตัวของชิงเหมยขึ้นมา จึงอยากจะไปถามไถ่นางด้วยตนเอง“ขอรับ” ครั้นลูกน้องรับคำ หัวหน้ามือปราบหนุ่มก็ควบม้าออกจากหน้าศาลต้าตงไปทันทีลูกน้องที่เหลือมองตามอย่างรู้ใ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status