Share

3. ซีนเดียว...ล้านวิว

last update Last Updated: 2025-09-05 16:25:54

3

ซีนเดียว...ล้านวิว

หลังจากฉันถ่ายทำบทแม่นางเอกละครเรื่องนั้นจบไป ฉันก็มีเวลาพักผ่อนนั่งไถโซเชียลเสียที ว่าผลตอบรับละครเป็นไงบ้างหลังออกอากาศไปห้าตอน เพราะยังไงซะบทฉันก็มีแค่ช่วงต้น ๆ กับตอนท้ายเท่านั้นแหละ

ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเป็นนักแสดงตัวประกอบ เคยอยู่วงการบันเทิงมานานพอจะรู้ว่า ‘ซีนแม่ร้องไห้’ ยังไงมันก็ไม่ใช่ไฮไลต์หรอก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความรันทดของนางเอกกับพระเอก แต่...

#ละครคุณแม่ปังมาก

#แม่นางเอกเล่นดีเกิน

#แท้จริงมิ้นคือนางเอก

#ขอซีนแม่นางเอกเพิ่มได้ไหม

#ร้องไห้ตามแม่เลยอ่ะT_T

“อะไรกันเนี่ย!” ฉันพึมพำกับตัวเองขณะเลื่อนหน้าโซเชียลบนมือถือ เทรนด์แท็กอันดับ หนึ่งถึงห้าของประเทศ ณ เวลานี้ เป็นบทแม่ที่ฉันแสดงทั้งหมด แถมหลายคนยังตัดคลิปฉากฉันร้องไห้เต็มหน้าฟีด

ในนั้นมีคลิปหนึ่งที่ถูกรีทวีตเกือบเก้าหมื่นครั้ง เป็นคลิปตัดฉากฉันในบทแม่วิภา กำลังร้องไห้บอกลาลูกสาว ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปพร้อมเสียงสะอื้นเงียบ ๆ

คลิปยาวไม่ถึงนาที ฉันจำได้ว่าใช้เวลาถ่ายจริง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ

‘Rrrrr’

เสียงมือถือฉันดังขึ้นและพบว่า พี่กรีนผู้จัดการส่วนตัวของฉันโทรมา

(นี่...มิ้นเห็นแท็กในโซเชียลไหม?)

“เห็นแล้วค่ะ แต่มันออกจะเว่อร์ไปหน่อย”

(มิ้น นี่มันโคตรรพีคนะ ลูกค้าโทรมาหาพี่ ขอจองตัวเธอเยอะกว่าตอนเธอเล่นเป็นนางเอกอีกนะยะ!)

“ฮ่า...” สิ้นคำพี่กรีน ฉันหลุดหัวเราะออกมา ทั้งตกใจและตลก

(ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากกลับมาเป็นนางเอก แต่นี่มันโอกาสทองเลยนะมิ้น! เล่นเป็นตัวประกอบแล้วกลายเป็นไวรัล มันไม่ใช่ว่าจะเกิดกับใครก็ได้ เธอเข้าใจพี่ใช่ไหม) พี่กรีนยังคงพูดไม่หยุด ทำเอาฉันถอนหายใจ แล้วตอบไปด้วยเสียงนิ่ง

“เข้าใจค่ะพี่กรีน แต่มิ้นก็ยังยืนยันเหมือนเดิมนะคะ มิ้นขอเล่นแค่ตัวประกอบก็พอ” ปลายสายเงียบไปนิดก่อนจะตอบกลับมา

(โอเค พี่รู้อยู่แล้วว่ามิ้นต้องพูดแบบนี้ แต่เอาเถอะถ้าเล่นเป็นตัวประกอบแล้วแมสแบบนี้ พี่ก็โอเคอยู่แล้ว รวย รวย รวย ตู้ด....)

พี่กรีนวางสายไปทิ้งไว้ให้ฉันอึ้งอยู่กับคำพูดเขา เฮ้อเอาเถอะ การเป็นนางเอกดัง กับตัวประกอบดัง ยังไงมันก็ต่างกันอยู่แล้วน่า...

ฉันยังนอนไม่หลับหรอก เพราะโนติในมือถือเด้งไม่พัก ฉันจึงต้องเข้าไปดูตามแอ็กเคานต์โซเชียลของตัวเองแต่ละช่องทางต่อ

IB / FaceJook / Ex ของฉันมียอดผู้ติดตามพุ่งเพิ่มเหยียบแสนในคืนเดียว

เพจบันเทิงชื่อดังเอาฉากของฉันไปลงแคปชั่น ‘แม่มาเพื่อฆ่า’ เจตนาดูเอาไปข่มนางเอกเลยแฮะ

TicTok มีคลิปเลียนแบบซีนของฉันเต็มไปหมดจนติดแฮชแท็ก #แม่วิภาผู้น่าสงสาร

หรือแม้แต่ต้นสังกัดฉันเอง ยังลงคลิปซีนของฉันแยกเป็นสเปเชียลอีก พร้อมกับข้อความที่ทำให้ฉันกุมขมับว่า

‘นักแสดงรับเชิญ มิ้น ณิชารัน ขโมยซีนจนคนดูอยากเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น แม่ผู้อาภัพ’

ไม่รู้ว่าฉันจะดีใจหรือร้องไห้ดีเนี่ย!

“พอ ๆ ยิ่งดูยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด ไปหาอะไรกินดีกว่า” ฉันเดินออกจากคอนโด เพื่อออกไปซื้อข้าวแกงหน้าปากซอย พอไปถึงร้านข้าวแกงที่ฉันซื้อเป็นประจำ เจ้าของร้านก็ยิ้มกว้างจนตาหยี

“หนูมิ้นคนสวย โอ๊ย! หนูเล่นดีมากเลยลูก ทำเอาป้าน้ำตาไหล” เสียงของป้าเจ้าของร้านพูดด้วยรอยยิ้มแฉ่ง จนฉันต้องยิ้มแก้เขิน

“ขอบคุณค่ะป้า หนูแค่เล่นนิดเดียวเองนะ”

“แต่ป้า จำหน้าหนูได้เลยนะ ตั้งแต่เมื่อก่อนเป็นนางเอกเล่นละครบู๊ ๆ อะไรนั่น แต่ตอนนี้บทแม่วิภาทำให้จำแม่นยิ่งกว่าเดิมอีก วันนี้ทั้งวันคนในร้านก็พูดถึงฉากหนูมิ้นร้องไห้กันทั้งนั้น”

“ฮ่ะ...ฮ่ะ... ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ฉันแค่นหัวเราะออกมาและก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัดใจเล็ก ๆ ที่ชื่อเสียงกลับมาอยู่ในจุดที่แสงไฟส่องถึงจากบทตัวประกอบ ให้ตายเถอะฉันไม่ชอบเลย ก็ไม่อยากเด่นอยากดังนี่หว่า

กว่าฉันจะทานข้าวเสร็จและเดินกลับมาถึงห้องได้ ก็เล่นเอาหูชา ใบหน้ายิ้มจนเมื่อย เพราะตลอดทางฉันถูกทักขอถ่ายรูปไม่หยุดหย่อน และไม่สามารถจะแสดงหน้าตาหยิ่งผยองได้ เดี๋ยวเป็นข่าวว่าเล่นตัวอีก

(ณ.ห้องพักคอนโด)

“บทแม่ที่แสดงแค่นั้น มันทำให้เป็นไวรัลได้จริง ๆ เหรอเนี่ย ไหนดูอีกทีดิ” กลับมาถึงห้อง ฉันนั่งหน้าคอมเปิดดูละครที่ตัวเองเล่นอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะหลงตัวเองจนต้องมานั่งปั่นวิวเพิ่มยอดหรอกนะ แต่เพราะอยากเข้าใจว่าทำไมมันถึงทัชใจคนดูปานนั้นได้

พอถึงซีนของฉันเริ่มขึ้น ฉันก็เริ่มสังเกต แววตาของตัวเองที่มองนางเอก จังหวะที่ฉันกลั้นน้ำตา คำพูดที่ฉันด้นสดความรู้สึกออกมาว่า ‘ลูกจำไว้นะ...ไม่มีใครรักเรามากกว่าคนที่ยอมเดินจากเราไปเพื่อให้เรารอดหรอก’

จริงๆ  ประโยคนี้ตามบทมันต้องเป็น  ‘คนที่ยอมเดินจากเราไปเพื่อให้เรามีความสุขหรอก’ แต่เพราะตอนแสดงบทนี้ฉันคิดถึงแม่ของตัวเองขึ้นมา

หากจะย้อนเล่าให้ฟัง แม่เลือกที่จะทิ้งฉันไปตั้งแต่เด็กเพื่อให้ฉันรอดจากการถูกติฉินนินทา เพราะท่านล้มจากการทำธุรกิจและค้ำประกันให้เพื่อน

ฉันจำใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของแม่ได้เป็นอย่างดี ตอนฉันวัยสี่ขวบ ฉันไม่เข้าใจกับการกระทำของแม่ เพราะท่านเลือกที่จะส่งฉันให้กับเพื่อนสนิทอีกคนเลี้ยง (แม่บุญธรรมของฉันตอนนี้) ฉันเพียงคิดว่าแม่ทิ้งฉันไป มันทั้งโกรธ ทั้งเกลียด โตมาถึงได้รู้ว่าเขาถูกระรานเอาชีวิต

สุดท้ายท่านจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีปัญหาทุกอย่าง

แต่ก็นั่นแหละ ตอนนั้นฉันพูดผิดบท ผู้กำกับก็ไม่ให้ฉันถ่ายซ่อมด้วย และบอกว่าประโยคนี้ดีมากแล้ว

‘Rrrrr’

 “เบอร์นี้ คือเบอร์ที่ส่งข้อความมานี่นา หรือว่าเบอร์พี่แทน?” ฉันเลิกคิ้วมองหน้าจออยู่ชั่วครู่ก่อนจะรับสาย

“สวัสดีค่ะ มิ้นพูดค่ะ”

(มิ้นครับ นี่พี่แทนเองนะครับ) เสียงทุ้มนุ่มแบบที่จำได้ไม่ลืมดังมาจากปลายสาย ทำเอาใจฉันกระตุกวูบวาบแบบไม่ทราบสาเหตุ เกย์หนุ่มที่ฉันใฝ่ฝันเขาโทรหาฉันด้วยอ่ะแก

“พี่แทนโทรหามิ้นด้วยตัวเองแบบนี้ มีธุระด่วนรึเปล่าคะ”

(พี่อยากโทรมาชื่นชม ซีนแม่เมื่อคืนเก่งมากครับ)

“แต่พี่แทนเห็นฉากนี้ก่อนฉายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะและมิ้นน่ะแสดงเก่งอยู่แล้ว ฮี่ฮี่”

(ก็อยากชมเป็นการส่วนตัวไง)

“คะ?” ฉันงุนงง ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาอยากจะสื่อ

(เอาเป็นว่าน้องมิ้นเก่งมาก ๆ ครับ แล้วนั่นก็ทำให้พี่อยากร่วมงานกับหนูอีก เป็นโปรเจกต์ใหม่ ตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อน พี่อยากนัดเจอมิ้นหน่อยได้ไหมครับ) ฉันเงียบไปชั่วครู่ แต่ระดับพี่แทนโทรมาคุยด้วยตัวเองแบบนี้ ถึงฉันอยากจะปฏิเสธ แกว่าฉันจะทำได้ไหมล่ะ สุดท้ายยังไงฉันก็ต้องไปคุยกับเขาอยู่ดี

“ได้ค่ะ”

(งั้นแอด L พี่เบอร์นี้เลยนะครับ เดี๋ยวพี่จะส่งสถานที่นัดหมายให้)

“ค่ะ พี่แทน” หลังจากวางสายไปฉันกำมือถือแน่น จุดเริ่มต้นของเรื่องราวดูใหญ่กว่าที่ฉันคิดไปมาก เพราะการรับบทเป็น ‘แม่ของนางเอก’ ในซีนนั้นซีนเดียว ได้เปิดประตูให้ฉันกลับเข้าไปสู่แสงสว่างที่ฉันเคยเดินออกมาเงียบ ๆ

ฉันยังคงยืนยันว่าไม่อยากกลับไปอยู่ในแสงจริง ๆ นะ ฉันกลัว...กลัวว่าฉันจะกลับไปอ่อนแออีกครั้ง

มันทำให้ฉันต้องหันกลับมาถามตัวเองว่า ฉันจะเดินต่อในเส้นทางนักแสดงนี้ยังไง โดยยังเป็นแค่ ‘ตัวประกอบ’ ที่คนยังจำชื่อได้แต่ไม่ต้องดังมาก

(วันรุ่งขึ้น)

ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง บรรยากาศสงบใจกลางเมืองที่มีความเป็นไพรเวทสูงตามที่เขาส่งพิกัดใน L ไว้

พี่แทนจองห้องส่วนตัวสุดหรู และฉันก็เข้ามานั่งรอก่อน แก้วกาแฟในมือถูกคนเบา ๆ พลางดื่มรออีกคน ไม่นานนักประตูห้องส่วนตัวก็เปิดออก

“ขอโทษที่ให้รอนะมิ้น พอดีพี่เพิ่งเคลียร์ธุระเสร็จ”

“ไม่เป็นไรค่ะ มิ้นเองพึ่งมาถึงเหมือนกัน” เขานั่งลงฝั่งตรงข้าม ไม่ลืมยกมือบอกพนักงานด้วยเสียงนุ่มลึกเบา ๆ

“เอาเหมือนเดิมครับ” พี่แทนพูดแบบนี้แสดงว่ามาบ่อยจนมีเมนูประจำเลยสินะ หรือว่าเขามาเดทกับแฟนหนุ่มบ่อย ๆ อิจฉาผู้ชายแสนโชคดีคนนั้นจัง

“มิ้นครับ งั้นเข้าเรื่องเลยนะครับ”

“ค่ะ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เขาหยิบเอกสารบางอย่างออกจากกระเป๋า

“พี่กำลังเขียนบทละครใหม่ เป็นแนวดราม่าครอบครัว มีสามช่วงอายุ หนึ่งในนั้นคือบท ‘แม่วัยสาว’ ที่จะค่อย ๆ โตขึ้นพร้อมกับลูกชาย” ในขณะที่เขาพูด ฉันมองเขานิ่ง ๆ แทบไม่กะพริบตา

“พี่รู้ว่า มิ้นคงคิดว่ามันซ้ำซ้อนกับบทแม่ที่มิ้นเพิ่งเล่นไป แต่ไม่เลยครับ อันนี้มันต่างกันออกไปมาก มันคือแก่นของเรื่องเลย”

“เปล่าค่ะ มิ้นเล่นบทซ้ำได้ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แต่บทแม่วัยสาวอันนี้ ดูเหมือนไปทางตัวหลักไม่ใช่เหรอคะ พี่ก็รู้ว่ามิ้นไม่อยากเล่นบทเด่น”

“บทนี้ตัวหลักก็จริงแต่อย่างที่พี่บอก มันเป็นตัวหลักในช่วงวัยสาวของนางเอกเท่านั้น ซึ่งจะมีคนเล่นบทนางเอกนี้อยู่ สามคน พี่อยากให้มิ้นแสดงบทนี้จริง ๆ นะครับ”

“แล้ว...ทำไมต้องเป็นมิ้นล่ะพี่แทน” พี่แทนนิ่งไป ก่อนจะพูดช้า ๆ

“เพราะมิ้นเล่นซีนแม่ แต่คนดูเชื่อว่ามิ้นรักลูกจริง ๆ พี่ไม่ได้ต้องการนักแสดงที่ร้องไห้เก่ง แต่พี่อยากได้คนที่เข้าใจตัวละครจากข้างใน ซึ่งพี่ว่ามิ้นเป็นคนที่พี่กำลังมองหาและมีอะไรบางอย่างที่พี่ไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน” คำพูดนั้นพานทำให้หัวใจฉันเต้นแรงมากแม่!

“มันฟังดูเว่อร์ไปไหมคะ?”

“เว่อร์ก็จริง แต่พี่พูดจริงนะครับ พี่ต้องการหนูร่วมงาน ช่วยพี่คนนี้ไม่ได้เหรอ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกแต่ก็แฝงด้วยความอ้อนเล็ก ๆ เป็นใครก็ใจเหลวแหละค่ะ

เขายื่นบทมาทางฉัน

“อยากให้ลองอ่านบทดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ” ใจหนึ่งก็อยากรับเพื่อช่วยเขา แต่อีกใจก็กลัวการอยู่ในแสงไฟที่ทำให้ฉันเจ็บ ถึงมันจะเป็นบทนำร่วมกันหลาย ๆ คนก็เถอะ

“มิ้นขอเวลาคิดได้ไหมคะ”

“ได้สิครับ” พี่แทนยิ้มอย่างอ่อนโยน ยกมือลูบหัวฉันเบา ๆ แววตาที่มองมาละมุนและอบอุ่นแปลก ๆ  ก่อนเขาจะลุก และพูดทิ้งท้ายไว้

“น้องมิ้นเคยหายไปจากจอพี่ใจหายนะครับ ตอนมิ้นกลับมาบนหน้าจออีกครั้ง พี่...และคนอื่น ๆ ต่างก็ดีใจที่ได้เห็นมิ้นอีก ดังนั้นพี่หวังว่าต่อจากนี้...มิ้นจะไม่หายไปอีกนะครับ ไม่สิพี่จะไม่มีวันให้หนูหายไปจากสายตาอีกแล้ว”

คำพูดนั้นของเขาทำให้ฉันอบอุ่นหัวใจ แม้ฉันจะไม่เข้าใจอะไรนัก แต่เขาคงหมายถึงการปรากฏตัวของฉันบนหน้าจอนั่นแหละ ดูท่าพี่แทนก็คงชื่นชมทักษะการแสดงของฉันจริง ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   28. ฉากจบในชีวิตจริง

    ห้องรับรองหลังฉากในสตูดิโอรายการ ‘4 แซ่บบันเทิง’ แม้จะเย็นฉ่ำจากแอร์ แต่มันก็ไม่สามารถดับความประหม่าในใจฉันได้เลยสักนิด“พี่...แน่ใจเหรอ ว่าเราควรมานั่งให้สัมภาษณ์แบบนี้ มันจะไม่โหนกระแสไปหน่อยเหรอคะ” ฉันหันไปกระซิบถามพี่แทนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พลางจับมือเขาแน่นจนชื้นเหงื่อ“แน่ใจสิครับ ไหน ๆ ก็เปิดตัวแล้ว เราก็ควรจะไปให้สุด” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างใจเย็นใจ ฉันพ่นลมหายใจยาวใช้หลังมืออีกข้างแตะหน้าผากตัวเองเบา ๆ ได้แต่ภาวนาให้ฉันอย่าหลุดพูดอะไรแปลก ๆ เลยเถอะ“อีกสิบนาที เตรียมตัวนะคะ” หนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาแจ้ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเกร็งนะคะคุณมิ้น แฟน ๆ ตอนนี้ยอดคนดูรอแล้วกว่าแสนคน” ฉันพยักหน้ารับ ขณะที่พี่แทนหันมากระซิบข้างหูกันเบา ๆ“ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่ตรงนี้ตลอด” แม้หัวใจฉันจะเต้นแรง แต่เพียงเขาพูดแค่นี้ก็ทำให้ฉันสงบลงได้ ใช่...ต่อจากนี้เราจะไม่ต้องแอบ ไม่ต้องหลบ และปิดบังอีกต่อไป(หน้าฉากสตูดิโอ รายการ 4 แซ่บบันเทิง)“ว้าว...ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้นั่งสัมภาษณ์สองคนนี้ในฐานะ ‘คู่รัก’ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับความรักครั้งนี้ด้วยนะคะ คุณแทนและคุณมิ้น”

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   27. เปิดเผยสู่สาธารณชน

    นาฬิกาชีวิตปลุกให้ฉันตื่นขึ้นอัตโนมัติ กิจกรรมร่วมรักบนเตียงเมื่อคืนส่งผลให้ความปวดร้าว หนักหน่วงคืบคลานไปทั่วร่างแม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ฉันก็ยังขยับตัวลำบาก เนื่องจากสองแขนแกร่งของคนนอนข้างกายยังคงรัดแน่นไม่ยอมปล่อยราวกับกลัวว่าฉันจะหนีหายไปพี่แทนยังคงหลับสนิท ฉันหันไปจ้องหน้าเขาชัด ๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึก...หล่อจนใจสั่น ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่หัวใจที่เขามอบให้ฉันก็รับรู้ได้ทั้งหมดเขานอนตะแคงหันหน้ามาทางฉัน มือหนึ่งยังพาดอยู่บนเอวฉัน“โธ่เอ้ย...พอหลับแล้วไม่เห็นจะดูเจ้าเล่ห์เลยนะ” ฉันยิ้มพึมพำเบา ๆ ขณะใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าหล่อเขาให้เห็นเด่นชัดฉันเอี้ยวตัวอย่างเบามือ ให้ตัวแนบชิดกับเขามากกว่าเดิม ซบหน้าลงกับอกแกร่งฟังเสียงหัวใจของเขาที่ยังเต้นแรงอยู่“เมื่อวานที่หนูบอกว่า...ไม่อยากแพ้พี่” ฉันกระซิบเบา ๆ กับตัวเอง “ไม่ใช่เพราะหนูอยากเอาชนะ” ฉันยิ้มพลางขยับใบหน้าเบา ๆ เพื่อรับไออุ่นมากขึ้น “แต่หนูอยากให้พี่เห็นว่า หนูก็พร้อมมอบความรักให้พี่เช่นกันค่ะ”เขาขยับตัวเล็กน้อย มือที่กอดฉันไว้กระชับแน่นขึ้น ทำฉันสะดุ้งจนกระตุกวูบ“แกล้งหลับอยู่ใช่ไหมคะ...” ฉันแหงนหน้ามอ

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   26 ท่วงทำนอง ล่อลวง(รัก)

    ฉันยังชันเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแบบนั้น แต่อารมณ์ในตอนนี้ไม่ใช่แค่นั่งเฉย ๆ อีกต่อไป สองเราลูบไล้และทอดนัยน์ตายั่วยวนกันและกัน โดยไม่มีใครยอมใครมือฉันแนบอยู่บนอกแกร่ง มือเขาแนบอยู่ที่แผ่นหลังฉัน พลางไล้นิ้วไปตามสันหลังก่อนจะหยุดตรงกลางหลังแล้วพยายามเร่งโน้มตัวฉันลงไปอีก แต่ฉันไม่ยอมหรอก“จะรีบร้อนทำไมคะ” ฉันกระซิบแหบพร่า พร้อมกดมือบนอกแกร่งเขาเบา ๆ จงใจถ่วงเวลาไว้พี่แทนยิ้มแฝงด้วยจิตวิญญาณนักล่าที่รู้ว่าคนตรงข้ามอย่างฉันกำลังเล่นเกมด้วยความรู้สึกเดียวกัน“ไม่ได้รีบร้อน แค่รู้สึกว่าถ้าพี่ปล่อยให้หนูคุมเกมมากกว่านี้ พี่อาจจะหมดแรงก่อนได้เริ่มจริง”“แปลว่าเริ่มกลัวหนูแล้วสินะ”“ไม่ได้กลัว...แค่ไม่ประมาทครับ” ฉันยกยิ้มมุมปากโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้เรียวลิ้นร้อนไล้เลียไปตามแนวหลังใบหู สันกรามเบา ๆ ขณะที่มือฉันเริ่มเคลื่อนไปตามอารมณ์สอดเข้าในเรือนผมของเขาพลางขยุ้มเบา ๆเขาชะงักเล็กน้อยกับสัมผัสบางเบานี้“ถ้าเล่นแรงแบบนี้ พี่คงต้องเอาจริงแล้วนะครับ” ฉันยิ้มมุมปาก ขณะใช้มืออีกข้างลูบไปตามแนวแขนแกร่งเขา“ก็รออยู่นี่ไงคะ จะเอายังไงก็เชิญ พร้อมรับแรงกระแทกเสมอ” สิ้นคำสิ่งที่เขาตอบกลับมาคือการกดจูบอีก

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   25 เคมีล้นจอ

    “โอเคครับ กล้องพร้อม! ไฟพร้อม! แอคชั่น!” เสียงผู้กำกับดังขึ้นท่ามกลางกองถ่ายบ้านหรูปลีกวิเวกที่แสนสงบ เราสวมชุดนักแสดงเต็มยศ ฉันอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีฟ้าอ่อน พี่แทนอยู่ในชุดเชิ้ตขาวพับแขนกับกางเกงสแล็คเข้ารูปบรรกาศโดยรอบเงียบลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ของตน...ฉากที่เรากำลังจะถ่ายกันคือ ‘ฉากจูบแรก’ ของพระเอกและนางเอกในละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครหลัก โดยก่อนหน้านี้มีแต่การปะทะอารมณ์และเข้าใจผิดมาโดยตลอด ‘ในการถ่ายทำชื่อตัวละครในเรื่อง คือชื่อพวกเราเลย แต่ในเมื่อคนเขียนบทอย่างพี่แทนเขียนมาแบบนั้น ฉันก็เออออไปตามนั้นแหละ’และตอนนี้ พี่แทนกำลังจะจูบฉัน“มิ้น...” เสียงเขาเรียกเบา ๆ ขณะยืนห่างฉันไม่ถึงฝ่ามือ นัยน์ตามีความลังเลปนกับความรู้สึกบางอย่าง“มิ้นรู้ไหม ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน พี่ไม่เคยหันไปมองใครอีกเลย” บทละครบอกให้ฉันต้องนิ่ง น้ำตาคลอ ตัวสั่นนิด ๆ และปล่อยให้เขาโน้มตัวเข้ามาช้า ๆ ฉันทำตามบททุกอย่างอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญฉันใส่หัวใจตัวเองลงไปเล่นด้วยริมฝีปากของพี่แทนเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนฉันได้กลิ่นหอมจาง ๆ จา

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   24 แถลงข่าวละคร ‘รอยยิ้มของตัวจริง’

    หลังกลับมาจากการพักผ่อน ชีวิตนักแสดงสาวก็เข้าสู่วังวนการทำงานที่คุ้นเคย ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันทวีคูณมากขึ้น ตั้งแต่ฉันเปิดใจว่าจะรับบท ‘นางเอก’ ก็มีผู้ผลิตละครหลายเจ้ายื่นเสนอมาให้พิจารณาบทเป็นกอง แต่...เรื่องพวกนั้นเอาไว้ทีหลังก่อน เพราะการกลับมาเล่นบทนำในครั้งนี้ ยังไงซะฉันก็ตัดสินใจจะเล่นให้กับละครที่แฟนของฉันเขียนขึ้นมาก่อนวันนี้เป็นวันแถลงข่าวเปิดตัวนักแสดงนำของละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง อย่างเป็นทางการ ฉันมาในชุดเดรสสีดำ ผมชมพูฟาร่าลอนสวย ชนิดที่เดินผ่านคนไหนก็ต้องเหลียวหันมามอง อาจเป็นเพราะก่อนหน้าฉันรับแต่บทตัวประกอบเวลามีงานแถลงข่าวก็ไม่ได้ถูกเชิญขึ้น“พี่กรีน พี่พอรู้รึเปล่าว่าเรื่องนี้ ใครรับบทพระเอก” ฉันหันไปถามผู้จัดการส่วนตัว เอาจริงนะ ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าใครแสดงบ้าง บทจริงยังไม่เห็นด้วยซ้ำ แต่เพราะมั่นใจในตัวพี่แทน ฉันเลยไม่ได้ซีเรียสอะไร“ไม่รู้สิ ผู้ผลิตเขาไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติมมาเลย ลึกลับมาก”“งั้นเหรอคะ” ฉันเลิกคิ้ว แต่สุดท้ายก็เลิกที่จะสนใจมันไปไม่นานนัก มีทีมงานเรียกให้ฉันเตรียมพร้อมรอขึ้นเวทีอยู่ด้านข้าง“เรียนสื่อมวลชนทุกท่าน กรุณาเตรียมกล้องให้พร้อมนะครับ เ

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   23. ยามรุ่งเช้า

    เสียงนกร้องเบา ๆ จากยอดไม้ข้างนอกดังลอดเข้ามาในเต็นท์ ทำให้เปลือกตาฉันที่หลับสนิทค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา วินาทีแรกที่ได้กลิ่นไอดินปะปนกับกลิ่นหญ้าเปียกหลังฝนจางเมื่อคืนที่ผ่านมา ความสดชื่นก็แผ่ไปทั่วร่างร่างฉันยังซุกแนบอยู่ในอ้อมกอดพี่แทน ใบหน้าแนบชิดกับอกแกร่งอย่างเคยใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่รินรดบนหัว เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าหลับสนิทมากเพียงใดฉันขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่กล้าเปลี่ยนท่าทางมาก เพราะกลัวจะรบกวนการนอนของเขา แต่ก็ได้แค่คิด...“หนาวเหรอ?” เสียงทุ้มงัวเงียกระซิบชิดข้างหูฉัน ฉันเงียบไปอึดใจก่อนจะส่ายหน้าเล็ก ๆ แล้วตอบกลับเบา ๆ“เปล่าค่ะ...แค่ยังไม่ชินปกตินอนคนเดียวมาตลอด” พี่แทนขยับตัวเล็กน้อยสองแขนกอดรัดฉันแน่นขึ้น“ก็ทำให้ชินสิครับ” เขาขยับหัวมาแนบแก้มนุ่มฉัน ริมฝีปากแตะหน้าผากอย่างแผ่วเบาก่อนพึมพำต่อ “ถ้าเราตื่นมาแบบนี้พร้อมกันทุกวันก็ได้นะ ถ้าหนูไม่เบื่อ”ฉันยิ้มมองใบหน้าคมที่ปรือตามองฉันเพราะเพิ่งตื่นนอน“หนูไม่เบื่อหรอกค่ะ แต่กลัวว่าจะเป็นพี่มากกว่าที่เบื่อก่อนหนูก็ได้” ฉันพูดจบเขาก็ลากนิ้วไล้กรอบหน้า ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากฉัน“ทั้งที่เพิ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status