ผืนดินเขียวชอุ่มสุดลูกหูลูกตา มองไปทางใดก็มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี อากาศบริสุทธิ์ปลอดโปร่งกลิ่นอายธรรมชาติโอบล้อม แผ่นดินที่เคยแตกระแหงแห้งแล้ง บัดนี้ล้วนเต็มไปด้วยสีเขียวของพืชผัก ผลหมากรากไม้พากันเบ่งบานออกดอกผลิผล ฝูงสัตว์เลี้ยงมากมายเดินหากินอยู่ในทุ่งกว้าง ชาวบ้านชาวเมืองล้วนอยู่ดีมีสุขมองไปทางใดล้วนเห็นแต่บรรยากาศอันชื่นมื่น ใบหน้าของทุกคนยามนี้ประดับประดาไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี ทุกหัวเมืองถนนหนทาง ร้านรวงต่างๆ ต่างประดับประดาเต็มไปด้วยผ้าแดงมงคล ทุกหนทุกแห่งในแผ่นดินนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลอง เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของบุคคลอันเป็นที่รักและเทิดทูนของเหล่าประชาชนแคว้นซ่ง วันที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอยและร่วมยินดี วันอภิเษกสมรสที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ขององค์หญิงซ่งเฟยหย่าของพวกเขากับชินอ๋องไท่หมิงหลงแห่งแคว้นหยวนที่บัดนี้กลายเป็นรัชทายาทของแคว้นซ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความยินดีของทั้งสองแคว้นเสียงจุดประทัดมงคลดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ในขณะที่ทุกคนกำลังดื่มฉลองอย่างสนุกสนานและชื่นมื่น คู่บ่าวสาวก็กำลังดื่มด่ำกับความสุขเช่นกัน หลังจากที่ผ่านการกราบไหว้ฟ้าดินอย่างถ
คำตอบที่ออกมาจากริมฝีปากของสตรีตรงหน้า สตรีที่พระองค์มอบหัวใจรักให้กับนางราวกับดังมาจากที่ไกลแสนไกล แต่มันกลับดังก้องอยู่ในหัว อื้ออึงเต็มสองหู จนรู้สึกถึงความเจ็บแปลบในโพรงอก หัวใจมันบีบรัดจนปวดหนึบ ชินอ๋องไท่หมิงหลงที่จ้องมองใบหน้างามตรงหน้าอย่างรวดร้าวในอก จ้องลึกลงไปในดวงตาคู่งามที่พระองค์หลงใหลและหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่สบสายตา ราวกับจะค้นหาความจริงในนั้น อยากให้คำตอบนั้นนางเพียงแค่ล้อพระองค์เล่น แต่ยิ่งจ้องมองพระองค์ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดเพราะมันมีแต่ความจริงจังอยู่ในนั้น จนวูบโหวงไปทั้งโพรงอก อยากไปให้พ้นจากตรงนี้โดยไว ก่อนที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา แต่กว่าจะเปร่งคำพูดออกไปได้ช่างทรมานยิ่งนัก"พี่เข้าใจแล้ว"เสียงแหบโหยที่ดังอย่างโรยแรง ทำให้คนฟังนั้นสะท้านในอกซ่งเฟยหย่าที่มองคนตรงหน้าที่มองนางอย่างเจ็บปวดและผิดหวัง ก่อนจะหันหลังให้นาง แผ่นหลังกว้างลู่ลงดูน่าสงสารและก่อนที่อีกฝ่ายจะก้าวเดินออกไป นางจึงรีบเอ่ยขึ้น"ข้ายังมิได้บอกท่านเลยว่าจะเป็นไท่จื่อเฟยของแคว้นใด"เสียงหวานที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เท้าหนักอึ้งที่กำลังจะก้าวไปด้านหน้าหยุดชะงัก ทบทวนสิ่งที่นางกล่าวอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะห
หลังจากที่แคว้นซ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ การปลูกพืชผักต่างๆ จึงเป็นไปได้โดยง่าย ตอนนี้ทุกคนต่างช่วยกันพลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้ง ขะมักเขม้นปลูกพืชผลทางการเกษตรกันอย่างขยันขันแข็ง และยังช่วยกันปลูกไม้ยืนต้นที่องค์หญิงที่พวกเขาเทิดทูนกล่าวว่า ต่อไปต้นไม้ที่พวกเขาช่วยกันปลูกจะสร้างคุณให้พวกเขาอย่างใหญ่หลวง ซึ่งพวกเขาก็พร้อมที่จะน้อมรับทำตามสิ่งที่พระองค์บอก ขอเพียงแค่พระองค์รับสั่ง พวกเขาก็พร้อมที่จะทำตามบัญชา เมื่อน้ำท่าสมบูรณ์ สิ่งดีดีต่างๆ ย่อมตามมาสถานการณ์ในแคว้นซ่งตอนนี้กำลังเกิดการณ์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ประชาชนล้วนมีใบหน้าที่เอิบอิ่มแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแ่งความสุข ภายในแคว้นกลับมาคึกคักอีกครั้ง ความสงบร่มเย็นกลับมาเยือนแผ่นดินซ่ง และดูเหมือนว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”เสียงของคนสนิทที่เอ่ยเรียกทำให้ชินอ๋องไท่หมิงหลงจำต้องละสายตาจากภาพเบื้องล่างของโรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งของแคว้นซ่งที่เปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากที่ปิดให้บริการมาเนิ่นนาน ภาพอันสวยงามของแผ่นดินซ่ง แผ่นดินของสตรีที่พระองค์ทรงปักใจรัก สตรีที่พระองค์มิเคยพบเจอที่ใดมาก่อน และตอนนี้นางได้เข้ามาครอบครองทั้งหมดในพร
วันนี้มีทหารและชาวบ้านชาวเมืองมากมายที่เดินมุ่งหน้าไปยังภูเขาอันเขียวชอุ่มที่มีเพียงลูกเดียวด้านหลังของแคว้น เพื่อจะไปชมการเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำขององค์หญิงซ่งเฟยหย่าที่กลายเป็นหัวข้อการสนทนาตลอดหลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่มีการขุดลอกคูคลองและสร้างฝายกั้นน้ำ ทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะมีน้ำดื่มน้ำใช้ และอยากรู้ว่ามันจะเป็นความจริงและเห็นกับตาตนเอง ว่ามิใช่เป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ อีกต่อไป ผู้คนที่มามุงดูทั้งหมดถูกกันออกมาให้อยู่ในบริเวณที่ถูกกั้นเอาไว้โดยเหล่าทหาร มิให้เข้าไปในพื้นที่การทำงานเพราะเกรงว่าจะมีอันตรายและกีดขวางการทำงานของทหารที่กำลังขนย้ายถังไม้ที่บรรจุดินระเบิดเอาไว้เหล่าชาวบ้านชาวเมืองที่มามุงดูยาวไปตั้งแต่จุดที่เป็นต้นน้ำที่มองเห็นอยู่ไกลๆ ในระยะสายตา เห็นเหล่าทหารกำลังลำเลียงถังไม้ขึ้นไปอย่างแข็งขัน เลียบไปตลอดแนวตลิ่งของคูคลองที่ถูกขุดขึ้นยาวไปจนถึงสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกขุดขึ้นใจกลางแปลงเกษตร ต้นน้ำถูกจับจ้องว่าถังเหล่านั้นคือสิ่งใด และจะสามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางของน้ำได้เช่นไร เลียบแนวตลิ่งทุกสายตาต่างจ้องมองอย่างจดจ่อว่าเมื่อไหร่จะมีน้ำไหลมาเติมเต็มผืนดินที่แห้งแล้งนี้ซ่งเฟ
สัมผัสอุ่นละมุนที่ประทับลงมาแผ่วเบาซาบซ่านไปทั่วริมฝีปากอ่อนนุ่ม ความอ่อนโยนนั้นทำให้ดวงตาหงส์หลับพริ้มซึมซับความรู้สึกอ่อนหวานอย่างเต็มใจ ชินอ๋องไท่หมิงหลงที่เห็นว่าสตรีในอ้อมแขนมิได้รังเกียจสัมผัสจากพระองค์ให้รู้สึกยินดียิ่งนัก เจ็บกายคราวนี้ช่างคุ้มค่าเสียจริงที่ทำให้สตรีในอ้อมแขนเปิดใจให้พระองค์ ริมฝีปากหนาที่ผละออกเพียงเล็กน้อยเพื่อสบตากับสตรีตรงหน้าราวกับจะขออนุญาต เมื่อเห็นว่านางไม่กล่าวอันใดและมิได้มีท่าทีโกรธเคืองมีเพียงพวงแก้มนวลที่แดงก่ำอย่างเขินอาย เวลานางเขินอายก็ดูน่าเอ็นดูยิ่งนัก จึงยกยิ้มละมุน ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้จุมพิตนั้นช่างอ่อนหวานลึกซึ้งจนสองกายที่โอบกอดกันอยู่นั้นสั่นสะท้าน เรียวลิ้นอุ่นนุ่มที่สอดแทรกเข้ามาชิมความหวานในอุ้งปากเล็กนั้นให้ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทำให้ร่างบางรู้สึกวาบหวิวตอบรับสัมผัสจากร่างหนาอย่างน่ารักน่าใคร่ จนจุมพิตอ่อนหวานในคราแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนปรารถนา"โอ๊ย...!"ร่างสูงที่ผละออกจากร่างบางร้องเสียงหลง สาเหตุเพราะแผลของพระองค์ถูกกดอย่างแรงจากคนตัวเล็กในอ้อมแขน"สมน้ำหน้า ได้คืบจะเอาศอก ฉวยโอกาสดีนัก""เจ็บ..."ใบหน
ภาพของสตรีที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากด้านหน้าเรือนของผู้เป็นนายทำให้ลู่จิ่นยกยิ้มขึ้น เดินเข้าไปหาสตรีสูงศักดิ์ที่วันนี้ไม่ได้มาในคราบคุณชายหนุ่มรูปงาม แต่วันนี้ทรงสวมอาภรณ์งดงามเฉกเช่นสตรีแลดูอ่อนหวานจนเหล่าบุปผารอบกายนั้นพร้อมใจกันเบ่งบานชูช่อดูมีชีวิตชีวาไปด้วย "คารวะองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ"ลู่จิ่นที่ค้อมกายให้สตรีตรงหน้าอย่างนอบน้อมฮะแฮ่ม"ท่านลู่จิ่นอย่าได้มากพิธีเลย ท่านอ๋องเป็นเช่นไรบ้าง"ซ่งเฟยหย่าที่กระแอมไอเล็กน้อยเอ่ยถามอีกฝ่าย ใบหน้างามนั้นดูรู้สึกผิดกับเรื่องในคืนนั้น วันนี้จึงทำให้นางต้องมาเยือนที่เรือนรับรองแห่งนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อคิดได้ว่านางกลั่นแกล้งอีกฝ่ายมากเกินไป ทั้งๆ ที่พระองค์อุตส่าห์ไปช่วยเหลือนางแท้ๆ"ดีขึ้นมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้รับคำตอบจากอีกฝ่าย จึงได้เบาใจขึ้น"เอ่อ แล้วนั่นท่านกำลังจะไปที่ใดหรือ""กระหม่อมจะไปตามท่านหมอมาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเปลี่ยนให้ก็ไม่ยอมท่าเดียว บอกว่ากระหม่อมมือหนัก"ลู่จิ่นที่เอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มขัน ดูเหมือนท่านอ๋องจะผวาไม่น้อยกับรอยแผลบนแผ่นหลังนั้นเพราะโดนฤทธิ์เดชขององค์หญิงคนงามตรงหน้า"อ้อเช่นนั้น